ตอนที่ 700 ระดับห้วงมิติขั้น 9
ดาวเคราะห์น้อยเบอัน เป็นกลุ่มดาวเคราะห์ มีดาวเคราะห์ขนาดเล็ก
209 ดวง มีขนาด 1. 2 กิโลเมตร ถึง 898 กิโลเมตร
ยานดาวเคราะห์ยุนโมได้บินท่ามกลางดาวเคราะห์
“ค้นหาดาวเคราะห์แต่ละดวง และทำการวิเคราะห์” เสียงของบาบาต้าดังขึ้นภายในห้องควบคุม
“ดาวเคราะห์ทั้งหมดได้ติดตั้งอาวุธ ทั้งพื้นที่นี้ได้กลายเป็นป้อมปราการอัตโนมัติ”
“คอยระมัดระวังจริงๆ” หลัวเฟิงมองไปยังดาวเคราะห์
“เป็นเพราะเขาสามารถมาถึงระดับนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ระมัดระวัง”
“รู้สึกว่า ครั้งนี้คงจะไม่ง่ายเหมือนกับที่ผ่านมา 17 คน” ดิลลันยิ้ม
หลัวเฟิงหัวเราะเบาๆ ออกมา
ยานดาวเคราะห์ยุนโมได้บินต่อ โดยสำรวจดาวเคราะห์ไปด้วย
“ตรวจสอบสัญญาณชีวิตที่ ดาวเคราะห์น้อยลำดับที่ 82”
“ไปที่นั่น” หลัวเฟิงออกคำสั่ง
ดาวเคราะห์ลำดับที่ 3 ที่พื้นผิวดูเป็นปกติ แต่เมื่อยานอวกาศเข้ามาใกล้ ทั้งดาวก็เกิดการสั่นไหว
3 ลำแสงได้ยิงตรงมาที่ยานอวกาศ ทว่ายานได้เคลื่อนที่หลบ แต่ยังมี
หนึ่งลำแสงได้ตรงเข้ามาโดนพลังงานบาเรียทำให้เกิดคลื่นเล็กๆ ขึ้น
และไม่ได้รับความเสียหาย
ยานอวกาศได้ยิงลำแสงกลับไปยังดาวเคราะห์น้อยนั้น
ดาวเคราะห์น้อยที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 600 กิโลเมตรก็ได้เกิดการระเบิด สร้างเศษซากที่กระจายออกไปทั่วทิศทาง ทำให้เห็นยานอวกาศสีม่วงเข้ม
“นั่นยานอวกาศเกรด E9 สินะ”
“บาบาต้า ชนมัน” หลัวเฟิงหัวเราะ ทั้งออกคำสั่ง
“ได้เลย” บาบาต้าตอบรับอย่างมีความสุข
ยานดาวเคราะห์ยุนโมทรงสามเหลี่ยมได้เร่งความเร็วจนเป็นแสงสีแดงเลือด ตรงไปทางยานของอีกฝ่าย
ยานสีม่วงตื่นตกใจในการกระทำได้ทำการยิงลำแสงออกมาสองเส้น
พร้อมกับทำการหลบหนี
แต่ด้วยความเร็วในการเร่ง…แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะหลบได้
ยานดาวเคราะห์ยุนโมได้กระแทกเข้ากับยานอวกาศสีม่วง ราวกับมีดที่คมตัดผ่านไม้ มันแยกยานสีม่วงออกจากกันได้อย่างสวยงาม
มีเงาบินออกมาจากยานที่เสียหาย ท่ามกลางเศษซากที่ล่องลอยเขาได้กล่าวว่า “ เจ้าสองคนเป็นใคร”
ประตูยานดาวเคราะห์ยุนโมเปิดออก
หลัวเฟิงและดิลลัน ได้บินออกมา
ทั้งสองได้ออกมายืนอยู่ในอวกาศ ได้ทำการจ้องมองไปยังชายที่อยู่
ตรงหน้าชายรูปร่างผอมคนนี้เป็นเหมือนหมาป่าที่กำลังตื่นกลัว และ
ด้วยการปรากฎตัวของหลัวเฟิงและดิลลัน ก็เปลี่ยนเป็นความสิ้นหวัง
“ระดับอมตะ ต้องการมาจับตัวข้า” พาฉี กำลังสิ้นหวัง แต่เขาก็ยังไม่
