ตอนที่ 886 แผนที่ดวงดาว
“ข้าเข้าใจแล้ว” หลัวเฟิง พูดด้วยความเคารพ
“หอคอยดวงดาวและ เกราะผูกมัด คือของทั้งสองอย่างที่เจ้ายังไม่
สามารถใช้ออกมาได้อย่างเต็มที่ เกราะผูกมัด นั้นเป็นเกราะที่ไม่อาจจะแยกจากกันได้แต่มันก็มีสมบัตินับไม่ถ้วนในหอคอยดวงดาวนี้…เจ้าสามารถที่จะเอามันไปได้ ข้าได้ทำสมบัติพิเศษตามที่หอคอยดวงดาวได้สร้างขึ้นมาได้” อาจารย์พลิกมือของเขา
ฟู่…
แผนที่ขนาดใหญ่ได้ลอยขึ้นมาด้านบนเรือครอบคลุมไปทั่วทั้งเรือ
ยาวกว่า 10 กม.ได้กลายเป็นจุดเล็กเมื่อเจอกับแผนที่นี้
พลังงานอันน่ากลัวได้แผ่ออกมาจากมัน
พลังงานของแผนที่นั้นมหาศาลเกินกว่าดวงดาวที่โดนผนึก
“แผนที่นี้คือสมบัติที่แท้จริงซึ่งได้รวบรวมดวงดาวมากมายไว้ในตัว
ด้วยการรวมกันสองอัน มันก็จะกลายเป็นสมบัติที่วิเศษอย่างมาก….แผนที่ดวงดาว แม้ว่ามันยากที่จะไปถึงระดับสมบัติที่แท้จริงได้ก็ตาม” อาจารย์มองไปที่ หลัวเฟิง “เมื่อเจ้าเชี่ยวชาญมันแล้ว เจ้าจะรู้ถึงความ
พิศวงของมัน”
แผนที่หดตัวกลับมาอย่างรวดเร็วก่อนจะตกลงมาอยู่ต่อหน้า หลัวเฟิง
หลัวเฟิง รับมันไว้แล้วส่งพลังงานโลกเข้าไป ภายในวิญญาณของเขา เขาได้สร้างการเชื่อมต่อวิญญาณกับมันและข้อมูลของแผนที่ก็ไหลเข้ามาในหัวของเขา
“งั้นมันเป็นแบบนี้เอง ช่างเป็นแผนที่ที่น่ากลัวจริงๆ” หลัวเฟิง ช็อก
แผนที่เองก็เป็นสมบัติดวงดาวที่โดนผนึกไว้ก็เป็นสมบัติด้วย
แผนที่นั้นสามารถที่จะดูดซับดวงดาวที่ถูกผนึกไว้ได้และตามข้อมูลที่
เขาได้รวบรวมมา มันสามาถจุดวงดาวได้ถึง 100,000 ดวง!
ดวงดาวนั้นต่างก็เป็นสมบัติ เมื่อดวงดาว 100,000 ดวงถูกแผนที่นี้ดูดซับมา มันจะทำให้แผนที่นี้กลายเป็นสมบัติที่แท้จริง
แผนที่ดวงดาวสามารถใช้ควบคู่กับเทคนิคการโจมตีของ หลัวเฟิง ได้ และยังผสานไปกับพลังกฎด้วย
ในตอนที่โจมตี ดวงดาวข้างในจะทำการเชื่อมต่อกับกฎ พลังของมันจะไร้ขีดจำกัด
“ข้าขี้เกียจแล้ว” อาจารย์หัวเราะออกมา เสียงของเขาดังก้องไปทั่วมิติ
“ดังนั้นข้าจึงได้ทำแผนที่นี้ขึ้นมา ดวงดาวที่ถูกผนึกไว้นั้นมาจาก
หอคอยดวงดาว”
“ขอบคุณอาจารย์” หลัวเฟิง พูดด้วยความดีใจ
“แผนที่นี้สามารถจุดวงดาวได้ 100,000 ดวง แม้ว่ามันจะมีดวงดาว
มากมายอยู่ภายในหอคอยดวงดาวแต่พวกมันคือชิ้นส่วนที่สำคัญของ
หอคอยและไม่มีสักอันที่เหลือทิ้ง มีแค่ไม่กี่ดวงประมาณ 10,000 ดวงที่ไร้ประโยชน์ เจ้าสามาถที่จะเอามันไปได้” อาจารย์พูดขึ้น
“ข้าเข้าใจแล้ว” หลัวเฟิง พยักหน้า หลังจากที่กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญแห่งหอคอยดวงดาว เขาจะรู้หลายอย่างมากมาย
“จริงๆ แล้ว…”
อาจารย์อุทานออกมา เสียงของเขาดังก้องขึ้นมาอีกครั้ง “ดวงดาวที่ถูกผนึกไว้ ในตอนที่ข้าสร้างมันขึ้นมาในตอนแรก มันไม่ได้มี
ความสามารถที่จะผนึกได้ มันเอาไว้ใช้สำหรับโจมตี….ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมให้โจมตีหรือขังศัตรู แต่ในตอนที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ดวงดาวหลายดวงนั้นได้รับความสามารถในการผนึก นั่นน่ะเกินกว่าที่ข้าคาดเอาไว้”
