Skip to content

Swallowed Star 91

ตอนที่ 91 พ่อแม่ของหลี่เวย

ราวกับลูกธนู หลัวเฟิงพุ่งทะยานเข้าสู่ทุ่งหญ้า ความเร็วของเขาน่าทึ่งมาก เขาใช้พลังจิตลดภาระสิ่งของต่างๆ และใช้ใช้กับโล่เพื่อพยุงน้ำหนักตัวของเขาอีกด้วย…

หลัวเฟิงเคลื่อนที่เร็วเสียยิ่งกว่าตอนที่เขาตัวเปล่าเสียอีก

เฟี้ยว…

วิ่ง! วิ่งเร็วเท่าที่จะเร็วได้! อย่าหยุดเด็ดขาด!

“เราต้องหนีจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยภูมิหลังของหลี่เวย พอเขาตาย ครอบครัวของเขาต้องมีเทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อแจ้งเตือนเรื่องนั้น! ถึงตอนนั้น พวกเขาก็อาจจะใช้ดาวเทียมในการสืบสวนเรื่องนี้! ถ้าพวกเขาพบเราเข้า เราเจอปัญหาแน่”

หลัวเฟิงไม่ค่อยจะรู้เรื่องดาวเทียมนัก และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าพวกมันทำงานยังไง

แต่ตอนที่เทพสงครามลิ่วกังตาย ดาวเทียมบันทึกเหตุการณ์ที่หนูน้ำออกล่าเอาไว้ มีเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งที่คอยสังเกตการณ์บันทึกนี้อยู่ตลอด

“หลังจากพวกเขาพบว่าหลี่เวยตายแล้วและหาจุดที่เขาตายพบ พวกเขาก็จะใช้ดาวเทียมสืบสวนเรื่องนี้ทันที ถ้าเป็นแบบนั้นเราอาจจะถูกพบได้ สิ่งที่เราจำเป็นต้องทำตอนนี้ก็คือหนีออกไปให้ห่างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และการวิ่งลงในทุ่งหญ้ารกก็น่าจะทำให้ดาวเทียบพบเราได้ยากขึ้น”

หลัวเฟิงวิ่งด้วยดวงตาอันแดงก่ำ หากปราศจากพลังจิตแล้ว คงเป็นไปไม่ได้ที่หลัวเฟิงจะวิ่งทะยานได้ถึงกว่า 100 เมตรต่อวินาที

แต่บัดนี้ ความเร็วของเขาแตะถึงราวๆ 150 เมตรต่อวินาทีเลยทีเดียว

150 เมตรต่อวินาที ซึ่งก็คือเกือบ 900 เมตรในทุกๆ 6 วินาที เท่ากับ 9 กิโลเมตรต่อนาที! และ 45 กิโลเมตรใน 5 นาที!

ความเร็วนี้ช่างน่ากลัวเสียจริงๆ โดยปกติแล้ว ‘แม่ทัพขั้นกลาง’ จึงจะสามารถเข้าถึงความเร็วระดับนี้

แต่หลัวเฟิงก็ไม่กล้าแม้แต่จะเสียเวลาสักนิดเดียว…

เขาไม่อาจลืมตอนที่เทพสงคราม 2 คนเข้ามาช่วยทีมสายฟ้าเอาไว้ตอนถูกล้อมจากฝูงสัตว์ประหลาดได้ สิ่งนั้นบ่งบอกได้ว่าหลี่เวยนั้นมีเบื้องหลังใหญ่แค่ไหน

“โชคดีที่เราเป็นสมาชิกของสำนักขีดสุด ฆ่าก็ฆ่าสิ! ยังไงพ่อแม่กับน้องชายของเราก็อาศัยอยู่ในเขตของนักสู้แห่งสำนักขีดสุดอยู่แล้วนี่นา”

หลัวเฟิงไม่เคยต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวเขา…เพราะถ้านักสู้เข้าร่วมกับทางสำนักขีดสุดแล้ว ความปลอดภัยของครอบครัวของเขาก็ได้รับการรับรองจากบรรดานักสู้ของสำนักอยู่แล้ว

เคยมีกรณีของ ‘ดาบโลหิต’

‘ดาบโลหิต’ เป็นเทพสงครามขั้นสูงที่มีความแค้นต่อ ‘ฝางโย่ว’ ซึ่งเป็นนักสู้คนหนึ่งในสำนักขีดสุด แต่ ‘ฝางโย่ว’ คนนี้ได้เสียชีวิตลงในแดนเถื่อน ดังนั้น ‘ดาบโลหิต’ ผู้ทรงพลังจึงพุ่งเป้าไปที่ครอบครัวของฝางโย่วแทน ทั้งญาติๆ พ่อแม่ ลูกๆ หลานๆ…

พวกเขาถูกฆ่าตายทั้งหมด!

