ตอนที่ 704 การจัดส่ง
หลัวเฟิงรับรู้แรงกดดันที่ได้รับ คนที่พูดกับเขาคือการดำรงอยู่ที่แท้จริงของจักรวาล เขามีนิสัยแปลกประหลาด
เวลาที่เขาโกรธอาจทำให้เกิดหายนะขึ้น หลัวเฟิงก็เป็นเพียงแค่มดถ้าเทียบกับเขา ด้วยการติดต่อสื่อสารเพียงเท่านั้น ก็สามารถที่จะฆ่าหลัวเฟิงได้
“ท่านอัศวินอมตะ” หลัวเฟิงกำลังยืนโค้งทำความเคารพที่หน้าจอภาพ
“ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ผมจะกล้าขายทางช้างเผือกให้ท่านได้อย่างไร ดาว
เคราะห์ทุกดวงในทางช้างเผือกผมยกให้ท่านฟรี แต่ผมต้องการเก็บดาวเคราะห์บ้านเกิดไว้”
บนหน้าจอ อัศวินอมตะกำลังตกใจ เขากะพริบตาสีเขียวของเขาชั่วครู่
เขาถูเถาวัลย์สีดำแกมเขียวข้างหูก่อนที่จะเริ่มปล่อยเสียงดังอีกครั้ง
“เจ้าเป็นคนที่น่าสนใจ ข้าต้องการซื้อดาวเคราะห์โลกเท่านั้น ข้าไม่ได้
สนใจดาวเคราะห์ดวงอื่นในทางช้างเผือก”
หลัวเฟิงยังคงยืนอยู่ในท่าทำความเคารพ
ทำไมต้องเป็นโลก
“โลกเป็นเพียงดาวเคราะห์ขนาดเล็กที่มีเพียงรูปแบบชีวิตพื้นฐาน ทำไมท่านต้องการที่จะซื้อ”
“ข้ามีเหตุผลของข้า” อัศวินอมตะดูเหมือนกระสับกระสาย
“เจ้าจะขายหรือไม่” เขาคำรามขึ้นมา
หลัวเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขายังอยู่ในท่าทำความเคารพ
“ท่านอัศวินอมตะ โลกเป็นบ้านของมนุษย์โลกและบ้านของผม ผมและสหายเต็มใจที่จะตาย ได้โปรดยกโทษต่อความหยาบคายของผม”
“ท่านอัศวินอมตะผู้ยิ่งใหญ่…ผมไม่สามารถที่จะขายโลกให้กับท่านได้”
หลัวเฟิงรอคำตอบในท่าทำความเคารพ
ดวงตาของอัศวินอมตะได้จับจ้องไปยังหลัวเฟิง แรงกดดันอันแข็งแกร่งได้ส่งผ่านหน้าจอและกดร่างกายของหลัวเฟิง มันทำให้ร่างกายของเขาส่งเสียงแตกร้าว ขาของหลัวเฟิงหักทำให้ถูกบังคับในท่าคุกเขา
หลัวเฟิงยังคงเงียบรอคำตอบ
“วะวะวะ…”
เสียงหัวเราะประหลาดดังขึ้นจากลำคอของอัศวินอมตะ
ในหมู่คนที่คุ้นเคยกับเขา มีใครบ้างที่กล้าท้าทายเขา แม้จะมีพวกนิสัยประหลาดในหมู่อัศวินของสำนักขวานยักษ์ ก็ไม่อาจเทียบกับความประหลาดของอัศวินอมตะ
เขามีความภาคภูมิใจและเจ้าอารมณ์ เขาสนุกกับการสำรวจดินแดนลับที่อันตราย ยิ่งอัตรายมากแค่ไหนก็ยิ่งมาความสุขมาก
แม้แต่อัศวินที่ยิ่งใหญ่ ในบางพื้นที่ลับ เขายังต้องการเตรียมตัว หรือขอความช่วยเหลือในการสำรวจ
อัศวินอมตะนั้นแตกต่าง
สถานที่อันตรายเหล่านี้เป็นเหมือนเกม บ่อยครั้งที่ต้องอยู่ในจุดที่
อันตราย สำรวจดินแดนอันน่ากลัว ถ้าขาดการเตรียมความพร้อมพวกเขาจะตายในไม่ช้า