“การควบคุมดวงดาวด้วยกฎที่ประทับในตัวพวกมัน พวกมันสามารถที่จะส่งผนึกไปยังสิ่งอื่นได้”
“ก่อนที่เจ้าจะสามารถควบคุมทั้งหอคอยได้ การควบคุมดวงดาวเพื่อ
โจมตีนั้นจะเป็นข้อได้เปรียบสำหรับเจ้า” อาจารย์อุทานออกมา “ถ้า
เจ้าสามารถควบคุมหอคอยได้แล้ว…ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เจ้าจะสามารถทำให้หอคอยนี้เหมือนกับมีดที่แทงออกไปข้างหน้า การโจมตีนี้! จะถือว่าเป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด แม้ว่าจะโจมตีเบาที่สุดแต่มันก็สามรถฆ่าอัศวินได้อย่างง่ายดาย ถ้าเจ้าใช้ความแข็งแกร่งของมันมามากกว่าเดิม ทุกคนในจักรวาลล้วนแต่จะต้องกลัวมัน”
หลัวเฟิง อดไม่ได้ที่จะถามออกมา “อาจารย์ ข้าขอถามว่าเมื่อไหร่กันที่ข้าจะสามารถใช้ทั้งหอคอยได้?”
“ฮ่า ฮ่า…”
“เจ้าเห็นพลังงานน้ำวนนั้นหรือไม่?” อาจารย์ถาม
“ข้าเห็น น้ำวนทั้งเก้านั้นทรงพลังอย่างมาก แม้แต่อัศวินคงต้องตายหากตกลงไป” หลัวเฟิง พูดขึ้น
“น้ำวนทั้งเก้านั้นมีไว้สำหรับหอคอยในการสร้างพลังงาน ดูดซับ
พลังงานจากจักรวาล” อาจารย์พูดขึ้นมา “หอคอยนี้สูงถึงเก้าปีแสง
และมันจุพลังงานมหาศาลเอาไว้ แม้แต่นักรบที่แข็งแกร่งของจักรวาลก็ไม่มีทางที่จะรับมันไหว การรับความแข็งแกร่งแบบนั้น จำนวน
พลังงานที่ใช้เองก็ต้องมหาศาลอย่างมากด้วย”
“มันคือการกลืนกินพลังงาน ดังนั้นมันจึงสามารถที่จะทำลายอัศวินได้
อย่างง่ายดาย ถ้าเจ้าลดขนาดของมันลง เจ้าจะสามารถใช้พลังงานมากแบบนั้นได้ตอนไหน?” อาจารย์ถาม
หลัวเฟิง อึ้งทันที
มันต้องใช้พลังงานจำนวนมหาศาล แค่น้ำวนเพียงอย่างเดียวก็สามารถที่จะทำลายอัศวินได้
“ใจเย็นไว้ นั่นคือร่างสูงสุดของมัน เจ้าแค่ต้องปล่อยความแข็งแกร่ง
ระดับต่ำออกมาและพลังงานที่ใช้ก็จะลดลงอย่างมาก” อาจารย์พูดขึ้น
“แม้จะเป็นแบบนั้นแต่มันก็เป็นความต้องการที่เกินกว่าสำหรับ เกราะ
ผูกมัด! สำหรับหอคอยแล้ว ข้ามีอย่างหนึ่งที่จะขอร้องเจ้าอยู่”
“โปรดบอกมันมาได้เลย” หลัวเฟิง ตอบกลับ
“ก่อนที่เจ้าจะใช้มันได้อย่างเต็มที่ ให้มันอยู่ที่นี่” อาจารย์ย้ำขึ้นมา
“ปล่อยมันไว้ที่นี่?” หลัวเฟิง เข้าใจขึ้นมาทันที
“หอคอยดวงดาวนั้นได้ดึงความสนใจนักรบมากมายในจักรวาล แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับข้าก็ยังโหยหามัน ยังไงซะนี่ก็เป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล มันอยู่ในเขตนอกสงครามมานาน ในตอนที่มันหายไป มันจะเกิดเรื่องวุ่นวายครั้งใหญ่”
“นักรบของเจ้าเขตนอกสงครามจะอยู่ในหอคอยนี้ นักรบของเผ่าพันธุ์
ทั้งสี่ จักรพรรดินับแสนรวมถึงเจ้า ห้ามใครออกไป!” อาจารย์พูดขึ้น
หลัวเฟิง เบิกตากว้าง
จักรพรรดินับแสน ไม่มีผู้ใดที่จะหนีไปได้
ถูกต้อง
สำหรับสมบัติแบบนี้แล้ว มันจะดึงความสนใจของสิ่งมีชีวิตน่ากลัว
มากมาย ด้วยพลังของพวกนั้น ใครบ้างที่จะหนีไปได้?
