ตอนที่ 376 สู้ขาดใจ
ใส่ยาพิษเมื่อเอาชนะไม่ได้นั้นเป็นเรื่องอันน่ารังเกียจเดียดฉันท์ ในสายตาของคนหมู่มาก นั่นจึงเป็นเหตุผลข้อใหญ่ที่ทําให้ผู้คน แค้นเคืองราชาพิษหน้าหยกในครั้งโน้น
แต่ทว่า เรื่องแบบนี้ไม่มีผลเชิงจิตวิทยาใดๆ ต่อฉินมู่ ในสายตา ของเขา การวางยาพิษใครที่เขาเอาชนะไม่ได้นั้นเป็นเรื่องถูกต้อง และเหมาะสม การวางยาพิษคู่ต่อสู้ก็นับเป็นความสามารถอย่าง หนึ่ง ตรรกะเหตุผลของเขานั้นเป็นทํานองว่า ‘หากว่าข้าสู้เจ้าไม่ได้ แต่เจ้าก็ยังมาตอแยข้า โดนยาพิษเข้าไปนั้นก็ถูกแล้ว’
ยกตัวอย่างเช่น สิ่งที่พวกเขาเผชิญนั้นมิใช่การต่อสู้อัน ยุติธรรมตั้งแต่แรก เทพครองแดนเลี้ยงมังกรนั้นเป็นเทพเจ้าแห่ง เหนือฟ้าที่เลิศลํ้าเหนือผู้คน ดังนั้นร่างแยกที่ก่อขึ้นมาจากโลหิตเท
วะของเขาจึงมีกําลังฝีมือสูงลิ่วเช่นกัน แม้แต่ยอดฝีมือระดับชาว สวรรค์ก็มิใช่คู่ต่อสู้ของมัน อย่าว่าแต่ฉินมู่พวกพ้องเลย
ฝ่ายตรงข้ามเป็นเทพเจ้า ดังนั้นการวางยาพิษเขานั้นจึงเป็น วิธีการโต้กลับที่อยู่ในปกติวิสัย
ยาพิษที่เขาใช้นั้นคือผง 3 ทําลายที่เขาได้สรรค์สร้างขึ้น มา เมื่อเขาต่อสู้กับมู่ยิ่งเสว่จากแผ่นดินตะวันตก อันก็เป็นผู้ที่ตั้งชื่อยา พิษให้แก่เขาด้วย โชคดีที่ว่าเขามีนิสัยอันรอบคอบ ทุกครั้งที่เขา หลอมปรุงยารักษาหรือยาพิษ เขาก็มักจะปรุงมากกว่าที่จะต้องใช้สักหน่อย เพื่อจะได้เก็บไว้ครึ่งหนึ่งเผื่อใช้ฉุกเฉิน ใครจะรู้ล่ะว่าเขา จะต้องใช้พวกมันเมื่อไหร่ในอนาคต
ดังนั้นสิ่งที่ฉินมู่แพร่ลงไปในห่วงหยกจักรพรรดินั้นก็มิใช่ใดอื่น นอกเสียจากผง 3 ทําลาย มันจะพลิกผัน 5 ธาตุและปั่นป่วนหยิน และหยาง ทําให้ร่างกายแหลกสลาย ตามมาด้วยดวงจิตและดวง วิญญาณ นั่นจึงเป็นเหตุให้พิษชนิดนี้ถูกเรียกว่าผง 3 ทําลาย โดยใช้ยาบํารุงอัศจรรย์ที่หล่อเลี้ยงบํารุงร่างกาย มันได้กลายมา เป็นยาพิษอันเลิศลํ้ามหัศจรรย์
พิษชนิดนี้ถูกใช้เพื่อจัดการกับโลหิตของเทพและมารในปีศาจ รากไม้แห่งสันเขาเดียวดายโดยเฉพาะ ดังนั้นมันจึงเหมาะเจาะที่จะ ใช้จัดการกับร่างแยกของเทพครองแดนเลี้ยงมังกรอันก่อขึ้นมาจากโลหิตของเขา
