Skip to content

Swallowed Star 956

ตอนที่ 956 : ความแข็งแกร่งของหลัวเฟิง

“ใครจะเริ่มก่อน?” หลัวเฟิง ถามและมองสามคนตรงหน้า

“ข้าอ่อนแอกว่า ชาแมน และ ลีลี เล็กน้อย” คาซานริน พูดขึ้น “ข้าขอเริ่มก่อนเป็นไง? ดาบสายน้ำ ถ้าเจ้าสู้กับพวกเขาก่อน เจ้าอาจจะแพ้หมดรูปก็ได้”

ทั้ง ชาแมน และ ลีลี ต่างก็มองไปที่ หลัวเฟิง รอคอยให้เขาเลือก

“ถ้าเจ้าอยากจะสู้ เอาคนที่แข็งแกร่งที่สุดมา” หลัวเฟิง พูดขึ้น

“ดี” คาซานริน พูด

ชาแมน และ ลีลี มองหน้ากัน จากนั้นโลกก็เต็มไปด้วยเสียงของ ชาแมน

“ลีลี และ ข้านั้นโดยพื้นฐานแล้วอยู่ระดับเดียวกัน” เขาพูดขึ้น “ข้าสู้ก่อนได้แต่ ดาบสายน้ำ…อย่าประทาทเราเพราะเราไม่โดด

เด่น มีแค่จักรพรรดิระดับสัตว์เทพอสูร สองสามคนเท่านั้นในหมู่มนุษย์ที่แข็งแกร่งกว่าเรา ผู้มาใหม่อย่างเจ็ดดาบ ยังอ่อนแอกว่าเรา”

“ข้ามั่นใจว่าจะไม่ประมาทเจ้า” หลัวเฟิง พูด

เขารู้ดีว่าในบรรดามนุษย์ หลายคนนั้นทำตัวไม่เด่น แม้ว่าจะติดอยู่ในขั้นสุดท้ายมานานแต่บางคนก็มีความแข็งแกร่งมหาศาล ในทางกลับกันผู้มาใหม่อย่าง เจ็ดดาบ อาจจะสนุกกับชื่อเสียงที่ได้มา แต่ถ้าพวกเขาไม่อาจยกระดับไปได้ใน 100 ล้านยุค พวกเขาก็จะจางหายไปเองในอนาคต นั่นคือความโหดร้ายของเวลา

******

ที่กลางอากาศ หลัวเฟิง และ ชาแมน เผชิญหน้ากัน

“ปรับตัวให้คุ้นกับร่างอมตะของเจ้า” ชาแมน พูดขึ้น “ให้ข้าเตือนเจ้าว่าเราจะสู้กันในโลกเสมือน ดังนั้นทันทีที่การต่อสู้เริ่มแล้ว เราจะเผาไหม้ร่างอมตะของตัวเองและสู้กันอย่างดุเดือด อย่าฝืนใจในการเผาร่างอมตะของเจ้าเพราะเจ้าไม่อยู่ในความเป็นจริง”

“อืม” หลัวเฟิง พูด เขารู้สึกถึงร่างอมตะเสมือนของตัวเอง

ตูม!

พลังเอ่อล้นร่างกายของเขา ทุกเซลล์นั้นมีพลังอมตะที่ไม่อาจจะเทียบได้ หลัวเฟิง สามารถทำได้หากเขาเต็มใจที่จะเลื่อนเป็นระดับอมตะนี้ทันทีได้ แม้ว่าร่างอมตะของเขาจะแตกเป็นชิ้นๆ แต่เขาก็สามารถฟื้นฟูมันได้ในเสี้ยวพริบตา ความมั่นใจของเขาในการควบคุมนั้นแข็งแกร่งกว่าตอนที่เขาเป็น ระดับห้วงมิติ มาก นี่คือร่างอมตะที่แข็งแกร่งกว่า ระดับห้วงมิติ นั้นเป็นแสนเท่า!