สังคมโกรธแค้นเรื่องนี้มาก! เป็นที่ทราบกันว่านักสู้มีอัตราเสียชีวิตในแดนเถื่อนค่อนข้างมาก ครอบครัวของนักสู้เหล่านี้ที่อยู่เบื้องหลังมักจะถูกปกป้องโดยบรรดานักสู้ในสำนักของพวกเขา! เพราะไม่มีใครรู้ว่าใครจะตายใครจะอยู่ ดังนั้น โดยปกติแล้ว ทุกคนที่ทำงานด้วยกันก็จะปกป้องครอบครัวของกันและกันด้วย

ดังนั้น…ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้าล่วงล้ำครอบครัวสมาชิกของสำนัก ก็จะกลายเป็นศัตรูกับนักสู้ทั้งหมดของสำนักในทันที!

เมื่อข่างการตายของครอบครัวฝางโย่วแพร่กระจายออกไป นักสู้ทั้งหมดของสำนักขีดสุดทั่วทั้งโลกจึงรู้สึกโกรธแค้น!

ครอบครัวของนักสู้เป็นสิ่งที่ไม่ควรไปแตะต้อง!

ถ้าฆ่าพวกเขา ก็จะกลายเป็นศัตรูกับนักสู้ทั้งหมดของสำนักนั้นๆ!

หลังจากนั้น นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ‘อาจารย์หง’ ก็ปรากฏตัวขึ้นเพื่อสอบสวนเรื่องนี้ หลังจากที่พบว่าฆาตกรคือ ‘ดาบโลหิต’ เขาก็ใช้ข้อมูลเครือข่ายไม่ใช่แค่ของรัฐบาลสากล แต่ยังรวมถึงเครือข่ายของพันธมิตรใต้ดินด้วยเพื่อค้นหาเทพสงครามขั้นสูงคนนั้นซึ่งหนีไปกบดานอยู่ในแดนเถื่อน หลังจากนั้น ผู้ตรวจการณ์ผู้มีพลังอำนาจเป็นรองเพียงอาจารย์หงเพียงผู้เดียวก็ถูกส่งตัวออกไป บุคคลผู้นี้ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือเทพสงครามอีกด้วย!

ผู้ตรวจการณ์ผู้นั้นนำทีมงานเทพสงครามอีก 36 คนไปกับเขาเพื่อไล่ล่า ‘ดาบโลหิต’ ในครั้งนั้นด้วย!

ในที่สุด ดาบโลหิตก็ฆ่าตัวตาย เขาอาจจะกลัวถูกจับได้แล้วถูกทรมาน!

หลังจากเหตุการณ์นั้น…ผู้ก่อตั้งของทั้ง 2 สำนักใหญ่ ‘สำนักขีดสุด’ และ ‘สำนักสายฟ้า’ …อาจารย์หงและเทพสายฟ้า ต่างก็เป็นเจ้าภาพงานและถ่ายทอดสดงานศพครอบครัวของฝางโย่วไปทั่วโลก และนักสู้ผู้แข็งแกร่งสุดขั้วทั้ง 2 ท่านต่างก็แสดงออกถึงอาการโกรธแค้นในงานศพนี้ด้วย

ใครก็ตามที่กล้าแตะต้องครอบครัวของนักสู้ นั่นก็ไม่ต่างกับการก่อสงครามกับนักสู้ทั้งหมดของสำนักขีดสุดและสำนักสายฟ้า

และในงานศพนี้ บรรดาตัวแทนของแต่ละหัวเมืองใหญ่ของประเทศมหาอำนาจทั้ง 5 ของโลกและแม้แต่จากพันธมิตรใต้ดินต่างก็มาตอบรับร่วมมือกับนักสู้ผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกทั้ง 2 ท่านนั้น! จากนั้นมา…ก็ไม่มีใครกล้าทำร้ายครอบครัวของนักสู้ในสำนักอีกต่อไป!

