ตอนที่ 866 ผู้คุ้มกันต้องห้าม

“ตามการค้นคว้า ผู้คุ้มกันต้องห้ามเป็นหุ่นกลรูปแบบโลหะ ถึงจะเป็น

หุ่นเชิดแต่ก็มีความแข็งแกร่ง และไม่มีผลจากการโจมตีจิตวิญญาณ ทำให้ยากที่จะทำลายแกนกลางของมัน” หลัวเฟิงบ่น

“นายท่าน”

ศรคลั่งมองไปยังตะขาบยักษ์สีแดงที่ยืนอยู่บนพื้น

“การโจมตีจิตวิญญาณใช้กับมันไม่ได้ผล แม้แต่แกนพลังงานของมัน ก็ยังแข็งแกร่งยากเกินที่จะทำลาย เรามีทางเลือกเดียว…นั่นคือการสร้างการสั่นสะเทือนที่รุนแรง พอที่จะทำลายแกนกลางมัน” ศรคลั่งสื่อสารผ่านจิต

“ข้ารู้” หลัวเฟิงพยักหน้า แล้วตาประสานเข้ากับผู้คุ้มกัน

ตะขาบยักษ์ได้ต้องมองพวกเขาเหมือนกับเสือที่ต้องมองเหยื่อ เช่น

กระต่าย มันสั่นเหมือนกำลังหัวเราะเยาะพวกเขา

เสียงร้องแหลมเจาะหูดังออกมาจากด้านใน คลื่นเสียงที่แข็งแกร่งผ่าน

หลัวเฟิงและศรคลั่ง ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนไปที่สมอง

เมื่อหลัวเฟิง ฟื้นจากอาการช็อก ตะขาบมันก็หายไปจากที่เดิมและมาอยู่เหนือพวกเขา

ร่างกายขนาดใหญ่ยักษ์ราวกับเมฆที่คอยบดบังเหนือพวกเขา มันพร้อมจะบดขยี้ กรงเล็บที่อยู่รอบๆ เริ่มทำการโจมตีทั้งสองคน

สิบกรงเล็บที่ยาว 10 กิโลเมตร ใบมีดคมและเรียวบาง มันเริ่มต้นหมุน

เหมือนเครื่องบดเนื้อพร้อมจะขยี้ ฉีกกระชากจักรวาล

หลัวเฟิงพุ่งขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับถือดาบเงาเลือดในมือ เขาใช้ท่าดาบพุ่งเข้าหาร่างกายขนาดใหญ่

การฟันที่เหมือนกับสายน้ำสีเงินได้ปะทะเข้ากับหนึ่งในกรงเล็บ จนถูกกระแทกไปอีกด้านหนึ่ง จากนั้นกรงเล็บอื่นๆ ก็พุ่งเข้าหาเขาอย่างบ้าคลั่ง

“แข็งจริงๆ แม้ดาบของข้ายังทำลายมันไม่ได้”

หลัวเฟิงมองไปยังกรงเล็บที่ล้อมรอบ ได้เปลี่ยนท่าทางของเขา เขาต้องการที่จะโจมตีร่างกายของตะขาบทันที มันมีความเป็นไปได้สูงที่จะสร้างการสั่นสะเทือนไปถึงแกนพลังงานภายใน

แต่กรงเล็บที่ล้อมรอบก็ทำให้เขาไม่มีทางจะสัมผัสร่างกายของมัน

หลัวเฟิงสะบัดปีกก่อนที่จะหลบหนีไปได้ทัน ก่อนที่กรงเล็บจะเข้ามา เขาสามารถที่จะหลบหนีจากกรงเล็บที่หนาแล้วใหญ่ได้อย่างง่ายดาย

“พังซะ” ศรคลั่งคำรามจากระยะไกล

หลัวเฟิงหันไปมอง

พลังงานของศรคลั่งได้เพิ่มขึ้นขณะที่กรงเล็บทั้งสิบล้อมรอบ เขาได้

ปล่อยเทคนิคขยายพร้อมกับถือธนูและยิงลูกธนูออกไป

ด้วยผลสะท้อนจากธนูทำให้เกิดช่องว่างรอบๆ ลูกธนูได้สร้างภาพลวงตาของปีศาจจากพลังงานที่ควบแน่น เป็นการยิงสองรูปแบบที่ต่างกัน ที่ทำการแยกพื้นที่ออกจากกัน

ด้วยการยิงหนึ่งลูกธนู แต่ให้ผลออกเป็นสอง นี่ไม่ใช้เทคนิคภาพลวงตาจากกฎอวกาศ แต่เป็นการใช้พลังงานอมตะเคลื่อนไหวกฎ