คิดจะยอมแพ้
“ข้าคิดว่าไม่เคยทำอะไรเจ้าทั้งสอง การที่ข้าอยู่ที่นี่ถือเป็นความลับ เจ้ารู้ได้อย่างไร แล้วระหว่างเรามีปัญหาอะไรกัน”
“ความลับงั้นเหรอ” หลัวเฟิงหัวเราะ
ความลับคืออะไรสำหรับองค์กรจักรวาลเสมือน เพียงแค่ตรวจสอบพิกัดที่ต่อเข้ากับเครือข่ายจักรวาลเสมือนก็ทำให้รู้สถานที่ๆ พวกเขาอยู่
“พาฉี ผมมาที่นี่ด้วยคำสั่งขององค์กรจักรวาลเสมือน ในการตัดสิน
องค์กรพายุไฟ” หลัวเฟิงได้พูดออกมาอย่างรุนแรงจากพลังงานจิตวิญญาณที่ตัดผ่านอวกาศ
“ผู้บริหารทั้ง 17 ได้ตายแล้วเหลือเพียงคุณคนเดียว”
เมื่อเขาเห็นสองคนตรงหน้าเขาคิดจะทำการหลบหนี หลังจากที่เขาทำการยอมแพ้ แต่เมื่อได้ยินชื่อองค์กรจักรวาลเสมือนเขาก็รู้สึกไร้หนทาง
“ไม่น่าแปลกใจที่ข้าไม่ได้ยินข่าวใดๆ ที่เกี่ยวกับผู้บริหารอีก 17 คนถูกฆ่า นั่นคงเป็นการจัดการขององค์กรจักรวาลเสมือน” พาฉี ได้จ้องไปที่ทั้งสองคน
“องค์กรจักรวาลเสมือนที่ทรงอำนาจ ทำไมถึงได้มาสนใจตัวตนอัน
เล็กน้อยอย่างข้า และส่งบุคคลพิเศษมาจัดการข้า”
“หยุดไร้สาระ”
“ผู้นำที่แท้จริงขององค์กรเช่นคุณ คุณต้องเป็นส่วนรับผิดชอบที่สำคัญที่สุดในทุกสิ่ง ผมจะตัดสินให้คุณตาย แล้วผมจะเป็นคนลงมือด้วยตัวเอง”
“ลงมือเองงั้นหรือ เจ้าหนูระดับขอบเขตนี้นะ เจ้าได้บอกว่าจะฆ่าข้าด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่าระดับอมตะที่อยู่ข้างๆ เจ้าจะมาหยุดการเคลื่อนไหว และไม่ให้ข้าทำการป้องกันได้หรือไง” พาฉี หัวเราะออกมา
เขาคิดจะให้เจ้าชายที่ 7 เป็นไพ่ตายของเขา แต่ด้วยการได้ยินชื่อองค์กรจักรวาลเสมือน เขาต้องต่อสู้เพื่อชีวิตของตัวเอง
“ผมจะลงมือเพียงคนเดียว ระดับอมตะจะไม่เข้ามาแทรกแซง” หลัวเฟิงจ้องอย่างเย็นชากลับไปยังอีกฝ่าย
“ตาย!”
เสียงดังขึ้นพร้อมกับแสงสีทองออกมาจากด้านหลังหลัวเฟิง สร้างเป็น
พลังงานดาบที่ปกคลุมพื้นที่ 100 กิโลเมตรระหว่างพวกเขา แรงกดดันไม่ได้อ่อนแอกว่าการดึงโลกของระดับห้วงมิติออกมาภายนอกแม้แต่น้อย
หลัวเฟิงได้แกว่งดาบเงาเลือด ได้พุ่งเข้าหาพาฉี พร้อมทิ้งเงาไว้เบื้องหลัง
“ดี พวกโง่ที่คิดจะสู้กับข้าในระยะประชิด ถ้าจับเจ้าหนูนี้ไว้ได้ก็จะสร้างเส้นทางหลบหนีจากระดับอมตะได้”
พาฉี ได้ปลดปล่อยพลังโลกของตัวเองออกมา
โลกแห่งดาบ กับ โลกซ้อนทับ ปะทะกัน
หลัวเฟิงได้ใช้เทคนิคดาบที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา 7 ดาบลวงตา ผสมกับกรงเล็บฉีกฟ้าในการเคลื่อนไหวนี้
ทั้งสองโลกปะทะกันสร้างเสียงเหมือนดาบปะทะ พลังงานมากมายได้
