ตอนที่ 326 คะนึงหาเป็นที่สุด
มู่ยิ่งเสว่ยืนอยู่ด้วยสีหน้าตะลึงลาน ชิ้นไม้มหึมาร่วงละลิ่วมา ถล่มใส่นาง แต่ทว่านางลืมที่จะหลบหลีก ฉินมู่จึงพุ่งเข้าไปลากนาง ถอยออกมา
เมื่อพวกเขาพ้นตรงนั้น ไม้ชิ้นยักษ์ก็ร่วงลงกระแทกพื้น คลื่น อากาศจากแรงกระแทกเป่าทั้งคู่กระเด็นไป
ไม่นานนัก พวกเขาก็หยุดยั้งแรงกระเด็นได้ และฉินมู่ก็วาง หญิงนางนี้ลง เมื่อเขาหันไปดูจุดที่นางยืนอยู่เมื่อครู่ เขาก็เห็นหลุม ใหญ่โตตรงจุดที่ไม้ชิ้นยักษ์นั้นถล่มลงใส่ ดินและหินที่นั่นกระจุย กระจายไปทั่วทิศ
มู่ยิ่งเสว่ยังไม่ทันฟื้นคืนจากความตื่นตกใจ และเพิ่งได้สติมา หลังจากนั้น นางนําขวดหยกขึ้นมา 2 ขวดและกล่าวอย่างร้อนรน “บนตัวข้ามีพิษ เจ้าอาจจะถูกยาพิษตอนที่อุ้มข้ามา”
“ไม่จําเป็น”
ฉินมู่ผสมยาแก้พิษจากยาพื้นฐานที่เขาเตรียมไว้ และถอนพิษ ให้กับตนเอง
ทั้ง 2 คนมองไปรอบๆ และรู้สึกชาหนึบในหัวใจอย่างกลั้นไม่ อยู่ หุบเขาในอาณาเขตนี้ล้วนแต่กองสุมไว้ด้วยไม้ดํา อันทับถมกัน เป็นภูเขา
ข้างใต้เท้าพวกเขาคือรากของปีศาจรากไม้ พวกมันบิดงอก่อ งอขิงแน่นิ่งอยู่อย่างนั้นเป็นจํานวนนับไม่ได้
ฉินมู่จึงรีบมองไปทางกิเลนมังกรและพรรคพวก เมื่อต้นไม้ ใหญ่โตมโหฬารนี้ถล่มลงมา พวกเขาเหล่านั้นอยู่ที่รากต้นไม้ จึง โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือถูกกลบฝัง
“เจ้าชนะ” สีหน้าของมู่ยิ่งเสว่กลายเป็นหมองหม่น และกล่าว อย่างรันทดใจ “อาจารย์พิษอันดับหนึ่งแห่งแผ่นดินตะวันตก ก็ยังคง มิอาจประชันขันแข็งกับน้องชายคนหนึ่งจากแดนโบราณวินาศ ข้า ละอายยิ่งนักที่ถือตนเป็นอันดับหนึ่งในแผ่นดินตะวันตก”
ฉินมู่ส่ายหัวและกล่าว “เจ้าไม่จําเป็นต้องเศร้าไปหรอก คราวนี้ ข้าได้เปรียบ ในพิษของข้าเจือพิษหมอผีของวังทองโหรวหลันเข้า ไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าได้วางยาพิษปีศาจรากไม้ไปก่อนแล้ว และ บ่อนเซาะพลังชีวิตของมัน ข้าถึงสามารถวางพิษมันให้ถึงตายใน ภายหลังได้”
“มันกลืนลูกแก้วมังกรเขียวเข้าไป และสามารถฟื้นฟูพลังชีวิต กลับมาได้ทุกเมื่อ ดังนั้นนี่มิใช่ผลลัพธ์จากยาพิษของข้า” มู่ยิ่ง เสว่กล่าวด้วยนํ้าเสียงเยือกเย็น
“จริงๆ แล้วข้าไม่ได้เชี่ยวชาญในด้านพิษ และถนัดในเรื่อง เยียวยาอาการป่วยไข้และช่วยชีวิตผู้คนเสียมากกว่า ซํ้าข้าเองก็ มิใช่คนไร้ชื่อเสียงเรียงนาม ชื่อเสียงข้าก็ค่อนข้างโด่งดัง”
มู่ยิ่งเสว่ฟังแล้วอยากกระอักเลือด เขาไม่ได้เชี่ยวชาญนัก แต่ก็ ยังเอาชนะนางได้อย่างนั้นหรือ
