Skip to content

Tales of Herding Gods 348

Tales of Herding Gods
BC

ตอนที่ 348 เต็มไปด้วยจุดอ่อน

C

หางตาของหลงอวี๋กระตุกอย่างรุนแรง ทั้งภูเขาและป่ากว้าง รอบๆ นั้นเกลื่อนกล่นไปด้วยกระบี่ของฉินมู่ แล้วเขาจะสู้อย่างไร

เพียงแค่นํ้าหนักของกระบี่พวกนี้ก็สามารถถล่มทับเขาจนบี้ แบนตายได้!

หลงอวี๋มองไปยังผู้สันโดษชิงโยว ผู้แสร้งทําเป็นมองไม่เห็น อะไรทั้งสิ้น นํากระบี่ 8,000 เล่มออกมา ดูคล้ายกับจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่มันก็จะเผาพลาญพลังวัตรของผู้ฝึกวิชาเทวะขั้นหกทิศจนแห้ง เหือด มีก็แต่ฉินมู่ เจ้าหมอนี่ที่มีพลังวัตรหนาแน่นอย่างเหลือเชื่อ ถึงจะสามารถช่วงใช้กระบี่บินมากมายขนาดนี้ในอึดใจเดียว ใช่ ไหมล่ะ

ยิ่งไปกว่านั้น การควบคุมกระบี่บินมากมายขนาดนี้ จําต้องมี ความสําเร็จเชิงพีชคณิตและเชิงคํานวณอันลํ้าเลิศ และสมองอันมี ปฏิกิริยาว่องไวเพียงพอ จึงจะสามารถควบคุมกระบี่บินแต่ละเล่ม ไม่ให้มันไปขัดขวางกันและกัน

เพียงแค่การคํานวณเส้นทางของกระบี่ทั้ง 8,000 เล่มก็ต้อง อาศัยความสําเร็จเชิงพีชคณิตขั้นสติเฟื่อง!

เห็นได้ชัดว่าฉินมู่ได้หลอมรวมกระบี่เต๋าแห่งสํานักเต๋าเข้ากับ เพลงกระบี่ของผู้ใหญ่บ้านเรียบร้อยแล้ว นั่นจึงเป็นเหตุที่ทําให้เขา สามารถควบคุมกระบี่บินมากมายขนาดนี้

หรือว่าโลกนี้จะมีกายาจ้าวแดนดินอยู่จริงๆ

ผู้สันโดษชิงโยวกําลังครุ่นคิดสงสัย หากว่ามันมีกายาจ้าว แดนดินอยู่จริงๆ มันก็ย่อมจะต้องปรากฏอยู่ในบันทึกของนครหยก น้อย ตั้งแต่เมื่อเขาลากใจโทรมๆ กลับมายังนครหยกน้อยในครั้ง นั้น เขาก็ได้อ่านหนังสือแทบจะทุกเล่ม และไม่มีบันทึกใดเลยที่ เกี่ยวข้องกับหรือแม้แต่จะกล่าวถึงกายาจ้าวแดนดิน!

ชุดหนังสือที่เก็บสะสมในนครหยกน้อยล้วนแต่กว้างขวาง บันทึกเรื่องราวทุกสิ่งทุกแขนง สามารถสืบย้อนไปถึงยุคสมัยอดีต กาลอันลึกลํ้า นี่คือสิ่งที่สํานักและแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ไม่มีทางคิดฝันถึง

ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับกายาจ้าวแดนดินในนครหยกน้อย นี่แปลว่ากายาจ้าวแดนดินไม่มีอยู่จริง!

