ตอนที่ 885 เยี่ยมชมหอคอย
หลัวเฟิง มองไปยังพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหยดน้ำ อันกว้างขวาง เขาเกือบมองเห็นอนาคตของนักรบโลกในสายตาของเขา ด้วยการนำทางของเขา ชื่อเสียงของโลกได้แผ่กระจายออกไปอีก ทำให้มีอำนาจอันทรงพลังในหมู่เผ่าพันธุ์นับล้านล้านในจักรวาล
“แม้แต่ตึกระฟ้าก็ยังต้องสร้างจากชั้นแรก รากฐานของตึกจะเป็นตัว
ตัดสินว่าตึกนั้นจะสูงได้แค่ไหน“
“รากฐานของข้าได้ก่อตั้งขึ้นมาแล้ว!”
“ได้เวลาที่จะสร้างมันต่อ!”
“มันขึ้นอยู่กับความมานะของข้า” หลัวเฟิง คิด มีน้อยคนมากในจักรวาลที่จะมีทรัพยากรมากมายแบบเขา มนุษย์มีหลากหลายเผ่าพันธุ์ภายใต้มัน โดยแต่ละเผ่ามี เจ้าแห่งจักรวาล เพียงไม่กี่คน แน่นอนว่ามันไม่ฉลาดที่จะออกจากหอคอยดวงดาว พร้อมกับเกราะผูกมัด ในระดับห้วงมิติทันที
ไม่ว่าเขาจะอัจฉริยะแค่ไหนแต่มันก็เป็นไปไม่ได้!
สิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ แต่เป็นหมาป่าโดดเดี่ยว เขาไม่จำเป็นที่จะต้องคิด
เรื่องของเผ่าพันธุ์ และมันชัดเจนแล้วว่าการเพิ่มความร่ำรวย และความแข็งแกร่งนั้นได้ห่างไกลจากมนุษย์คนอื่นๆ ด้วยข้อดีแบบนี้…แม้แต่ เจ้าแห่งจักรวาล ก็ยังต้องดีใจอย่างมาก
“ศิษย์ข้า” ผู้ยิ่งใหญ่ชี้ไปที่น้ำที่ไหลหยดไปรอบๆ “มีวิญญาณ
ทหารนับล้าน แม่ทัพนับแสน ราชานับหมื่นและวิญญาณจักรพรรดินับพัน พวกเขาต่างก็คล้ายกับเกราะเยี่ยนเสิ่น พวกเขามีความต้องการทางร่างกายอย่างมาก วิญญาณดิบนั้นมีความต้องการอย่างมากในด้านวิญญาณของตน”
“ทหารวิญญาณนั้นมีแค่ มนุษย์ระดับห้วงมิติ ระดับสูงสุดเท่านั้นที่รับ
การหล่อรวมได้”
“แม่ทัพต้องการมากกว่า ระดับห้วงมิติ 100 เท่า”
“วิญญาณราชาต้องการ 10,000 เท่า”
“วิญญาณจักรพรรดิต้องการ 1 ล้านเท่า”
เขามองมาที่ หลัวเฟิง “ศิษย์ข้า แม้ว่าเจ้าจะเป็นแค่ ระดับห้วงมิติ แต่เจ้ามีเทคนิคขยายวิญญาณ ในด้านของจิตใจและสติ เจ้าผ่านมรดกแห่งความเป็นความตายมาได้ สติของเจ้าคือส่วนหนึ่งของวิญญาณ ส่วนเจ้าอาจจะอ่อนแอเล็กน้อยเทียบเท่ากับผู้อมตะแต่ในด้านของจิตใจ…อัศวินหลายคนเทียบเท่าเจ้าไม่ได้”
มรดกหอคอยดวงดาวนี้พิเศษอย่างมาก วิญญาณที่แข็งแกร่งเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้เกิดความเจ็บปวดในการหล่อรวมกัน
ดังนั้นเมื่อได้นักรบกลุ่มใหญ่มาทำการทดลอง เขาได้อัศวินมาหลายคนในทีเดียว ใครก็ตามที่สามารถเป็นอัศวินได้นั้นจะมีพลังที่มหาศาลและแน่นอนว่าต้องเป็นอัจฉริยะแต่ความเจ็บปวดนั้นยากที่จะทานทน หากไม่ดิ้นรน พวกเขาก็จะล้มเหลว! ได้อย่างง่ายดาย
ระดับห้วงมิติ และ ระดับอมตะ มีวิญญาณที่อ่อนแอกว่า ความเจ็บปวดที่รับสืบทอดมานั้นเป็นธรรมดาที่จะน้อยกว่า แต่แม้ถึงอย่างนั้นพวกนั้นก็ล้มเหลว ที่พวกเขาทำได้ก็แค่เพียงดิ้นรนเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงตั้งตัวแทนสำหรับผู้เข้าทดสอบว่าจะต้องเป็น ระดับห้วงมิติ และ ระดับอมตะ