“เจ้าไม่ปลอบใจข้าจะดีกว่า” นางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ เมื่อเจ้าได้ชัยชนะ เจ้าจะจัดการข้าอย่างไรล่ะ”
ฉินมู่งงงวยและส่ายหน้า “ทําไมข้าจะต้องจัดการเจ้าด้วย ข้า สุขสันต์เป็นอย่างยิ่งที่เราสองได้แข่งขันประชันกัน และผลลัพธ์นั้น ก็ได้ขจัดศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างปีศาจรากไม้ไปได้ด้วย พวกเราทั้งคู่
มาจากมรรคาเดียวกัน ดังนั้นการแลกเปลี่ยนวิชาฝีมือนั้นก็เป็นสิ่ง ที่พวกเราควรทําอยู่แล้ว”
มู่ยิ่งเสว่จ้องมองเขาด้วยดวงตาสีดําขลับเป็นประกาย จากนั้นก็ เขย่งตัวขึ้นจุมพิตที่ริมฝีปากของเขา จากนั้นนางก็ยัดถุงเล็กๆ ถุง หนึ่งใส่ในมือฉินมู่ แล้วหันกลายกลับไปพลางหัวเราะคิกคัก “ข้าได้ วางยาพิษเจ้าแล้ว เรียกว่าพิษคะนึงหา! หากว่าเจ้าไปที่แผ่นดิน
ตะวันตก อย่าลืมไปหาข้าด้วย แต่อย่าเดินเข้าประตูหน้า เจ้าจะต้อง เข้ามาทางหน้าต่างนะ!”
ฉินมู่จ้องด้วยสายตาว่างเปล่า สัมผัสได้ว่าเรียวปากของเด็ก สาวนั้นเปียกชุ่ม นุ่มนิ่ม และหอมกรุ่น หัวเขาว่างเปล่าคิดอะไรไม่ ออก
แต่ทว่า นี่ไม่ใช่เพราะยาพิษ ในฐานะหมอเทวดาน้อยแห่งจักรวรรดิสันตินิรันดร์ ฉินมู่ย่อม
รู้จักร่างกายของเขาดีราวกับลายเส้นบนฝ่ามือ ดังนั้นเขาจึง ประเมินอาการของตนอย่างเยือกเย็น นี่คืออาการที่เกิดขึ้นมาจาก
สมองขาดเลือดขึ้นไปเลี้ยง เมื่อข้าถูกนางจูบ หัวใจข้าหยุดเต้นไป จังหวะหนึ่ง ทำให้สมองไม่มีเลือดไปเลี้ยงในจังหวะน้ัน ดังน้ัน ความคิดของข้าจึงว่างเปล่าเซ่อไป
มู่ยิ่งเสว่เดินตรงไปที่กิเลนมังกร เสียงซีอวี่ และคนอื่นๆ ดังนั้น ฉินมู่ที่กําลังยืนประหลาดใจอยู่นั้นจึงไล่ตามไป
ลูกแก้วมังกรเขียวหลุดออกมาจากร่างของปีศาจรากไม้เมื่อมัน พังทลายลง และร่วงที่จุดกึ่งกลางระหว่างคน 2 กลุ่ม เสียงซีอวี่ ไหน่ขุยแห่งตําหนักสวรรค์แท้ ก็พยายามดิ้นรนอย่างสุดกําลังเพื่อตะเกียกตะกายไปยังจุดนั้น
ค้างคาวขาวทั้ง 2 ก็คลานเข้าไปเช่นกัน พิษในร่างกายของ พวกมันที่มู่ยิ่งเสว่วางเอาไว้ก็ค่อยๆ จางหายไป ดังนั้นพวกเขาจึง เคลื่อนที่ได้อีกครั้ง
อีกฟากหนึ่ง ฤทธิ์ยาของหอมสาบสูญบนตัวอวี้ป๋อชวนและ พรรคพวกก็เริ่มสูญสลาย ดังนั้นพวกเขาก็คลานไปยังลูกแก้วมังกร เขียว พยายามจะเข้าไปคว้ามันมาก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะไปถึง
กิเลนมังกรคลานไปเร็วที่สุด เจ้าตัวยักษ์อ้วนกลมนี้ปกติจะขี้ เกียจตัวเป็นขนและจะลุกขึ้นมาก็ต่อเมื่อมีไฟลนก้นมันเท่านั้น แต่ ณ วินาทีนี้ มันดูขวนขวายเป็นอย่างยิ่ง ราวกับว่าจะต้องได้ลูกแก้ว