เพราะอย่างนั้น ผู้สันโดษชิงโยวจึงมั่นใจว่าผู้ใหญ่บ้านโกหก แต่ทว่าเมื่อเขาเห็นความสามารถที่ฉินมู่แสดงออกมา ความมั่นใจ ของเขาก็สั่นสะเทือน

“ศิษย์พี่หลงอวี๋ เชิญ” ฉินมู่กล่าวอีกครั้ง

หลงอวี๋ตั้งสติ แล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึม “กษัตริย์มนุษย์ เชิญ!” เพลิงไฟโหมกระพือในดวงตาของเขา ขณะที่เขาครุ่นคิดในใจ

กษัตริย์มนุษย์ผู้นี้จำต้องควบคุมกระบี่บิตั้งมากมาย อันจะทำให้

เขาเหนื่อยล้าอย่าแน่นอน เพียงแค่ 1 หรือ 2 กระบวนท่า พลัง วัตรของเขาก็อาจจะแห้งเหือดไปทั้งหมด ข้าเพียงแต่ต้อรับมือ 1  หรือ 2 กระบวนท่า ก็จะสามารถพลิกพ่ายแพ้มาเป็นชัยชนะได้!

แต่ไม่นาน เขาก็พบว่าเขาคิดมากเกินไป

ฉินมู่ไม่ได้ให้โอกาสเขาต้านรับการโจมตี เขาใช้นิพนธ์ที่ 4 กระบี่เต๋าโดยพลัน หมุนกงล้อสวรรค์เงียบงัน พบธรรมชาติรังสรรค์ ทุกรอยลักษณ์!

กระบี่ทั้ง 8,000 เล่มพลันเคลื่อนคล้อยตามวงโคจรดาวสวรรค์ และร่ายรําการรังสรรค์ของธรรมชาติ!

เมื่อเจ้าสํานักเต๋าหลินเสวียนทดสอบฉินมู่ในด้านความสําเร็จ เชิงพีชคณิต เขาได้ใช้การคํานวณวงโคจรหมู่ดาวสวรรค์หมาก ล้อมเปลี่ยนแปรมาทดสอบ ตรรกะเหตุผลคณิตศาสตร์ในนั้นคือ นิพนธ์ที่ 4 แห่งกระบี่เต๋า!

ฉินมู่ร่ายรํา หมุนกงล้อสวรรค์เงียบงัน พบธรรมชาติรังสรรค์ ทุกรอยลักษณ์ ทําให้ทะเลดาวและดาราจักรปรากฏเคลื่อนคล้อย อย่างแจ่มชัดเหนือหัวพวกเขา!

แต่ละกระบวนท่าใน 14 นิพนธ์กระบี่เต๋าจะทวีพลานุภาพจาก กระบวนท่าก่อนหน้าไปทุกครั้ง และเมื่อมาถึงนิพนธ์ที่ 4 กระบี่ 8,000 เล่มก็แปรเปลี่ยนเป็นหมู่ดาวสวรรค์ที่กระจายไปทั่วฟ้า และในเวลานั้น หลงอวี๋ก็ติดกับเข้าไปในพยุหะกระบี่

เขาไม่มีเวลาครุ่นคิด เพลิงไฟแผ่พุ่งจากดวงตาของเขา เมื่อดวงตาทั้งคู่ปิดและเปิดขึ้นมา  2 แสงกระบี่สีขาวผุดผาดราวหิมะก็พวยพุ่งออกมาจากในนั้น!

เพลงกระบี่ของเขานั้นแตกต่างจากวิธีทั่วไป และมันเป็นสุด ยอดวิชาชนิดหนึ่งในนครหยกน้อย หลงอวี๋นั้นฝึกปรือเนตรของเขาเป็นหลัก แต่แตกต่างจากวิชาเนตรอื่นๆ เขาฝึกปรือเพลงกระบี่ไว้ ในเนตรคู่นั้น ดวงตาของเขาและกระบี่ได้หลอมรวมเป็นหนึ่ง อันมา จากศาสตร์ที่เรียกว่าวิชาลับเนตรสวรรค์ใจกระบี่

จุดแข็งของเพลงกระบี่ชนิดนี้อยู่ที่ว่ามันไม่จําเป็นต้องขัดเกลา บ่มเพาะอาวุธวิญญาณหรือกระบี่วิญญาณ ในทางกลับกัน มันให้ผู้ ฝึกถือเอาดวงตาของตนเป็นไจกระบี่ กระบี่จะยิงตรงไปยังจุดที่ ดวงตามองเห็น มันตรงไปตรงมามากกว่า

