ตอนที่ 958 : Win! Win! Win!
งูนั้นค่อยๆ โผล่ตัวขึ้นมาจากทะเลทราย สายตาอันเย็นชาได้มองมาที่หลัวเฟิง จากไกลๆ และส่งเสียงที่เหมือนกับแก้วแตกออกมา
“ดาบสายน้ำ!” มันร้องขึ้นมา “เจ้ามีคะแนนเกียรติกี่คะแนน? เจ้ากล้าที่จะพนันกับข้าหรือไม่?”
เสียงที่แผ่ออกมานั้นเหมือนกับคลื่นกระแทกที่เป่าทรายให้กระเด็นออกไป
“เจ้าควรที่จะรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นคู่ต่อสู้คนแรกของข้าในโลกแห่งเกียรติ” หลัวเฟิง พูดขึ้นพร้อมกับยิ้ม
งูฮึดฮัดตอบ “คนแรกของเจ้ารึ? ฮ่า ฮ่า! น่าพอใจมาก คะแนนสามคะแนน เจ้ากล้าหรือไม่?”
“ข้าเลือกคะแนนเดียวกับคู่ต่อสู้แต่ละคน” หลัวเฟิง พูดขึ้น
หลัวเฟิง นั้นกล้าแต่เขาไม่ได้โง่ ตัดสินจากการต่อสู้กับ ชาแมน แล้ว เขาเดาว่าเขาสามารถเป็นหนึ่งในคนฝีมือดีของผู้ที่อยู่ในระดับสามได้ด้วยความเข้าใจพลังสัตว์เทพอสูรและพลังจิตที่แข็งแกร่งของเขา แต่หากเขาเดินพันสูงเกินไปและเสียมันไปทั้งหมดตั้งแต่แรก เขาคงไม่อาจที่จะสู้กับคนอื่นๆ ได้
ยังไงซะเขาก็รับคำท้าทายถึง 620,000 อัน การเดิมพันแต่ละครั้งด้วยคะแนนเดียวนี้ถือว่าเพียงพอ
“คะแนนเดียว? ฮ่ะ! ที่ข้าต้องการคือชนะเจ้าและเอาคะแนนของเจ้าทั้งหมดเพื่อไม่ให้คนอื่นสามารถสู้กับเจ้าได้อีก” งูพูดขึ้นด้วยท่าทีไม่พอใจ “จากนั้นเกาะแห่งนี้จะรู้ว่า ดาบสายน้ำ นั้นพ่ายแพ้ให้กับข้า ราชา เซอเคอร์”
หลัวเฟิง หัวเราะ “เลิกไร้สาระ เจ้าก็แค่ตัวอุ่นเครื่องของข้า มาสู้กัน”
“บัดซบ!”
งูนั้นพุ่งตัวขึ้นบนฟ้าจนทำให้ทะเลทรายนั้นสั่นสะเทือน
“ดีมาก” หลัวเฟิง ชื่นชม
ตูม!