“มีทั้งข้อดีและข้อเสีย” หลัวเฟิง พูดขึ้นพร้อมปรับตัวให้กับร่างอมตะนี้ “ในชีวิตจริง แม้ว่าจะมีวิญญาณนายพลคอยช่วย แต่ด้วยพลังวิญญาณที่เท่ากับจักรพรรดิระดับต่ำ ต้องขอบคุณพลังจิตของข้าที่เหนือกว่าอัศวินอวกาศส่วนมาก ข้าสามารถเป็นคู่ปรับของจักรพรรดิชั้นสูงสุดได้แต่ตอนนี้หากไม่มีวิญญาณนายพลข้าก็มาถึงระดับจักรพรรดิสูงสุดได้ด้วยแรงของร่างอมตะ รวมกับพลังความคิดของข้าและการรับรู้ ข้าจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม”

ระหว่างช่วง ระดับห้วงมิติ แรงพื้นฐานนั้นรวมกับแรงวิญญาณ กลายเป็นแรงของโลก ระหว่างช่วงอมตะ พวกมันจะกลายเป็นพลังอมตะ ตอนนี้ด้วยพลังอมตะ เขาสามารถที่จะโจมตีทางวิญญาณได้

“ก่อนหน้านี้ในโลกจริง” หลัวเฟิง พึมพำ “ความแข็งแกร่งของโลกที่ข้ามีนั้นอ่อนแอเกินไป วิญญาณของข้าเทียบไม่ได้กับวิญญาณนายพล แม้ว่าหลังจากที่การขายวิญญาณของข้าใช้เทคนิคที่ได้ข้าได้มาจากบันทึกปีศาจ ก็ตามแต่ตอนนี้…พลังอมตะของข้าได้ขยายขึ้นมาอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง”

จากด้านของพลังอมตะและการขยาย หลัวเฟิง ได้พัฒนาขึ้นอย่างมากแต่มันก็มีจุดอ่อน สมบัติชั้นสูง แผนที่ดวงดาวนั้นหายไป พลังของแผนที่ดวงดาวนั้นช่วยให้ หลัวเฟิง ยกระดับขึ้นมาถึง 2 หรือ 3 ระดับ

“อาวุธ”

ในตอนที่เขาพลิกฝ่ามือก็ได้มีลูกบอลสีทองโปร่งแสงที่เต็มไปด้วยรอยสลักอันลึกลับซึ่งดึงพลังเทคนิคของ หลัวเฟิง ออกมาได้มากที่สุดได้เริ่มลอยเหนือมือของเขา อาวุธจิตวิญญาณธรรมดาพวกนี้ หลัวเฟิง ได้ทำมันขึ้นมาจากจักรวาลเสมือน ยังไงซะก็มีแค่อาวุธธรรมดาที่สามารถใช้ได้ระหว่างการต่อสู้ในโลกแห่งเกียรติ

“เจ้าชินกับมันรึยัง?” ชาแมน ถาม

หลัวเฟิง หัวเราะ

“ชาแมน” เขาพูดขึ้น “เจ้าต้องทุ่มเทที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ที่น่าอับอาย”

ด้วยเสียงระเบิดที่ดังขึ้น ลมหายใจของ หลัวเฟิง เข้มข้นขึ้นมา ทุกเซลล์ของเขาเริ่มที่จะเผาไหม้อย่างสมบูรณ์และความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นพันเท่าในเสี้ยววินาที

“เจ้าบ่มเพาะมานานแค่ไหนกัน?” ชาแมน ถาม “แนะนำอย่างเป็นมิตรเล็กน้อย อย่ามาปั่นหัวคนเก่าแก่อย่างเรา ข้าจะเอาชนะเจ้าในสามท่า”

กรงเล็บใบมีดขนาดใหญ่อันแหลมคมสองอันปรากฏขึ้นมาที่หมัดของ ชาแมน

ฟริ้ง

ลูกบอลทองคำ 600 อันลอยขึ้นมาในตอนที่ หลัวเฟิง พลิกมือ

“ผู้อ่านวิญญาณ?” ชาแมน พูดขึ้น เขาคิ้วขมวดเล็กน้อยและมองไปยังหลัวเฟิง ด้วยท่าทีสับสน ก่อนที่จะมายังดินแดนแห่งการสืบทอด ผู้อ่านวิญญาณน่าจะได้ฟังที่เผ่าพันธุ์พูดแล้วว่าพวกเขาจะเสียเปรียบหาเลือกเส้นทางสัตว์เทพอสูร ทำไม ดาบสายน้ำ ถึงยังเป็นผู้อ่านวิญญาณ?