มังกรนี้มาไม่ว่าจะทําอย่างไรก็ตาม เขาไสก้นของตนเองไปด้วย ความอุตสาหะอย่างแรงกล้า เหนือลํ้าเสียยิ่งกว่าคนอื่นๆ
แต่ทว่า เพราะความอึดทนของเขานั้นปวกเปียกเป็นอย่างยิ่ง จึงคลานไปได้ไม่เท่าไรก็หอบแฮ่กๆ และความเร็วของเขาเลย เชื่องช้าลงไป
ผู้คน2 กลุ่มนี้เข้าใกล้ลูกแก้วมังกรเขียวเข้าไปทุกที ยอด ฝีมือขั้นชาวสวรรค์คนหนึ่งเข้าไปใกล้ที่สุด ดังนั้นเขาจึงยื่นมือ ออกไปพยายามคว้ามันมา
กิเลนมังกรเห็นท่าจะไม่ดี เลยอ้าปากแล้วแลบลิ้นออกไป ลิ้น ของเขาเหยียดยาวขึ้นและยาวขึ้น เข้าใกล้กับลูกแก้วมังกรเขียวทุก ขณะ จากที่เห็นแล้ว เขากําลังจะตวัดลิ้นม้วนมันมาได้
เมื่อมู่ยิ่งเสว่มาถึงตรงนี้ ฉินมู่นั้นช้าไปก้าวหนึ่ง แต่เขาก็สะบัด มือส่งปราณชีวิตออกไป กวาดลูกแก้วมังกรเขียวขึ้นมา
มู่ยิ่งเสว่ไม่ลงมือแย่งชิง แต่กลับโบกแขนเสื้อเพื่อกวาดเก็บ เอาอวี้ป๋อชวนและพรรคพวกของเขา ส่งขึ้นไปบนหลังช้างเผือก ของนาง
สาวน้อยในชุดดํากระทืบเท้า ส่งให้ร่างของนางลอยขึ้นไปยืน บนงวงช้างเผือกตัวนั้นที่ยื่นออกมารับและยกขึ้น นางโบกมือให้กับ ฉินมู่ “ผู้นําตระกูลอวี้เป็นผู้มีบุญคุณกับข้า ดังนั้นข้าจะนําพวกเขา กลับไปด้วย! หนุ่มน้อยที่ข้าคะนึงหาเป็นที่สุด รีบมาที่แผ่นดินตะวันตกเร็วๆ นะ!”
ฉินมู่นั้นยังคงยืนโง่งมอยู่ เขาโบกมือกลับไปหานางด้วย อารมณ์ความรู้สึกอันแปลกประหลาดในหัวใจ
ถุงเล็กๆ ที่มู่ยิ่งเสว่ยัดใส่มือเขานั้นไม่ใหญ่โต คล้ายกับถุงเครื่องหอมบุหงารําไป แต่ทว่ามันเป็นสีดํา ตรงข้างถุงปักด้ายทอง เป็นลายนกเป็ดนํ้าคู่แหวกว่ายริมดอกบัวด้วยคอของพวกมันทั้ง สองคลอเคลียกัน
ฉินมู่เปิดถุงเครื่องหอมและพบกับเม็ดถั่วเล็กๆ สีแดงสด มัน เหมือนกับแอปเปิ้ลที่สุกงอม แต่เล็กจิ๋วกว่ามาก
“ถั่วแดงเพาะปลูกในแดนใต้ ยอดอ่อนพันเกลียวในฤดูใบไม้ ผลิ?” เสียงซีอวี่เดินสะดุด และมองไปยังเม็ดถั่วแดงเหล่านั้นในมือ ฉินมู่ พลางเอื้อนอย่างแผ่วเบา “เชิญท่านเลือกเก็บไปอีก ด้วยสิ่งนี้ คือความคะนึงหาเป็นที่สุด จ้าวลัทธิฉิน อาจารย์พิษได้เชิญท่านไปวิวาห์เยือนกับนาง”
ฉินมู่ดมกลิ่นเม็ดถั่งแดงฟุดฟิดและส่ายหน้า “ในถั่วแดงพวกนี้ มีพิษอยู่ ดังนั้นนางคงจะพยายามวางยาพิษข้า! หรือว่านี่คือพิษ
คะนึงหาที่นางว่า? ใช่แล้ว นางจูบข้าที่ปาก ปากของนางเปียกชื้น เล็กน้อย มันจะต้องเป็นตัวยาบางชนิดที่เมื่อผสมเข้ากับถั่วแดงนี้ก็ จะเกิดฤทธิ์ร้ายคร่าชีวิต… ใช่ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ!”
