ตอนที่ 833 จักรวรรดิเทพโบราณ
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะพูดกันอย่างเป็นมิตรแต่ก็คอยระมัดระวังตัวกันอยู่
เนื่องจากต้องร่วมมือกัน เพื่อจะเข้าสู่พื้นที่หลัก ดังนั้นจึงต้องสงบศึก
แต่เมื่อพวกเขาเข้าถึงพื้นที่หลัก…ทั้งสองฝ่ายที่เป็นศัตรูกัน จึงทำให้
ต้องสู้กันเพื่อสมบัติ
จักรพรรดินาฬิกาม่วง จ้องตามายังกลุ่มของหลัวเฟิง
หลัวเฟิงมองกลับด้วยสายตาเย็นชา
ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ซ่อนความเกลียดชังของพวกเขา แล้วไม่พยายามปิดบังมัน
“ศพ จำนวนมาก”
หลัวเฟิงและคนอื่นๆ กำลังเดินไปตามทางเดิน ที่มีความกว้าง 1กิโลเมตร สูง 3 กิโลเมตร และคดเคี้ยว แม้ความสูงหอคอยจะมีมากกว่า 1 หมื่นกิโลเมตร แต่ทางเดินของมันกลับยาวไม่น้อยกว่าแสนกิโลเมตร
บางครั้งพวกเขาจะเดินผ่านห้องโถงไปพร้อมกัน แล้วค่อยเห็นซากศพอื่นๆ เพิ่มเติม
“ทั้งหมดเป็นร่างกายของอมตะ และเศษกระดูกของระดับห้วงมิติ
สำหรับระดับขอบเขตและจักรวาลนั้นไม่เหลืออะไร…มันน่าจะสลายไปนานแล้ว”
หลัวเฟิงเห็นหลายศพตามทางเดินที่ตายด้วยน้ำมือของ 4 เผ่าพันธุ์ชั้นยอด
อัศวินของทั้ง 4 เผ่าพันธุ์ได้ทำการโจมตีกวาดทั้งพื้นที่ หอคอยมันทำได้แค่หลบซ่อน แต่ไม่อาจป้องกันการโจมตีจิตวิญญาณ ทำให้ทุกคนต้องตาย
แม้ระดับจักรพรรดิยังต้องตาย ส่วนที่เหลืออ่อนแอ่กว่าย่อมไม่อาจรอดได้
“หยาง” เสือคำราม สื่อสารผ่านจิต
หลัวเฟิงมองออกไป
“เจ้าได้สังเหตุเห็นไหมว่าบนร่างกายทั้งหมดนั้นไม่มีแหวนอวกาศหรือแหวนโลก แล้วกระทั่งอาวุธต่างๆ ก็ไม่มี” เสือคำราม กล่าว
หลัวเฟิงเข้าใจทันที
“จักรพรรดิไนท์ และดาบน้ำแข็ง คงจะเก็บกวาดพวกมันไปแล้ว พวก
เขาทั้งคู่อาจทำในช่วงเวลาที่มาก่อนหน้านี้ กวาดเอาทุกสิ่งในพื้นที่
ทั้งหมดของหอคอย นอกเหนือจากพื้นที่หลัก”
“จักรพรรดิไนท์ เจ้าเก็บอะไรได้บ้าง” เสือคำราม ถามตรงไปตรงมา
“ข้าจัดการได้เพียงแค่สามศพของชาวพื้นเมือง พวกเขาไม่อาจเทียบได้กับพันธุ์ชั้นยอดอย่างมนุษย์ และจักรพรรดิของพวกเขาแย่กว่าจักรพรรดิทั่วไป” จักรพรรดิไนท์ กล่าว
“เจ้ายังจะบ่นอีก” เสือคำราม กล่าว
พวกเขาได้คุยกันผ่านทางจิตขณะที่กำลังเดิน ทั้งสองทีมก็ได้เข้ามาถึงพื้นที่หลักได้อย่างรวดเร็ว
“ประตูนี้…” หลัวเฟิงมองไปยังประตูรูปดาว 6 ด้านขนาดใหญ่ ทั้ง 6 ด้านเป็นทางเดินที่มีเส้นผ่ายศูนย์กลางขนาด 10 เมตร ในแต่ละด้าน ทางเดินมีแสงสว่างอยู่ภายใน แสงที่ออกมาเป็นพลังงานที่น่ากลัว