ทว่าอัศวินอมตะนั้นไม่ตาย เขามีความสามารถเอาตัวรอดที่แข็งแกร่ง
เขาไม่เปิดจักรวรรดิ ไม่สร้างกองทัพและนิกายของตัวเอง เขาไม่ต่อสู้เพื่ออำนาจหรือสถานะ
เขาเชื่อว่าคนอื่นอยู่ต่ำกว่าเขา
เขาสนุกกับความเสี่ยงแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามเขาจะมีพลังมากแค่ไหน ก็ยังที่จะเข้าไปท้าทาย
ทรูหยันก็กลัวที่อัศวินอมตะต้องการจะติดต่อกับหลัวเฟิงโดยตรง เขาถึงได้ถามหลัวเฟิงก่อนว่าได้ทำร้ายคนใกล้ชิดของอัศวินอมตะหรือไม่
“เจ้ากล้าที่จะต่อต้าน” เสียงของอัศวินอมตะเจาะเข้าไปในหูของหลัวเฟิง
ตาทั้งสองเหมือนกับใบมีดที่เจาะเข้าไปในวิญญาณ
หลัวเฟิงคุกเขาพร้อมกับพูดด้วยความสุภาพ
“การขายบ้านของผม ขายสหายและพื้นดิน ผมไม่สามารถที่จะทำได้
โปรดยกโทษให้ผมด้วย”
อัศวินอมตะจ้องมองหลัวเฟิง
หลัวเฟิงตั้งใจอดทนรอ
เวลาผ่านไปราวครึ่งนาที
“ฮ่า ฮะฮะฮะ…” เสียงหัวเราะอัศวินอมตะเปลี่ยนไปอีกครั้ง
“เจ้าหนู เจ้ากล้าที่จะทำให้ข้าโกรธ ข้าสามารถที่จะฆ่าเจ้าได้อย่าง
ง่ายดาย การกำจัดอัจฉริยะตัวน้อยมันเป็นสิ่งที่ง่ายดายนัก”
“ผมรู้”
ขณะที่คุยกับอัศวินอมตะ หลัวเฟิงก็คิดถึงวิธีรับมือกับสถานการณ์ แม้ว่าจะถูกบังคับไปในเส้นทางที่ไม่อาจย้อนกลับ เขาก็จะไม่ขายโลก
เมื่อมันกลายเป็นดินแดนของอัศวินอมตะ หลัวเฟิงก็ไม่มีอำนาจที่จะเข้าไปแทรกแซงได้ แล้วการขายบ้านแล้วปล่อยให้สหายบนโลกไม่มีที่กลับเขาไม่อาจจะทำได้
หลัวเฟิงได้คิดว่าเขาเป็นอัจฉริยะของ องค์กรจักรวาลเสมือน แม้จะเป็นอัศวินอมตะเขาก็เป็นคนของสำนักขวานยักษ์
การฆ่าหลัวเฟิงจะเป็นการไม่เคารพต่อ องค์กรจักรวาลเสมือน และมันจะเป็นปัญหากับตัวของเขาเอง
โอกาสที่อัศวินอมตะจะฆ่าหลัวเฟิงก็อยู่ต่ำมาก
แต่ด้วยนิสัยแปลกๆ หลัวเฟิงก็ไม่สามารถที่จะเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ผมไม่ต้องการขายบ้านตัวเอง เขาไม่อาจที่จะฆ่าผม ต้องให้ดิลลัน ส่งผมผ่านจักรวรรดิเทพกลับไปยังโลก” หลัวเฟิงคิด
“เมื่อกลับไปถึง ผมจะเอาโลกเข้ามาไว้ในโลกภายใน”
“เมื่อหลายร้อยปีก่อน โลกไม่ได้มีส่วนร่วมกับจักรวาล พวกเขาสามารถมีความสุขในชีวิต มันอาจจะปล่อยภัยขึ้นในโลกภายใน”
“ร่างกายมนุษย์โลกต้องไปยังดินแดนตั้งต้นของ องค์กรจักรวาลเสมือน เผ่าโมชานนำแกนหลักซ่อนตัวในหมู่มนุษย์โลกทั่วไป ซ่อนอยู่ในดาวเคราะห์มีชีวิตที่อยู่ในจักรวาลที่ห่างไกล”
“ถ้าอัศวินอมตะฆ่าเขาจะต้องไปยังดินแดนตั้งต้น ผมอยากจะรู้ว่าเขา
กล้าที่จะโจมตีหรือไม่”
“แม้เขาจะฆ่าร่างกายมนุษย์โลก พลังงานที่แท้จริงของผมก็ไม่ได้รับ