เสียงซีอวี่อ้าปากค้าง อดีตเจ้าตําหนักแห่งตําหนักสวรรค์แท้ จ้องมองจ้าวลัทธิแห่งลัทธิมารฟ้าด้วยดวงตาดําเป็นประกาย หัวใจ นางเต็มไปด้วยความพิศวง ไม่ใช่ว่าถั่วแดงใช้เพื่อแสดงออกถึงความรักและความใฝ่คะนึงหาอย่างนั้นหรือ ทำไมจ้าวลัทธิฉินถึงไปเชื่อมโยงมันกับยาพิษไปได้ ถึงกับสงสัยว่ามู่ยิ่งเสว่พยายามวางยาพิษเขาอีก?
ในที่สุดนางก็ตระหนักว่าจ้าวลัทธิฉินผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ดูเหมือนจะ มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความรู้สึกระหว่างชายหญิง แถมยังเป็นความเข้าใจผิดอันร้ายแรงอีกด้วย!
ดูเหมือนว่าเขาจะโดนใครสอนมาแบบผิดๆ เสียงซีอวี่คิดในใจ
แต่ถึงอย่างไร ฉินมู่ก็ยังเก็บถั่วแดงพิษเหล่านั้นเข้าไปในถุง หอมไหมดําและเก็บพกเอาไว้อย่างระมัดระวัง ทําให้เสียงซีอวี่รู้สึก ว่าเขาก็ยังไม่เกินเยียวยาเท่าไรนัก
ฉินมู่หยิบลูกแก้วมังกรเขียวขึ้นมาพิจารณาดูใกล้ๆ เขาพบว่า สีสันของร่างมังกรในลูกแก้วนั้นเป็นสีหยก ให้ความรู้สึกเป็น ประกายและโปร่งแสง หนวดของมันก็เป็นสีเขียวเช่นกัน ราวกับว่า เป็นมังกรที่สลักเสลาขึ้นมาจากหยก
ดวงวิญญาณนี้แหวกว่ายไปมาในลูกแก้วอย่างร่าเริง นี่คือวิญญาณมังกรของมังกรแท้ ไม่ใช่พวกเลือดผสมอย่างแม่
ไก่มังกร กิเลนมังกร หรือวัวเขียว แต่หากเป็นมังกรเขียวสายเลือด
บริสุทธิ์ที่มีพลังเทวะอันทรงมหิทธานุภาพอย่างมหัศจรรย์ ฉินมู่สัมผัสได้ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ในลูกแก้ว
แม้ว่าปีศาจรากไม้จะดูดซับเอาพลังงานส่วนหนึ่งในลูกแก้ว มังกรเขียวออกไป แต่วัตถุชิ้นนี้ก็ยังดูเหมือนกับว่ากําลังดูดซับเอา ปราณชีวิตที่ล่องลอยอยู่ในธรรมชาติรอบข้าง ฟื้นฟูพลังงานของ มันเอง นี่ช่างแปลกพิสดารเหลือเกิน
สมบัติวิเศษโดยแท้ หรือว่าวิญญาณมังกรข้างในจะเป็นของ มังกรเทพยดา?
