ตอนที่ 98 หลัวฮว๋า
“แม่ครับ หลัวฮว๋าเป็นอะไรไป เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่” หลัวเฟิงตอนนี้ใจกระสับกระส่ายยิ่งกว่าตอนที่ฆ่าหลี่เวยไปอีก
“เสี่ยวเฟิง อย่าเพิ่งเสียงขวัญลูก” กงซินหลานสะอื้นก่อนจะพูดต่อ “หลัวฮว๋าเกือบจมน้ำตาย แต่ตอนนี้เขาปลอดภัยแล้ว”
“จมน้ำ? แม่ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
หลัวเฟิงเข้าใจไม่ได้ ในเมืองแบบนั้นน้องชายเขาเกิดอุบัติเหตุได้ยังไง? แล้วพี่เลี้ยงเขาอยู่ที่ไหน?
“เสี่ยวเฟิง เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ตอนช่วงบ่าย พี่เลี้ยงพาหลัวฮว๋าไปเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ลูกก็รู้ใช่ไหมว่าเขาชอบไปที่นั่นบ่อยๆ…ครั้งนี้ เขาเจอกับพ่อแม่ของเสี่ยวหนานที่นั่น สองคนนั้นชวนเขาไปคุยแถวๆ นั้น”
หลัวเฟิงขมวดคิ้ว…
เรื่องของหลัวฮว๋ากับแฟนสาวไม่เคยบอกกับพ่อแม่ของเธอมาโดยตลอด
และครั้งนี้ พ่อแม่ของเสี่ยวหนานมาหาหลัวฮว๋าชัดเจนว่ามีเหตุผล
“ตอนนั้นหลัวฮว๋าให้พี่เลี้ยงไปอยู่อีกด้านหนึ่ง แล้วก็คุยกับพ่อแม่ของเสี่ยวหนานคนเดียวอยู่ร่วมชั่วโมง หลังจากนั้น พ่อแม่ของเสี่ยวหนานก็จากไป”
เสียงแม่ของหลัวเฟิงแหบพร่าลง ดูเหมือนจะร้องไห้จนคอแหบแห้ง “หลังจากนั้น หลัวฮว๋าก็บอกว่าอยากนั่งรถเล่นไปรอบสวนและบอกให้พี่เลี้ยงรออยู่ที่ทางเข้า พี่เลี้ยงก็คิดว่าไม่มีอันตรายอะไรในสวนสาธารณะ เพราะเห็นว่าบรรยากาศดีเลยไม่ได้คิดมาก ไปนั่งรอเขาอยู่ที่ทางเข้า แต่คิดไม่ถึงว่าหลัวฮว๋าจะเลื่อนรถเข็นไปที่ข้างทะเลสาบ ทะเลสาบนี้เย็นจัดจนแข็งตัวมานานแล้ว เพียงแต่มีบางจุดที่ถูกเด็กๆ มาเจาะเล่นเอาไว้เป็นรู แล้วหลัวฮว๋าก็พุ่งลงไปในรูนั้น”
หน้าของหลัวเฟิงซีดเผือดทันทีที่ได้ยิน ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าตอนนี้น้องชายปลอดภัยแล้ว แต่การทิ้งดิ่งลงไปในทะเลสาบที่เย็นจัด ในฐานะคนพิการชัดเจนว่าเขาคงไม่ต้องการอะไรแล้วในโลกนี้
นั่นมันฆ่าตัวตายชัดๆ
“โชคดีที่นักสู้คนหนึ่งในเขตเราที่ชื่อ ‘ชิวอี้’ อยู่แถวนั้น เขากระโดดลงไปในทะเลสาบ ทุบน้ำแข็งให้แตกแล้วว่ายดำลงไปหาหลัวฮว๋า ในที่สุดเขาก็หาเจอและช่วยหลัวฮว๋าเอาไว้ได้! ในตอนนั้น หลัวฮว๋าไม่หายใจแล้ว แต่โชคดี ชิวอี้รู้จักวิธีผายปอดหลัวฮว๋าจึงรอดมาได้ หลังจากนั้นไม่นาน หมอในเขตของเราก็มารับเขาไปตรวจอาการจนปลอดภัยแล้ว อยากรู้จริงๆ ว่าพ่อแม่ของเสี่ยวหนานพูดอะไรกับเขาจนต้องคิดฆ่าตัวตายแบบนี้ พวกเขาไม่มีลูกหรือยังไง?”
