Skip to content

Swallowed Star 890

ตอนที่ 890 ฉลอง

หลัวเฟิง ช็อก หลังจากพบกับผู้นำเมือง มาหลายครั้ง เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายนั้นเคร่งครัดและจริงจังขนาดไหน การกระทำปกติของเขานั้นเกินกว่ามาตรฐานของ หลัวเฟิง แต่อาจารย์กับปฏิบัติต่อพวกเขาราวกับพวกเขาเป็นคนธรรมดา มันยากที่เขาจะชมเชยใคร

แม้แต่ตอนที่สร้างเทคนิค เขาได้รับการชมเชย แต่มันก็ไม่มีคำพูดว่าดีถึงสามครั้ง

สำหรับผู้นำเมืองที่พูดคำว่าดีถึงสามครั้ง ชัดเจนแล้วว่ามันไม่คาดคิด

“ข้าแค่พูดว่าข้ากลายเป็นนักรบดำ” หลัวเฟิง คิด “นักรบดำสามารถที่

จะยกระดับยีนส์ตัวเองขึ้นสิบเท่า ทำให้รากฐานของข้าแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆ ถึง 10 เท่า มันพิเศษแต่ไม่น่าจะเพียงพอสำหรับอาจารย์ที่จะพูดแบบนั้น! และอาจารย์…กำลังคิดเกี่ยวกับทุกอย่างเพื่อเผ่าพันธุ์ รึว่านักรบดำนั้นมีความหมายมากกว่านั้น?”

“หลัวเฟิง” ผู้นำเมืองยิ้มออกมา

“อาจารย์” เขาตอบกลับอย่างสุภาพ

“อย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ฮ่า ฮ่า มันนานแล้วตั้งแต่ที่มนุษย์มีนักรบดำ”

เขาชมออกมา  “พรสวรรค์ของเจ้าในเส้นทางสัตว์เทพอสูรนั้นสูงส่ง

อย่างมากและเจ้าเป็นนักรบดำด้วย…มันช่างเป็นการรวมกันที่สมบูรณ์แบบ! หืม เนื่องจากกฎความเข้าใจของเจ้าเองก็สูงแล้ว เจ้าควรที่จะขึ้นเป็น ระดับอมตะ ตอนไหนก็ได้ เจ้าจะเตรียมเลื่อนระดับตอนไหนกัน?”

“ข้าต้องการที่จะสำรวจเขตลับก่อนที่จะทำการเลื่อนระดับ” หลัวเฟิง ตอบกลับ

แผนที่เขาวางไว้นั้นเกี่ยวกับการหาชิ้นส่วนร่างที่สาม

สำหรับการเลื่อนระดับนั้น…

สัตว์เทพอสูรของเขาได้ขึ้นไปอยู่ระดับ 20 ของสะพานสวรรค์แล้ว ด้วยระดับที่สูงแบบนั้น ตราบใดที่เขาต้องการที่จะเลื่อนระดับตัวเอง เขาก็สามารถทำได้ด้วยกฎทอง การใช้มันจะทำให้เขาเลื่อนระดับตัวเองขึ้นได้ แม้ว่าอสูรเขาทองปกติแล้วจะพบเจอกับความลำบากในการเลื่อนระดับก็ตาม ด้วยความเข้าใจระดับ 20 ไม่ว่าจะยากเพียงในการทะลวงผ่านรากฐานของแก่นหลักแต่มันก็ยังเป็นไปได้

สิ่งเดียวคือ เขาจะกล้ารึเปล่า?

ไม่

เพราะยังไม่พบร่างโคลนที่สามของตน! ในตอนที่เขาทะลวงผ่านไป โลกภายในของเขาจะกลายเป็นจักรวรรดิเทพ และจากนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างร่างที่สามขึ้นมา

“เขตลับ?” ผู้นำเมืองคิ้วขมวด เคอตี้ ก็ตายในเขตลับ…

เขตนอกสงครามนั้นอันตรายอย่างมากแต่มันก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุม

อันตรายในเขตลับนั้นไม่ได้มากมายอะไร เขตลับนับไม่ถ้วนอันตราย

เพียงพอที่อัศวินจะตายได้ เหมือนกับที่ ฉิงหลู่เต๋า ได้หายไปเหลือทิ้งไว้แค่เผ่าเขาทองที่จะพินาศไปตามซึ่งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพึ่งพามนุษย์

“กฎความเข้าใจของเจ้านั้นสูงอย่างมาก ถ้าเจ้าทะลวงผ่านได้ ก็ให้

ทะลวงไป” ผู้นำเมืองพูดขึ้นมา “หลังจากที่เป็น ระดับอมตะ แล้ว

เจ้าจะแข็งแกร่งกว่าเดิมและความสามารถในการรอดก็จะสูงกว่าเดิม

ด้วย มันยังไม่สายที่จะไปสำรวจเขตนั้น”

