Skip to content

Swallowed Star 889

ตอนที่ 889 คำถามของผู้นำเมือง

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พูดอะไรและกอดกันอยู่แต่เขารู้สึกได้ถึงความ

อบอุ่นของเธอ,การเชื่อมต่อทางวิญญาณและพวกเขาก็รู้สึกได้ถึง

ความคิดของอีกฝ่าย

หลัวเฟิง รู้สึกว่าเธอนั้นคิดถึงและรักเขามากแค่ไหน

สวีซิน เองก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดและความรู้สึกผิดของเขา

จริงแล้วทั้งสองเพลิดเพลินไปกับความเงียบและความอบอุ่นของกัน

และกัน

หลังจากนั้นสักพัก

“เฟิง อย่าทำให้เรากังวลอีก เข้าใจหรือไม่?” เธอเงยหน้ามองไปที่เขา

และพูดออกมาอย่างอ่อนโยน “ฉันรู้ว่าคุณทำการสำรวจจักรวาลและ

มีหลายอย่างเหนือการควบคุมของคุณ เส้นทางของนักรบนั้นอันตรายอย่างมากแต่…คุณพยายามอย่าเข้าไปในเขตที่อันตราย”

“ผมเข้าใจแล้ว” หลัวเฟิง พยักหน้าและลูบผมเธอ “คุณคิดยังไงกับ

จักรพรรดิ จินทา ของตระกูล ลูซี่?”

“ตระกูล ลูซี่?” สวีซิน ขมวดคิ้ว “หลังจากที่เกิดเรื่อง ตระกูล ลูซี่

ตอนแรกนั้นสุภาพกับเรา ฉันได้ยินมาว่าในตอนที่เขาติดต่อคุณไม่ได้

นั่นเป็นตอนที่พวกเขาเริ่มหมดท่าทีสุภาพกับเราและพยายามเหยียบย่ำเราด้วย”

“ตั้งแต่ที่คุณได้เป็นศิษย์ของผู้นำเมือง ความแข็งแกร่งขอบตระกูลเราก็รุ่งโรจน์ เราเริ่มที่จะทำธุรกิจกับทุกคน มันดีพอที่เราไม่ได้โดนใคร

รังแกอีกต่อไป ใครกันที่จะกล้ามารังแกเรา?” เธอพูดขึ้น

หลัวเฟิง พยักหน้า

การทำธุรกิจกับลูกศิษย์ของผู้นำเมือง ทุกตระกูลอมตะ เจ้าหน้าที่และ

จักรพรรดิ หลายคนเต็มใจที่จะก้มหัวแทนที่จะมาคุกคามตระกูลหลัว!

นี่เป็นวิธีง่ายๆ เหมือนกับการที่ หลัวเฟิง ปฏิบัติต่อผู้นำเมืองด้วยความเคารพ

ย้อนกลับไปในตอนที่เขายังอ่อนแอและไม่มีอำนาจ ครั้งแรกที่เขาได้พบกับจักรพรรดิจักรพรรดิ หยางซู เขารู้สึกอ่อนและและต่ำต้อย

ทฤษฎีนั้นยังคงเดิม

ความต่างของความแข็งแกร่งและฐานะทำให้อำนาจที่คนมีนั้นก็ต่างกันไปด้วย

“แม้ว่าภูเขาหยูเซียง จะเต็มไปด้วยข่าวลือเรื่องการตายของคุณ แต่

จักรพรรดิ จินทา ก็สงสัยว่าคุณนั้นตายไปแล้วจริงๆ หรือ ในตอนที่เขาติดต่อคุณไม่ได้ ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป แต่นั่นไม่ได้ยืนยันว่าเขา

พยายามที่จะกลั่นแกล้งเรา” สวีซิน พูดขึ้น “ตระกูลไหนที่กล้าทำแบบนั้น? แม้แต่ตระกูลราชวงศ์ของ จักรวรรดิแกนวู ก็ยังปฏิบัติกับเรา