หลัวเฟิง ตาเป็นประกายขึ้นมา ลมหายใจเขาเริ่มเฉียบคมขึ้นและเผาร่างอมตะของเขา ปีกเกล็ดของเขาเริ่มกระจายออก เขาเปลี่ยนเป็นลำแสงและบินขึ้นด้านบน เขาได้ทำการสะบัดมือซ้ายของเขาอย่างรุนแรง พร้อมกับลูกบอลสีทองทั้ง 600 ลูกได้กระจายไปทั่วท้องฟ้า ภายในโลกแห่งเกียรตินี้ลูกบอลทั้ง 600 ลูก นั้นทำมาจากวัสดุธรรมดาที่ผู้อ่านจิตวิญญาณระดับจักรพรรดิขั้นสูงสามารถใช้ในการสร้างอาวุธขึ้นมา
ในตอนที่สัตว์เทพอสูรได้คำรามและ ราชา เซอเคอร์ กรีดร้อง การต่อสู้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
แค่ไม่กี่วินาทีต่อมา หลังจากที่เคลื่อนไหวไปหลายสิบท่า ร่างอมตะของราชา เซอเคอร์ ก็ถูกจัดการ
“ไม่…!” ราชา เซอเคอร์ คร่ำครวญออกมา
ตาอันเย็นชาของมันนั้นเริ่มหมองลงเพราะความหงุดหงิด มันไม่ยอมรับว่าพ่ายแพ้ให้กับ ระดับห้วงมิติ โดยเฉพาะอยู่การที่ทั้งคู่สู้กันด้วยร่างอมตะ จากนั้นร่างของมันก็เริ่มพร่ามัวจนหายไป ชัดแล้วว่ามันถูกบีบออกโลกแห่งการต่อสู้ หลัวเฟิง ถูกย้ายไปยังสนามต่อสู้แห่งที่สองต่อทันที
ช่วงระหว่างการต่อสู้ทั้งสอง หลัวเฟิง ได้มองไปยังหนังสือสีดำ ของเขา มันมีคะแนนเกียรติเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคะแนนขึ้นมา
“4 คะแนน” เขาพูดขึ้น “คู่ต่อสู้คนแรกที่ข้าเลือกนั้นอยู่แค่ระดับกลางในระดับ 3 ของการสืบทอด มันอ่อนแอกว่า ชาแมน”
หลัวเฟิง เอาชนะคู่ต่อสู้ได้โดยยังไม่ถึงขีดจำกัดของตัวเอง
เขายืนอยู่ในทะเลทราย เมื่อมองไปยังคู่ต่อสู้คนที่สองที่อยู่ไกลๆ หลัวเฟิง ก็ได้ยิ้มออกมา “ผู้เอาคะแนนมาให้ข้าอีกคนมาแล้ว”
*******
การต่อสู้ดำเนินต่อไป
ลานเปิดของโลกแห่งเกียรติได้เปลี่ยนเป็นห้องประชุม ตอนนั้นมีศิษย์อย่างน้อย 100 ล้านคนรวมไปถึง เจ็ดดาบ ที่ทำการเชื่อมต่อมายังโลกแห่งเกียรติเมื่อพวกเขารู้ว่า ดาบสายน้ำ นั้นทำการต่อสู้โดยไม่หยุดพัก
“อะไรกัน?” หนึ่งในนั้นพูดกับคนที่พ่ายแพ้มา “เจ้าแพ้ให้กับ ดาบสายน้ำ งั้นรึ? ระดับห้วงมิติ? เขาไม่มีสมบัติที่จะใช้ในโลกต่อสู้แต่เจ้าก็ยังแพ้งั้นรึ?”
“ฮ่า ฮ่า! ช่างเป็นการแพ้ที่ไร้ค่า!” อีกคนพูดขึ้นมา “ข้าหวังว่า ดาบสายน้ำ นั้นจะยังไม่เสียคะแนนไปทั้งหมด รอดูถึงทีข้าสู้กับเขาก่อนเถอะ”
ตอนแรกทั้งสามคนที่แพ้นั้นได้กลายเป็นตัวตลกของฝ่ายตัวเอง แม้ว่าศิษย์คนที่เหลือนั้นจะฮึดฮัดแต่พวกเขาเองก็ระวังตัวเพราะพวกเขาต่างก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย
เนื่องจากลานเปิดนั้นมีขนาดใหญ่พอที่ศิษย์นับ 100 ล้านคนจะมารวมตัวกัน ศิษย์มากมายจึงเริ่มจับกลุ่มกันเป็นร้อยหรือพัน ข่าวที่ว่าสามคนแรกได้แพ้ติดต่อกันนั้นเป็นที่พูดถึงกันอย่างรวดเร็วในฝ่ายพวกเขา แต่ หลัวเฟิง นั้นก็ยังคงทำการต่อสู้อย่างรวดเร็ว เพราะร่างอมตะของเขาจะได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอย่างเต็มที่เมื่อจบการต่อสู้แต่ละครั้ง เขาไม่จำเป็นต้องพักเลยสักนิด
ไม่นานเขาก็ได้ทำการสู้ไปถึง 1,000 ครั้ง!