แม้แต่ เจ้าแห่งจักรวาล ของจักรวาล พวกนั้นก็คงไม่ปล่อย หลัวเฟิง และคนอื่นๆ ให้หนีไปได้ ด้วยฐานะของ หลัวเฟิง…แม้จะได้ ปีกซืออวู๋ ซึ่งเป็นการช่วยเหลืออันน้อยนิดของ เจ้าแห่งจักรวาล มันก็ยังถือว่าดี
แต่สำหรับหอคอยแล้ว แม้แต่นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังต้องคลั่งกับมัน แน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถครอบครองมันได้
ผู้ก่อตั้งสำนักขวานยักษ์ และผู้นำเมือง.
แม้พวกเขาต่างก็คิดเพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์
แต่พวกเขาก็ยังจะแย่งมันไปจาก หลัวเฟิง และเอามันให้กับเจ้าแห่งจักรวาลที่แข็งแกร่งเพื่อใช้มัน มันเป็นไปไม่ได้ที่ พวกเขาจะใช้มันเพื่อตัวเอง
“นอกซะจากว่าเจ้าจะมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับพวกนั้น หากไม่มี
มัน อย่ามาที่นี่แล้วเอามันไป” อาจารย์เน้น “ถ้าเจ้าสามารถที่จะใช้
มันได้จริงๆ เจ้าก็เกือบที่จะมีความแข็งแกร่งที่เทียบกับพวกนั้นได้ บวกกับมนุษย์ที่อยู่ด้านหลังเจ้า จากนั้นเจ้าก็จะเป็นหนึ่งในชนชั้นสูง และไม่มีใครกล้าเอาสมบัติของเจ้าไป มันเป็นธรรมดาที่เจ้าจะมีสิทธิ์เป็นเจ้าของหอคอยดวงดาว”
หลัวเฟิง พยักหน้า
นี่เป็นดาบสองคม
“เจ้ามีสมบัติสามอย่างแล้ว” อาจารย์พูดขึ้น “ในตอนที่ข้าเห็นเจ้า
ครั้งแรก พลังงานของเจ้าถูกปกปิดเอาไว้เหมือนกับ ระดับอมตะ ทั่วไปสิ่งที่สามารถทำแบบนั้นได้คือสมบัติที่แท้จริง นี่ต้องเป็นสิ่งที่อาจารย์ของเจ้า เจ้าเมืองนั้นมอบให้กับเจ้า สำหรับเขาที่มอบมันให้กับเจ้าแล้ว หมายความว่ามันไม่จำเป็นสำหรับ เจ้าแห่งจักรวาล บวกกับมันยังไม่สามารถที่จะทำให้พวกอัศวินอิจฉาได้ นี่น่ะคือสมบัติชิ้นแรกของเจ้า”
หลัวเฟิง กระพริบตาของตน
นี่มันแม่นยำอย่างมาก
“อย่างที่สองคือหอคอยดวงดาว นี่คือดวงดาวที่หลอมรวมกับวิญญาณของเจ้า ดวงดาวนี้…มันคือศูนย์กลางควบคุมสำหรับพื้นที่ต้องห้าม ภายในหอคอยและทำการผนึกความสามารถที่สำคัญที่สุดของหอคอยเอาไว้ การโจมตีและการแทงเป็นส่วนปีกย่อย ในตอนที่ความสามารถทางการป้องกันนั้นเป็นรอง การผนึกนักรบ…จะเป็นความสามารถหลัก”
“ดวงดาวเองก็ถือว่าเป็นสมบัติเช่นเดียวกัน“
“หล่อหลอมดวงดาวเข้ากับวิญญาณของเจ้า เจ้าน่าจะรู้ถึงวิธีในการใช้