อย่างเท่าเทียม”

“วิธีคิดของคุณนั้นเข้าท่า” หลัวเฟิง พยักหน้า

จินทา นั้นแอบอนุญาตให้ตระกูลของเขาทำแบบนี้ แม้ว่าจะระวังมาก

พอ แต่จากการพูดคุยแล้ว มันก็ชัดเจนว่าพวกนี้ต้องการก้าวข้ามตระกูลหลัว นี่คือการตบหน้าชัดๆ ตราบใดที่ หลัวเฟิง ไม่ตาย เขาก็ต้องปรากฏตัว!

“เขาบังคับให้คุณปรากฏตัว”

“มันอาจจะเป็นแบบนั้นเพื่อดูว่าผมยังมีชีวิตอยู่หรือไม่” หลัวเฟิง พูดขึ้น

“เฟิง ฐานะของคุณเจ้าตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว มีนักรบมากมายจาก

เผ่าพันธุ์อื่นๆ ที่จับตามองและรอที่จะฆ่าคุณ ทั้งหมดนี้อาจบ่งบอกได้ว่ามีเผ่าพันธุ์อื่นๆ เกี่ยวข้องด้วย คุณต้องระวังตัวให้ดีๆ” เธอพูดขึ้น

“หากไม่มีผลประโยชน์ ใครกันที่จะกล้าทำแบบนี้?” หลัวเฟิง พยักหน้า “ใจเย็นๆ ไว้ ภายในอาณาเขตของมนุษย์ พวกนั้นไม่คู่ควรให้ต้องกังวล”

“อืม” สวีซิน พยักหน้าตอบแม้ว่าเธอจะกังวลอยู่ก็ตาม

“ท่านผู้นำเมือง นั้นอยากจะพบผม ผมต้องรีบไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะ

ทำได้ ผมต้องไปพบเขาตอนี้ ผมจะรีบกลับไปทีหลัง” เขายิ้ม “เตรียมอาหารเย็นเอาไว้ด้วย”

“อืม” เธอพยักหน้าอย่างดีใจ

ภายในเกาะสายฟ้า ที่พักของชนชั้นสูง วังที่มีพลังงานอันปั่นป่วนปก

คลุมที่พักของผู้นำเมือง

ฉัวะ

หลัวเฟิง โผล่มาที่ทางเข้า เขาเดินเข้าไปตามทางเดินที่ซึ่งเขาไม่สามารถเห็นจุดสิ้นสุดของทางเดินได้ สักพักเขาก็ได้หยุด

“อาจารย์” เขาพูดขึ้นด้วยความเคารพ

เงาใส่ชุดสีทองเดินออกมาจากพลังงาน พลังงานอันทรงพลังนี้ทำให้เขาต้องกลั้นหายใจ แต่มุมมองของเขาตอนนี้สูงขึ้นกว่าเดิมแล้ว ด้วยการได้พบอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่นั้น

เขารู้สึกได้ว่าอาจารย์นั้นแข็งแกร่งกว่า พูทิ แต่ชัดเจนแล้วว่ายังอ่อนแอกว่าผู้ยิ่งใหญ่ท่านนั้น

“เจ้ากลับมาแล้ว” สายตาของผู้นำเมืองนั้นกว้างใหญ่ราวกับมิติ เขายิ้มออกมา “มันดีที่เจ้ากลับมาแบบยังมีชีวิต ดูเหมือนว่าเจ้าจะเจ็บปวดใน 6,000 ปีที่ผ่านมา”

“ข้าผ่านมันมาได้” หลัวเฟิง ตอบ เขาจำได้ถึงวันที่รับมรดกความเป็น

ความตายและถอนหายใจออกมา

“หืม?”

สายตาของผู้นำเมืองเป็นประกายและทำการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน นี่ทำให้ หลัวเฟิง อึ้ง นี่อาจารย์กำลังมองหาอะไรอยู่?