ยิ่งไปกว่านั้น ศาสตร์นี้ยังมีวิชาฝึกปรืออันพิเศษเฉพาะ เมื่อดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นดวงตะวันยักษ์อันร้อนแรง แสงกระบี่ก็จะสามารถทะลุทะลวงทุกอุปสรรคกีดขวาง เมื่อพวกมันเปล่งแสงเจิด จ้าด้วยรัศมีดาวอันร้อนแผดเผาราวดาราจักร ก็ไม่มีศัตรูหน้าไหนที่ จะต้านทานรับมันได้

หากว่าหลงอวี๋สําเร็จถึงขั้นฝึกปรือใจกระบี่ ด้วยกระบี่และหัวใจ รวมเป็นหนึ่ง เนตรกระบี่ของเขาก็จะยิ่งน่าประหวั่นพรั่นพรึง ใน เสี้ยววินาทีที่หัวใจเขาคํานึงกระบวนท่า กระบี่ก็จะร่ายรํามันออกมา

หลงอวี๋ยังไม่บรรลุถึงขั้นนั้น แต่เนตรกระบี่ของเขาก็เหนือลํ้า เกินธรรมดาแล้ว

ทว่าในพริบตา กระบี่บินนับไม่ถ้วนก็พลันบดขยี้ 2 รังสีกระบี่ นั้น พวกมันเพียงแต่ก่อรูปขึ้นมาจากปราณชีวิต ขณะที่กระบี่ของ ฉินมู่นั้นเป็นสมบัติวิเศษที่หลอมสร้างจากวัสดุลํ้าค่าก้นหีบของคลัง

สมบัติลัทธิมารฟ้า คุณภาพของพวกมันเลิศลํ้าไปไกลกว่าที่แสง กระบี่อันหลงอวี๋บ่มเพาะขึ้นมาจะทัดเทียมได้ และเนื่องจากพลังวัตรอันเข้มข้นไร้เทียมทานของฉินมู่ แสงกระบี่คู่นั้นจึงถูกถล่มยับไม่มี ทางสู้!

แสงดาวจรัสเรืองจากดวงตาหลงอวี๋ พวยพุ่งออกมาราวกับว่า พวกมันฉายส่องจากดาราจักร ปะทะเข้าตรงๆ กับการเปลี่ยนแปร ในนิพนธ์ที่ 4 แห่งกระบี่เต๋า เพลงกระบี่ของทั้ง 2 คนอาจจะดู คล้ายคลึงกัน แต่โดยแก่นแท้แล้วแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

กระบี่เต๋าใช้ตรรกเหตุผลคณิตศาสตร์เพื่อก่อร่างสร้างวงโคจร หมู่ดาวสวรรค์และการเปลี่ยนแปรของพวกมันก็เป็นไปตามสมการ คณิตศาสตร์ แต่วิชาลับเนตรสวรรค์ใจกระบี่นั้น ทําตามที่ใจตน ปรารถนา แปรเปลี่ยนจากจิตใจ ความเพริศแพร้วพิสดารของมัน อาจจะไม่เทียบเท่ากระบี่เต๋า แต่เหนือกว่าสํานักเต๋าในด้านการ พลิกแพลงเปลี่ยนแปร

กระนั้น เทียมเทียบกระบี่ทั้ง 2  แสงกระบี่ของหลงอวี๋ก็ยังตํ่า ชั้นไม่ติดฝุ่นอยู่ดี

หลงอวี๋ครางเสียงหนัก และดาราจักรที่แผ่พุ่งจากดวงตาของ เขาก็อับแสงวูบหายไป กระบี่บิน 8,000 เล่มแปรเปลี่ยนเป็นห่าฝน กระบี่ที่ฉีกทึ้งดาราจักร เมื่อมันโถมถล่มลงมา หลงอวี๋ก็ได้ยินเสียง ผู้สันโดษชิงโยวร้องออกมา “ไว้ชีวิตเขา!”

