Skip to content

Swallowed Star 90

ตอนที่ 90 เส้นทางละเลงเลือด

บนถนนหลวง…ยวดยานนานาชนิดที่ถูกทิ้งร้างมีให้เห็นเกลื่อนถนนไปหมด

ท้องฟ้ามืดครึ้ม มองไม่เห็นแม้แต่พระจันทร์ดวงโต แสงดาวยังส่องสว่างลงมาบ้าง แต่แสงอันน้อยนิดของมันก็แทบจะไม่ได้ช่วยให้มองเห็นเส้นถนนที่อยู่ต่อหน้าแต่อย่างใด บนส่วนหนึ่งของถนนหลวง สมาชิกทั้ง 4 ของทีมสายฟ้ากำลังนั่งอยู่บนรถบัสคันหนึ่งที่ล้มตะแคงอยู่

“ถึงแม้ว่าโปรแกรมฝึกของคุณชายจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ทักษะของคุณชายก็เพิ่มขึ้นมาพอสมควรแล้วล่ะ” นักสู้ชราแซ่หลิวกล่าวยิ้มๆ

“ยังไงก็คงไม่ได้ดั่งใจคุณพ่ออยู่ดี” เด็กหนุ่มลูกครึ่งหลี่เวยส่ายหัว

“คุณชาย สำหรับอายุขนาดนี้ เท่านี้ก็ถือว่าดีแล้วนะ” นักสู้ชรากล่าว เข่อหลงกับพานย่าก็พยักหน้าเห็นพ้องด้วย

หลี่เวยส่ายหัว “มันคงไม่พอหรอก ไม่แม้แต่ใกล้เคียง! มีเทพสงครามขั้นกลางจำนวนมากมายในเจียงหนานที่อายุราวๆ 20 พ่อแม่ของผมเป็นเทพสงครามที่ทรงพลัง ลูกชายของพวกท่านจะอ่อนแอได้ยังไง? โอ้…พานย่า คุณเคยบอกว่าหลัวเฟิงของทีมค้อนอัคคีนั่นอายุเพิ่งจะ 18 เท่านั้น ใช่ไหม? และเขาก็เป็นถึงระดับแม่ทัพขั้นต้นแล้ว! ผม…ลูกชายแห่ง 2 เทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ จะเทียบกับเด็กธรรมดานั่นไม่ได้เชียวเหรอ?”

“ได้…ได้สิ” นักสู้ชราตอบ

“คุณชาย ท่านน่ะแข็งแกร่งที่สุดแล้ว” นักสู้ผิวขาวกล่าวเสริม

หลี่เวยยิ้มเล็กน้อย

หัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์พานย่าโพล่งขึ้นมา “อันที่จริง ถ้าว่าอย่างที่คุณชายพูด เมื่อเทียบกับคุณชายแล้วหลัวเฟิงนั่นมันก็ไม่ต่างจากก้อนกรวด! แต่หลัวเฟิงนั่นมันก็เป็นเหมือนเสี้ยนหนามที่ทิ่มแทงฝ่ายผมอยู่ ทีมค้อนอัคคีและทีมเขี้ยวพยัคฆ์ต่างไม่กินเส้นกันมาตลอด และตอนนี้ผมเป็นเพียงคนเดียวในทีมที่เหลือรอด พวกทีมค้อนอัคคีนั่นจะต้องคอยจ้องเล่นงานผมอยู่แน่ๆ! บางทีคนอื่นๆ อาจจะไม่ได้สร้างปัญหาอะไรมากนัก แต่หลัวเฟิงคนนั้นสิไม่แน่เหมือนกัน! เขาเพิ่งจะกลายเป็นนักสู้ และเขาก็เข้าถึงระดับแม่ทัพขั้นกลางแล้ว ผมค่อนข้างแน่ใจว่าอีกไม่นานเขาคงจะแซงผมได้ และถ้าเป็นเช่นนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผมจะต้องตายแน่ๆ!” พานย่าโพล่งออกมาแล้วถอนหายใจ