มันเพื่อปกป้องวิญญาณของเจ้า”
หลัวเฟิง พยักหน้า ระหว่างในตอนที่หลอมหลวมดวงดาว มันเจ็บปวดอย่างมาก แต่หลังจากที่เสร็จสิ้นแล้ว เขาสามารถรู้สึกได้ถึงความโดดเด่นของมัน
“อย่างที่สามคือแผนที่ดวงดาว การหลอมรวมมันกับดวงดาวที่ถูกผนึก จะเป็นการเพิ่มพลังให้กับมัน มันถือว่าเป็นสมบัติระดับต่ำ ความแข็งแกร่งของเจ้าตอนนี้ไม่สามารถที่จะใช้ดวงดาวได้มากมาย แม้ว่าจะมีวิญญาณแม่ทัพแต่ข้าเดาว่าเจ้าจะสามารถใช้ดวงดาวได้แค่ 10 ดวงและนั่นก็ถือว่าไม่ได้ย่ำแย่เท่าไหร่นัก”
“สมบัติทั้งสาม”
“ทุกจักรวาลยังไม่เคยเห็นสมบัติเหล่านี้” อาจารย์พูดขึ้น “เพราะ
เป็นแบบนั้นจึงไม่มีใครที่จะรู้สึกถึงมันได้ ตราบใดที่เจ้าไม่ใช่พลังของ
พวกมันจนถึงขีดจำกัดก็ไม่อาจมีใครที่จะคาดเดาสมบัติของเจ้าได้”
หลัวเฟิง พยักหน้า
ปีกซืออวู๋ นั้นยังไม่ถูกพบ
สำหรับแผนที่ดวงดาว เขาจะหลอมรวมมันเข้ากับดวงดาวทีหลัง มันจะกลายเป็นสมบัติชิ้นใหม่
หอคอยดวงดาวนั้นคือแก่นของหอคอยดวงดาว ไม่มีใครหลอมรวมมันได้สำเร็จมาก่อน ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้เกี่ยวกับมัน
สมบัติทั้งสามอย่างนี้เป็นดินแดนสมบัติที่แท้จริง ระดับที่ เจ้าแห่ง
จักรวาล ไม่ได้สนใจมากมายแต่ก็เพียงพอทำให้พวกอัศวินคุ้มคลั่ง
“อย่าคิดเกินตัว สมบัติระดับต่ำทั้งสามนั้นยังไม่ได้เศษเสี้ยวของหอคอยดวงดาวรึ เกราะผูกมัด” อาจารย์พูดขึ้นมา
“ข้าจะตั้งใจฝึกเพื่อใช้ เกราะผูกมัด และหอคอยดวงดาวให้ได้เร็วที่สุด” หลัวเฟิง พูดขึ้น
“อื้ม” อาจารย์พยักหน้า
…
หลัวเฟิง และ พูทิ นั่งอยู่บนเรือและฟังอาจารย์ของตนตั้งแต่ต้นจนกลับมาถึงที่พระราชวังศักดิ์สิทธิ์
ความเร็วในตอนที่กลับนั้นเร็วอย่างมาก พวกเขากลับมาถึงทันที
“อาจารย์ ข้าได้รับเศษ คู่มือเก้าเล่ม แค่เพียงสองส่วน ข้าอยากรู้ว่าส่วนที่เหลืออยู่ที่ใด?” หลัวเฟิง อดไม่ได้ที่จะถามออกมา
“คู่มือเก้าเล่ม สามารถทำให้ยีนส์ของเจ้าพัฒนาไปถึงระดับสิ่งมีชีวิต
พิเศษในจักรวาล” เขามองลงมาที่ หลัวเฟิง “และถ้ายีนส์ของเจ้าดูดซับมันมากเกินไป มันจะทำให้นักรบมากมายหันมาสนใจ ยิ่งเจ้าแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ งั้นเจ้าก็คุ้มค่าที่จะได้รับสมบัติพิเศษ”