แม่ของเขาเริ่มสะอื้นขึ้นมาอีก
หลัวเฟิงกำหมัดแน่น
ตั้งแต่หลัวฮว๋าต้องกลายเป็นคนพิการ เขาก็ต้องอยู่แต่ที่บ้านตลอดเวลา เขากระทั่งต้องเรียนหนังสือผ่านอินเตอร์เน็ต! การต้องอยู่ลำพังเป็นเวลานานทำให้เขาเป็นคนเก็บตัว มีแต่คนในครอบครัวเท่านั้นที่เขาจะเปิดใจด้วย
สภาพจิตใจของหลัวฮว๋าอ่อนแอมาก
“พ่อแม่ของเสี่ยวหนานอาจจะสนเฉพาะเรื่องลูกสาวของตัวเองและใช้คำพูดรุนแรงเพื่อให้เขาเลิกคบกับเสี่ยวหนาน พวกเขาไม่ได้แคร์ความรู้สึกของหลัวฮว๋าเลย”
ที่จริงคนเราก็เหมือนกันทุกคน…
ในใจของหลัวเฟิง พ่อแม่และน้องชายของเขาสำคัญที่สุด
และในใจของพ่อแม่เสี่ยวหนาน ลูกสาวของพวกเขาย่อมสำคัญที่สุดเช่นกัน!
“แม่ครับ แล้วตอนนี้เขาเป็นไงบ้าง?” หลัวเฟิงถามต่อ
“หมอบอกว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะ แต่อารมณ์ความรู้สึกของหลัวฮว๋าไม่มั่นคงเอาซะเลยตอนนี้ แม่กับพ่อเลยต้องคอยสลับกันเฝ้าเขาอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เขาคิดทำอะไรโง่ๆ อีก” กงซินหลานส่ายหัวขณะที่พูด “เสี่ยวเฟิง ลูกกลับมาเร็วๆ นะ เผื่อเขาจะดีขึ้น ตอนนี้เขายังไม่ยอมคุยกับใครเลย”
หลัวเฟิงและหลัวฮว๋าอายุไล่เลี่ยกัน ดังนั้นหลัวฮว๋าจึงมักจะเปิดใจกับหลัวเฟิงมากกว่าคนอื่น
“ครับแม่ ผมจะกลับไปให้ถึงพรุ่งนี้เช้าครับ” หลัวเฟิงพยักหน้า
หลังจากเขาขายไข่มังกร ชุดต่อสู้ และดาบแล้วเขาก็จะรีบนั่งรถไฟกลับตั้งแต่คืนนี้เลย
หลัวจากวางสาย หลัวเฟิงนั่งลงบนโซฟา เขารู้สึกรันทดใจ น้องชายของเขาใช้ชีวิตเงียบเหงามาตลอดหลายปี แต่หลังจากย้ายเข้ามาอยู่ที่เขตหมิงเยว่และมาสนิทกับเสี่ยวหนาน น้องชายของเขาก็ดูมีความสุขขึ้นมาก
แต่ใครจะไปรู้ได้ว่า…รักแรกที่แสนสุขของเขาจะทำให้เขาดำดิ่งสู่ความตายเช่นนี้
“ประสบการณ์นี้ ถ้าเทียบกันคนทั่วๆ ไป มันส่งผลกระทบกับเขามหาศาลมาก พ่อแม่ของเสี่ยวหนานน่าจะไม่อยากให้พวกเขาคบกันเพราะความพิการของหลัวฮว๋าแน่”
หลัวเฟิงสูดหายใจลึก “เอาล่ะ ถ้าครั้งนี้เราโชคดีเราก็จะน่าจะทำเงินได้ถึง 3 หมื่นล้าน พอจะซื้อ ‘ยาอายุวัฒนะ’ ได้แน่!”
3 หมื่นล้าน! แน่นอน ไข่มังกรนั่นราคาไม่ถึงแน่ แต่ที่พอจะทำให้หวังได้ก็คือชุดต่อสู้และดาบนั่น
“หวังว่าพวกมันจะเป็นเกรด SS นะ ถ้าใช่งานนี้เราคงรับเละแน่”
หลัวเฟิงเองก็ไม่กล้าฟันธงด้วยตาเปล่า สำหรับของพวกนี้มันต้องใช้เครื่องตรวจสแกนเพื่อความชัดเจน แต่อย่างว่า หลัวเฟิงไม่มีเครื่องมือนั่น และเขาก็ไม่ต้องการให้พันธมิตรใต้ดินหรือคนจากสำนักขีดสุดมารู้เรื่องนี้ด้วย
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ…
ก๊อกๆๆ…!