ในพริบตาถัดมาเขาเห็นกระบี่บินห้อมล้อมเขาไว้ราวกับว่าเขา คือไจกระบี่ลูกใหญ่ เขาอยู่ใจกลางของไจนั้น ปลายกระบี่อันส่าย ไปมาเหล่านี้ชี้มายังทุกจุดบนร่างกายของเขา และทําให้เขานึก สงสัยขึ้นมาว่า หากว่ากระบี่เหล่านั้นทิ่มเข้ามา เขาจะยังเหลือ เป็นซากร่างอยู่ไหม

ไจกระบี่พลันปริแยกออกจากกัน จากนั้นรวมตัวกันเป็นแม่นํ้า กระบี่อันไหลบ่ากลับเข้าไปในถุงเต๋าตี้บนหลังฉินมู่

หลงอวี๋รีบแตะตามเนื้อตัวของตนเอง และพบว่าแขนขาเขายัง อยู่ดีไม่มีอะไรแหว่งไป ตอนนั้นเขาถึงค่อยถอนหายใจโล่งอก เขา หมายจะกล่าวขอบคุณฉินมู่ แต่แขนขาเขาเหน็บชาไปหมดตั้งแต่ ตอนไหนไม่รู้ คอของเขาก็แห้งผาก ไม่อาจเปล่งเสียงได้

มู่ชิงไต้รีบก้าวเข้ามาและนํานํ้าสะอาดใสมาให้เขา หลงอวี๋ดื่ม เข้าไปอึกใหญ่ ถึงค่อยเปล่งวาจาออกมาได้ “กษัตริย์มนุษย์ ขอบคุณมากที่ไว้ชีวิตข้า แต่ทว่าข้าไม่ได้พ่ายแพ้ในเพลงกระบี่! ท่านมีชัยท่วมท้นเหนือข้าด้วยสมบัติวิเศษ!”

ฉินมู่ไม่ปฏิเสธและกล่าวอย่างถ่อมตน “ศิษย์พี่หลงอวี๋กล่าว ถูกต้องแล้ว ข้ามิได้ฝึกปรือกระบี่เต๋าอย่างพากเพียรเพียงพอ เพียงแต่ฝึกมันอยู่สัก 10 วันเท่านั้น จริงๆ แล้วข้าไม่ค่อยเก่งกระบี่เต๋าสักเท่าไร”

หลงอวี๋สีหน้ามืดดําทันที และคอของเขาก็แห้งผากอีกครั้ง “ไม่ ค่อยเก่งกระบี่เต๋า?”

ฉินมู่มองไปยังผู้ใหญ่บ้านและกล่าว “ข้าเรียนวิชากระบี่จาก ท่านปู่ผู้ใหญ่บ้าน แต่สิ่งที่เขาสอนข้านั้นมีฤทธิ์เดชร้ายแรงเกินไป ข้าเกรงว่าจะไม่สามารถรั้งกําลังของตนเอาไว้ได้ ความสําเร็จของ ข้าในกระบี่เต๋านั้นไม่ค่อยสูง ดังนั้นเจ้าจึงยังพอป้องกันการโจมตี ของข้าได้”

หลงอวี๋รีบดื่มนํ้าอีกหลายอึก แต่ก็ยังรู้สึกคอแห้งผากอยู่ดี

มู่ชิงไต้สายตาวูบไหว และกล่าวถาม “ถ้าเช่นนั้น กษัตริย์ มนุษย์ฉินจะสามารถแสดงเพลงกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาได้ หรือไม่”

ดวงตาของหวางมู่หรันก็เป็นประกาย เผยริ้วรอยแห่งความ กระตือรือร้น

หากว่าที่พวกเขาเห็นนั้นเป็นเพียงความสําเร็จของฉินมู่ในกระบี่เต๋าที่เขาไม่ถนัด แล้วเพลงกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาจะ ทรงพลานุภาพมากเพียงไหน

ฉินมุ่เผยสีหน้าลําบากใจ เขามองไปยังผู้ใหญ่บ้านและกล่าว ด้วยความละอาย “เพลงกระบี่ของข้ามีจุดอ่อนจํานวนหนึ่ง…ไม่สิ ข้าพูดว่าจํานวนหนึ่งไม่ได้หรอก มันเต็มไปด้วยจุดอ่อนทุกหนทุก แห่ง! ยิ่งล่าสุดมานี้ จุดอ่อนพวกนี้นยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ!”

