ตอนที่ 875 เปลี่ยนทิศทางอย่างคาดไม่ถึง
หลัวเฟิง ร่วมกับทีมของฝ่ายมนุษย์ พร้อมกับ เทียนเฉิน ชางฉี ฉูวู หลัวเฟิงไม่ได้อยากจะฆ่าใครเหมือนคนอื่นๆ อย่าง ฉูวู และเทียนเฉิน ที่ร่วมกันโจมตี
ด้วยความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ทำให้มีสิ่งของหลายชิ้นที่ถูกทิ้งไว้โดย
จักรพรรดิที่ตาย ส่งของเหล่านั้น ลอยมายังทีมเล็กๆ ของหลัวเฟิง
“ในเวลาไม่กี่นาทีได้รับความมั่งคั่งมากกว่าหมื่นล้านองค์ประกอบ
ผสม”
“ไม่ต้องสงสัยถึงความบ้าคลั่งของจักรพรรดิ”
“ทุกคนระวัง ข้าถูกโจมตีจิตวิญญาณ” เทียนเฉินพูดออกมาด้วยความ
กังวล
“อะไรนะ”
“เทียนเฉิน เจ้าถูกโจมตีจิตวิญญาณเหรอ”
ชางฉี ฉูวู และหลัวเฟิงตกใจ
“ในหมู่ฝ่ายมารทั้งสิบที่เข้ามา มีจักรพรรดิชิมั่ง เขาเป็นจักรพรรดิชั้น
ยอดที่มีความเชี่ยวชาญการโจมตีจิตวิญญาณ ข้าไม่อาจที่จะจัดการกับเขาได้”
“พวกเขามาแล้ว”
สิบสองนักสู้จากฝ่ายมารได้เข้ามาหาพวกเขา
“เทียนเฉิน”
“ฉูวู”
“ดาบสายน้ำ”
ฝ่ายมารได้นำทีมชั้นยอดมาหาทีมเล็กๆ ของหลัวเฟิง
ฝั่งหลัวเฟิงมี ฉูวูและศรคลั่ง เป็นจักรพรรดิระดับขีดจำกัด ส่วนดาบสายน้ำที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทางปฏิบัติแล้วถือว่าเป็นจักรพรรดิระดับ
ขีดจำกัด เทียนเฉินก็เช่นเดียวกัน มีเพียงชางฉี เท่านั้นที่มีเพียงชื่อเสียงที่ดีอย่างเดียว
ทีมของหลัวเฟิงตอนนี้…อาจเรียกได้ว่ามีจักรพรรดิระดับขีดจำกัด ถึง 4 คน และนั้นคงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาได้รับสมบัติที่อยู่รอบๆ อย่างปลอดภัย
ทีมฝ่ายมารได้วิ่งเขามาหาเพราะความมั่นใจ
นักสู้ทั้ง 12 ของทีม มี 6 จักรพรรดิระดับขีดจำกัดและชิมั่งได้ต่อสู้กับ
เทียนเฉินในหอคอยดวงดาวมาแล้ว แต่ก็ยังจัดการไม่ได้ ถึงจะฆ่าไม่ได้ แต่การจะหยุดนั้นไม่ใช่ปัญหา
“หนี” ฉูวูออกคำสั่ง
มังกรสองหัวเผ่ามารได้ส่งเสียงคำราม มันเป็นเทคนิคกดดันพลังใส่
พื้นที่ของทีมหลัวเฟิง
“ทำลาย” ทั้งทีมส่งเสียงออกมาจากภายใน ทำให้ได้กำลังกลับคืนมา
เป็นปกติ
“ฮ่า ฮ่า…เทียนเฉิน ได้เวลาที่แกจะตายแล้ว” ชิมั่งยิ้ม
“ฆ่าพวกเขา”
ทีมเผ่ามารแสดงความตื่นเต้น
ความมั่งคั่งที่จะได้จากการฆ่าทีมนี้มันต้องยอดมาก โดยเฉพาะ
จักรพรรดิดาบสายน้ำ เขาได้รับสมบัติล้ำค่ามาจากหอคอย และเป็นผู้ที่ทำให้ศรคลั่งฟื้นกลับมาในเวลาสั้นๆ เป็นความมั่งคั่งที่รู้กันเป็นอย่างดี