หลังจากนั้นประมาณ 11 ชม. หลัวเฟิง ก็ได้หยุดและตัดสินใจที่จะพักผ่อน
ใช้เวลา 11 ชม.ในการสู้ 1,000 ครั้ง หลัวเฟิง คิด เวลาที่ใช้ในการต่อสู้แต่ละครั้งนั้นเฉลี่ยแล้วไม่ถึง 10 วินาที การโจมตีเปิดฉากและการพูดคุยนั้นกินเวลาสิ้นเปลืองไปมาก
ปกติแล้ว หลัวเฟิง ไม่คิดจะพูดไร้สาระอะไรมากนักยกเว้นแค่ ‘เอาคะแนนเจ้ามาให้ข้า!’
‘รึ’
‘ตาย!’
หรือ ‘อย่าปล่อยให้ข้ารอ!’
******
เกาะบัวฮิเนียล ที่หน้าวังของ หลัวเฟิง
“ดาบสายน้ำ” เสียงหนึ่งพูดขึ้นมาจากด้านนอก
“ดาบสายน้ำ!” อีกเสียงพูดขึ้นมาก
หลังจากสู้มานับพันครั้ง หลัวเฟิง ได้ออกจากโลกแห่งเกียรติเป็นการชั่วคราว เขากำลังพักผ่อนอยู่ตอนที่ได้ยินเสียงทั้งสอง เขารู้ว่าเสียงนี้เป็นของ คาซานริน และ ชาแมน
หลัวเฟิง ลุกขึ้นยืนและเดินออกจากห้องก่อนจะไปถึงที่ประตูวังแล้วเปิดประตูออก มันคือ ชาแมน คาซานริน และมนุษย์อีกคนที่ยืนอยู่ด้านนอก
“เจ็ดดาบ?” หลัวเฟิง พูดขึ้นด้วยท่าทีช็อก
หลัวเฟิง มองไปยังผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยความตะลึง เขาเคยเจอกับ เจ็ดดาบ ที่หอคอยดวงดาวมาก่อน
นี่เป็นครั้งแรกที่ เจ็ดดาบ นั้นสนใจ ดาบสายน้ำ ผู้ที่ทำให้ทั้งจักรวาลต้องทึ่ง มองดูแต่แรก ดาบสายน้ำ นั้นธรรมดาอย่างมากแต่หากมองเข้าไปในดวงตา พวกเขาจะรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งมหาศาล ความแข็งแกร่งนี้คือความมั่นใจที่เกิดขึ้นโดยพลังจิตที่มากล้นซึ่งบ่งบอกได้ว่า หลัวเฟิง นั้นสบายใจอย่างมาก หลังจากที่หมาป่านภาได้เปิดเผยตัวตนของเขาออกไป หลัวเฟิง ก็รู้สึกโล่งใจและเขาก็ได้หยุดการปิดบังตัวตน เขาไม่มีความกลัวและพร้อมจะเผชิญหน้ากับอุปสรรคทุกอย่าง
ทองแท้ไม่กลัวไฟ!
และใบมีดนั้นจะคมขึ้นมาหลังจากที่ลับ!