“จากข้อมูลที่เรารวบรวม ทั้ง 6 จะต้องเป็นหัวใจหลักของทางเดิน เรา
สามารถผ่านเส้นทางหลักโดยใช้เครื่องรางที่นั่น เมื่อรวมพวกมันเข้า
ด้วยกันพื้นที่หลักก็จะเปิด สมบัติก็จะอยู่ภายใน” จักรพรรดิไนท์
“ใช่” ดาบน้ำแข็ง พยักหน้า
“ทุกทางจะมีอุปสรรคที่ระดับผู้บัญชาการทั่วไป ไม่สามารถผ่าน
ได้ เครื่องรางน่าจะเป็นสิ่งที่ใช้หยุดมันเพื่อจะเข้าไปได้”
“อุปสรรค?”
จักรพรรดินาฬิกาม่วง มองไปยังดาบน้ำแข็ง ที่อยู่ด้านข้าง
“ดาบน้ำแข็ง เจ้ากำลังเล่นอะไร พลังงานในทางเดินนี้ไม่ได้อ่อนแอเลย มันจะต้องเป็นการโจมตีที่พิเศษ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราต้องตาย?”
“กลัวก็ไม่ต้องเข้าไป” เสือคำราม ปล่อยเสียงออกจมูก
“ขี้ขลาด” หลัวเฟิงกล่าวเสริม
“ดาบน้ำแข็ง ผู้ช่วยที่เจ้าพามา ช่างขี้ขลาด” จักรพรรดิไนท์ หัวเราะเยาะ
ฝั่งมนุษย์กำลังล้อเลียนพวกเขา
ทำให้ โกลเคน ดาบน้ำแข็ง นาฬิกาม่วง ขมวดคิ้ว
แล้วนาฬิกาม่วง ได้ใช้สายตาที่เย็นชาจ้องไปยังฝ่ายมนุษย์โดยที่ไม่ได้พูดอะไรอีก จากสายตาของพวกเขาทำให้เข้าใจว่ามีการสื่อสารผ่านจิตกันอยู่ในขณะนี้
ฝั่งมนุษย์ก็ทำการสื่อสารผ่านจิตเช่นกัน
“ข้าเคยลองหลายครั้งแล้ว ใจเย็นๆ และตามข้าเข้ามา” จักรพรรดิไนท์ พูดออกมาอย่างมั่นใจ
“ข้ามีปีกซืออวู๋ กับเกราะนายพล…พลังงานนี้ไม่สามารถที่จะฆ่าข้าได้ ถ้ามีบางสิ่งเกิดขึ้น มันก็คงอยู่ภายใต้การควบคุม” หลัวเฟิงแสดงความมั่นใจ
“จักรพรรดิไนท์ เราไว้ใจเจ้า” เสือคำราม ได้แสดงความไว้ใจ
ทั้งสองฝ่ายได้ข้อสรุปจากการพูดคุยแล้ว ในเมื่อพวกเขาอยู่ที่ทางเข้าแล้ว พวกเขาจะถอยได้ยังไง
“เข้าไป”
“เข้า”
ทั้งสองฝ่ายเข้าไปพร้อมกัน
6 เส้นทาง 6 นักรบ
“แผ่นน้ำนี้คล้ายพังผืด” หลัวเฟิงใช้ปีกคุมตัวเองแล้วเดินเข้าไป
พังผืดนี้ไม่มีทางต้านทานพลังของหลัวเฟิงที่จะผ่านเข้าไป เขาได้บินผ่านไปหลายชั้นจนมาถึงกำแพงที่มีช่องใส่เครื่องรางที่พอดีกับมัน
หลัวเฟิงบังคับให้เครื่องรางลอยเข้าไปในช่องของมัน
เครื่องรางได้เข้าไปพอดี รอยสลักรอบทางเดินเริ่มสว่างและพื้นที่
โดยรอบเริ่มสั่นไหว
เสียงที่เกิดขึ้นแบบเดียวกันเริ่มต้นมาจากเส้นทางอื่น
ต่อมาทั้ง 6 ทางเดินต่างสั่นเหมือนกัน
รอยการสลักได้เริ่มสว่างขึ้นต่อเนื่อง จนทำให้หลัวเฟิงและคนอื่นเริ่มวิตกกังวล
การได้สมบัติย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยง จะมีหรือที่จะได้รับรางวัลโดยที่เป็นอันตรายใดๆ?