ท่ามกลางสงครามของอมตะนับแสน ทีมของหลัวเฟิงได้เริ่มทำการต่อสู้กับทีมของเผ่ามาร
ทีมของหลัวเฟิงนั้นเสียเปรียบ
“ข้าไม่สามารถหยุดชิมั่ง” เทียนเฉินกล่าว
“ข้าสามารถหยุดการโจมตีร่วมของจักรพรรดิระดับขีดจำกัด 2 คน ได้
ชั่วคราวเท่านั้น” ฉูวูแสดงความกังวล
“ดาบสายน้ำ พอต้านพวกเขาได้ไหม”
“ปล่อยให้ข้าเอง” หลัวเฟิงกัดฟัน
ไม่มีทางเลย แม้ว่าจะใช้คริสตัลเปลวเพลิงเทพเจ้าที่แข็งแกร่งที่สุด การป้องกันรวมของจักรพรรดิระดับขีดจำกัดทั้ง 6 คน นั้นสามารถทนแรงระเบิดที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้
ถ้าหากเขาระเบิดคริสตัลพร้อมกันทั้งหมด 3 อัน มันคงจะพอมี
ความหวังบ้าง แต่ฝ่ายของเขาอาจจะต้องหายไปด้วย
“เริ่มจากฆ่าจักรพรรดิระดับสูงสุด” หลัวเฟิงออกคำสั่งศรคลั่ง
หลัวเฟิงกระพือปีกโดยที่นำศรคลั่งไปกับเขาด้วย ความเร็วที่เหมือนสายฟ้าทำให้ฝ่ายมารตามจับเขาไม่ได้
“เราตามเขาไม่ทัน”
“ดาบสายน้ำ เร็วเกินไป”
“จัดการกับเทียนเฉินและฉูวูก่อน เราค่อยรวมกันจัดการกับดาบสายน้ำทีหลัง” เผ่ามารละทิ้งในการไล่ตามหลัวเฟิงทันที
แม้ว่าพวกเขาจะทำ เช่นนั้น หลัวเฟิงก็ไม่ไปจากพวกเขา
หลัวเฟิงได้นำ ศรคลั่งพุ่งเข้าหาจักรพรรดิระดับสูงสุด สองดาบโค้งของศรคลั่งได้พันเข้าไปที่จักรพรรดิระดับสูงสุด…
จักรพรรดิระดับสูงสุดตาย
หลัวเฟิงได้เข้าจัดการกับจักรพรรดิระดับสูงสุดอีกคนด้วยตัวเอง เขาใช้ปีกซือหวู๋ฉีกผ่านการป้องกันก่อนที่จะใช้พิษที่ดาบเงาเลือด เขาใช้การฟันลดพลัง 50% ของร่างกายอมตะก่อนที่จะใช้การฟันอีกครั้งเพื่อจัดการในช่วงพริบตา
ศรคลั่งก็จัดการกับ จักรพรรดิระดับสูงสุด 3 คน และหลัวเฟิง จัดการอีกหนึ่ง
“โอ้”
เมื่อ จักรพรรดิระดับสูงสุด 4 คน ของฝ่ายมารตาย ชางฉีจากฝั่งมนุษย์ก็ส่งเสียงดังขึ้นมา เขาถูกกระแทกเขาไปยังพื้นที่อันตราย ชางฉีตาย ฉูวู ถูกโจมตีจาก จักรพรรดิระดับขีดจำกัด ทั้ง 3 ทำให้เขาหลบหนีจากพื้นที่อันตรายได้อย่างหวุดหวิด เขากำลังสั่นกลัวอยู่ภายใน
“หยาง เทียนเฉิน หนีเร็ว ข้าหยุดมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”
“ข้าหนีไม่ได้” เทียนเฉินกล่าวออกมาด้วยความกังวล เขาได้
เผชิญหน้ากับชิมั่ง และจักรพรรดิระดับขีดจำกัดคนอื่นๆ อยู่ในสถาน
การณ์ที่อันตรายมาก
หลัวเฟิงกำลังตื่นตระหนก ในช่วงเวลาไม่นานชางฉีที่อยู่ฝ่ายเขาได้ตายแล้ว