เทคนิคธนูที่เขาใช้ทำให้เหมือนกับสองลูกธนูจริงๆ ได้ยิงออกไป ก่อน

หน้านี้ศรคลั่งถูกไล่ล่าโดยหลัวเฟิง ยังไม่มีพลังพอที่จะปล่อยเทคนิคนี้

ลูกศรทั้งสองได้ปะทะกับหลายกรงเล็บจนไปถึงอีกด้าน

การระเบิด เกิดขึ้นจากศรลูกสุดท้ายที่เข้าไปยังท้องของตะขาบ นี่คือ

พลังเต็มที่ของนักรบ จักรพรรดิระดับขีดจำกัด

ลูกศรแรกทำให้เกิดการฉีกขาดที่ส่วนท้อง ลูกที่สองเจาะผ่านช่องที่ถูกเปิดออก กรงเล็บที่ล้อมหลัวเฟิงหยุดการโจมตีและถอยไป

“มันทรงพลังแค่ไหน?” หลัวเฟิงรู้สึกตกใจ

“นายท่านคอยระวัง” ศรคลั่งมาอยู่ข้างๆ หลัวเฟิง

“ผู้คุ้มกันจะมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง แม้แต่จักรพรรดิที่อยู่ยงคง

กระพันก็ฉีกร่างของมันไม่ได้”

“มันเป็นไปตามที่คาดไว้ ที่ท้องของมันจะเป็นจุดที่อ่อนแอที่สุด แต่มันอาจจะมีไพ่ตายอื่นซ่อนอยู่”

ทั้งสองรีบทิ้งระยะให้ห่างจากตะขาบ แต่มันก็ไม่สามารถหลบหนีไปได้ไกลเมื่ออยู่ในพื้นที่หวงห้ามนี้

หลัวเฟิงคอยตรวจสอบตะขาบอย่างละเอียด สายฟ้าเริ่มต้นแตกออกมาจากท้องที่ฉีกขาด อีกหัวเริ่มแตกออกมาจากรูตรงท้องที่ถูกเปิดออก โลหะเริ่มสร้างเป็นตะขาบอีกตัว

หนึ่งตะขาบกลายเป็นแสง มันส่งเสียงร้องก่อนที่จะพุ่งเข้าหาพวกหลัวเฟิง

“หนึ่งกลายเป็นสอง…แล้วจากสองก็จะกลายเป็นสี่สินะ” หลัวเฟิงกระพือปีกหนีห่างออกมา

หนึ่งในตะขาบได้ขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำการปกคลุมท้องฟ้าด้วยกรงเล็บ

จำนวนมาก และเริ่มไล่ล่าหลัวเฟิงด้วยความเร็วที่ยอดเยี่ยม

หลัวเฟิงใช้ความเร็วเต็มที่ในการหลบ แต่ตะขาบก็ยังตามติดเขาได้

อีกหนึ่งตะขาบได้พุ่งเข้าหาศรคลั่ง เขาจึงเริ่มต้นยิงมันด้วงลูกธนูอีกครั้ง

เกิดระเบิดขึ้นจากการยิงที่ทรงพลัง ที่กรงเล็บของตะขาบ

การโจมตีสุดท้ายได้เข้าไปยังท้องของตะขาบ…ท้องของมันถูกการโจมตีเจาะผ่าน

ศรคลั่งได้พุ่งเข้าไปยังรูที่สร้างขึ้น กรงเล็บมากมายทำการฟันมายังเขาเพื่อหยุด ศรคลั่งก็ได้เตรียมลูกธนูอีกอันไว้แล้ว เขาโจมตีไปยังกรงเล็บทั้งหมดได้อย่างง่ายๆ แล้วใช้โอกาสนั้นในการเข้าไปในร่างกายของมัน

เมื่อมาถึงรู ภาพเงาสีทองก็ได้ออกมาจากรูด้วยความเร็วราวสายฟ้า ทำให้ศรคลั่งหลบไม่พ้น

มันปะทะเข้ากับนาฬิกาโบราณทำให้เขากระเด็นออกไปไกล ขณะที่เขาบินถอยหลังออกไป เขาก็ยิงลูกธนูออกไปขัดขวางกรงเล็บที่ขวางทางเขาไว้