เสียงเคาะประตูดังขึ้น หลัวเฟิงเดินไปเปิดประตู
“ผมเอง” หวังโหวยิ้ม
“เชิญด้านในก่อน”
หลัวเฟิงเปิดทางให้หวังโหวเข้าไปแล้วจึงปิดประตู
ทั้งคู่เดินไปนั่งบนโซฟา
“ผมได้ยินว่าคุณเว่ยมีทีเด็ดจะให้ชม?” หวังโหวยิ้มร่าและสายตาของเขาก็ดูเหมือนจะจ้องหาเหยื่อ
หลัวเฟิงยิ้มเล็กน้อยขณะที่เปิดกระเป๋าใหญ่ของเขาออก ไข่มังกรสีเขียวกินพื้นที่มากที่สุดในกระเป๋า แล้วหลัวเฟิงก็อุ้มมันขึ้นวางบนโซฟาพลางยิ้มให้หวังโหว “คุณหวังโหว นี่ไข่มังกร…ผมมั่นใจว่าคุณต้องพอเดาได้ว่ามันเป็นไข่ของมังกรชนิดไหน”
“ไข่มังกร? ไข่มังกรที่มีมูลค่าเกิน 1 หมื่นล้าน? หรือว่าเป็นไข่ของมังกรเขียวแห่งทะเลยจีนตะวันออก?” หวังโหวตะลึง
หลัวเฟิงตัวเย็นเฉียบไปเหมือนกัน
มังกรเขียวทะเลจีนตะวันออก? นั่นมันสัตว์ประหลาดระดับจักรพรรดิ พวกที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าจ่าฝูง
ในรอบหลายปีที่ผ่านมา มีไข่มังกรเขียวเพียงไข่เดียวที่ถูกเผยออกมาสู่สายตาชาวโลก ตามข้อมูลของบ้านแห่งขีดสุด มันถูกขายในราคาที่มหาศาลทีเดียว
หมอนี่จะว่ายังไงนะ? เขาทำธุรกิจนี้มานาน คิดว่าเขาน่าจะไม่มีปัญหาอะไร?
หลัวเฟิงส่ายหัวและไม่เอ่ยคำใด
สิ่งที่หลัวเฟิงไม่รู้คือไข่มังกรนั้นหายากมากๆ หวังโหวเองยังเพิ่งเคยเห็นมาแค่ 2 ครั้งเท่านั้น แน่นอนเขาเองก็อาจจะไม่รู้ว่าไข่ตรงหน้านี้เป็นของมังกรชนิดไหนกันแน่
“ไม่นะ…ไข่ของมังกรเขียวน่าจะใหญ่กว่านี้” หวังโหวกล่าว
“ผมไม่เคยบอกว่ามันเป็นไข่มังกรเขียว คุณรีบตรวจสอบเถอะ” หลัวเฟิงอดเร่งเร้าเสียไม่ได้
เขาบอกว่าของๆ เขามีมูลค่าเกิน 1 หมื่นล้าน แต่เขาไม่ได้หมายถึงแค่ไข่มังกร…
“นี่เป็นไข่มังกรใบแรกที่มีคนเอามาขายตรงๆ กับผม ฮ่าๆๆๆ” หวังโหวตาเป็นประกาย
“ไข่มังกรเลยนะ” หวังโหวเปิดกระเป๋าอย่างรวดเร็ว ในนั้นมีเซฟอยู่ 3 กล่อง เขาหยิบเอาออกมากล่องหนึ่ง หลังจากนั้นก็ล้วงเอาเครื่องมือที่หน้าตาเหมือนแมงมุมออกมาจากกล่อง เขาเอา ‘ขา’ ข้างหนึ่งของอุปกรณ์นั่นแปะติดอยู่ที่ไข่ ทันใดนั้น หน้าจอแสดงผลของเครื่องนั้นก็ปรากฏตัวเลขขึ้นอย่างรวดเร็ว
หวังโหวยิ้มขณะที่มองดูตัวเลขพวกนั้น “คุณเว่ย…คุณนี่แข็งแกร่งสุดยอดจริงๆ คุณได้ไข่มังกรมาจริงๆ ด้วย! ในสมัยนี้ทั่วทั้งโลก ไม่มีสัตว์ประหลาดตัวไหนที่ขึ้นชื่อว่า ‘มังกร’ แล้วสามารถต่อกรได้ง่ายๆ”
“ผลออกมาแล้วเหรอครับ?” หลัวเฟิงมองดูที่หน้าจอแสดงผล
“เกือบแล้วครับ” หวังโหวยิ้มและดูผ่อนคลาย
“โอ้” หวังโหวตาเป็นประกายขณะที่มองดูหน้าจอแล้วเขาก็ยิ้มให้กับหลัวเฟิง “ตามฐานข้อมูล นี่คือไข่ของมังกรเกราะเหล็ก! มังกรเกราะเหล็กอยู่ในระดับที่เหนือกว่าสัตว์ประหลาดที่ได้ฉายาว่า ‘มังกร’ ในระดับทั่วๆ ไป ผมจะไม่อ้อมค้อมละกัน ว่ากันตามราคาตลาดเลย…5,000 ล้านหยวน!”