“เจ็ดดาบ เราเจอกันเป็นครั้งที่สองแล้ว!” หลัวเฟิง พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก
“ดาบสายน้ำ” เจ็ดดาบ พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “ข้าไม่ทันเห็นเจ้าครั้งที่แล้วเพราะข้าสนแต่ผนึกดวงดาว ตอนนี้ข้ามาพบกับ ดาบสายน้ำ ในตำนาน ข้าสงสัยว่าข้าจะได้รับการต้อนรับหรือไม่”
“แน่นอน” หลัวเฟิง ยิ้มและถอยไปด้านข้าง “เข้ามาก่อน แขกทั้งสามของข้า”
“ฮ่า ฮ่า! ข้าได้ยินมาว่า ดาบสายน้ำ นั้นใจกว้างกับเพื่อนอย่างมาก” คาซานริน พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
ชาแมน นั้นยังคงรักษาความเยือกเย็นของตนเอาไว้
ไม่นานทั้งสี่คนก็ได้เข้าไปในวังและไปยังห้องรับรองที่ซึ่งมีสวนที่ตกแต่งเหมือนสวนเจียงหนาน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ หลัวเฟิง มีเพียงเก้าอี้ไม้และโต๊ะน้ำชาแบบเก่าที่วางไว้ในห้องรับรอง หลัวเฟิง นั่งอยู่ที่ตรงกลาง เจ็ดดาบ ชาแมน และ คาซานริน ต่างก็สับสนกับการออกแบบนี้ พวกเขามองไปยังเก้าอี้ทั้งสามและนั่งลงไปด้วยท่าทีไม่สนใจ
“ดาบสายน้ำ” ชาแมน พูดขึ้น “เจ้ารับการต่อสู้กี่ครั้งกัน?”
“ข้ารับทุกการต่อสู้ที่ข้าได้รับมา” หลัวเฟิง พูดขึ้น
เจ็ดดาบ และ คาซานริน อึ้งเล็กน้อย
“กี่ครั้งกัน?” คาซานริน ถามขึ้นมา “หลังจากที่เจ้าเข้าไปยังลานเปิดของโลกแห่งเกียรติ เจ้าได้รับคำท้าหลายหมื่นครั้ง จำนวนนั้นยังคงเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ นอกจากนี้แล้วด้วยการปรึกษาจากฝ่ายอื่นๆ แล้ว หลากหลายเผ่าพันธุ์พันธุ์ในโลกแห่งเกียรติประมาณว่าเจ้ารับคำท้าไปถึง 100,000 ครั้ง มันยากที่จะรู้ถึงจำนวนที่ถูกต้องเพราะมันมีหลายค่าย แต่จำนวนนั้นคงจะชัดเจนในอีกไม่กี่วัน”
หลัวเฟิง ยิ้มและพูดขึ้นมา “ถูกต้อง ข้าไม่ได้รับคำท้ามากมายตอนที่ข้าไปถึงโลกแห่งเกียรติในตอนแรก แต่จำนวนนั้นมันเพิ่มขึ้นมาในภายหลัง ข้ารับคำท้าไปกว่า 620,000 ครั้ง คิดจากผู้ที่อยู่ระดับ 3 นั้นมีกว่า 90 ล้านคน ความจริงที่ว่ามีไม่ถึง 1% ที่มาท้าทายข้าแล้วคงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ”
“6…620,000…?” ชาแมน พูดอ้ำอึ้งด้วยท่าทีตะลึง “620,000?”
คาซานริน อ้าปากค้าง
แม้แต่ เจ็ดดาบ เองก็พูดไม่ออกทันที จำนวนนี้มันน่าตกใจ
ทุกคนรู้ว่า ชาแมน ได้อยู่ที่นี่มานานและเขาได้รับคำท้าไม่ถึง 1,000 ครั้ง เมื่อเป็นเรื่องการต่อสู้ มนุษย์นั้นต้องระวังอย่างมากเพราะมนุษย์นั้นมีศัตรูมากมายในบรรดาเผ่าพันธุ์อื่นๆ ในจักรวาล
“เจ้าสามารถฆ่าจักรพรรดิขีดจำกัดได้ตอนที่เป็น ระดับห้วงมิติ” ชาแมน ถอนหายใจออกมาพร้อมส่ายหน้า “เจ้าโด่งดังจนเชื่อว่าเจ้าคือผู้ที่มีพรสวรรค์สูงส่งที่ไม่อาจลืมเลือนได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมศิษย์ของเผ่าพันธุ์อื่นๆ จึงอยากสู้กับเจ้าไม่ว่าพวกเขาจะระวังกันเพียงใด เนื่องจากจำนวนผู้สืบทอดทั้งหมดนั้นมีกว่า 90 ล้าน มันถือว่าพอคาดหวังได้ที่จะมีถึง 620,000 คนที่มาท้าทายเจ้า”
“เรามายินดีกับเจ้าในชัยชนะ 989 ครั้งระหว่างการต่อสู้ทั้ง 1,000 ครั้งในวันนี้” คาซานริน พูดพร้อมหัวเราะออกมา
“ยินดีด้วย” ชาแมน พูดขึ้นมา
“ได้คะแนนกว่า 900 คะแนนในวันเดียว” เจ็ดดาบ ถอนหายใจออกมา “นี่แลกการสืบทอดได้ถึง 9 ครั้ง ข้าอิจฉาเจ้าจริงๆ และนี่ก็เป็นเพียงการต่อสู้ในวันแรกเท่านั้น”
หลัวเฟิง ยิ้มแต่พูดกับตัวเอง “ข้าก็ยังแพ้ถึง 11 ครั้ง”
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะอยู่จุดสูงสุดแต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาคือผู้ที่เก่งที่สุดในระดับ 3!