หลัวเฟิง โยนลูกบอลนั้นออกไปสุ่มๆ รูปแบบอันซับซ้อนบนลูกบอลทั้ง 600 อันและด้วยพลังอมตะที่เปิดใช้พลังกฎรวม ทันใดนั้นสัตว์เทพอสูรขนาดใหญ่ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาในอากาศ

เนื่องจากท่านี้นั้นถูกปล่อยออกมาโดยพลังอมตะ สัตว์เทพอสูรนี้จึงดูสมจริงมากกว่าเดิม จริงมากซะจนเกล็ดที่หางของมันนั้นยังมีพลังไร้ขีดจำกัด

“ฮึ่ม!” ชาแมน ฮึดฮัดออกมา

ตูม!

ชาแมน เปลี่ยนร่างเป็นสัตว์เทพอสูรรูปร่างมนุษย์ที่มีไหล่หนาปกคลุมไปด้วยเกราะเกล็ด ด้านหลังเขานั้นมีสัตว์เทพอสูรที่กึ่งล่องหนโผล่ออกมา ตาของเขานั้นดูบ้าคลั่ง มนุษย์ผู้นี้ค่อนข้างธรรมดาในตอนแรกแต่อยู่ๆ ก็ดูบ้าคลั่งขึ้นมา

ชาแมน กลายเป็นลำแสงและพุ่งเข้าหา หลัวเฟิง

******

คาซานริน และ ลีลี มองดูอย่างสนใจจากไกลๆ

“ดาบสายน้ำ นี้น่าประทับใจจริงๆ” คาซานริน พูดขึ้นอย่างแปลกใจ “จากตำแหน่งที่เสียเปรียบเล็กน้อย เขาได้ชินกับรูปแบบการต่อสู้ของ ชาแมนในเวลาไม่นาน พวกเขาต่างก็สูสีกัน”

“เดี๋ยวก่อน” ลีลี พูดออกมาเบาๆ “ชาแมน คิดว่า ดาบสายน้ำ นั้นอ่อนแอด้านเทคนิคเพราะระยะเวลาการบ่มเพาะที่สั้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม ชาแมน ถึงไม่ได้ใช้เทคนิคลับที่ทรงพลังที่สุดมาตั้งแต่แรก ดูนั่นสิ ดาบสายน้ำ กำลังแพ้ไม่ใช่รึไง? ฮึ่ม ร่างอมตะของพวกเขานั้นอยู่ในระดับเดียวกันแล้ว มันขึ้นอยู่กับการเข้าใจกฎ เทคนิคลับ พลังอมตะ ประสบการณ์และอื่นๆ ชาแมน นั้นสมบูรณ์แบบในด้านพวกนี้ เทคนิคลับของเขานั้นคือเทคนิคชั้นสูงและพลังอมตะของเขาก็ได้รับสืบทอดมาจากบันทึกปีศาจ”

เทคนิคชั้นสูงนั้นไม่ธรรมดา อัศวินอวกาศเกือบทุกคนสามารถสร้างเทคนิคชั้นสูงขึ้นมาได้ พวกอัจฉริยะที่โดดเด่นซึ่งมีแววว่าจะเป็นอัศวินอวกาศแน่นอนว่าต้องมีความต้องการที่เคร่งครัดของตัวเอง เมื่อไม่สามารถฝ่าระดับขึ้นมาได้อยู่นาน อัจฉริยะเหล่านั้นจะทุ่มเทในการสร้างเทคนิคชั้นสูง ภายใต้การแนะนำ ของอาจารย์ที่ดี ผู้มีพรสวรรค์หลายคนจากเผ่าพันธุ์ชั้นสูงจะสร้างเทคนิคชั้นสูงขึ้นมา หลัวเฟิง ได้รับคำชมในเรื่องนี้เพราะเขาใช้เวลาเพียงไม่นานในการสร้างเทคนิคชั้นสูงขึ้นมา

“มันไม่ได้แย่สำหรับ ดาบสายน้ำ ที่จะเท่าเทียมกับ ชาแมน ใครกันที่…” ลีลี อึ้งไป “อะไรกัน?”