เสียงร้องแหลมได้ทำให้พื้นที่ทรายทั้งหมดสั่นสะเทือน

สองตะขาบขนาดใหญ่หยุดและลงไปยังพื้น

หลัวเฟิงและศรคลั่งได้กลับมารวมตัวกัน

“เกิดอะไรขึ้น มันรุนแรงแค่ไหน?” หลัวเฟิงขมวดคิ้ว

ศรคลั่งได้มองไปยังเจ้าสองตัวที่อยู่บนพื้น โดยเฉพาะตัวที่มีรูอยู่ที่ท้อง มันได้กระตุ้นให้เงาสีทองที่เกือบจะเผยตัวออกมา

“นายท่าน อันตรายที่แท้จริงของหอคอยคือเหล่าจักรพรรดิ อันตราย

อื่นๆ อีกมากมายไม่ควรทำร้ายจักรพรรดิระดับขีดกำจัดเช่นข้า”

“พวกมันไม่ใช่คู่มือของข้าตอนเผาไหม้ร่างกายอมตะ…แต่ตอนนี้มันมี

บางอย่างผิดปกติ”

ตะขาบที่มีรูได้หดหัวไปบริเวณท้องของมัน แล้วมีบางอย่างสีทอง

เหมือนกำลังปีนออกมา

“จากสิ่งที่ข้ารู้ ว่าเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้เรามีปัญหาขณะนี้”

“พูด” หลัวเฟิงส่งเสียงที่ไม่ดีออกไป

หากผู้คุ้มกันต้องห้ามบังคับให้ศรคลั่งเผาไหม้ส่วนหนึ่งของร่างกาย

อมตะ ถ้าเป็นจักรพรรดิชั้นยอดและชั้นสูงเขาจะไม่ตายงั้นเหรอ

หอคอยดวงดาวไม่ใช่สถานที่อันตรายเหมือนกับสนามรบ ไม่งั้นนักสู้

ระดับจักรพรรดิไม่เข้ามามากมายอย่างนี้

“หอคอยดวงดาวมักจะสงบ ยกเว้นแต่ว่าผนึกดวงดาวได้ถูกปล่อย

ออกมา” ตาของศรคลั่งกำลังลุกไหม้

“ผนึกดวงดาวกำลังถูกปล่อย?”

“หลังจากที่เรารับมือกับผู้คุ้มกัน ท่านสามารถตรวจเช็คไปยังเพื่อนของท่านในจักรวาลเสมือนที่อยู่ในหอคอย ว่าเจอกับอันตรายเหมือนกันหรือไม่” ศรคลั่งกล่าว

“ถ้ากลุ่มใหญ่ได้พบปัญหา นั่นเป็นสัญญาณที่ผนึกดวงดาวจะปล่อย

ออกมาเร็วๆ นี้ มันจะเกิดการต่อสู่ใหญ่ขึ้นที่นี่”

หลัวเฟิงกลั้นลมหายใจ

การจะเอาชนะระดับจักรพรรดินั้นง่าย แต่การผนึกและฆ่านั้นเป็นสิ่งที่

ยาก

ผนึกดวงดาวนี้เป็นสมบัติสำหรับการผนึก ตราบที่คนๆ นั้นแข็งแกร่ง

กว่าศัตรู เขาก็สามารถใช้ผนึกดวงดาวไว้ภายใน ศัตรูจะไม่สามารถ

หลบหนีออกมาได้ เนื่องจากทำจากวัสดุพิเศษ เมื่อติดอยู่ภายในแล้ว…แม้อัศวินก็ไม่สามารถที่จะทำลายมันออกมาได้

แน่นอนว่ามันจะลำบากมากเมื่อผนึกอัศวิน แต่ก็ยังถือว่าเป็นสมบัติที่

แท้จริง เพียงพอให้นักสู้นับล้านล้านเผ่าพันธุ์ เข้าหามันอย่างบ้าคลั่ง จนนึกถึงภาพการนองเลือดที่โหดร้ายจากผนึกดวงดาวที่เกิดขึ้นได้ ทุกอันของมันจะเชื้อเชิญให้เกิดการสังหารหมู่ครั้งใหญ่

“นายท่าน เพิ่งเข้ามายังหอคอยแต่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ดูเหมือนจะเป็นโชคสำหรับท่านที่จะได้รับผนึกดวงดาว” ศรคลั่งกล่าวออกมาจากใจ เพราะเจ้านายของเขาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในจักรวาล

ตะขาบมีรูที่ท้องได้ปล่อยให้สิ่งมีชีวิตสีทองปีนออกมาจากตัวมัน มัน

เป็นแมงป่องเกราะสีทอง มีความสูง 20 เมตร หางที่งอนั้นมีความแหลมคม

ศรคลั่งได้จ้องไปยังหางที่มันใช้โจมตีเขาก่อนหน้านี้