“ศรคลั่งไปช่วยฉูวู ความแข็งแกร่งในการป้องกันของเจ้าสามารถ
จัดการกับ จักรพรรดิระดับขีดจำกัด 2 คนได้”
จักรพรรดิระดับขีดจำกัด ที่ฆ่าชางฉีได้บินตรงไปยังฉูวู เขากำลังถูก
โจมตีโดยจักรพรรดิระดับขีดจำกัด 4 คน ในเวลาเดียวกัน
“ครับนายท่าน”
“ข้าจะไปช่วยเทียนเฉิน” หลัวเฟิงกระพือปีกแล้วบินไป
ตามแผนของหลัวเฟิง ศรคลั่งสามารถที่จะขวางศัตรูได้สองถึงสามคนพร้อมกัน แล้วถ้าร่วมมือกับฉูวู แม้จักรพรรดิระดับขีดจำกัด 4 คน ก็รับมือพร้อมกันได้
เทียนเฉินนั้นอยู่ในอันตราย ความแข็งแกร่งของเขาใกล้เคียงกับชิมั่ง
และยังมีจักรพรรดิระดับขีดจำกัด คนอื่นๆ ได้เข้ามาช่วยชิมั่ง
สถานการณ์ของเทียนเฉินตอนนี้ ทำได้แค่ประคองตัวด้วยพลังจากการเผาไหม้พลังงานอมตะในการต่อสู้
เงาของค้อนขนาดฟาดมายังเทียนเฉิน ทำให้เขาพ่นเลือดออกมา แล้วร่วงอย่างรวดเร็ว กำลังไปยังพื้นที่อันตราย
หลัวเฟิงได้บินไปอย่างรวดเร็วเพื่อทำการหยุดเทียนเฉินไว้ ด้วยพลังการโจมตีที่แข็งแกร่ง หลัวเฟิง พยายามจับเพื่อชะลอการตกลงไป แล้วเขาก็ถูกลากลงไปด้วย
“หยาง” เทียนเฉินมองไปที่หลัวเฟิง
ภาพลวงตาจากการโจมตีทางจิตวิญญาณจากชิมั่ง เข้ามาที่หลัวเฟิง
ขณะที่ถูกโจมตี หลัวเฟิงได้สูญเสียการควบคุมและดิ่งลง ศรคลั่งที่เห็นก็เปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตะโกนออกมา
“นายท่าน”
“หยาง” เทียนเฉินที่กำลังบาดเจ็บรีบพุ่งตรงมายังหลัวเฟิง
———-
เทียนเฉินที่กำลังเจ็บปวด ดวงตาเย็นชาที่กำลังจ้องมองมาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“ฮ่า ฮ่า…ครั้งนี้ข้าจะได้ของขวัญจากสวรรค์”
“ข้าได้ควบคุมจิตวิญญาณของชิมั่งไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และให้เขา
กลับไปอยู่กับฝ่ายมาร นั้นถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ฉลาด” เขารู้สึก
ตื่นเต้นมาก
เทียนเฉินเขามีชีวิตที่ยากลำบาก และต้องพบเจอกับความลำบาก ทำให้เขามีมุมมองของโลกที่พิเศษ เขาหลงใหลในการคบเพื่อนจำนวน
มาก ทุกคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับเขาจะคิดว่าเขาไม่ใช่คนเลว
แต่ทว่า…มันกลับกันโดยสมบูรณ์
เป็นความจริงที่เขาได้ต่อสู้กับชิมั่งมาหลายครั้ง และในครั้งที่สามเขาได้ใช้เทคนิคควบคุมจิตวิญญาณ จนชิมั่งตกเป็นทาสจิตวิญญาณของเขาด้วยระบบการสื่อสารที่ย่ำแย่ของฝ่ายมาร ทำให้เห็นแค่ผิวเผิน