หลงอวี๋ มู่ชิงไต้ และหวางมู่หรันมีสีหน้าตะลึงลาน แม้แต่ผู้สันโดษชิงโยวก็ตื่นตกใจ ยังมีเวลาที่เขารู้จักถ่อมตนด้วยหรือ

ฉินมู่มีสีหน้าเต็มไปด้วยความอาย “เพลงกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุด ของข้าก็ยังคงถูกท่านปู่ผู้ใหญ่บ้านเอาชนะได้ และข้าไม่เคยชนะ เขามาก่อน จากนั้นข้าก็พบกับท่านพ่อของข้า ซึ่งข้าก็เอาชนะเขา ไม่ได้เลยสักครั้งเหมือนกัน…และตอนที่ราชครูกําลังตรึกตรองทํา ความเข้าใจมรรคาเต๋า ข้าได้สอดแนมเขา และจํานวนจุดอ่อนใน เพลงกระบี่ของข้าก็เพิ่มขึ้นอีก”

ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ฉินมู่อยู่บนเรือสมบัติ คือช่วงเวลาอัน ฉินมู่ต้องเผชิญกับความล้มเหลวท้อแท้มากมายนับไม่ถ้วน ฉินหานเจินในภาพวาดได้ยัดเยียดกระบวนท่าและหวดเขาร่วงซํ้าแล้ว ซํ้าอีก

หากว่าฉินมู่ไม่ได้โผล่ออกมากระทืบผานกงสั่วระบายความเครียดเป็นระยะๆ ความมั่นใจของเขาคงยังไม่ฟื้นฟูกลับมา

เมื่อราชครูได้ตรึกตรองทําความเข้าใจเต๋า ฉินมู่ได้แอบมอง เข้าไปในจิตเต๋าของเขาเพื่อเฝ้าสังเกตกระบวนการทั้งหมด มันได้ ทําให้เขาสะท้านสะเทือนอย่างรุนแรง

แต่ทว่า นี่ก็นําไปสู่ผลลัพธ์อีกแบบเช่นกัน ขอบฟ้าวิสัยทัศน์ ของเขาแผ่ขยายออกไปอย่างมหาศาลและไปถึงขั้นที่เขาไม่เคยคิด ฝันมาก่อน เมื่อฉินมู่ครุ่นคิดเกี่ยวกับเพลงกระบี่ที่เขาเคยพัฒนา

ยกระดับมัน เขาก็ตระหนักขึ้นมาว่าในนั้นมีช่องโหว่อีกมากที่เขา ไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน!

ผู้ใหญ่บ้านเผยสีหน้าตกตะลึง และกล่าว “มู่เอ๋อ ร่ายรําเพลง กระบี่ที่เจ้าว่าเต็มไปด้วยช่องโหว่หน่อย ข้าอยากเห็นมัน”

ฉินมู่ลังเล แต่แล้วก็กล่าว “ถ้าเช่นนั้น ข้าก็คงต้องแสดงความ อ่อนด้อยให้เห็นแล้ว”

เขาสูดลมหายใจลึก ตั้งจิตจดจ่ออย่างแม่นมั่น และกระบี่ไร้ กังวลก็ส่งเสียงหึ่งฮัมเมื่อมันพุ่งออกมาจากฝัก

ฉินมู่ถือมันเอาไว้ในมือ และใบกระบี่ก็แปลบปลาบวูบวาบไป ด้วยแสงรังสีกระบี่ ทันใดนั้น กระบี่บินนับไม่ถ้วนก็โบยบินออกมา จากถุงเต๋าตี้บนหลังเขา พวกมันกรูเข้าไปในกระบี่ไร้กังวลตามกันติดๆ

