Skip to content

Swallowed Star 944

ตอนที่ 944 : เกาะบัวฮิเนียล

ด้านในห้องควบคุมของยาน หลัวเฟิง และ ทรูหยัน ต่างก็มองไปยังอวกาศด้านนอก มีพลังที่รุนแรงเกิดขึ้นมา มันบดขยี้ทุกอย่างที่พวกมันสัมผัส ราวกับว่าพวกมันเป็นอสรพิษที่เลื้อยไปมาในหมู่ดวงดาว

“นี่คือเขตเทพอสูรบรรพกาลในตำนาน!” ทรูหยัน อึ้ง

“เขตเทพในตำนานเป็นที่ที่อันตรายที่สุดในจักรวาล” หลัวเฟิง พูดด้วยท่าทีแปลกใจ “มันมีขนาดเท่ากับ อาณาเขตของจักรวรรดิ และมีอันตรายอยู่ทั่วทุกที่ แม้แต่ อัศวินอวกาศ ก็ไม่อาจที่จะรอดไปได้”

มีระดับและพื้นที่ลับต่างๆ มากมาย หลัวเฟิง และ ทรูหยัน ต้องทำการสำรวจที่นี่เพราะพวกเขารู้ถึงตำแหน่งมาแล้ว พวกเขาเริ่มรู้ว่าดินแดนแห่งการสืบทอดนั้นอยู่ในเขตเทพอสูรบรรพกาล เพราะเป็นเขตอันตรายระดับสูงที่เต็มไปด้วยอันตรายมากมายที่สามารถฆ่า อัศวินอวกาศ ได้ ในบางเขตที่เสี่ยงนั้นแม้แต่ เจ้าแห่งจักรวาล ก็ต้องระวังตัว

เส้นผ่านศูนย์กลางของมันคือ 160 ล้านปีแสงและต้องใช้เวลา 200 ล้านปีแสงเพื่อที่จะเดินทางด้วยความเร็วแสงให้ได้ คนนั้นต้องเริ่มที่สำรวจจากไปจนทั่วทั้งเขตรึแม้แต่พื้นที่ที่น่าสงสัยต่างๆ และสิ่งเหล่านี้นั้นไม่มีใครกล้าที่จะทำ

“สิ่งที่ธรรมดาที่สุดในที่แห่งนี้คือวังวน ไฮฉาง” ทรูหยัน พูดขึ้น “แม้แต่น้ำวนเล็กก็สามารถทำให้ อัศวินอวกาศ บาดเจ็บได้และน้ำวนขนาดใหญ่นั้นสามารถฆ่าพวกเขาได้อย่างแน่นอน มี วังวน ไฮฉาง อยู่ด้านหน้าเราด้วย”

“ด้านหลังก็ยังมีเพิ่มอีก” หลัวเฟิง พูดขึ้น

ทรูหยัน หันกลับไปและพบน้ำวนที่มีความยาวกว่าพันล้านกิโลเมตรกำลังโคจรผ่านดวงดาว ถ้าน้ำวนที่อยู่ตรงหน้านั้นเหมือนกับอสรพิษ และอันที่อยู่ด้านหลังนั้นใหญ่กว่าหลายร้อยล้านเท่า

ทรูหยัน อึ้ง “วังวน ไฮฉาง อันนี้อยู่ขอบนอก มีแค่อันที่อยู่ขอบนอกเท่านั้นที่จะมีขนาดใหญ่”

“เรามาถึงแล้ว” หลัวเฟิง พูดขึ้นและพยักหน้า

ยานอวกาศลดความเร็วลงก่อนที่จะหยุด หลัวเฟิง และ ทรูหยัน ได้บินออกไป

ในหมู่ดาวนั้นมี วังวน ไฮฉาง ที่เข้าชนกัน หลัวเฟิง และ ทรูหยัน ยืนอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวและเริ่มมองหน้ากัน

“มันอยู่ไหนกัน?” หลัวเฟิง ถามพร้อมกับคิ้วขมวด “ข้ามองไม่เห็นดินแดนแห่งการสืบทอดเลย”

“รอก่อน” ทรูหยัน พูดขึ้น

ทันใดนั้นอวกาศก็บิดเบี้ยวและทำการดูดทั้งคู่เข้าไป

“วาร์ป?” หลัวเฟิง พูดขึ้น

หลัวเฟิง และ ทรูหยัน คิดแบบนั้นและทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น พวกเขายืนอยู่ที่อวกาศที่ว่างเปล่าแต่ฉากนั้นดูน่ากลัวแทบหายใจไม่ได้ แม่น้ำหลากสีที่ไหลวน การปะทุของพลังที่ลึกลับ หลัวเฟิง และ ทรูหยัน นั้นมีจิตใจที่แข็งแกร่งและรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นผิดปกติ

“เร็วดีนิ”