ทุกๆ ประเทศต่างก็ตั้งกฎห้ามพฤติกรรมฆ่ากันเองของบรรดานักสู้ แต่ทุกคนต่างรู้ว่าไม่มีใครสามารถควบคุมอะไรได้เมื่ออยู่ในแดนเถื่อน นักสู้ต่างก็ต้องต่อสู้บนเส้นความเป็นความตายอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อพวกเขาเคียดแค้นกัน ก็เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะฆ่ากัน ฉะนั้น การฆ่ากันระหว่างนักสู้…ทุกๆ องค์กรต่างก็ทำได้แค่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เว้นเสียแต่จะมีฝ่ายที่หาวีดีโอมาเป็นหลักฐานดำเนินการเอาผิดกับอีกฝ่ายได้

มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่ทางสำนักหรือรัฐบาลจะดำเนินการให้

ถ้าไม่มีหลักฐาน พวกเขาจะไม่สนใจเลย

แต่อย่างไรก็ตาม…ถ้าความแค้นระหว่างนักสู้ 2 คนเริ่มส่งผลกระทบกับครอบครัว พวกเขาก็จะดึงเอาพลังของทั้งโลกเข้าสู้ความขัดแย้งกัน!

“ไปที่เมืองหมายเลข 023 ดีกว่า”

หลัวเฟิงผละออกจากถนนใหญ่เพื่อเข้าสู้เมืองหมายเลข 023

ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อมาถึงเป้าหมายเสียที

เมืองหมายเลข 023 นี้คือเมืองที่ถูกเรียกว่า ‘เมืองซูโจว’ เมื่อครั้งก่อนยุคมหานิพพาน

“เมืองนี้ค่อนข้างใหญ่ เพราะงั้นน่าจะมีนักสู้ที่นี่จำนวนมาก เราไม่ต้องการดึงดูดความสนใจขณะที่อยู่ในเมืองนี้” หลัวเฟิงคิดในใจ

……….

คืนนั้น…

บนถนนหลวง เลือดมนุษย์สาดกระเซ็นติดเปื้อนข้างรถบัส ร่างของสมาชิกทั้ง 4 ของทีมสายฟ้ายังคงนอนนิ่งอยู่บนพื้น

10 วินาทีหลังจากที่เด็กหนุ่มลูกครึ่งนามหลี่เวยเสียชีวิต

ปี๊บ!

จุดใกล้ๆ กับหน้าอกชุดต่อสู้ของร่างหลี่เวยที่ไร้ศีรษะส่งสัญญาณออกไปทันที

นครเจียงหนาน เขตเมืองหลัก ในเขตเล็กๆ ‘เจียงหนานซานสุ่ย’ ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของนครเจียงหนานและอันดับ 2 จากทั้ง 6 เขตพิเศษของจีน

เขตเจียงหนานซานสุ่ย

ในพื้นที่เขตพิเศษของหัวเมืองใหญ่ส่วนมากจะอุดมไปด้วยภูเขาและลำธาร เมื่อครั้งเมืองถูกสร้างขึ้นครั้งแตก มีภูเขามากมายถูกรุกล้ำเข้าไปเพื่อสร้างพื้นที่รองรับพลเมืองจำนวนมหาศาล ภูเขาหลายแห่งถูกทลายลงและแทนที่ด้วยตึกสูง มีเพียงเขตนี้เท่านั้นซึ่งกินพื้นที่หลายตารางไมล์ ที่ยังคงมีภูเขาสวยงามตั้งอยู่ให้เห็น ทั้งยังมีน้ำตกและบึงน้ำจำลองที่สร้างโดยฝีมือมนุษย์อีกด้วย ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกข้าราชการตำแหน่งสูงๆ และคนร่ำรวยต่างปรารถนาที่จะได้มาอยู่อาศัยในเมืองนี้

ไม่สามารถมาอยู่ที่นี่ได้แค่เพราะมีเงิน หรือแม้แต่อำนาจก็ช่วยไม่ได้!

ในทั่วทั้งประเทศจีน มีถึง 6 หัวเมืองใหญ่!