ทุกคนย่อมรู้ดีเกี่ยวกับอันตราย ดังนั้นพวกเขาจะไม่เสี่ยงถ้ายังไม่มั่นใจ
———–
ภายในห้องควบคุมหลักของหอคอย มีภาพสามมิติลอยอยู่ ภาพนี้เป็นทุกส่วนของหอคอย รวมถึงภาพของคนที่เข้ามายังหอคอยก็ถูกจับภาพไว้ด้วย
“การบุกรุกจากเผ่าพันธุ์อื่น”
“การบุกรุกจากเผ่าพันธุ์อื่น”
หุ่นกล 6 แขนกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้โลหะภายในห้องควบคุม หุ่นกลมี
ลักษณะเดียวกับชาวพื้นเมืองที่ตายในหอคอย ทว่ามันเป็น AI มีชีวิต มันได้คอยดูแลหอคอย ผ่านวันเวลามานานนับไม่ถ้วนจนวิวัฒนาการเป็น AI มีชีวิต
มันใช้เวลามากมายในการเฝ้าดูหอคอยจนพบเผ่าพันธุ์อื่น มันจึงลุกขึ้นทันทีและก้าวผ่านชั้นน้ำที่อยู่ด้านข้าง
ด้านข้างเป็นทางเดินที่นำไปสู่จักรวรรดิเทพ
ทางเดินมีความสัมพันธ์ต่อระยะทาง ยิ่งไกลก็ยิ่งใช้ทรัพยากรมาก แต่ยิ่งใกล้ก็ยิ่งง่ายที่จะรักษามันไว้
AI ได้ปรากฎขึ้นหน้าภูเขาขนาดใหญ่อันงดงาม ที่พักอาศัยสามารถเห็นได้ทั่วทั้งภูเขาลูกนี้ มันเป็นที่อยู่อาศัยของเผ่าพันธุ์ยันจี และเป็น
ผู้รอดชีวิตชนเผ่า 6 แขนชุดคลุมสีทองได้ปรากฎตัวขึ้น
“นายท่าน” AI กล่าวสุภาพ
“ทำไมไม่อยู่ในหอคอย มีอะไรถึงได้มาที่นี่” ชุดคลุมสีทองกล่าว
“นายท่าน หอคอยถูกบุกรุกโดยเผ่าพันธุ์อื่น”
“ผู้บุกรุก?”