กระจายออกมา
มือขวาของหลัวเฟิงไม่อาจทนได้ ถูกดีดกลับอย่างรุนแรง ทำให้กระดูกแตก และดาบเงาเลือดกระเด็นออกไปไกล ต่อมาเกราะทหารลึกลับกับเถาวัลย์เทียมฟ้าก็เข้ามาหยุดการโจมตีที่เหลือ
หลัวเฟิงกระเด็นออกมา
“ฮ่า ฮ่า คิดว่าจะได้หนีหรือ” ใบหน้าของพาฉี เต็มไปด้วยความมุ่งร้าย เขาแกว่งแขนมาอย่างรุนแรง
เถาวัลย์ก็ได้พุ่งออกมาจากแขนของเขา พุ่งตรงมาที่หลัวเฟิงเพื่อที่จะห่อเขาไว้
“เถาวัลย์โลหะระดับห้วงมิติขั้น 9” หลัวเฟิงถึงกับตกใจ
เถาวัลย์โลหะเป็นรูปแบบชีวิตพืช ถ้าเถาวัลย์เทียมฟ้าเป็นของหายาก
เถาวัลย์โลหะก็เป็นสิ่งที่ต้นทุนต่ำ ในระดับเกรดเดียวกัน ถึงพลังมัน
อาจจะต่ำกว่าชนิดอื่น แต่ก็ยังดีกว่ามนุษย์ในระดับเดียวกันเล็กน้อย
การที่เข้าถึงระดับจักรวาลก็เป็นของหายากแล้ว การถึงระดับขอบเขตก็ถือว่าโชคดีมาก และการถึงระดับห้วงมิติขั้น 9 มันถือว่าเป็นสิ่งที่
อัศจรรย์
“เถาวัลย์เทียมฟ้า” หลัวเฟิงที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง ได้มองไปยังเถาวัลย์มากมายที่พุ่งออกมา
เถาวัลย์ที่ออกมาจากไหล่และเอวทั้งหมด 216 เถา ทุกเถามีความแข็งแรง ได้เข้าโจมตีเถาวัลย์เหล็ก
เถาวัลย์เทียมฟ้าระดับห้วงมิติขั้น 6 ได้เข้าโจมตีเถาวัลย์เหล็กระดับห้วงมิติขั้น 9
เถาวัลย์เทียมฟ้าเป็นของหายาก และได้ถูกเลี้ยงดูให้อยู่ในระดับสูงถึง
216 เถา ระดับห้วงมิติขั้น 6 ก็สามารถฆ่าระดับห้วงมิติขั้น 6 มนุษย์ได้ง่ายๆ
เถาวัลย์ปะทะกันในระยะ 10 กิโลเมตรในอวกาศ เถาวัลย์เทียมฟ้า
ได้เปรียบอย่างไม่ต้องสงสัย
เถาวัลย์เหล็กได้ปกป้องแกนหลักของมัน พาฉี ได้ใช้มือซ้ายชี้มายังหลัวเฟิง
แล้วใบไม้สีแดงเลือดได้ยิงออกมา
บริเวณการต่อสู้ของสองเถาวัลย์ได้ถูกห่อหุ้มด้วยใบไม้สีแดง ดอกไม้สีแดงเลือดก็เริ่มเบ่งบาน เส้นผ่านศูนย์กลางราว 1 กิโลเมตร แล้วในแต่ละดอกสามารถเห็นฟันสีดำ ของมัน
ดอกซาหลู่ ระดับห้วงมิติขั้น 9
ถ้าบอกว่าเถาวัลย์โลหะเป็นสินค้าราคาถูก หรือพืชระดับล่าง ดอกซาหลู่ก็เทียบได้กับเถาวัลย์เทียมฟ้า มันมีความสามารถที่รู้กัน ในเรื่องการกลืนกินและงอกใหม่ มันเป็นพืชพิเศษที่ชอบการกินเลือดจากรูปแบบชีวิตอื่น
ถ้าดอกซาหลู่ มาอยู่บนโลกมันจะกลายเป็นดอกไม้กินคน
“ดอกซาหลู่ ระดับห้วงมิติขั้น 9”
“เขาสามารถเลี้ยงดูพืชระดับห้วงมิติขั้น 9 ทั้งสองอย่างได้อย่างไร”
เสียงแหลมสูงจนเจาะหูดังออกมาจากดอกไม้
ดอกไม้สีสดใสจำนวนมากได้วิ่งเข้าหาหลัวเฟิง มันปล่อยเสียงบดฟันและน้ำลายที่สามารถมองเห็นได้จากปากของมัน