ผลกระทบ”
นี่เป็นแผนของหลัวเฟิง
ถ้ามีสถานการณ์บางอย่างเกิดขึ้น องค์กรจักรวาลเสมือนปกป้องเขา
ไม่ได้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยวอีกต่อไป มันจะดีกว่าที่เขาจะหลบซ่อนในดาวเคราะห์ร้าง หรือสำรวจพื้นที่ลึกลับในจักรวาลเพื่อฝึกฝน
ถ้าเขาไม่มีวิธีเหล่านี้เขาคงต้องยอมรับเรื่องความปลอดภัยของโลก
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หลัวเฟิงก็ยังคงรักษาท่าทางการทำความเคารพไว้อยู่
และรอคำตอบของอัศวินจักรวาล
“เจ้ารู้ แต่ยังกล้าที่จะต่อต้าน แน่นอนว่าเจ้าเป็นคนกล้า” อัศวินอมตะ
เปลี่ยนเสียงหัวเราะพึงพอใจ
“ข้าชอบคนกล้า ต่างจากพวกอัศวินเหล่านั้นที่มีความกล้าเพียงเล็กน้อย และเต็มไปด้วยความกลัวในการสำรวจพื้นที่ลับ”
“ฮะฮะ ไม่เลวไม่เลว ข้าชอบ ข้าจะปล่อยชีวิตเล็กๆ นี้ให้ เจ้าสามารถ
มอบเกาะใดก็ได้บนโลกให้ข้า การตัดสินเรื่องแบบนี้ ไม่น่าจะมีปัญหา”
หลัวเฟิงผ่อนคลายและเริ่มพูด
“ไม่มีปัญหา ผมจะเตรียมเกาะไว้ให้กับท่านอัศวินอมตะ”
อัศวินอมตะพยักหน้า ใช้ตาสีเขียวตรวจสอบหลัวเฟิงอย่างรอบคอบ แล้วได้ปล่อยเสียงหัวเราะที่เย็นเข้ากระดูกออกมา
“เจ้าหนู ต้องแต่ต้นจนจบ ยังไม่เห็นเจ้าสูญเสียความสงบ อดทน มั่นคง น่าสนใจจริงๆ…”
เขาได้หายไปท่ามกลางเสียงหัวเราะของเขา
แรงกดดันภายในห้องก็หายไปด้วย
หลัวเฟิงปล่อยลมหายใจยาวๆ ด้วยความโล่งอก และนั่งลงบนเก้าอี้
“พระเจ้า ระดับอมตะเป็นพวกนิสัยประหลาด” หน้าผากของหลัวเฟิงเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ
“ผมเกือบถูกให้ทิ้งทุกอย่าง แล้วเดินทางไปในจักรวาล”
ถ้าอัศวินอมตะต้องการโลกให้ได้ หลัวเฟิงก็พร้อมที่จะนำโลกไปไว้ในโลกภายในและเดินทางไปในจักรวาล
ในวันเดียวกับที่เขาได้ติดต่อกับอัศวินอมตะในจักรวาลเสมือน
ป่าอเมซอลบนโลก
ป่าที่มีไม้หนาทึบ สามารถพบสัตว์ต่างๆ วิ่งไปมา มนุษย์โลกไม่ต้องการทำลายแหล่งอาศัยตามธรรมชาติของมัน จึงทำให้มันเป็นป่าขนาดใหญ่ และไม่มีคนสนใจ
แสงสีแดงปกคลุมพื้นที่โดยรอบ เกิดคลื่นสั่นสะเทือนในพื้นที่ หลังจากนั้นสิ่งมีชีวิตทรงพลังก็ปรากฎตัว พวกเขาใส่ชุดคลุมยาวหรือเกราะที่งดงาม พลังงานของทุกคนน่ากลัว หนึ่งในนั้นคือจักรพรรดิหยางซู
“ได้เวลาแล้ว นี่คือหนึ่งในคริสตัลอมตะของข้า ข้าไม่ได้คาดหวังว่าจะ
ได้ใช้มันเร็วอย่างนี้”
“บรรดาอัศวินที่อยู่ภายใต้พ่อ ควรจะมาถึงโลกอย่างรวดเร็ว ”หยางซู ยิ้มอย่างพอใจ
“เวลานี้เป็นงานของพ่อ”
อมตะระดับจักรพรรดิข้างเขายิ้มและพยักหน้า