กระบี่ 3,000 เล่มหลอมรวมเข้าด้วยกัน

กระบี่ไร้กังวลเป็นกระบี่แม่ และกระบี่ที่เหลือเป็นกระบี่ลูกที่ สามารถหลอมรวมเข้าไปในนั้น ในฐานะช่างหลอมสร้างสมบัติ วิเศษชั้นครู ฉินมู่รู้ว่ามีไจกระบี่อยู่ 2 รูปแบบ กระบี่ลูกเข้าไปใน กระบี่แม่นั้นเป็นหนึ่งในนั้น แต่เพราะว่าพลังวัตรและพลังกายของ เขามีจํากัด เขาจึงหลอมรวมได้เพียง 3,000 กระบี่ หากว่าเขาเพิ่ม ไปมากกว่านั้น การช่วงใช้กระบี่ไร้กังวลก็จะยากลําบาก และมันจะ จํากัดเขาในการร่ายรําเพลงกระบี่ใดๆ

สายตาของฉินมู่พุ่งเป้าไปที่ปลายของกระบี่ราวกับว่าไม่มีสิ่งใด อื่นแล้วในโลกนี้ จากนั้นเขาก็ร่ายรําเพลงกระบี่ของตน กระบี่เริ่ม เคลื่อนไหวอย่างเฉื่อยชาในมือของเขา

วิ้ววว!

กระแสลมกระหึ่มดังมาก กระบี่ไร้กังวลของฉินมู่เคลื่อนไหวไป อย่างเชื่องช้าสุดๆ แต่มันกลับให้เสียงของสิ่งหนาหนักเกิน จินตนาการกําลังเคลื่อนไหวผ่านอากาศ

เพลงกระบี่ของเขาถูกร่ายรําออกมา เมื่อกระบี่ไร้กังวลเคลื่อนที่ ไป กระบี่ลูกก็เริ่มโบยบินออกมาจากมันราวกับว่าพวกมันคือเงา ค้างจากการเคลื่อนไหว แสงกระบี่เริ่มแตกกระจายออกมาอย่าง

ต่อเนื่อง และกระบี่ลูกแต่ละเล่มที่บินออกมาก็ร่ายรําท่วงท่ากระบี่อัน แตกต่างกันไป ท่วงท่ากระบี่พื้นฐาน 17 ท่วงท่า ถูกแสดงออกมา จากเส้นทางการเคลื่อนที่ของกระบี่บินเหล่านั้น และเมื่อท่วงท่า กระบี่อันไร้ระบบระเบียบซ้อนทับกัน เพลงกระบี่ก็กลายเป็นวกเวียน สับสนและไร้แบบแผน

ที่ฉินมู่ร่ายรําอยู่นั้นคือกระบี่ย่างไปในทิวทัศน์ แต่ทว่า มันกลับ แตกต่างจากที่ผู้ใหญ่บ้านสอนให้แก่เขาโดยสิ้นเชิง

เพ ลงกระบี่ของเขาอืดอาด ไม่ให้ความรู้สึกของความ คล่องแคล่วว่องไว จนกระทั่งการเคลื่อนไหวของกระบี่ไร้กังวลเริ่ม เคลื่อนที่เร็วขึ้น เมื่อนั้นแหละถึงเริ่มจะมีความรู้สึกว่องไว กระบี่ลูก ในอากาศก็เริ่มเพิ่มความเร็วมากขึ้นและมากขึ้น เริงระบําไป

ด้วยกันกับกระบี่ไร้กังวล!