นี่เป็นจักรวาลเสมือน ร่างกายนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งจำลอง มากที่สุดที่เขาทำได้ก็แค่ตรวจสอบสติ และนี่ก็จะทำให้รู้สึกได้อย่างง่ายดาย นี่ผู้นำเมืองแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?

“สติของเจ้าได้เติบโตจนแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อน” เขาพูดด้วยท่าทีตกใจเล็กน้อย “และเจ้าก็ได้รับการยอมรับจากกฎอวกาศ”

หลัวเฟิง อึ้งก่อนที่จะตระหนักได้

การยอมรับจากกฎอวกาศนั้นเป็นบางอย่างที่เขาได้มาระหว่าง 6,000 ปี ในการสืบทอด ในตอนที่ ร่างโมชาน สามารถใช้การเทเลพอร์ทได้ เขาได้ทำการเชื่อมต่อกับกฎอวกาศ และมันเป็นตอนที่เขาได้รับการ

ยอมรับ ร่างกายทั้งสามตอนนี้มีเครื่องหมายบนหน้าผาก ในตอนที่เขาเชื่อมต่อกับจักรวาลเสมือน ระบบจะทำการตรวจสอบเขาและหน้าผากของเขาเป็นธรรมดาที่จะถูกบันทึกเอาไว้

“และมันเป็นการยอมรับที่สูงด้วย เจ้าน่าจะสามารถเทเลพอร์ทได้แล้ว” ผู้นำเมืองพูดออกมาด้วยความตกใจ

การยอมรับของกฎนั้นมีระดับที่แตกต่างกันด้วย

มันก็เหมือนกับกฎทอง มันสามารถสร้างใบมีดทองหรือแม้แต่ภูเขาทองได้

ความต่างในการประทับนั้นแสดงออกมาถึงความต่างของการยอมรับ

และหน้าผากของ หลัวเฟิง ก็มีจุดดาวมากมายปรากฏและได้หายไป นี่คือการยอมรับสูงสุดของทั้งสาม อันหนึ่งจะปรากฏมาแค่ในตอนเทเลพอร์ท

“กฎความเข้าใจของเจ้าเป็นยังไง?” ผู้นำเมืองถาม

“ประมาณสะพานสวรรค์ระดับ 20” หลัวเฟิง ตอบกลับด้วยความสุภาพ

ในด้านของความแข็งแกร่ง ความเข้าใจกฎของเขา อันที่จริงผ่านระดับ 20 มาแล้ว สิ่งหลักคือเขาพึ่งพาสัตว์เทพอสูร และความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา อาวุธนันเชียน 7 รูปแบบ และกฎอวกาศ พวกนั้นยังห่างไกลจากตัวตนสัตว์เทพอสูร

“ระดับ 20 ?” ผู้นำเมืองมองมาที่เขา “การพัฒนาของเจ้ามากมาย

นักและนี่เทียบได้กับอัจฉริยะเคอตี้ และซิโฮ ก่อนหน้านี้”

“มันเป็นเพราะโชค” หลัวเฟิง พูดขึ้น

“โชคและการพบเจอเองก็เป็นส่วนหนึ่งของความแข็งแกร่งเช่นเดียวกัน” ผู้นำเมืองยิ้ม “เจ้าหายไปกว่า 6,000 ปี มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการตายของเจ้า มันได้สร้างปัญหาให้กับตระกูลเจ้าหรือไม่?”