“ข้าต้องไปตามหาร่างสามของตัวเอง” หลัวเฟิง พูดขึ้นด้วยความเคารพ

“อ่า” ผู้นำเมืองมองมาที่เขา เขารู้มานานแล้วถึงการครอบครองสัตว์อสูรเขาทองและมันสามารถสร้างร่างโคลนได้สามร่าง พวกนักรบตำแหน่งสูงๆ ต่างก็รู้เรื่องนี้

“ขุมสมบัติ พันธมิตรหง พวกเขาล้วนแต่มีร่างพิเศษและการคงอยู่ที่

ยอดเยี่ยม” ผู้นำเมืองพูดขึ้น

“ข้าต้องอยู่ในระดับห้วงมิติ และสถานที่เหล่านั้นก็เป็นที่พิเศษจริงๆแต่ส่วนมากแล้วพวกนั้นล้วนแต่เป็น ระดับอมตะ” หลัวเฟิง พูดขึ้น “สำหรับระดับ ห้วงมิติ มันมีน้อยอย่างมาก ยังไงซะร่างสิ่งมีชีวิตพิเศษ

ต่างก็เกิดมาพร้อมกับความฉลาดและพวกมันรู้ว่ามีหลายอย่างที่สามารถครอบครองมันได้ ดังนั้นในตอนที่พวกมันอ่อนแอ น้อยตัวนักที่จะออกจากเขตลับและมันง่ายที่พวกมันจะกลายเป็น ระดับอมตะ ดังนั้นจึงมีพวกที่อยู่ใน ระดับห้วงมิติ น้อยอย่างมาก…ยิ่งศพที่ถูกเก็บไว้โดยเฉพาะนั้นยิ่งหายากเข้าไปอีก”

สายเลือดที่สูงส่งกว่าเดิมก็ยิ่งยากกว่าเดิมสำหรับพวกมันที่จะกลายเป็นระดับอมตะ!

แต่สิ่งมีชีวิตพิเศษนั้นต่างออกไป

สิ่งมีชีวิตพิเศษ สายเลือดที่สูงส่ง มันก็ยิ่งเก่งกาจมากยิ่งขึ้น แต่พวกมันไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดถึงเผ่าพันธุ์ พวกมันมีจำนวนน้อย น้อยซะจนมีแค่ตัวเดียวในจักรวาลหนึ่ง ส่วนที่มากกว่านั้นอาจจะมีแค่ 10 หรือไม่ก็ไม่กี่ร้อย แม้ว่าจะมีเป็นพันแต่มันก็ยังถือว่าน้อยอย่างมาก

เหมือนกับสัตว์อสูรเขาทอง แม้ในจักรกาลอันกว้างใหญ่แต่มันก็ยังมี

จำนวนค่อนข้างน้อย จากรุ่นสู่รุ่นที่สืบทอดต่อกันมาหลายปี…จำนวน

ของสัตว์อสูรเขาทองที่อยู่ระดับ ระดับอมตะ นั้นถือว่าเติบโตได้อย่าง

วิเศษ ตราบใดที่พวกมันส่งต่อการสืบทอดด้วยเวลาที่พอดีพอ พวกมันก็จะขยายพันธุ์ได้

สิ่งมีชีวิตพิเศษนั้นหายาก

พวกมันทะลวงผ่านระดับ อมตะ ได้อย่างง่ายดาย มีไม่กี่ตัวที่เกิดมาอยู่ระดับ อมตะ เหมือนกับสัตว์เทพอสูร เกิดมาทันทีพร้อมกับความ

แข็งแกร่งระดับ เจ้าแห่งจักรวาล เพราะพวกมันมีน้อย ด้วยการที่ไม่มี

ความสามารถในการขยายพันธุ์ กฎของจักรวาลจึงมอบความได้เปรียบพิเศษให้กับมัน

พวกมันนั้นพิเศษตั้งแต่ที่เกิดมา!