ทั้ง 6 หัวเมือง เขตที่สวยงามเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งธรรมดา และเขตนี้ก็เป็นอันดับ 1 ของเจียงหนานและเป็นถึงอันดับ 2 ของประเทศ

เขตเจียงหนานซานสุ่ย บ้านหรูบนยอดเขาอันน่าตื่นตา…

แสงดาวในสายหมอกปกคลุมทั่วทั้งยอดเขา

ซ่า…

เสียงน้ำตกได้ยินมาแต่ไกล บนระเบียงของบ้านหรูบนยอดเขามีใครคนหนึ่งในชุดสีน้ำเงินหลวมๆ กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ ใบหน้าเย็นชาของเขาราวกับรูปสลักกินและแม้ว่าตาของเขาจะหลับอยู่ แต่รัศมีอันเย็นยะเยือกก็ยังแผ่ออกมาจากตัวเขาจนสังเกตเห็นได้

ทั้งร่างของเขาเย็นจับขั้วหัวใจ

เขาคือหนึ่งในนักสู้ผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลก เทพสงครามขั้นสูง ‘หลี่เย่า’ ผู้เป็นเจ้าของฉายา ‘อีแร้ง’ !

ปี๊บๆ!

เสียงสัญญาณดังขึ้นจากสิ่งหนึ่งซึ่งดูเหมือนนาฬิกาข้อมือ

“หือ?” หลี่เย่าลืมตาขึ้นทันใด ราวกับมีสายฟ้าสว่างวาบ

“อาเว่ย!” ใบหน้าอันเย็นชาราวกับรูปสลักหินของเขาพลันเปลี่ยนเป็นตกใจและเดือดดาลขึ้นในทันทีนั้น

“ติดต่อบอดี้การ์ดทั้ง 2 ของอาเว่ย” หลี่เย่าออกคำสั่งกับนาฬิกาอันนั้น นาฬิกาของเขาเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ขั้นสูงของทางพันธมิตรใต้ดิน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีวางขายในท้องตลาด

“บอดี้การ์ด 2 คนนั่นตายทั้งคู่แล้วเหรอ?” ดวงตาของเขาลุกจ้าขึ้นมาทันที

วูบ!

หลี่เย่ากลายเป็นเงาวูบขณะที่เขาพุ่งทะยานเข้าไปในชั้นที่ 3 ของบ้าน ชั้นที่ 3 นี้มีห้องเป็นสิบๆ ห้อง ในจำนวนนี้มีห้องหนึ่งเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ เงานั้นพุ่งเข้าไปและยืนอยู่ในห้องนั้น

“เปิดเครื่อง! เข้าโหมดค้นหานักสู้!”

ด้วยคำสั่งของหลี่เย่า อุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่ด้านข้างฝาผนังของห้องประชุมนั้นก็ฉายแสงขุ่นออกมา ส่องตรงมาที่ใจกลางห้องประชุมและกายเป็นภาพสามมิติ

“คุณหลี่เย่า”

สิ่งที่ปรากฏเป็นรูปสามมิติคือภาพของบุคคลคนหนึ่ง เขาเป็นชายสูงอายุในชุดสูทสีดำ ชายคนนั้นมองตรงมายังหลี่เย่า

อันที่จริง เมื่ออุปกรณ์ฉายภาพสามมิตินี้สร้างภาพขึ้น เครื่องมือนี้ก็จะบันทึกหลี่เย่าเอาไว้และจะฉายไปยังเป้าหมายอื่นที่อยู่ในห้องประชุม

“ยืนยันตำแหน่งของลูกชายฉัน หลี่เวย”

สิ่งที่เห็นได้บนใบหน้าของหลี่เย่าตอนนี้คือความรีบร้อน

“ค้นหาตำแหน่งของเทพสงครามในรัศมี 100 ไมล์ที่อยู่ใกล้เขา”

“ไม่มีเทพสงครามในรัศมี 100 ไมล์จากตำแหน่งของหลี่เวย” ชายชุดดำกล่าว

“เป็นไปได้ยังไง? นี่เพิ่งจะผ่านไปแค่ครึ่งนาทีเอง” สีหน้าของหลี่เย่ากังวลอย่างมาก

เครื่องที่ติดอยู่ตรงหน้าอกเสื้อเกราะของลูกชายของเขาจะส่งสัญญาณมาหลังจากหัวใจของลูกชายเขาหยุดเต้นไปแล้ว 10 วินาที จากนั้นกระทั่งหลี่เย่าเริ่มทำการค้นหา เวลายังไม่ถึง 30 วินาทีด้วยซ้ำ ต่อให้เป็นเทพสงครามที่วิ่งเร็วเหนือเสียงคือราวๆ 400 เมตรต่อวินาที ก็ยังไม่น่าพ้นรัศมี 30 ไมล์ แล้วทำไมถึงไม่เจออะไร?