แต่สำหรับ หลัวเฟิง ที่ทำสำเร็จ…จิตใจของเขานั้นถือว่าอยู่ชั้นสวรรค์ เขาขัดเกลามันมากกว่า 6,000 ปีโดยเฉพาะการพัฒนาในปี 3,200 จิตใจของอัศวินนั้นเทียบกับเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ
“การกระทำของวิญญาณแบบทหาร สติคือแม่ทัพและจิตใจคอยสั่งการพวกมัน ยิ่งสติและจิตใจที่แข็งแกร่งก็ยิ่งมีปริมาณความแข็งแกร่งที่เจ้าสามารถปลดปล่อยออกมาได้มากเท่านั้น แม้ว่าเจ้าจะเป็น ระดับห้วงมิติแต่เจ้ามีการขยายวิญญาณ 32 เท่าแต่เมื่อใช้จิตใจของเจ้า…แม้แต่หลังจากที่ใช้วิญญาณทั่วไป เจ้าก็ยังมีมันเหลืออยู่อีกเยอะ” ผู้ยิ่งใหญ่พูดขึ้นมา “เอาวิญญาณแม่ทัพสองดวงนี้ไป หนึ่งสำหรับร่างกายเจ้าและอีกดวงเพื่ออสูรเขาทอง เมื่อข้าจัดเตรียมทุกอย่างให้เจ้าแล้ว เจ้าก็สามารถใช้มันได้”
“ครับ” หลัวเฟิง พูดขึ้นอย่างเคารพ
ด้วยการสะบัดมือเขาก็ได้เก็บวิญญาณแม่ทัพสองดวงเข้าไปในแหวน
โลกของเขา
“อาจารย์ วิญญาณทหารและแม่ทัพพวกนี้…” หลัวเฟิง ลังเล
ข้างๆ เขา พูทิได้หัวเราะขึ้นมา “ ศิษย์น้องสาม พวกมันคือของวิเศษและระดับพลังนั้นไม่ได้ต่ำกว่าสมบัติที่แท้จริงหลายอัน นอกซะจากว่าเจ้าต้องการที่จะเริ่มให้สารอาหารกับนักรบโลก ไม่อย่างนั้นแล้วมันจะดีกว่าที่จะทิ้งพวกมันไว้ที่นี่ พวกมันจะปลอดภัยที่สุดที่นี่”
“อืม” หลัวเฟิง พยักหน้า เมื่อมองไปยังหยดน้ำ นับไม่ถ้วน พวกนี้เป็นอนาคตของนักรบโลก
“ตามข้ามา ให้ข้าพาเจ้าไปชมหอคอยดวงดาว!” อาจารย์ชี้ไปข้างหน้า
และหยดน้ำ มากมายในมิติก็ได้ก่อตัวเป็นเรือขึ้นมา ตอนแรกมันเริ่มเป็นหัวและหลังจากนั้นพลังที่เหลือก็ได้ก่อตัวเป็นเรือยาวกว่า 10 กม. หลัวเฟิงเบิกตากว้างทันที
“ขึ้นมา” อาจารย์กระโดดขึ้นไปแล้วนั่งขัดสมาธิลง
เนื่องจากเขาสูงกว่า 900 ม. ในตอนที่เขานั่งในเรือยาว 10 กม.นี้ มันก็เกือบเป็นเหมือนคนธรรมดาที่นั่งเรือยาว 30 ม. มันปกติเกินไปแต่ หลัวเฟิง และ พูทิ นั้นตัวเล็กกว่าอย่างมาก
“การสร้าง?” ตาของ หลัวเฟิง แสดงความตกใจออกมา นี่คือเรือที่
แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่อัศวินเก้าดาบใช้ แต่อาจารย์กลับสร้างมันได้อย่าง
ง่ายดาย
“เจ้าตกใจงั้นรึ? ศิษย์น้องสาม อาจารย์คือสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ของ
จักรวาล กฎน่ะสร้างเส้นทางให้กับเขา พวกมันน่ะไร้ประโยชน์ในพื้นที่รอบตัวเขา เจ้าควรที่จะรู้สึกถึงมัน ว่าเจ้าไม่สามารถแม้แต่จะรู้สึกถึงกฎรอบๆ ตัวเขาได้” พูทิ ยิ้มให้กับ หลัวเฟิง “และเขาสามารถควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเขาได้ มันไม่ใช่เพราะกฎที่เชื่อฟังเขาแต่เขาเชี่ยวชาญมันต่างหาก!”
“ในพื้นที่หนึ่ง แม้แต่กฎก็ยังต้องเชื่อฟังคำสั่งเขา!”