ในบรรดาคู่ต่อสู้ทั้งพันที่เขาเลือกในวันแรก มีผู้คนที่แข็งแกร่งกว่าและอ่อนแอกว่าแต่คนเราควรที่จะรู้ถึง
รูปแบบการสู้ที่ต่างกันรึเทคนิคลับที่ใช้ป้องกันพวกนั้นเอาไว้ ปกติแล้วมันจะเป็น ผู้แข็งแกร่ง ที่ซึ่งมีความมั่นใจ จึงได้มาท้าทาย หลัวเฟิง และ ผู้แข็งแกร่งเกือบทุกคนก็ได้ส่งคำท้ามายัง หลัวเฟิง และ หลัวเฟิง เองก็รับทุกคำท้าทายด้วย
ใจของ หลัวเฟิง รู้สึกมีเกียรติขึ้นมา “ข้าไม่สนเรื่องการเสียไม่กี่คะแนน”
เขาพูดขึ้น “หลังจากที่สู้กับหลากหลายเผ่าพันธุ์พันธุ์ การแพ้นั้นถือว่าคุ้มค่า”
******
วันที่สอง หลัวเฟิง ได้ทำการสู้ต่อไป
จากการอ่านหนังสือสีดำ ของพวกเขาแล้ว ศิษย์ของเผ่าพันธุ์อื่นๆ นั้นสามารถเห็นบันทึกการต่อสู้ของ หลัวเฟิง ได้ มีทั้งลำดับศิษย์ในระดับ 3 จำนวนแพ้ชนะต่างก็มีให้ดูอย่างชัดเจน
วันนั้น หลัวเฟิง ได้ทำการต่อสู้อีก 1,000 ครั้ง เขาทำแบบเดียวกันในวันที่สาม สู้ 1,000 ครั้งต่อวัน จากนั้น หลัวเฟิง ก็จะพักหลังจากที่สู้เสร็จและทำแบบเดิมอีกในวันต่อไป!
เขาทำการสู้แบบนี้ต่อไปและต้องขอบคุณอัตราชนะที่สูง คะแนนของเขาพุ่งราวกับติดจรวดจนทำให้หลายคนต้องทึ่ง ไม่นานมันก็ได้พิสูจน์ว่า ดาบสายน้ำ นั้นคือหนึ่งในผู้ฝีมือดีในบรรดาศิษย์ทั้ง 90 ล้านคนในระดับ 3 ผลก็คือศิษย์มากมายที่หวังจะดูหมิ่น ดาบสายน้ำ ก็เริ่มรู้สึกผิดกับการตัดสินใจที่ไปท้าทาย หลัวเฟิง โชคร้ายสำหรับพวกเขา พวกเขาไม่อาจจะยกเลิกคำท้าได้เมื่อ หลัวเฟิง รับคำท้าของพวกเขาไปแล้ว แม้ว่าจะเลือกที่จะไม่สู้แต่คะแนนนั้นก็ยังโดนหักไปอยู่ดี