พวกเผ่ามารไม่มีระบบตรวจจับกองทัพแบบเดียวกับฝ่ายมนุษย์ และ
หุ่นยนต์
วิธีการรวมคะแนนเขาจะต้องบันทึกทุกอย่างส่งไปยังระบบข้อความ
เท่านั้น ด้วยระบบสื่อสารไม่ดีทำให้ไม่มีใครรู้ว่าจักรพรรดิชิมั่งภายใน
จิตวิญญาณได้เปลี่ยนไปแล้ว
ชิมั่งจึงยังคงอยู่กับฝ่ายมาร เขาได้ออกไปท ภารกิจกับคนอื่นๆ และได้พบกันโดยบังเอิญในบางครั้ง
เขาได้ทำแบบนี้มาแล้ว 3 ครั้ง แล้วมีหนึ่งครั้งที่เขาได้ร่วมมือกัน ทำการควบคุมจักรพรรดิหมอก
ในช่วงเวลาที่ผนึกดวงดาวได้ร่วงหล่น เขาก็ตระหนักถึงโอกาสเมื่อได้
พบกับหลัวเฟิง นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขมาก
“ฮ่า ฮ่า..ใดาบสายน้ำ งั้นรึ ก็แค่ปลาตัวใหญ่ ข้าได้ยินว่าเขาได้สมบัติมาจากหอคอย และความสามารถฟื้นฟูศรคลั่งได้อย่างรวดเร็ว เขาจะต้องมีทรัพย์สมบัติยิ่งกว่าจักรพรรดิระดับขีดจำกัดทั่วไป”
ดังนั้นเทียนเฉินได้ให้ชิมั่งกับหมอกนำเพื่อนจากเผ่ามารมาโจมตี
เมื่อชิมั่งได้นำทีมของตัวเองมาโจมตี เทียนเฉินกับชิมั่งได้ทำการเผ่า
ไหม้ร่างอมตะของพวกเขา เพื่อเป็นการหลอกลวง แต่ความจริงเป็นการโจมตีจักรพรรดิคนอื่นๆ โดยที่เป้าหมายแรกเพื่อการควบคุมจักรพรรดิระดับขีดจำกัดคนอื่นๆ แต่เมื่อไม่มีผลก็จะฆ่าเขา
การต่อสู้เวลานี้ เทียนเฉินได้มีจักรพรรดิระดับขีดจำกัด 3 คน คอย
ช่วยเหลือ โดยที่ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับมัน
“แกนั่นแหละคือเป้าหมาย”
“สมบัติและความร่ำรวยนั้นต้องเป็นของข้า” ดวงตาของเทียนเฉินเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
การเป็นนักสู้ที่สมบูรณ์แบบ จะต้องพบกับสิ่งที่พิเศษและอาจารย์ที่ทรงอำนาจ
ถ้าไม่มีทั้งสองอย่างนี้ จะต้องสร้างโอกาสให้กับตนเอง เทียนเฉินได้
ควบคุมชิมั่งเพื่อเพิ่มโอกาสของเขาขึ้น
เขาแสร้งทำเป็นถูกโจมตีจนถอยหลัง เพื่อให้หลัวเฟิงเข้าช่วยเหลือเขา หลัวเฟิงได้เข้ามาช่วยตามปกติ แต่กลับถูกชิมั่งโจมตี
“หยาง”
เทียนเฉินได้เข้ามาหาด้วยท่าทีเจ็บปวด แต่ภายในของเขากลับคิดว่า
“ทรัพย์สมบัติจะต้องเป็นของข้า มันจะต้องเป็นของข้า ใครก็เอาไป
ไม่ได้”
เขาเฝ้าดูหลัวเฟิงที่กำลังตกไปยังพื้นที่อันตราย เขากลัวที่สมบัติจะตกไปอยู่กับนักสู้คนอื่น ทำให้เขารีบที่จะเข้าไปใกล้
“หยาง”
“หยาง”
เทียนเฉินรีบร้อนลงไปหาเขา
“นายท่าน”