“อืม” ผู้นำเมืองพยักหน้า “สิ่งมีชีวิตระดับ ห้วงมิติ เกือบทั้งหมด

นั้นซ่อนตัวอยู่ในเขตลับ หากต้องการจะจับพวกมันนั้นยากอย่างมาก

และการสร้างร่างของเจ้าต้องใช้เพียงแค่ขนหรือเกล็ด มันคุ้มค่าที่จะลอง”

“ข้าเองก็หวังจะทำแบบนั้น ในตอนที่ข้าอาจจะจับมันไม่ได้ ข้าควรที่จะได้ขนหรือเกล็ดของมัน” หลัวเฟิง พูดด้วยความเคารพ

“จำไว้ อย่าประมาท” ผู้นำเมืองสั่ง

“ครับ” หลัวเฟิง ตอบกลับ

“ไปเถอะ” ผู้นำเมืองหันกลับไปแล้วเดินเข้าไปในพลังงาน

หลัวเฟิง โค้งให้อย่างเคารพก่อนจะกลับออกไป

******

เกาะสายฟ้าที่วังของ ทรูหยัน

หลัวเฟิง ได้ถือลังไวน์เดินเข้ามา

“อาจารย์ อาจารย์” หลัวเฟิง ตะโกนออกมา

“ทำไมเจ้าไม่เข้ามาล่ะ” ทรูหยัน หัวเราะออกมา

หลัวเฟิง เดินเข้ามาและพบกับศิษย์มากมาย ศิษย์เหล่านี้เรียก หลัวเฟิง ว่าศิษย์พี่ โดยไม่สนอายุหรือฉายาที่ได้รับ

วังแห่งนี้มีขนาดใหญ่ หลังจากที่เดินมาได้สักพัก หลัวเฟิง ก็ได้มาถึงศาลาน้ำตก

ข้างในนั้น

ทรูหยัน ได้นั่งมองคลื่นทะเลอันกว้างใหญ่ มองออกไปที่สายฟ้า

ล้อมรอบเกาะแห่งนี้

เขาทำจมูกฟุดฟิดและหันไปหาลังสองอันที่ หลัวเฟิง เอามาด้วย “ไวน์เก้ายอดและวิญญาณดำดิ่งรึ?”

“ในตอนที่ท่านไปส่งข้าตอนนั้น ท่านบอกให้ข้าเอาไวน์กลับมาด้วย”

หลัวเฟิง ยิ้ม  “ข้ากำลังจะไปที่เขตนอกสงคราม แม้ว่าข้าจะหาเวลากลับไปที่เมืองแห่งความโกลาหลไม่ได้ แต่ข้าจะให้ท่านในจักรวาลเสมือนก่อน เพราะไวน์ที่นี่…มันถูกกว่าความเป็นจริงเยอะ”

“ข้าได้ศิษย์ที่ดีจริงๆ ลังสองอันนั้นคงมีค่ามากว่า 3 ล้าน” ทรูหยัน

รับมันไว้และเอาออมาหนึ่งขวด ในความเป็นจริงพวกมันจะมีค่ากว่า 3 ล้าน!

“แม้แต่ข้า ข้าคงดื่มวิญญาณดำดิ่งเพียงครั้งเดียว แม้ว่าข้าจะซื้อ

มันได้แต่ราคามันก็ค่อนข้างสูง”

หลัวเฟิง หัวเราะออกมา

เขาทำแบบนี้ได้เพราะนี่คืออาจารย์ของเขา ถ้าไม่ใช่เพื่อตัวเขาเอง เขาคงไม่ทนเช่นกัน

แม้ว่าจะใช้เงินไปกว่า 3 ล้านในจักรวาลเสมือนแต่มันก็เพียงพอที่จะซื้อพื้นที่ดวงดาวได้มากมาย

“มา ชน”

ไวน์ถูกเทออกมาและทั้งสองคนก็พูดคุยกันพร้อมกับดื่มไวน์ไปด้วย

“อาจารย์ ข้าได้สมบัติที่แท้จริงมาจากเขตนอกสงคราม” หลัวเฟิง พูดขึ้น

“สมบัติที่แท้จริง?” ทรูหยัน ช็อก

“สมบัตินี่คือนาฬิกาโบราณ…” หลัวเฟิง เริ่มอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับความสามารถและความต้องการของมัน “อาจารย์ ข้ามีสมบัติที่ท่านผู้นำเมืองมอบให้กับข้าแล้ว ดังนั้นข้าจึงไม่ต้องการสิ่งนี้ ข้าสงสัยว่าท่านต้องการมันหรือไม่”

“ฮ่า ฮ่า เจ้านี่คิดเผื่ออาจารย์จริงๆ” ทรูหยัน หัวเราะออกมา เขาดีใจ

อย่างมากแต่จากที่เขาเห็นแล้ว หลัวเฟิง นั้นต้องทนทรมานมากมายภายในเขตนอกสงคราม นาฬิกานี้คือรางวัลของเขาและสมบัติแบบนี้…ประเมินค่าไม่ได้ แค่ดาวผนึกดวงเดียวก็ทำให้เกิดผลลัพธ์การนองเลือดได้ มันง่ายที่จะรู้ว่ามันมีค่าแค่ไหน ด้วยนิสัยของเขาแล้ว เขาจะรับสมบัติจากศิษย์แบบนี้ง่ายๆ ได้ยังไง?