“ถ้าเขาบอกว่าไฟสามารถที่จะแช่แข็งคนจนตายได้ มันก็จะเกิดขึ้น”
“ถ้าเขาบกอว่าสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนนั้นได้มาถึงจุดจบของการขยาย
เผ่าพันธุ์และควรที่จะตาย งั้นพวกนั้นก็จะตาย”
“ถ้าเขาบอกว่าดวงดาวควรที่จะหายไปและให้แสงออกมาไม่รู้จบ มันก็จะเกิดขึ้น”
“ถ้าเขาบอกว่าการจำกัดความเร็วไม่ได้อยู่ที่ความเร็วแสงแต่เป็น 10 เท่าจากนั้น งั้นพื้นที่นี้ก็จะทำให้เกิดความเร็ว 10 เท่าของความเร็วแสง”
“กฎนั้นเชื่อฟังเขา!”
“ภายในพื้นที่ของเขา กฎนั้นไร้ประโยชน์และเขาสามารถควบคุมทุก
อย่างได้” พูทิ หัวเราะพร้อมกับมองไปที่สีหน้าช็อกของ หลัวเฟิง
หลัวเฟิง อึ้งอย่างมาก
กฎเชื่อฟังเขา?
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่?
สิ่งที่เขาบอกจะหายไป?
กฎนั้นไร้ประโยชน์?
“แน่นอนว่ามันไม่ได้ร้ายกาจแบบที่เจ้าคิด ในจักรวาลอันกว้างใหญ่…
ทุกอย่างไหลไปตามกฎกำเนิด มันคือการให้ความเคารพสูงสุด ดังนั้น
พวกเขาจึงมีสิทธิ์ที่แน่นอน ความสามารถนี้สามารถเกิดได้ในพื้นที่
รอบตัวเขา ถ้าใครต่อต้านกฎจักรวาลได้จริงๆ มันจะถือว่าเป็นการฆ่าตัวตาย”
“ในทางทฤษฎีแล้ว การสามารถทำแบบนี้ได้นั้นหมายความว่าเขา
สามารถที่จะฆ่านักรบได้นับไม่ถ้วนอย่างนั้นรึ?”
“แต่ในตอนที่เป็น เจ้าแห่งจักรวาล ที่ซึ่งสามารถควบคุมเวลาและมิติได้…แม้แต่สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ก็ยากที่จะฆ่าพวกเขา” พูทิ อธิบาย
…
หลัวเฟิง รู้สึกช็อกเมื่อได้ยินคำอธิบายแบบนั้น มุมมองที่มีนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในอดีตเขาอยากที่จะเป็นจักรพรรดิรึอัศวินที่คาดหวังว่าจะเป็นเจ้าแห่งจักรวาล บางคนหวังว่าสักวันจะเป็นให้ได้ อัจฉริยะคนใดที่ไม่มีความฝันแบบนั้น?
ทหารที่ไม่ต้องการเป็นแม่ทัพนั้นไม่ใช่ทหารที่ดีแต่จะมีสักกี่คนที่ทำได้?
อัจฉริยะล้วนแต่ทะเยอทะยานและความฝันแต่หลายคนกลับพบจุดจบ
หลัวเฟิง คาดหวังที่จะเป็น เจ้าแห่งจักรวาล แต่ตอนนี้ด้วยการอยู่กับศิษย์พี่ที่เป็น เจ้าแห่งจักรวาล และอาจารย์ของเขาที่เป็นสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ เมื่อฟังพวกนี้พูดแล้วมันเหมือนกับได้ยินความลับระดับสูงสุดเกี่ยวกับจักรวาล
“หอคอยดวงดาว สูงเก้าปีแสง”
“ถ้าเจ้าเข้าไปเพียงลำพัง ใครจะรู้ว่าเจ้าจะเสร็จมันตอนไหน”
อาจารย์นั่งขัดสมาธิเหมือนกับภูเขายักษ์ เขาชี้ออกไป “ให้ข้าแนะนำ
และเจ้าจะเสร็จสิ้นในครึ่งวัน ตั้งใจให้ดีๆ”
หลัวเฟิง นั่งอยู่ในเรือด้วย
ความเร็วของเรือนั้นเกินกว่าความเร็วแสง ในทางทฤษฎีแล้วในตอนที่
เกิดแบบนี้ขึ้น พวกเขาจะเข้าไปยังจักรวาลมืดมิดแต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่นั้นได้กำหนดขีดจำกัดควาเร็วรอบเรือต้านกฎของจักรวาล นี่เป็นบางอย่างที่มีแต่สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ที่ทำได้
สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือ หลัวเฟิง สามารถเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
“การสามารถเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจนผ่านความเร็วแสง?” หลัวเฟิงไม่เข้าใจเลยสักนิด ทุกอย่างนั้นขัดกับสิ่งที่เขาเรียนรู้มาแต่เขาก็เรียนรู้ต่อหอคอยดวงดาวที่กว้างใหญ่
มีพื้นที่ไม่รู้จบอยู่ภายในพื้นที่ลับ มากมายใช้พื้นที่ไม่ถึง 1% สำหรับ
พื้นที่ขนาดใหญ่กว่ามันมีเสาสวรรค์มากมาย…เสานับไม่ถ้วน เสาส่วนที่สั้นอยู่ได้ไม่นาน ส่วนเสาที่ยาวนั้นมีมากกว่าหนึ่งปีแสง!