ดวงตาของเขาเหมือนกับยิงแสงเลเซอร์ออกมา จนทำให้พื้นที่รอบๆเกิดการแตก แล้วเขาก็หัวเราะเสียงดัง
“หออพยพ ของเผ่าพันธุ์เรา ที่เราต้องซ่อนตัวกันมานานเท่าไรแล้ว ต้องหลบหนีดิ้นรนจากประตูแห่งความตาย”
“ฮ่า ฮ่า…”
“ในที่สุดเราก็ถูกรุกรานจากผู้บุกรุก” นักรบหัวเราะเสียงดัง
“จักรพรรดิทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่ น้องสาม…พาพวกเขามา” นักรบ
ได้ระเบิดเสียงผ่านจักรวรรดิเทพ
ในช่วงอึดใจ
11 เงาได้ปรากฎตัวออกมาต่อหน้าเขา นักรบเหล่านี้มี 6 แขน ผิวเหมือนหิน และหัวล้าน พวกเขามาจากเผ่าพันธุ์เดียวกัน แล้วระดับพลังงานที่ปล่อยออกมาก็มีความแข็งแกร่ง
พวกเขาทั้งหมดเป็นระดับจักรพรรดิ
“ท่านเทพ” ทั้ง 11 จักรพรรดิมองไปยังคนชุดคลุมสีทอง
“เหตุใดถึงเรียกเรา”
“ หออพยพ ของเรา ที่สุดแล้วมันก็โดนรุกรานจากเผ่าพันธุ์อื่น”
11 จักรพรรดิกระสับกระสายด้วยความตื่นเต้น พวกเขามีความยินดีและน้ำตา
“กี่ปีแล้วที่เผ่าพันธุ์ของเราต้องเผชิญกับการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์…อัศวินได้ตกเป็นเป้าหมายของ 4 เผ่าพันธุ์ชั้นยอด เราได้จัดตั้งกลุ่มนับหมื่นกลุ่มเพื่อหลบหนี ทุกทีมได้รับมรดกและสมบัติเพื่อความหวังที่จะกลับมาอีกครั้ง”
“ทว่า 4 เผ่าพันธุ์นั้นรวดเร็วเกินไป…มีเพียงไม่กี่ทีมเท่านั้นที่หลบหนีมาได้ ทีมของเราได้นำคนเข้ามาแล้วการโจมตีก็มาถึง” จักรพรรดิเต็มไปด้วยน้ำตา และร่างกายของพวกเขาก็สั่น
“พวกเราที่ได้หลบภัยในพื้นที่หลักของหอคอย ด้วยโชคที่น้องสามเป็นคนฉลาด เขาได้เทเลพอตไปยังจักรวรรดิเทพของเขา จากการทิ้ง
สัญลักษณ์ของเขาไว้”
“เมื่อเรากลับมายังหอคอย…ทุกคนก็ได้ตายไปหมดแล้ว”
“ผู้นำทางทั้ง 6 ตายข้างนอกทั้งหมด ด้วยการที่ปราศจากเครื่องราง เราไม่อาจที่จะเข้าถึงสมบัติได้ ปราศจากสมบัติและสิ่งของ ถึงมีผู้คนจำนวนมากในจักรวรรดิเทพ มันก็ยากที่ดูแลนักรบ”
“การไม่มีเครื่องราง ทำให้พื้นที่หลักถูกปิดโดยสมบูรณ์ ถึงเราจะเทเล
พอตจากจักรวรรดิเทพ ไปในพื้นที่หลัก แต่เราก็ไม่สามารถที่จะออกไปได้”
“แล้วเราก็ไม่กล้าที่จะไปยังทวีปยาจิน”
“เราไม่กล้าที่จะเสี่ยงจากการถูกพบโดย 4 เผ่าพันธุ์ชั้นยอด พวกเขา
อาจจะรีบมาฆ่าพวกเรา จนกลายเป็นการสูญพันธุ์โดยสมบูรณ์”
“มันนานมากแล้ว”
“ในที่สุดผู้รุกราน ก็ได้นำเครื่องรางมา…ในที่สุดเราก็จะได้สมบัติของ
พวกเรา” จักรพรรดิที่มีน้ำตานองผิวหยาบกล่าว
“ในที่สุดก็เป็นโอกาสของเรา” นักรบชุดคลุมสีทองกล่าว