คาซานริน เองก็พูดติดอ่างไป “ดาบสายน้ำ เขา”

แต่เขาพูดไม่ทันจบก็เกิดเรื่องน่าแปลกใจ พลังงานของ ดาบสายน้ำ อยู่ๆ ก็ได้ระเบิดออกมา ก่อนหน้านี้ทั้งสองฝั่งนั้นสูสีกันแต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของ ดาบสายน้ำ นั้นดูเหมือนจะปะทุขึ้นเหนือ ชาแมน ไปทันที

******

ในอากาศ

ด้วยสายตาที่ลุกไหม้อย่างบ้าคลั่ง หลัวเฟิง ได้เพิ่มพลังความคิดของเขาไปเต็มที่ทันที

“เจ้าต้องแพ้” เขาพูดขึ้น

ตูม!

เสียงระเบิดดังก้องจนทั้งมิติสั่น หางของสัตว์เทพอสูรขนาดยักษ์นั้นปัดผ่านออกมาจากมิติและเวลาเหมือนกับเครื่องกลิ้ง หางนั้นทั้งน่ากลังและรุนแรง

ปัง!

สัตว์เทพอสูรรูปร่างมนุษย์ของ ชาแมน นั้นต้านทานการฟาดของหางเอาไว้ด้วยกรงเล็บทั้งสอง

ปัง!

เขาโดนฟาดอย่างแรงจนร่างอมตะนั้นเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว

“ยอมรับความพ่ายแพ้ซะ!” หลัวเฟิง สั่งออกมา

เมื่อได้เปรียบ หลัวเฟิง ก็ได้โจมตี ชาแมน ซ้ำๆ จนกระทั่งร่างอมตะของอีกฝ่ายนั้นหายไปทั้งหมด หลัวเฟิง ชนะ!

หลัวเฟิง ที่ยืนอยู่กลางอากาศนั้นมองไปยังสีหน้าทึ่งของ คาซานริน และ ลีลี ที่อยู่ไกลออกไป ในตอนที่ทึ่งนั้น เขาพึมพำ กับตัวเอง “ข้าไม่เชื่อว่าข้าถูกกดดันต้องใช้เทคนิคชั้นสูงของตัวเองมา เทียบกับพวกนี้แล้วข้ายังมีข้อได้เปรียบเรื่องการเข้าใจของพลังสัตว์เทพอสูร!”

ในตอนที่ศิษย์คนอื่นๆ ต่างก็สร้างเทคนิคชั้นสูงของตนโดยใช้การเข้าใจกฎ หลัวเฟิง ก็เร่งเรื่องการเข้าใจพลังของสัตว์เทพอสูร ในด้านของการเข้าใจเรื่องกฎรวม หลัวเฟิง อยู่ระดับกลางของขั้นสามแต่การเข้าใจพลังของสัตว์เทพอสูรของเขานั้นเหนือกว่าขั้นสามไปแล้ว มันถึงจุดเริ่มต้นของขั้นสี่!

ยังไงซะการเข้าใจพลังของสัตว์เทพอสูรของ หลัวเฟิง ตอนนี้ก็เกือบถึงระดับ 21 ของสะพานสวรรค์แล้ว ดังนั้น หลัวเฟิง จึงได้เปรียบด้วยการเข้าใจสัตว์เทพอสูร!

นอกจากนี้แล้วพลังขยายวิญญาณของเขาเองก็แข็งแกร่งอย่างมากและไม่อาจจะหมดไปง่ายๆ

หลัวเฟิง ก็ยังอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ตอนเริ่มต้นสู้ ก่อนที่พลังจิตวิญญาณของเขาจะปะทุออกมาได้หมด เขาเสียเปรียบเล็กน้อย สุดท้ายแล้วพลังจิตวิญญาณของเขาซึ่งเหนือกว่าอัศวินอวกาศก็ได้ระเบิดออกมา

ถ้าเขาเป็นแค่นักสู้ ข้อดีของพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งนี้จะไม่ชัดเจน

แต่มันเปลี่ยนไปเมื่อเป็นผู้อ่านจิตวิญญาณ

พลังจิตวิญญาณคือผู้สั่งการ การรับรู้นั้นคือนายพลและแรงจิตวิญญาณนี้คือทหาร

ความแข็งแกร่งของพลังจิตวิญญาณหลัวเฟิง นั้นทำให้ความสามารถในการควบคุมอาวุธจิตวิญญาณได้พัฒนาขึ้นมาสองระดับเปลี่ยนเขาให้ได้เปรียบ ชาแมน อย่างสมบูรณ์

ชาแมน บินเข้ามามองไปที่ หลัวเฟิง ด้วยท่าทีเหลือเชื่อ “ข้าแพ้ ดาบสายน้ำ เจ้า…?”