สีหน้าของผู้สันโดษชิงโยวเคร่งเครียดมากขึ้นทุกที ขณะที่ หลงอวี๋ มู่ชิงไต้ และหวางมู่หรันเริ่มจะตระหนักว่าพวกเขาไม่อาจ เข้าใจสิ่งที่กําลังเห็นได้

ตรรกะเหตุผลกระบี่ที่แฝงอยู่ในเพลงกระบี่ของฉินมู่ยิ่งมายิ่งสลับซับซ้อน ยิ่งลึกลํ้าเป็นปริศนา ในท้องฟ้าเหนือขุนเขาผู้อมตะ กระบี่บินทั้ง 3,000 เล่มจะเข้ามารวมกันและกระจายออกไปราวกับ พยับเมฆเคลื่อนคล้อย แปรเปลี่ยนเป็นขุนเขาอันยิ่งยงที่ระเหยไอนํ้า ออกมา และแม้แต่เปลี่ยนแปลงเป็นแม่นํ้าสายยาวบนนภากาศ หรือ มวลพฤกษากว่าหมื่นต้นที่เขียวขจีไปหมด พวกมันละเอียดประณีต อย่างถึงที่สุด ขนาดที่ว่าลายเส้นบนใบไม้ก็ยังแจ่มชัด!

ผ่านไปครู่หนึ่ง แสงกระบี่ทั้งหมดก็หายวับ ฉินมู่เขย่ากระบี่ไร้กังวล และกระบี่บินทั้งหมดก็โบยบินออกมา

จากตัวมันและพรั่งพรูกลับเข้าไปในถุงเต๋าตี้

“ไม่ต้องแข่งขันแล้ว!” มู่ชิงไต้ฟื้นสติขึ้นมาและกล่าวทันที “พลังวัตรของข้าตํ่ากว่าศิษย์พี่หลงอวี๋ 1 เส้นด้าย ดังนั้นอย่าสู้กัน เลย!”

หวางมู่หรันส่ายหัว “ข้าเองก็ไม่อาจต้านรับการโจมตีของเขา ดังนั้นไม่มีความจําเป็นต้องแข่งขันกัน ข้ายอมแพ้”

หลงอวี๋มีสีหน้าซีดเผือด และปากของเขาก็อ้าค้าง เขาพบว่า คอของเขาแห้งผากอีกครั้ง และรีบดื่มนํ้าเข้าไปอีก 2 อึกทันที เขา กล่าว “เพลงกระบี่ของเจ้า ข้าไม่เข้าใจ”

ผู้สันโดษชิงโยวเหม่อไป เขามองไปยังฉินมู่ ก่อนที่จะมองดู ผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นก็ทอดถอนใจ “พี่ทางเต๋าเฒ่า เจ้ารับศิษย์ได้ดี เพลงกระบี่ของเขาได้เข้าสู่มรรคาเต๋าแล้ว”

ผู้ใหญ่บ้านส่ายหัวและกล่าว “ข้าไม่ได้สอนให้เขาฝึกปรือ กระบี่แบบนี้ เขาตรึกตรองเข้าใจมันด้วยตนเอง มู่เอ๋อ เพลงกระบี่ ของเจ้ามีจุดอ่อนมากมายจริงๆ นั่นแหละ เหมือนกับหม้อนํ้ารั่วที่มีรู

เต็มไปหมด เจ้าจะต้องขยันหมั่นเพียรมากกว่านี้ หากว่าเจ้าพบกับ ผู้ที่มีความรู้เหนือกว่า เจ้าก็จะตกตายอย่างไม่รู้เหนือรู้ใต้!”

ฉินมู่ขนหัวลุกวาบ และพึมพํา “ข้าเองก็เห็นช่องโหว่มากมาย เพียงแต่ข้าไม่รู้ว่าจะพัฒนาต่อไปอย่างไร”

ใครเขาสอนศิษย์อย่านี้กัน ผู้สันโดษชิงโยวไม่รู้จะหัวเราะหรือ รํ่าไห้ เพลงกระบี่นี้สามารถนับได้ว่าเป็นหนึ่งในเพลงกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกหล้า ไม่ใช่หรือ พวกที่สามารถมีความรู้เหนือไปกว่าเขาได้ ก็มีแต่ผู้คที่บรรลุถึงเขตขั้นมรรคาเต๋าท่านั้น!

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!