อันที่จริง พานย่ารู้สึกเสียใจมากๆ

ตอนที่เขาพบหลัวเฟิงในฐานเติมเสบียง จางเจ๋อหู่แนะนำให้เขาฆ่าหลัวเฟิง แต่ทว่า พานย่าเกรงว่าจะทำให้พวกทีมค้อนอัคคีที่เหลือโกรธแค้น เขาจึงไม่ได้ทำอะไรในตอนนั้น! แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าหลังจากนั้นหลัวเฟิงจะพัฒนาทักษะได้รวดเร็วมากจนได้ฉายา ‘เจ้าบ้า’ มาครองด้วยการฆ่าสัตว์ประหลาดนับหมื่นตัวภายใน 2 เดือน และสัตว์ประหลาดพวกนั้นก็ล้วนเป็นระดับไพร่พลขั้นสูงเสียด้วย ชื่อเจ้าบ้านั่นได้กระฉ่อนไปทั่วทั้งวงการนักสู้ในเจียงหนานทีเดียว

น่าเสียดาย พานย่าไม่เคยได้เผชิญหน้ากับหลัวเฟิงอีกเลยจนกระทั่งมาเจอในเมืองหมายเลข 003 แห่งนี้

“คุณจะไปเข้าร่วมกับทีมนักสู้ทีมใหม่ตอนกลับออกไปไม่ใช่เหรอ?” เด็กหนุ่มกล่าว

“ใช่…แต่ทีมค้อนอัคคีนั่นก็คงไม่เลิกตามราวีแน่ พวกเขาอาจจะหาโอกาสลอบยิงผมก็ได้” พานย่ากล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น เขาไม่ลืมว่าทีมเขี้ยวพยัคฆ์เคยทำสิ่งนี้กับทีมค้อนอัคคีเอาไว้ก่อนหน้า และด้วยพลังของเขาตอนนี้ เขาจะต้องตายแน่ๆ หากถูกส่องได้ไรเฟิลแบบจังๆ

พานย่ามองหน้าเด็กหนุ่มแล้วเอ่ยถามขึ้น “คุณชาย ถ้าคุณชายมีโอกาสเข้าระบบของพันธมิตรใต้ดิน คุณชายแจ้งผมได้ไหมว่าหลัวเฟิงอยู่ที่ไหนในแดนเถื่อน?”

“ได้สิ ไม่มีปัญหา” หลี่เวยรับปาก

นักสู้ชราแซ่หลิวและนักสู้ผิวขาวมองหน้ากัน พวกเขารู้มานานแล้วว่าพานย่าประสงค์อยากจะใช้เส้นสายของคุณชายให้เป็นประโยชน์กับตัวเอง

แต่อย่างไรก็ตาม เพราะทั้ง 2 เป็นเพียงบอดี้การ์ด พวกเขาจึงไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้และวันนี้ พานย่าก็ทำผลงานได้ดี ทำให้ทั้ง 2 ไม่อยากจะขัดคออะไร และอีกอย่างพานย่าก็ต้องมาสูญเสียลูกทีมทั้งหมดในครั้งนี้ด้วย ดังนั้นการช่วยเหลือเขาเล็กๆ น้อยๆ ก็คงไม่เสียหายอะไรนัก

“อย่ามัวเสียเวลาอีกเลย พักกันก่อนดีกว่า พรุ่งนี้พวกเราจะต้องเดินทางอีกไกล” นักสู้ชราเอ่ย

ในทันทีนั้น ทั้ง 4 คนก็เอนลงพักผ่อนกัน

ไม่เหมือนในฤดูร้อน ตอนฤดูหนาวทีมนักสู้ส่วนมากจะพักผ่อนในเวลากลางคืนและออกถนนในเวลากลางวัน! แต่ในฤดูร้อน พวกเขาจะพักในเวลากลางวันเพื่อหลบความร้อนและออกวิ่งในเวลากลางคืนที่อากาศเย็นกว่า

………..