“ใจเย็นไว้”

“อาจารย์ของเจ้าน่ะมีชื่อเสียงแล้ว” ทรูหยัน จิบไวน์และพูดขึ้น “เพื่อให้สามารถสร้างชื่อเสียงแบบนั้นได้ ใครบ้างที่จะไม่มีสมบัติที่

แท้จริง? หากไม่มีพวกมันปกป้องข้าเอาไว้ ข้าจะกลายเป็นจักรพรรดิที่ร้ายกายได้ยังไง?”

หลัวเฟิง อึ้ง

ใช่ เจ็ดดาบ ดาล๊อง…พวกนี้ล้วนแต่มีสมบัติมากมายกับตัว อาจารย์ของเขา ทรูหยัน อยู่มาเป็นล้านล้านปี เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกนั้น เกือบเป็นถึงอัศวิน!

คนแบบนี้จะไม่มีสมบัติที่แท้จริงกับตัวได้ยังไง?

“นาฬิกานี่ดูไม่เหมาะกับเส้นทางของข้า มันไร้ประโยชน์ต่อข้า” เขา

ส่ายหน้า “เก็บมันไว้เถอะ”

“อ่า” หลัวเฟิง พยักหน้า

แม้ว่าเขาจะปฏิเสธของขวัญ แต่รอยยิ้มกว้างของเขาก็มากกว่าแต่

ก่อน ศิษย์ของเขาเต็มใจที่จะให้สมบัติที่แท้จริงกับเขา นอกเสียจากว่าเคารพอาจารย์จริงๆ ศิษย์จะทำแบบนี้ได้ ยังไงซะอาจารย์อีกคน

ของ หลัวเฟิง ก็เป็นถึงผู้นำเมือง หลัวเฟิง ไม่จำเป็นต้องดีกับเขาอีกต่อไป มันแสดงให้เห็นว่า หลัวเฟิง นั้นดีมากเพียงใดในด้านการให้ความเคารพ

“เจ้าได้กลับบ้านรึยัง?” ทรูหยัน ถามขึ้นมา

“ครับ” หลัวเฟิง พยักหน้า

“ครอบครัวของเจ้าเป็นยังไง?” ทรูหยัน หัวเราะ

สวีซิน เคยติดต่อเขามาก่อนและผู้นำเมืองเองก็มาหาเขาด้วย

“พวกนั้นกังวล” หลัวเฟิง ถอนหายใจออกมา “แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว

ในตอนที่ข้ากลับไป ข้าพบว่า จินทา ของตระกูล ลูซี่ ได้สร้างปัญหากับตระกูลข้า”

“จินทา ใครกัน?” ทรูหยัน คิ้วขมวด

“เขาเพิ่งเป็นจักรพรรดิได้ไม่นานมานี้” หลัวเฟิง ตอบกลับ

“อ่า ข้าจำได้แล้ว โชคของเขาก็ไม่เลวเท่าไหร่ เขาเป็นศิษย์ของอัศวิน

หมอกทอง” ทรูหยัน ส่ายหน้า “อัศวินหมอกทอง น่ะแค่อัศวิน

ธรรมดาในหมู่คนอื่นๆ เขามีศิษย์ค่อนข้างน้อย แม้แต่ จินทา ก็สามารถเป็นได้”

“เขากล้าจะหาเรื่องกลับตระกูลเจ้างั้นรึ?” ทรูหยัน ช็อก “ใครกันที่

สนับสนุนเขาถึงทำให้เขามีความกล้าได้แบบนี้ แม้ว่าอาจารย์ของเขา

อัศวินหมอกทอง…ก็ต้องปฏิบัติต่อเจ้าอย่างสุภาพ อาจารย์นั่นคงไม่มี

ทางจะคุกคามเจ้า เจ้าน่ะยังไงซะก็เป็นถึงศิษย์ของผู้นำเมือง แม้ว่าผู้นำเมืองจะไม่ปรากฏตัว แต่แค่กลุ่มคนระดับสูงของเจ้า พวกนั้นแค่คนเดียวก็สามารถทำให้ อัศวินหมอกทอง กลัวจนหัวหดได้แล้ว”

“ใช่ ข้าเองก็สงสัยเช่นกัน” หลัวเฟิง ส่ายหน้า

ศิษย์ของผู้นำเมืองส่วนมากนั้นเป็นอัศวินแทบทั้งหมด….

“แน่นอนเพราะเจ้าหายตัวไป มีข่าวลือว่าเจ้าน่ะตายไปแล้ว” ตาของ

ทรูหยัน เป็นประกายด้วยความหงุดหงิด “เจ้าต้องทำการตรวจสอบ!

และลงโทษพวกมันให้หนัก และเจ้าต้องทำเป็นตัวอย่างให้คนอื่นๆ ได้

เห็น!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!