พวกเขาได้ยินเสียงอันเย็นชา

เมื่อหันกลับมาพวกเขาพบกับนักรบอมตะหินที่สูงถึง 8 ม. ยืนอยู่ เขาแต่งตัวด้วยเกราะไฟที่เป็นสีเขียวคล้ายกับมรกต

หลัวเฟิง และ ทรูหยัน ตระหนักได้ว่าเขาเป็นคนของเผ่าพันธุ์เฟ่ยชาน หนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่เป็นหิน

หลัวเฟิง และ ทรูหยัน ช็อก พวกเขาไม่รู้สึกถึงสิ่งอื่นๆ ที่นี่เลย

มันคือ อัศวินอวกาศ หลัวเฟิง คิด มีแค่ อัศวินอวกาศ ที่สามารถวาร์ปโดยไม่ให้เรารู้ตัวได้

แม้แต่ข้าเองก็สัมผัสไม่ได้ ทรูหยัน คิดและเขาก็แปลกใจ

“ข้าเป็นผู้นำทางของโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล” อัศวินพูดขึ้น “เอาเหรียญมาให้ข้า มนุษย์ ไม่งั้นเจ้าตาย”

หลัวเฟิง และ ทรูหยัน รู้สึกราวกับตกลงมาในกับดักไฟและ หลัวเฟิง รู้สึกราวกับเรือที่หลงในท้องทะเล

ผู้นำทางของโรงเรียน? เขาคิด

มันมีเทพ, สัตว์เทพอสูร, นายพลศักดิ์สิทธิ์และศาสดาภายในโรงเรียน

และศาสดานั้นคือผู้ที่อ่อนแอที่สุด พวกเขานั้นแข็งแกร่งเท่าๆ กับ อัศวินอวกาศ ที่อ่อนแอ แต่สิ่งมีชีวิตนี้ได้แผ่แรงที่ไม่อาจต่อต้านออกมา

อาจารย์ เขาคือนายพลรึเปล่า? หลัวเฟิง ถามในใจ

น่าจะ ทรูหยัน ตอบกลับ

“เหรียญนั้นหายาก” อัศวินพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “ไม่แปลกใจเลยว่ามนุษย์คือหนึ่งในหกของเผ่าพันธุ์ระดับสูง การส่งสองคนพร้อมกับเหรียญมาในทีเดียวนี้น่าประทับใจ มากับข้า”

อัศวินบินไปโดยมี หลัวเฟิง และ ทรูหยัน อยู่ข้างๆ

“เจ้าเห็นนั่นหรือไม่?” อัศวินชี้ไปยังแม่น้ำ หลากสี

ทั้งสองพยักหน้า

“เข้ามาดูใกล้ๆ” อัศวินวาร์ปพวกเขาไปที่ข้างแม่น้ำ

“นี่มัน…?” หลัวเฟิง กลั้นหายใจ

นี่มันไม่ใช่แม่น้ำ ในทางกลับกันมันประกอบด้วยแสงที่ต่างกันห้าสี เขาเห็นมันเป็นรูปร่างแม่น้ำ เมื่อมองจากไกลๆ ที่ซึ่งเขารู้สึกได้แค่สิ่งที่ไม่รู้จบเมื่อยืนอยู่ข้างมัน

“นี่คือทะเลสาบห้าสีงั้นหรอกรึ?” ทรูหยัน ถามออกมาและตื่นเต้นกับความคิดนี้

“เจ้ารู้บางอย่าง” อัศวินชม “ใช่ มันคือทะเลสาบห้าสี”

“ทะเลสาบ?” หลัวเฟิง อึ้งและพยายามมองไปที่ปลายแม่น้ำ

“แน่นอนว่ามันคือทะเลสาบ” อัศวินอธิบาย “เจ้าเห็นมันเป็นแม่น้ำ ก็เพราะจ้าน่ะยืนอยู่ระดับเดียวกับมันแต่ถ้าเจ้าบินไปด้านบนแล้วมองไปที่มัน เจ้าจะเห็นทะเลสาบ ทะเลสาบแห่งนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 ปีแสงและมีพลังไม่จำกัด แสงหนึ่งสามารถที่จะทำให้อัศวินจักรวาลบาดเจ็บได้และมันประกอบไปด้วยลำแสงนับไม่ถ้วน มันคือสมบัติล้ำค่าที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล”

ทั้ง หลัวเฟิง และ ทรูหยัน สับสน แค่เพียงแสงเดียวก็ทรงพลังขนาดนี้แล้วรึ?

“ทะเลสาบแห่งนี้คอยคุ้มกันสมบัติล้ำค่าของโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล” อัศวินพูดต่อ “ใครกันจะกล้าผ่านสมบัติล้ำค่าแบบนี้มา?”