เสาพวกนี้ถูกสลักไว้นับไม่ถ้วนและดูซับซ้อนอย่างมาก พวกมันส่อง
แสงสีทองออกมา พวกมันคือส่วนที่ค้ำจุนหอคอยและรอบๆ พวกมันก็มีสมบัติรูปร่างแปลกๆ มากมายที่ล้วนแต่มีพลังงานมหาศาล นอกจากนั้นแล้วยังมีดวงดาวที่ถูกผนึกมากมาย พวกมันเหมือนกับรถที่หมุนรอบตัวเอง
เสาพวกนี้คือโครงสร้างของทั้งหอคอย!
และดวงดาวที่ถูกผนึกมากมายโคจรรอบตัวมัน!
กฎมากมายถูกสลักไว้รอบเสาสวรรค์ทะลุสมบัติและดวงดาวนับไม่ถ้วน
มันดูเหมือนเป็นเครื่องจักรที่น่ากลัว…ก่อร่างกายที่สมบูรณณ์ขึ้นมา นี่
คือสมบัติที่แท้จริง หอคอยดวงดาว ในตอนที่ หลัวเฟิง เห็นการสลักที่
สลับซับซ้อนนั้น…มันมากยิ่งกว่าของรูปปั้นเทพอสูรอีก
การเยี่ยมชมครั้งนี้…ใช้เวลาไปทั้งวัน
หลัวเฟิง ตะลึงอย่างมาก
“กฎที่สลักไว้เหล่านี้…” หลัวเฟิง กลั้นหายใจ
“แม้แต่ข้าจะใช้เวลาและความทุ่มเทนับไม่ถ้วนไปกับพวกมัน” เสียง
ของอาจารย์ดังขึ้นมา “แต่ระหว่างตอนนั้น ของพิเศษสิ่งหนึ่งก็เกิด
การเปลี่ยนแปลงที่เหนือการควบคุมของข้า แม้แต่ข้าก็ไม่อาจที่จะเข้าใจมันได้ นี่คือความพิศวงของจักรวาล ศิษย์ข้า เจ้าสามารถที่จะรู้สึกและสัมผัสได้ถึงทั้งหอคอย”
“ใช่ ข้าทำได้”
หลัวเฟิง พยักหน้า “หลังจากขั้นตอนนั้นจบลงไป ข้ารู้สึกถึงมันได้
ดวงดาวที่ถูกผนึก ข้ารู้สึกว่าพวกมันง่ายที่ข้าจะคว้ามันเอาไว้ได้ ง่าย
สำหรับข้าที่จะเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามได้ สำหรับการเปิดใช้หอคอย…
ข้ายังคงรู้สึกว่าเขาเผชิญหน้ากับภูเขาที่ไม่อาจขยับออกไปไหนได้”
“หอคอยดวงดาวมีพลังที่ไร้ขีดจำกัด” อาจารย์ยิ้ม “เจ้าน่ะยังคง
อ่อนแอ เจ้าจะเปิดใช้มันได้ยังไง?”
“แค่เปิดใช้ เกราะผูกมัดเพียงอย่างเดียวก็ต้องใช้ความแข็งแกร่งของ
ร่างกายคนระดับ ระดับห้วงมิติ ร้อยล้านเท่า! ปกติแล้วมีแค่อัศวินที่จะไปถึงขีดจำกัดนั้นได้และจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าจักรพรรรดิหลายคน ในตอนที่เจ้าฝึก คู่มือเก้าเล่ม เจ้าจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตพิเศษ เจ้าสามารถที่จะใช้เกราะผูกมัด ได้”
“แต่หอคอยดวงดาวนั้นแข็งแกร่งกว่าเกราะร้อยเท่า”
“การเปิดใช้มันก็ยังคงยากอย่างมาก”
“สำหรับเจ้าที่จะใช้มันได้อย่างสมบูรณ์แล้ว…”
“มันคงจะยากอย่างมาก!”
“ในตอนที่เจ้าทำได้ แม้ว่าเจ้าจะใช้แรงที่น้อยที่สุด มันก็จะง่ายที่เจ้าจะ
บดขยี้อัศวิน” อาจารย์ได้พูดขึ้น “แต่ตอนนี้เจ้ายังคงอ่อนแออยู่”