“มีนิดหน่อย” หลัวเฟิง ตอบ “ข้าสามารถรับมือมันได้”

“ฐานะในหมู่มนุษย์นั้นสำคัญแต่ความแข็งแกร่งนั้นสำคัญกว่า แม้ว่าเจ้าจะเป็นศิษย์ของข้า แต่หากการพัฒนาของเจ้าช้าลงและไม่สามารถแสดงฐานะของตนได้ คนอื่นๆ จะดูถูกเจ้า” ผู้นำเมืองพูดขึ้น “กว่า 6,000 ปี มานี้เจ้าไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งของเจ้าเลย ในตอนที่เจ้ามีเวลา ลองไปทดสอบ ภูเขาเสียดฟ้า ในระดับห้วงมิติ หากเจ้าทำสำเร็จ ชื่อเสียงและชื่อของเจ้าจะเป็นที่พูดถึง พวกกระจอกนั้นจะไม่กล้ามาหาเรื่องเจ้าอีกต่อไป ใครก็ตามที่ทำได้ พวกเราก็ทำได้แค่สงสัย….ไม่ว่าพวกนั้นจะมีการติดต่อกับเผ่าพันธุ์อื่น หรือทรยศกับมนุษย์”

ลองไปที่ภูเขาเสียดฟ้า?

อาจารย์ของเขาหมายถึง การทดสอบในพื้นที่ลับ เขตภูเขาเสียดฟ้า ต้องใช้กฎความเข้าใจระดับ 20 เพื่อให้ผ่านมัน ในประวัติศาสตร์ ใครก็ตามที่ผ่านมันไปได้ล้วนแต่เป็นอัจฉริยะชั้นหัวกะทิ แค่ระดับห้วงมิติ แต่ก็ผ่านพื้นที่ลับเขตภูเขาเสียดฟ้านี้ได้ ก็จะทำให้ไปอยู่ระดับเดียวกับ เคอตี้ และชิโฮ และคนอื่นๆ

“ได้” หลัวเฟิง ตอบกลับ

“รู้ว่าเมื่อไหร่ควรจะถอยนั้นเป็นเรื่องสำคัญและรู้ว่าเมื่อไหร่ควรที่จะ

แสดงความแข็งแกร่งเองก็ด้วย” ผู้นำเมืองพูดขึ้น “มันก็เหมือนกับ

ตัวตน จักรพรรดิดาบสายน้ำ ของเจ้า เจ้าต้องเก็บมันแยกจากตัวตนของ หลัวเฟิง เจ้าอาจจะทำให้จักรพรรดิเป็นทาสของเจ้า ถ้าเผ่าพันธุ์อื่นรู้เรื่องนี้…พวกเขาคงต้องทุ่มเทอย่างมากในการฆ่าเจ้า”

“เข้าใจแล้ว” หลัวเฟิง พยักหน้า

ข่าวของ ดาบสายน้ำ ที่มี ศรคลั่ง ได้กลายเป็นทาสของเขานั้น เป็นที่พูดถึงกันไปทั่ว ดังนั้นเป็นธรรมดาที่ผู้นำเมืองจะรู้ถึงเรื่องนี้ดี

“ข้าได้สร้างตัวตนของเจ้าขึ้นมา จากเด็กหนุ่มไปจนถึงจักรพรรดิ ด้วยรายละเอียดข้อมูลที่ไม่มีช่องโหว่” ผู้นำเมืองพูดขึ้นมา “และใน

ตอนที่เจ้าผ่านการทดสอบ ภูเขาเสียดฟ้า ในระดับห้วงมิติ มาได้ ข้าจะจัดให้พันธมิตรหง คอยต้อนรับเจ้าเข้าไป จากนั้น เจ้าก็จะสามารถเข้าร่วมได้ในฐานะ หลัวเฟิง ด้วย เจ้าจะได้ที่ว่างสองที่”

“ขอบคุณอาจารย์” หลัวเฟิง พูดอย่างซาบซึ้งใจ

“ถ้าเจ้าไม่รังเกียจข้าที่ถาม เจ้าสามารถใช้เกราะเยี่ยนเสิ่นได้ยังไง และเจ้าฆ่าจักรพรรดิคนอื่นๆ อย่างง่ายดายได้ยังไง?” ผู้นำเมืองมองมาที่เขาเขาถามออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล สิ่งมีชีวิตพวกนี้อาศัยอยู่มานานและพวกเขาต่างก็รู้ดีว่าอัจฉริยะนั้นตั้งใจจะซ่อนสิ่งสืบทอดพิเศษ และสมบัติของตัวเองเอาไว้ไม่ยินยอมเปิดเผยออกมา