ฉินมู่โคจรวิชากายาจ้าวแดนดินสามอมตะของตน และปราณ ชีวิตของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นปราณชีวิตมังกรเขียวโดยอัตโนมัติ จากนั้นเขาก็ลองพยายามขับเคลื่อนพลังงานในลูกแก้วมังกรเขียว แต่ไม่นานเขาก็พบว่าไม่สามารถกระทําได้ นี่ทําให้เขาฉงนใจเป็น
อย่างยิ่ง และเขากล่าว “ข้าเดาว่าคงมีแต่ต้องใช้วิชาเฉพาะของ ตําหนักสวรรค์แท้ ข้าถึงจะสามารถควบคุมพลังงานในลูกแก้วมังกร เขียวได้ ปราณชีวิตมังกรเขียวของข้าคงจะเป็นได้แค่อาหารให้กับ วิญญาณมังกรเขียว”
ในการใช้พลังอํานาจของลูกแก้วมังกรเขียว เขาจะต้องเข้าไป เชื่อมโยงสื่อสารกับวิญญาณมังกรเขียวข้างใน วิชาทุกสิ่งมีจิตและ วิญญาณอาจจะเป็นหนทางเดียวที่จะทําเช่นนั้น
แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งแผ่นดินตะวันตก ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ! เขา อุทานกับตนเอง
พิษในร่างกิเลนมังกรถดถอยลงไปอีก และเขาก็ลุกขึ้นยืนได้ใน ที่สุด เขาจึงรีบกวัดแกว่งหางไปมาซ้ายขวา ทําให้ฝุ่นตลบขึ้นมา ข้างหลังเขา ก่อนที่จะร้องด้วยเสียงอันดัง “จ้าวลัทธิ ขอลูกแก้วให้
ข้า นะ!”
ฉินมู่เมินเขาและโยนลูกแก้วมังกรเขียวให้เด็กหญิงตัวน้อย เสียงฉีเอ๋อ แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ให้เจ้าเอาไปเล่น”
เสียงฉีเอ๋อรับลูกแก้วมังกรเขียวมาและยิ้มหวาน “ขอบคุณมาก นะพี่ชาย!”
นํ้าลายของกิเลนมังกรไหลย้อยลงมาไม่ขาดสาย และเขาก็ กระดิกหางแก่เสียงฉีเอ๋อ “พี่สาว ให้ข้าเล่นลูกแก้วด้วย! ไม่ต้องห่วง ข้าไม่กินมันหรอก สัญญาเลย!”
ฉินมู่รีบนําขวดหยก 2 ใบออกมาเก็บนํ้าลายมังกร พลางคิด ในใจ “ข้าน่าจะเก็บเพิ่มอีกหลายๆ ขวดไว้ขายที่เมืองหลวง จะได้มี
เงินใช้บ้าง…จริงสิ ข้าจะต้องกลับไปที่หมู่บ้านก่อน และไปพาฮู่ห ลิงเอ๋อกลับมา นางนั้นเก่งเรื่องเงินๆ ทองๆ มากกว่าข้า”
เขาเก็บนํ้าลายได้เป็น 10 ขวด จนกระทั่งเสียงฉีเอ๋อเก็บลูกแก้ว มังกรเขียวไว้ในเสื้อผ้าชั้นในของนาง นั่นแหละกิเลนมังกรถึงหยุด นํ้าลายไหล
ฉินมู่ปรายตาเป็นสัญญาณไปทางเด็กหญิง แม้ว่าเสียงฉีเอ๋อจะ ยังคงเยาว์วัย แต่นางก็เฉลียวฉลาดมาก นางนําลูกแก้วมังกรเขียว ออกมาอีกครั้ง และหางของกิเลนมังกรก็กวัดแกว่งไปมาอีกรอบ นํ้าลายของเขายืดย้อยลงจากปากราวนํ้าตกอีกหน
หลังจากรวบรวมนํ้าลายมังกรได้ 20 กว่าขวด ฉินมู่ก็พอใจ เขาเกรงว่าคุณภาพของมันจะลดลงหากว่ารีดให้ไหลออกมามาก เกินไป ดังนั้นเขาจึงขยิบตาให้เสียงฉีเอ๋อเก็บลูกแก้วมังกรเขียว
ค้างคาวขาวทั้ง 2 และเสียงซีอวี่ก็ได้ฟื้นฟูพละกําลังแล้ว ดังนั้นฉินมู่จึงนําพวกเขามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก
เสียงซีอวี่นั้นถูกพิษอย่างลึกลํ้าเกินไป หากว่ามันเป็นพิษ ธรรมดา ความเป็นพิษในตัวนางคงไม่มากมายนักและการักษา เยียวยาก็จะง่ายเป็นอย่างยิ่ง ทว่าพิษไหมรัดพันนั้นได้แทรกซึมลึก เข้าไปในสมบัติเทวะของนาง จึงยากที่จะถอดถอนออกไป
สําหรับคนอื่นแล้ว นี่คงเรียกว่าเกินเยียวยา แต่ฉินมู่รู้สึกว่านาง ยังมีหวังที่จะรักษาได้อยู่
เขาเสาะหาสมุนไพรวิญญาณตลอดทั้งการเดินทางเพื่อหลอม ปรุงยาวิญญาณ และหลังจากที่ใช้ยาวิญญาณมากกว่า 10 ชนิด
และเปลี่ยนขนานของพวกมันไปมากกว่า 10 ครั้ง เขาก็สามารถขจัดพิษไหมรัดพันในสมบัติเทวะทารกวิญญาณ ห้าธาตุ หกทิศ และเจ็ดดาวได้ในที่สุด
หลังจากที่เดินทางไปได้เกินกว่า 10 วัน พวกเขาก็ไม่ปะทะกับอวี้ป๋อชวนหรือคนของเขาอีก คงจะเป็นเพราะว่าลูกแก้วมังกรเขียวถูกแย่งชิงไป พวกเขาจึงคิดว่าไม่อาจเป็นคู่มือต่อสู้ของคณะฉินมู่ได้ เพราะอย่างนั้น พวกเขาน่าจะกลับไปที่แผ่นดินตะวันตก เพื่อขอกําลังเสริม
ทันใดนั้นเสียงนํ้าไหลพลั่กๆ ก็ดังมาจากข้างหน้า และฉินมู่ตา เป็นประกายทันทีพลางแย้มยิ้ม “พวกเรามาถึงแหล่งกําเนิดแม่นํ้า หย่งแล้ว”
ไม่นานนัก พวกเขาก็เห็นธารนํ้าไหลซ่าลงมาจากหน้าผา ขณะที่ข้างล่างนั้นลึกลงไปหลายพันคืบ เสียงซีอวี่และคนอื่นๆ มอง ไปรอบๆ ทันทีและเห็นแดนโบราณวินาศยาวเหยียดจากทิศ ตะวันตกถึงทิศตะวันออกจากที่ซึ่งแผ่นดินขาดออกจากกันอย่าง
กะทันหัน สร้างร่องเหวอุปสรรคธรรมชาติอันแผ่ยาวไปหลายพันลี้ จากเหนือลงใต้
ร่องเหวนั้นได้แยกแดนโบราณวินาศออกเป็นสองเสี่ยง และ แดนโบราณวินาศฝั่งตะวันตกนั้นมีระดับความสูงกว่าฝั่งตะวันออก เป็นพันคืบ
“พลังอํานาจแบบไหนกันที่สร้างรอยแยกแบบนี้ขึ้นมา” เสียงซีอวี่พึมพํา
“แผ่นดิ นไหวใหญ่” ฉิ น มู่กล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “แผ่นดินไหวร้ายแรงอันไม่อาจจินตนาการได้”
เสียงซีอวี่ตัวสั่นอย่างกลั้นไม่อยู่
ฉินมู่กระโดดลงจากหน้าผา และเท้าของเขาหยั่งลงไปบน อากาศ เดินลงไปทีละก้าวทีละก้าว เสียงซีอวี่พาบุตรสาวของนาง ตามมา และเมื่อพวกเขามาถึงกึ่งกลางหน้าผา พวกเขาก็เห็นว่า
ธารนํ้าแรกนี้ไปผสานเข้ากับธารนํ้าอื่นๆ ที่ไหลร่วงลงมาจาก ท้องฟ้า ก่อให้เกิดนํ้าตกมหึมา เมื่อพวกเขาเดินลงไปอีก ก็พบว่า การปะทะของนํ้าลงสู่พื้นก่อให้เกิดบ่อนํ้าใหญ่ข้างล่าง
แม่นํ้าไหลออกมาจากที่นั่น แต่มันไม่ได้กว้างขวาง คอดแรก ของแม่นํ้านั้นกว้างเพียงสี่ห้าวา แต่เมื่อมันไหลต่อไปข้างหน้า ก็มี แม่นํ้าอื่นไหลเข้ามาสมทบ เร่งความเร็วกระแสนํ้า และถ่างฝั่งแม่นํ้า
ให้ขยายกว้างขึ้นอีก
เสียงซีอวี่หันหลังกลับไปมอง และเห็นว่าจากร่องเหวอุปสรรค ธรรมชาตินั้น ซึ่งมีหน้าผาอยู่ข้างหลัง ปรากฏว่ามีนํ้าตกจํานวน มากมายนับไม่ถ้วนที่ถั่งโถมลงมา นํ้าไหลเชี่ยวเหล่านั้นก็จะมารวม
กับข้างล่างเพื่อก่อขึ้นเป็นแม่นํ้ามหึมา แม่นํ้าหย่ง!