ศรคลั่งไม่สนใจฉูวูอีกต่อไป ฉูวูก็ไม่กล้าที่จะต่อกรกับจักรพรรดิระดับ
ขีดจำกัด 4 คนอีกต่อไป แล้วทำการหลบหนีไปทันที ศรคลั่งก็พุ่งไปหาหลัวเฟิง
หลัวเฟิงกำลังตกไปตรงพื้นที่อันตราย
หลัวเฟิงได้ปลุกให้ตื่นขึ้นมา จิตใจเขาไปถึงขีดจำกัดของระดับที่ 1แล้ว จากการฝ่าฟันการต่อสู้ที่ผ่านมา จนทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
หัวใจและจิตใจของเขาเป็นเหมือนเพรช ที่ใสจนไม่เห็นแม้แต่ฝุ่น หลัวเฟิงใช้อำนาจจิตของเขาทำลายผ่านมัน
“เทียนเฉิน!!” หลัวเฟิงมองไปที่เทียนเฉิน ตาของเขาเต็มไปด้วยอาการคลั่ง
“เจ้ามัน…”
ช่วงเวลาที่เขาตื่นขึ้นมาจากภาพลวงตา เขาก็รู้ว่าเทียนเฉินได้วางแผนไว้ในทันที
สิ่งแรกนั้น เทียนเฉินเป็นผู้ชำนาญการโจมตีจิตวิญญาณ แล้วเขาก็รู้ว่าหลัวเฟิงจะมาช่วยเขา
สิ่งที่สอง เมื่อหลัวเฟิงได้ตามจับเทียนเฉิน เขาควรจะโจมตีรุนแรงกลับไป
แต่มันกลับไม่มีการโจมตีกลับแม้หลัวเฟิงจะจับเขาไว้ เมื่อเขาถูกผลัก
ออกมาก็ถูกการโจมตีจิตวิญญาณ
ทุกการกระทำถูกเตรียมการมาอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อหลัวเฟิง
“ไม่ดีแล้ว”
เทียนเฉินเห็นหลัวเฟิงตื่นขึ้นมา เขาก็ตกใจ แล้วก็เดาว่าหลัวเฟิงได้รู้ความลับของเขา ตาของเทียนเฉินส่องประกายหนาวเย็น
“มันสายไปแล้ว เขาเข้าไปใกล้กับพื้นที่อันตราย ไม่มีทางใช้กำลัง
บังคับให้หยุดตกลงไปได้”
“สายแล้วไป” หลัวเฟิงสังเกตเห็นเรื่องนี้เช่นกัน การร่วงที่รุนแรงนี้ แม้แต่ปีกซาหวูก็ไม่ทำให้เขาหลบจากพื้นที่อันตรายได้
เขาพลิกมือขึ้นมา คริสตัลเทพเพลิงที่แข็งแกร่งที่สุดกำลังพร้อมจะ
ระเบิด
“ งจะหลบหนีด้วยตัวเองไม่ได้ แต่สามารถใช้คริสตัลนี้ทำการ
หลบหนี ให้มันผลักข้าออกมา”
“ช่วงเวลาที่ระเบิด เพื่อจะได้ฆ่าเจ้าสารเวลเทียนเฉินตอนเข้าไปใกล้”
“ไม่ดีแล้ว เขาพยายามฆ่าเราพร้อมกันทั้งหมด” เทียนเฉินเปลี่ยนท่าที
หลัวเฟิงนำคริสตัลเปลวเพลิงเทพเจ้าที่สวยงามออกมา พลังงานลึกลับได้ปกคลุมหลัวเฟิง พร้อมกับเสียงที่เข้ามาในจิตสำนึกของเขา
“เด็กน้อยมานี่”
เหล่าอมตะนับแสนคนที่กำลังต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง แต่ขณะนั้นกลับมี
พลังงานลึกลับได้นำหลัวเฟิงไปยังช่องทางที่ปรากฎออกมา โดยที่เขา
หลบหนีไม่ได้
หลัวเฟิงได้พุ่งตรงไปทางออกของพื้นที่ ทั้งที่กำลังถือคริสตัลเปลวเพลิงเทพเจ้า