ล่วงเข้าสู่ยามดึก สมาชิกทีมสายฟ้าบางคนก็นอนคุดคู้ บางคนก็นอนเหยียดยาวขณะที่นอนพักผ่อน…

นอกจากเด็กหนุ่มลูกครึ่งแล้ว ที่เหลือทั้ง 3 คนต่างก็นอนหลับตาเท่านั้น พวกเขาไม่กล้าหลับลึก…ใครจะรู้ได้ว่าสัตว์ประหลาดจะโผล่เข้ามาตอนไหนในแดนเถื่อนแบบนี้

การถูกกินโดยสัตว์ประหลาดขณะที่กำลังนอนหลับฝันอยู่ มันคงจะน่าเศร้ามากเลยทีเดียว

“หือ?” พานย่า นักสู้ชรา นักสู้ผิวขาวต่างก็ลืมตาขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงบางอย่างดังแว่วขึ้น

เสียงฝีเท้า!

ทันใดนั้น เงาๆ หนึ่งก็พุ่งผ่านแวบไปแล้วหันหัวกลับมา…นักสู้คนหนึ่งหันมาสบตากับพานย่า นักสู้ชรา และนักสู้ผิวขาว

“ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเจอพวกเขา!”

หลัวเฟิงอยากจะสาปส่งสวรรค์ เขาอุตส่าห์อารมณ์ดีและต้องการกลับบ้านแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่าทั้ง 4 คนนี้จะนอนบังรถบัสอยู่แบบนี้ เพราะรถบัสบดบังทัศนาวิสัย หลัวเฟิงจึงไม่รู้ว่าทั้ง 4 คนนี้อยู่ข้างหน้าเขา พอเขาเดินผ่านรถบัสคันนี้ไปและเห็นพวกเขามันก็สายไปเสียแล้ว!

“หลัวเฟิง!” พานย่าคำราม ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความโกรธ

พระเจ้า…เขาคิดว่าเขาจะต้องค้นหาหลัวเฟิงไปอีกนานและยากเย็นกว่านี้! แต่ใครจะไปนึกล่ะว่าหลัวเฟิงจะมาโผล่ต่อหน้าเขาเพียงลำพังแบบนี้!

“โอ้ นั่นหลัวเฟิงใช่ไหม เราเคยพบกันแล้วสินะ” เด็กหนุ่มลูกครึ่งตื่นลืมตาและลุกขึ้นมาทันที เขามองหลัวเฟิงอย่างเยือกเย็น…หลี่เวยไม่ได้โง่ เขารู้มาก่อนแล้วว่าหัวหน้าพานย่าต้องการฆ่าหลัวเฟิง และตอนนี้หลัวเฟิงก็โผล่มาที่นี่ด้วยตัวเอง ไม่บอกก็คงรู้ว่าจะเป็นยังไง

แววตาเวทนาฉายวาบผ่านดวงตาของหลี่เวยขณะที่มองมายังหลัวเฟิง

“หลัวเฟิง แกมาตกอยู่ปากเหวนรกด้วยตัวแกเอง” หัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์พานย่าเหลือบมองไปทางนักสู้ชรา นักสู้ชราพยักหน้านิดนึง…ก่อนหน้านี้ พานย่าเคยของความช่วยเหลือเขาเรื่องทีมค้อนอัคคีไว้ แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถหาทีมค้อนอัคคีได้พบในเวลานั้น

“หัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์!” สีหน้าของหลัวเฟิงเคร่งขรึม

ตกอยู่ปากเหวนรกเหรอ? แม้แต่คนที่โง่ที่สุดยังรู้เลยว่าพานย่าอยากจะฆ่าหลัวเฟิงอยู่แล้ว!

แต่หากไม่มีอีก 3 คนนั้น ก็เป็นการยากที่จะบอกว่าใครจะฆ่าใคร

3 คนนั้น เป็นปัญหาทีเดียว 2 คนเป็นแม่ทัพขั้นสูงและอีกคนก็มีเบื้องหลังอันน่ากลัว! เทพสงครามคุ้มหัวเขาอยู่!