“เศษคริสตัลสวรรค์ของคู่มือนี้ มีทั้งหมด 5 ชิ้น”
“เจ้าได้มาแล้วสองชิ้น สำหรับอีกสามชิ้น พวกมันอยู่ในเขตอันตรายในจักรวาล ที่ระดับ ห้วงมิติ เช่นเจ้าสามารถไปเอาอีกชิ้นได้ ที่ระดับ
อมตะ เจ้าสามารถไปเอาอีกชิ้นต่อได้ หลังจากที่เป็นอัศวินแล้ว…เจ้า
สามารถไปเอาชิ้นสุดท้ายได้” อาจารย์มองมาที่ หลัวเฟิง “พื้นที่
เหล่านั้นล้วนแต่จะอันตรายมากกว่าเดิม”
“ในตอนที่เจ้าเป็นอัศวินและไปเอาชิ้นสุดท้ายทำให้มันสมบูรณ์…ข้า
คิดว่าเจ้าคงใกล้กับการเปิดใช้งานหอคอยดวงดาวแล้ว”
“ตำแหน่งของทั้งสามส่วนนั้นมีคำอธิบายเกี่ยวกับอันตรายเอาไว้”
อาจารย์ชี้ไปที่ หลัวเฟิง และก็ได้มีลำแสงพุ่งเข้ามาตรงเข้าใส่ความคิดของเขา ข้อมูลไส่เข้ามาทำให้ หลัวเฟิง เข้าใจมันทันที
“ศิษย์ข้า อย่าตายในที่เหล่านั้น” อาจารย์พูดขึ้น
“ขอรับ”
หลัวเฟิง รู้ดี
“ตอนนี้ภาระที่นี่เสร็จสิ้นแล้ว ข้าเตรียมของที่จำเป็นให้กับเจ้าแล้ว ด้วยสมบัติทั้งสาม…ทุกอย่างก็จะขึ้นอยู่กับเจ้า ข้าจะไม่ช่วยเหลือเจ้าในอนาคต” อาจารย์พูดขึ้น “ข้าจะรอวันนั้น….วันที่เจ้าสามารถเปิดใช้
หอคอยดวงดาวได้ทั้งหมด”
หลังจากที่พูดจบ มิติก็ได้สั่นเครือ
อาจารย์ได้หายไป
…
เหลือแค่เพียง หลัวเฟิง กับ พูทิ
“ศิษย์พี่ ข้าละอายที่จะบอกว่าข้ายังไม่รู้ว่าอาจารย์นั้นชื่ออะไร” หลัวเฟิง พูดขึ้น เขาไม่กล้าที่จะถามมันออกมา
“ฮ่า ฮ่า…” พูทิ นั่งขัดสมาธิและหัวเราะออกมา “ไม่มีใครรู้ชื่อที่แท้จริงของท่านแต่เพราะท่านมักจะนั่งอยู่บนยอดภูเขาและเห็นจักรวาลที่กว้างใหญ่นักรบของจักรวาลจึงมอบฉายาให้กับท่านว่า ผู้มาเยือนที่ยิ่งใหญ่”
“ศิษย์พี่รอง ชื่อว่า ซาเบนฉีเขาเป็นที่รู้จักกันในจักรวาลในนาม
จักรพรรดิยัน”
“ผู้นำ ของเผ่าพันธุ์เยี่ยนเสิ่น จักรพรรดิ อย่างนั้นรึ?” หลัวเฟิง จดจำชื่อเอาไว้
“โลกนั้นมีผู้นำ แล้วและงานที่นี่ก็เสร็จแล้ว ข้าวางใจลงได้มาก
กว่าเดิม ศิษย์น้องสาม…ข้าคงต้องขอตัว” พูทิ ยิ้มออกมาและมิติสั่น
เครือก่อนที่เขาจะหายตัวไป
ภายในพระราชวังนั้น
หลัวเฟิง ได้ยืนยิ้มอยู่เพียงลำพัง “อาจารย์ของข้าคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล ผู้มาเยือนที่ยิ่งใหญ่ อีกยาวนาน จนถึงตอนที่ข้าสามารถใช้หอคอยดวงดาวได้ เขาจะไม่สนข้าสักนิด”