“สมบัติล้ำค่าที่แข็งแกร่งที่สุด? คอยคุ้มกันสมบัติล้ำค่าอื่นๆ?” ทรูหยัน ถอนหายใจ

“ไม่แปลกใจเลยว่าโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาลถึงได้มีอำนาจมากที่สุดในจักรวาล” หลัวเฟิง นึกถึงหอคอยดวงดาวของเขา

มีแสงนับไม่ถ้วนที่ผิวของทะเลสาบและเมื่อรวมกันแล้วมันสามารถคุ้มกันสมบัติของโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาลได้ เกลียวของหอคอยดวงดาวซึ่งทำขึ้นมาจากผนึกดวงดาวเองก็ล้ำค่าเช่นกันและเมื่อรวมกันกับเสาสวรรค์แล้ว หอคอยแห่งดวงดาวก็เป็นหนึ่งสมบัติล้ำค่าที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลเช่นกันตามที่ อาจารย์ท่านผู้ยิ่งใหญ่บอกมา

“มันเป็นการเปิดมุมมองข้ากับการที่ได้เห็นทะเลสาบห้าสี” ทรูหยัน พูดขึ้น

“มันถือว่าโชคดีสำหรับเจ้าที่ได้ดูมองดูสมบัติล้ำค่าในตอนที่ระดับเท่านี้” อัศวินพูดขึ้นโดยมีท่าทีภูมิใจเล็กน้อย “มีสมบัติล้ำค่าอย่างอื่นของระดับนี้ หอคอยดวงดาว ของที่ไม่อาจจะเคลื่อนไหวโดยใครก็ได้และมีพลังอย่างมากซะจนในจักรวาลนั้นยังไม่รู้พลังที่แท้จริงของหอคอยดวงดาว”

“หอคอยดวงดาวเองก็เป็นหนึ่งในสมบัติล่ำค่าที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลอย่างงั้นรึ?” ทรูหยัน ช็อก

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ได้รู้ทุกอย่าง”

อัศวินส่ายหน้า “หอคอยดวงดาวนั้นคืออันหนึ่งที่เห็นได้ง่าย แต่ก็ยังเป็นสมบัติที่ลึกลับที่สุดในจักรวาล ไม่มีใครรู้ว่ามีความลับอะไร เบื้องหลังมันและไม่มีใครเอามันไปได้ มันตั้งอยู่ที่นั่นมาโดยตลอด”

“ข้าพูดจบแล้วและข้าจะพาเจ้าไปยัง เกาะบัวฮิเนียล” อัศวินพูดขึ้น จากนั้นเขาก็ทำการวาร์ป

******

หลัวเฟิง และ ทรูหยัน รู้สึกมึนงงเล็กน้อยก่อนที่จะไปที่ขอบทะเลสาบ พวกเขาห่างจากมันแค่ไม่กี่ร้อยเมตร แสงแต่ละอันนั้นยาวกว่า 10,000 กม. และพลังของมันก็ทำให้ทั้ง หลัวเฟิง และ ทรูหยัน ตัวสั่น

“เจ้าเห็นนั่นรึเปล่า?” อัศวินชี้ไปที่ส่วนลึกของทะเลสาบ “นั่นคือเกาะบัวฮิเนียล”

“อะไรกัน? อยู่ในทะเลสาบน่ะรึ?” พวกเขามองตามออกไป พวกเขาสามารถเห็นเกาะที่พร่ามัวได้ในแสงนั้น

“เข้ามา” อัศวินบินตรงเข้าไปข้างใน

“เข้าไป? ในแสงที่ทรงพลังแบบนี้น่ะรึ?” ทรูหยัน อดไม่ได้ที่จะถามออกมา

“สบายใจได้ นี่คือหนึ่งในสมบัติที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลและมันจะไม่ทำร้ายใครที่มันรู้จัก” อัศวินพูดขึ้น “เจ้าทั้งสองนั้นมีเหรียญและดังนั้นเจ้าทั้งสองจะไม่เป็นไร”

ทรูหยัน มองไปที่ หลัวเฟิง และพูดขึ้น “ศิษย์ข้า ข้าจะลองดูก่อน”

และจากนั้นเขาก็ใช้มือของเขาจับแสงเอาไว้ แสงนั้นวนรอบมือเขาราวกับน้ำ โดยที่ไม่โจมตีเขาเลย

อัศวินไม่ได้พูดอะไรเมื่อเห็นแบบนั้น เขาเห็นคนที่ระมัดระวังแบบนี้มาแล้ว

“ไปกันเถอะ” ทรูหยัน พูดขึ้น

“ได้ อาจารย์” หลัวเฟิง พูดขึ้นและเดินตามเข้าไป

พวกเขารู้สึกราวกับเดินอยู่ในทะเลสาบจริงๆ และแสงมากมายได้รายล้อมร่างกายพวกเขา เกาะนั้นเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในตอนที่พวกเขาเดินเข้าไป

”นี่คือ เกาะบัวฮิเนียล ที่ซึ่งศิษย์สัตว์เทพอสูรพำนักอยู่” อัศวินพูดขึ้นก่อนจะไปที่เกาะ “และนี่คือขอบของทะเลสาบ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!