หลัวเฟิงหันไปมองหน้านักสู้ชรา นักสู้ผิวขาวและเด็กหนุ่มลูกครึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “ทุกท่าน หัวหน้าพานย่าผู้นี้มีความแค้นกับทีมค้อนอัคคีของผม ผมแน่ใจว่าทั้ง 3 คงจะทราบถึงสิ่งที่เขาทำ กฎหมายไม่อนุญาตให้นักสู้ฆ่ากัน! แน่นอน เมื่อพวกเราอยู่ในแดนเถื่อน กฎหมายก็คงไร้ค่า ผมไม่ได้ขอให้ทุกท่านเข้ามาห้ามเรา แต่เพียงขอให้ยืนดูโดยไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว ปล่อยให้ผมกับพานย่าสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง!”

หลัวเฟิงมองดูหน้าเด็กหนุ่ม “คุณชายท่านนี้จะต้องเป็นคุณชายหลี่เวยแน่ๆ ถึงผมจะไม่เคยได้เสวนากับท่าน แต่ผมก็ได้ยินกิตติศัพท์ของท่านก่อนแล้วจากเพื่อนๆ ในทีมค้อนอัคคีของผม…ถ้าผมรู้แบบนั้น ในตอนนั้นผมลงมอบงู 2 หัวตัวนั้นให้ท่านไปแล้””

หลัวเฟิงถ่อมตนและยกย่องเด็กหนุ่มลูกครึ่งนามหลี่เวย

“งั้นเหรอ…” คุณชายหลี่เวยยิ้มเล็กน้อย เพราะเขาได้รับการยกย่องมากทีเดียว

ตราบเท่าที่หลี่เวยกับ 2 คนนั้นไม่เข้ามายุ่งด้วยทุกอย่างจะง่ายดายมาก ถึงเราจะฆ่าพานย่าได้ง่ายๆ แต่ด้วยสถานะของ 3 คนนั้น หวังว่าพวกเขาจะไม่เข้ามายุ่งนะ หลัวเฟิงนึกลุ้นในใจ

พานย่าชำเลืองมองไปทางนักสู้ชราทันที เขาเคยรับปากเรื่องช่วยกำจัดทีมค้อนอัคคีมาก่อนหน้านี้

“นายเป็นใคร? เหตุใดจึงหาญเอื้อนเอ่ยเช่นนี้!” นักสู้ชราน้ำเสียงดุดัน

“ผู้อาวุโสครับ” หลัวเฟิงถ่อมตัว

“ใครผู้อาวุโสนาย?” นักสู้ชราจ้องเขม็ง “ลูกทีมของพานย่าอาจถูกนายฆ่าก็ได้! และถ้าเป็นเช่นนั้นความตายก็ไม่อาจลบล้างความผิดของนายได้!”

หลี่เวยด้านข้างยิ้มขณะที่เขามองเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขากำลังจะฆ่าหลัวเฟิง

หลัวเฟิงเป็นอัจฉริยะงั้นเหรอ?

การฆ่าอัจฉริยะมันก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว

เราจะทำยังไงดี ทำยังไงดีนะ? หลัวเฟิงทำสีหน้ายุ่งยาก

เราคนเดียวฆ่าพานย่าได้แน่ แต่จะยุ่งมากมากหาก 3 คนนั้นเข้ามายุ่งด้วย โดยเฉพาะคุณชายหลี่เวยนั่น…แล้วถ้าเราฆ่าพวกเขาทั้งหมดล่ะ เราจะต้องเจอปัญหาใหญ่แน่ถ้าฆ่าหลี่เวย แต่ถ้าเราไม่ฆ่าแล้วเขาตามอาฆาตแค้นเรา นั่นยิ่งแย่เข้าไปใหญ่!

ความคิดมากมายตีกันอยู่ในหัวของหลัวเฟิง

นักสู้ชราแซ่หลิว นักสู้ผิวขาวเข่อหลง และพานย่าแยกกันเข้าประชิดหลัวเฟิง

วูบ! วูบ! วูบ!

หลัวเฟิงขว้างมีดปาของเขาตรงไปที่พานย่า มันหมุนติ้วแล้วพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว!

เช้ง!

เช้ง!

เฟี้ยว!

พานย่าต้านมีดปา 2 เล่มแรกด้วยดาบรูปเขี้ยว 3 แฉกของเขา แล้วก็หลบเล่มสุดท้ายที่พุ่งเข้ามา

ฟุ่บ!