“ข้ายอมรับว่าแพ้ด้วย” ลีลี พูดขึ้น “ไม่จำเป็นต้องแข่ง”

ลีลี ถอนหายใจออกมาพร้อมส่ายหน้า “ดาบสายน้ำ เจ้านี่สมกับชื่อเสียงจริงๆ เราน่ะคิดว่าเป็นเพราะสมบัติของเจ้าที่ทำให้เจ้าแข็งแกร่ง…”

ทั้งสองต่างก็รู้สึกขมขื่น เพราะการทำตัวไม่สะดุดตาของทั้งคู่ ทั้งคู่จึงค่อนข้างมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง สำหรับอันดับแล้วพวกเขาอยู่ในระดับกลางของดินแดนสืบทอด ที่ที่มีผู้มีพรสวรรค์มากมาย มันชัดแล้วว่ายากมากที่จะพัฒนาขึ้นมาได้เมื่อไปถึงระดับหนึ่ง ในด้านของพลังจิตวิญญาณ การรับรู้ เทคนิคลับและพลังอมตะ พวกเขาต่างก็เกือบอยู่ในระดับสมบูรณ์แบบ

แต่พวกเขาก็ยังแพ้ให้ หลัวเฟิง ชนะไปได้อย่างราบคาบ

‘มันเกิดขึ้นได้เพราะข้อได้เปรียบสองอย่าง พลังจิตวิญญาณของข้า และการเข้าใจพลังของสัตว์เทพอสูร ที่ทำให้ข้าเอาชนะ ชาแมน มาได้’ หลัวเฟิง คิดกับตัวเอง

******

บน เกาะบัวฮิเนียล ที่ห่างไกล แก่นของดินแดนของโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล ศิษย์ที่ส่งคำท้าให้กับ หลัวเฟิง ต่างก็จับกลุ่มคุยกัน ไม่นานพวกเขาก็รับคำตอบรับ

“ดาบสายน้ำ เป็นแค่ ระดับห้วงมิติ” คนหนึ่งพูดขึ้นมา “ในโลกเสมือน เขาต้องทิ้งสมบัติทุกอย่างที่เขามีในโลกจริงและพึ่งความ

แข็งแกร่งของตัวเองในการสู้ ฮึ่ม ซูชอง ก็ยังแข็งแกร่งมาก่อนไม่ใช่รึไง?”

“เดาว่ามีคำท้านับแสนที่ถูกส่งไปให้เขา” อีกคนตอบกลับ

“เขาจะกล้ารีบกี่อัน?”

“ฮ่า ฮ่า…”

“เอ่อ เขารับของข้า”

“อะไรนะ? เขารับงั้นรึ? เจ้าโชคดีจริงๆ บางทีเขาอาจจะเลือกสู้กับคนที่อ่อนแอที่สุด ฮ่า ฮ่า แต่ก็แล้วแต่! เขารับของข้าด้วย”

“ข้าเองก็ได้รับการตอบรับจากเขา เขาตกลงจะสู้”

ในลานเปิดของโลกแห่งเกียรติ คนจำนวนมากจากเผ่าอื่นๆ ต่างก็เปิดหนังสือสีดำ ของตัวเอง ทุกคนต่างก็ได้รับคำตอบรับการท้า!

“การท้าของข้าถูกยอมรับแล้ว” พวกเขาพากันพูดทีละคน

“ข้าเองก็ด้วย”

“ดาบสายน้ำ ตกลงที่จะสู้!”

ไม่นานก็เริ่มมีการพูดคุยกันทั่วทุกที่ของลาน ศิษย์นับล้านเผ่าพันธุ์ของจักรวาลต่างก็ต้องตะลึงอย่างมาก

“เขารับคำท้ากี่อันกัน? บางทีอาจจะหมื่นก็ได้!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!