แน่นอน ก่อนที่จะมาหลัวเฟิงลองดูราคาที่น่าจะเป็นมาแล้ว 5,000 ล้านเป็นราคาทั่วไปอยู่แล้ว แต่ถ้าขายให้กับทางพันธมิตรใต้ดิน อาจจะไม่ได้ราคาเท่านี้ก็เป็นได้
“เอาล่ะ ยุติธรรมดี” หลัวเฟิงยิ้ม “เอาเป็นว่าตกลง”
“คนส่วนใหญ่ก็บอกอย่างนั้นแหละครับ ผมยุติธรรมอยู่แล้ว” หวังโหวยิ้ม “ทำธุรกิจมันต้องใส่ใจรายละเอียด ถ้าผมหลอกลวงคุณ คุณก็อาจจะไปจวกผมลงกระดานสนทนา…ถ้าเครดิตผมไม่ดีแล้วผมจะทำธุรกิจต่อได้ยังไงจริงไหม ส่วนมาก…พอใครได้ทำธุรกิจกับผมสักครั้งพวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าผมแฟร์เสมอ”
หลัวเฟิงยิ้มเล็กน้อยในคำตอบนั้น
“คุณเว่ย” หวังโหวกล่าวขึ้นอีก “คุณคงไม่มีอย่างเดียวหรอกใช่ไหมครับ?”
“ใช่…” หลัวเฟิงพยักหน้าขณะที่หยิบดาบที่ยังอยู่ในฝักออกมาจากกระเป๋า
“โอ้?” หวังโหวตาเป็นประกาย มองไปที่ดาบและหน้าของหลัวเฟิงสลับกันอย่างทึ่งๆ “มันเป็นดาบที่สวยมากแม้แต่ฝักนี่ก็แพงสุดๆ แล้ว ขออนุญาตดูได้ไหมครับ?”
“เชิญครับ” หลัวเฟิงเริ่มมีความหวัง “ผมว่าดาบเล่นนี้อย่างน้อยๆ ก็จ่าจะเป็นระดับเกรด S แน่”
ชิ้ง
หลังจากที่ชักดาบออกมา หวังโหวพิจารณามันอย่างระมัดระวังและอดจะพยักหน้าไม่ได้ “ยอดเยี่ยมๆ นี่เป็นดาบที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ผมแน่ใจเต็มร้อยว่าดาบนี่เป็นของเทพสงครามแน่ๆ ถ้าผมดูไม่ผิด นี่น่าจะเป็นดาบเกรด SS และมันมีมูลค่าไม่ใช่เล่นๆ เลย”
หลัวเฟิงแอบดีใจ…ดาบนี้เป็นระดับ SS จริงๆ ด้วย!
“เราจำเป็นจะต้องตรวจดูสภาพการชำรุดของมันก่อนจะตีราคานะครับ” หวังโหวยิ้ม “แน่นอน เดิมทีดาบคงจะไม่มีความเสียหายอะไรหรอก แต่มันจะค่อยๆ ชำรุดไปเรื่อยๆ จากการปะทะกับสัตว์ประหลาด ซึ่งบางครั้งเราอาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เมื่อมันถูกทิ้งไว้เป็นเวลานานความเสียหายอาจจะก่อตัวขึ้นได้ ถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้ซักวันมันจะต้องหักชำรุดแน่ๆ”
หลัวเฟิงพยักหน้า…คุณสมบัติของอาวุธเกรด S ก็คือการใช้ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเกรด S ได้เกือบทุกชนิดโดยดาบไม่มีการชำรุดเสียหาย
แต่ก็ที่รู้ๆ กัน อาวุธยังไงก็พังได้วันยังค่ำ
“ถ้าไม่มีความเสียหายมันจะยิ่งแพงขึ้นมาก แต่ถ้ามีความเสียหายมากราคาก็จะยิ่งต่ำลง”
“ขอตรวจเลยละกันนะครับ” หวังโหวเปิดกล่องเซฟแล้วหยิบเครื่องมืออีกอย่างขึ้นมา แสงวูบวาบฉายจ้าออกมาแล้วสแกนไปที่ดาบ
เครื่องมือนั่นแสดงผลเป็นข้อมูลตัวเลขจำนวนมากขึ้นมาที่หน้าจอ ชั่วอึดใจ…เครื่องนั้นก็คำนวณผลเสร็จ
“ความเสียหาย 0%” หวังโหวเอ่ยอย่างประหลาดใจ