ทุกคนต่างก็เห็นแก่ตัว

และเพราะแบบนั้นพวกเขาจึงสามารถที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นได้

พยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องคนที่ตัวเองรักและเผ่าพันธุ์

เอาไว้ สิ่งมีชีวิตพวกนี้ชัดแจนแล้วว่าไม่สามารถที่จะบังคับให้ตอบ

คำถามเหล่านั้น ไม่งั้นแล้วอัจฉริยะพวกนั้นจะหันหลังให้พวกเขา ยิ่ง

เป็นอัจฉริยะมากเท่าไหร่ พวกเขายิ่งมีเกียรติมากเท่านั้น

“เป็นธรรมดาที่ข้าจะสามารถใช้เกราะได้” หลัวเฟิง ตอบกลับ

“ธรรมดา?” ผู้นำเมืองเข้าใจทันที เผ่าเยี่ยนเสิ่น เผ่าพันธุ์จากโลก…

“สำหรับการฆ่าจักรพรรดิ ข้าพึ่งพาเกราะ ปีก และพิษ” หลัวเฟิง ตอบกลับด้วยความเคารพ

“ในตอนที่ข้าเข้าไปในเขตด้านนอกสงคราม ข้าได้ใช้เกราะทหาร

หลังจากนั้นเพราะความแข็งแกร่งที่มากขึ้น ข้าเริ่มที่จะใช้เกราะแม่ทัพ” เขาตอบด้วยความเคารพ จริงๆ แล้วผู้นำเมืองมองเห็นมันได้อย่างชัดเจนผ่านชุดเกราะ เขาเริ่มจากเกราะดำ และหลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นเกราะเงิน

นั่นคือหลังจากที่เขาได้ ชิ้นส่วนโลหะสีดำ ชิ้นที่สอง จากทวีปยาจิน

“สำหรับการเปิดใช้งานความแข็งแกร่งของเกราะแม่ทัพ มันเพราะ…บนทวีปยาจิน ข้าได้ทำการดูซับคริสตัลแม่น้ำเลือดทั้งสิบสำเร็จ และได้กลายเป็นนักรบดำ” หลัวเฟิง พูดความลับและไพ่ตายนั้นหมายถึงสิ่งที่ต้องซ่อนเอาไว้แต่มันก็มีบางอย่างที่เขาสามารถเปิดเผยได้ เขาไม่สามารถที่จะปกปิดมันได้นานนัก

“นักรบดำ?”

ตาของผู้นำเมืองแสดงความตกใจออกมา หลังจากนั้นเขาก็หันไปมอง

หลัวเฟิง อย่างดีใจ นักรบดำนั้นคือตำนาน แม้แต่บนทวีปแม่น้ำเลือด นี่ไม่ต้องพูดถึงในหมู่มนุษย์ หลัวเฟิง ไม่ได้เข้าใจถึงความสำคัญของการเป็นนักรบดำอย่างเต็มที่แต่เขากำลังพูดอยู่กับใคร?

ผู้นำเมืองนั้นรู้ดีว่านักรบดำนั้นแทนถึงสิ่งใด….

“ดี ดี ดี” เขาพูดออกมาสามคำ ท่าทีของเขาที่มีต่อ หลัวเฟิง ชัดเจนแล้วว่าดีขึ้นกว่าเดิม

ยิ่งเขาแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ผู้นำเมืองก็ยิ่งชอบเขามากเท่านั้น

ทุกอย่างที่เขาทำ มาจากมุมมองของทุกเผ่าพันธุ์ ผู้นำเมืองเองก็อยู่ในนั้นด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!