นักสู้ชรา นักสู้ผิวขาว และพานย่าต่างก็เร่งความเร็วในทันทีพลางพุ่งเข้าใส่หลัวเฟิง

แต่ขณะที่พวกเขาปรี่เข้าใส่ มีดปา 2 เล่มที่ตกอยู่กับพื้นเพราะถูกพานย่าต้านไว้ก็พุ่งตรงเข้าใส่ศีรษะนักสู้ชราและนักสู้ผิวขาวทันที นักสู้ชราและนักสู้ผิวขาวยังไม่ทันจะได้หันไปเห็นด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำมีดที่พุ่งไปด้วยพลังจิตของหลัวเฟิงยังมีความเร็วสูงมากๆ ด้วย!

มีดปาทั้ง 2 เล่มเร็วยิ่งกว่ากระสุนที่พุ่งออกจากปืนไรเฟิลเสียอีก! ก่อนที่เสียงโซนิคบูมจะไปถึงหูของพวกเขา มีดปาที่เร็วยิ่งกว่าเสียงก็ไปถึงพวกเขาเสียแล้ว!

ฉัวะ!

ฉัวะ!

เงาสีดำสองเงาพุ่งทะลุศีรษะของนักสู้ชราและนักสู้ผิวขาวจากทางด้านหลัง!

โพละ!

ศีรษะของทั้ง 2 ระเบิดออกในทันที แม่ทัพขั้นสูงทั้ง 2 คนเสียชีวิตลงทันทีอย่างง่ายดาย!

“อะไรกันเนี่ย!” พานย่าอุทานลั่น

มีดปาทั้ง 2 เล่มที่เพิ่งฆ่าแม่ทัพทั้ง 2 โฉบอ้อมเป็นเส้นโค้งแล้วย้อนกลับมาพุ่งเข้าหาพานย่าอย่างรวดเร็ว!

น่าเศร้า พานย่าเป็นแค่แม่ทัพขั้นกลาง เขาตวัดมีดโค้ง 3 แฉกของเขาไปมาและจ้องเขม็งไปยังเงาสีดำทั้ง 2 ที่พุ่งเข้ามา แต่อย่างไรก็ตาม เงาดำนั้นมันเปลี่ยนทิศทางได้

ฉัวะ!

ฉัวะ!

มีดบินเล่มที่ 3 ที่พานย่าหลบพ้นก่อนหน้านี้พุ่งปาดคอหอยของหลี่เวย!

ศีรษะของเขา ศีรษะราคาแพง…ขาดกระเด็นหลุดจากบ่าของเขา เลือดสดๆ พวยพุ่งออกมาจากบาดแผลใหญ่ราวกับน้ำพุ!

และในชั่วพริบตาเดียว! มีดบินอีกเล่มก็พุ่งทะลุศีรษะของพานย่าไป โพละ!

ศีรษะของพานย่าระเบิดออกในทันที เขาเสียชีวิตลงทันทีอย่างง่ายดาย!

สมาชิกทั้ง 4 คนของทีมสายฟ้าก็เสียชีวิตทั้งหมด!

“กระต่ายน้อยริอาจจะล่าสิงโต!”

“แกคิดจริงๆ เหรอว่าฉันจะไม่ฆ่าแก!”

“เวรเอ๊ย…แกจะต้องมีพ่อกับแม่เป็นเทพสงครามแน่ๆ ถ้าพวกเขารู้ว่าฉันเป็นคนฆ่า ฉันก็จะเปิดเผยตัวตนว่าฉันเป็นนักอ่านจิต ยอมเสียอิสรภาพ แล้วก็เข้าร่วมกับทางศูนย์ของสำนักขีดสุด”

“อีกอย่าง…ใครจะรู้ได้ว่าพ่อกับแม่ของแกจะหาฉันพบรึเปล่า!”

หลัวเฟิงเก็บมีดปาแล้ววิ่งกลับเข้าสู่เงามืด เขาออกจากถนนหลังและหายลับไปที่ทุ่งหญ้าข้างทาง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!