สำหรับหลี่เย่าแล้ว มีเพียงเทพสงครามเท่านั้นที่สามารถสังหารบอดี้การ์ดทั้ง 2 ของลูกชายเขาได้ เพราะพวกเขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะรายงานมาบอก

“เกิดขึ้นได้ยังไง…”

หลี่เย่าไม่อาจลังเลต่อไปได้ เขาออกคำสั่งทันที “ค้นหาแม่ทัพขั้นสูงในรัศมี 100 ไมล์!”

“การค้นหาเทพสงครามเป็นสิทธิ์ประโยชน์ของสมาชิกปราสาทเทพสงคราม การค้นหาแม่ทัพ…จะเป็นสิทธิ์สมาชิกระดับ S ของพันธมิตรใต้ดิน” ชายชราชุดดำกล่าว

ที่จริงพันธมิตรใต้ดินมีวิธีการค้นหาตำแหน่งของนักรบและแม่ทัพทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม วิธีที่พันธมิตรใต้ดินใช้ค้นหาพวกเขาเหล่านั้นเป็นวิธีที่ค่อนข้างเป็นความลับ!

นาฬิกาสื่อสารทางเทคนิคที่ใช้กันอยู่มีความลับซ่อนอยู่

เนื่องจากนาฬิกาสื่อสารทางเทคนิคมีฟังก์ชั่นแตกต่างหลากหลาย เช่น การโอนเงิน การใช้ติดต่อสื่อสาร หรือเชื่อมต่อกับเลขรหัสประจำตัวเพื่อระบุตัวตน! ผ่านทางนาฬิกาสื่อสารนั่น พวกเขาสามารถระบุตำแหน่งของผู้ใดก็ได้ที่ใช้มันอยู่

แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่กล้าเปิดเผยเรื่องนี้! หากเปิดเผย เหล่านักสู้นับล้านจะต้องต่อต้านสินค้าของพวกเขาแน่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้สิทธิ์ขาดในการขายนาฬิกาสื่อสารก็ตามที แต่พวกเขาก็ไม่กล้าขัดใจผู้ใช้บริการได้ ดังนั้น…จึงมีเฉพาะสมาชิกระดับ S ของพันธมิตรใต้ดินเท่านั้นที่สามารถใช้ฟังก์ชั่นค้นหานักสู้ที่ต่ำกว่าระดับเทพสงครามได้

มีแค่สมาชิกของพันธมิตรใต้ดินที่สูงสุดจริงๆ จึงจะมีอำนาจพอ

และเทพสงครามขั้นสูง ‘หลี่เย่า’ ไม่มีอำนาจพอ

ตูมมม…! เสียงระเบิดดังสนั่นมาแต่ไกล

ทันทีนั้นเงาหนึ่งก็พุ่งทะยานเข้ามาในห้องประชุม หญิงผิวขาวผมบลอนด์คนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เพียงแต่ใบหน้าอันสวยละเอียดของเธอดูยุ่งเหยิงและชุดก็ขาดวิ่นจากการพุ่งทะยานมาด้วยความเร็วสูง…

ก่อนหน้านี้เธอกำลังอยู่ในงานเลี้ยงสังสรรค์ เหมือนกับหลี่เย่า เธอได้รับข่าวเรื่องลูกชายแล้ว

“เย่า!” ดวงตาของเธอแดงก่ำ

“ตอนนี้หาได้แล้วสินะ” หลี่เย่าจ้องเขม็งไปที่ชายชุดดำที่เป็นภาพสามมิติ แต่ทว่า ชายชุดดำนั้นกลับมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นที่เพิ่งเข้ามา

ผู้หญิงคนนี้เป็นน้องสาวแท้ๆ ของผู้นำตระกูลพอลลินัส หนึ่งใน 9 ตระกูลหลักของพันธมิตรใต้ดิน ในขณะเดียวกัน เธอก็เป็นเทพสงครามขั้นสูงด้วย…เวนิน่า พอลลินัส เจ้าของฉายา ‘แมงป่องพิษ’ เธอเป็นผู้อำนวยการเขตจีนของพันธมิตรใต้ดิน

ท่ามกลางสมาชิกพันธมิตรใต้ดินในจีน สถานะของเธอจัดอยู่ในอันดับ 3 ได้ ดังนั้นจึงถือว่าเป็นสมาชิกระดับ S

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!