ในครั้งนั้น ปีศาจรากไม้แห่งสันเขาเดียวดายถูกตรึงให้อยู่กับที่ ด้วยลูกแก้วมังกรเขียวและไม่อาจขยับเขยื้อนได้ ดังนั้นมันจึงถูก วางยาพิษได้อย่างง่ายดาย แต่ทว่าเทพครองแดนเลี้ยงมังกรนั้น เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ฉินมู่จึงแพร่พิษผง 3 ทําลายไปบนห่วง
หยกจักรพรรดิ เมื่อใดที่เทพครองแดนเลี้ยงมังกรแตะต้องมัน เขาก็ จะถูกพิษ
มังกรโลหิตไร้เขาขนาดจิ๋วจํานวนมากเลื้อยคลานไปทุกทิศทุก ทางเหลือหลีกลี้จากห่วงหยกจักรพรรดิและแอ่งเลือดเน่า จากนั้นก็ พยายามก่อเข้ามารวมกัน
ฉินมู่รีบพุ่งตัวไปหาพวกมันพลางร้องตะโกน “หากว่าพวกเรา ไม่รีบกําจัดโลหิตเทวะพวกนี้ พวกเราจะไม่มีใครรอดชีวิต!”
กระบี่บินทั้ง 8,000 เล่มของเขาเกลื่อนไปทั้งโถง แต่ด้วยพลัง วัตรของเขาในตอนนี้ เขาไม่อาจเรียกใช้กระบี่บินทั้งหมดกลับมา ได้ ปราณชีวิตของเขาจึงแปรเปลี่ยนเป็นเส้นด้ายไปกวาดกําเอา กระบี่ไร้กังวลที่ปักอยู่บนเสา ดึงมันออกมา
กระบี่ไร้กังวลเป็นกระบี่เทวะอันคมกริบ แม้ว่ามันจะถูกแทงลึก เข้าไปในเสา ก็ยังสามารถดึงออกมาได้ไม่เหมือนกับกระบี่เล่มอื่นๆ
ฉินมู่รวบรวมปราณชีวิตที่เหลือของเขา และช่วงใช้ท่วงท่า กระบี่พื้นฐานทุกชนิดไปยังมังกรโลหิตไร้เขามากมายที่วิ่งพล่านอยู่ บนพื้น
หลงอวี๋ครางหนัก เขาไม่อาจดึงกระบี่ที่ปักร่างของตนเอง ออกมาได้ ด้วยการเรียนรู้วิธีของฉินมู่ เขาก็ฟาดที่ด้ามกระบี่ด้วย กําลังแรง ให้กระบี่บินทะลวงทะลุหน้าอกของเขาไป
หลงอวี๋เปล่งเสียงร้องโหยหวนออกมาจากความเจ็บปวด จากนั้นก็กัดฟัน แต่ในตอนนั้นเอง ขวดหยก 2 ขวดก็ปลิวมา ฉินมู่ได้โยนนํ้าลายมังกรมาให้เขาจํานวนหนึ่ง
เด็กหนุ่มคว้ามันไว้ด้วยความรีบเร่งและไม่เสียเวลาเปิดจุกด้วย ซํ้า เขาขยี้ขวดหยกด้วยกําลังและให้นํ้าลายมังกรไหลออกมา จากนั้นก็ใช้ปราณชีวิตเพื่อส่งนํ้าลายมังกรเหล่านั้นไปยังบาดแผล ของตน
ผลลัพธ์ของนํ้าลายมังกรนั้นรวดเร็วเมื่อเนื้อหนังที่หน้าอกของ เขาเริ่มงอกกลับมา มันรู้สึกทั้งเจ็บและคัน
หลงอวี๋ไม่มีเวลาใส่ใจกับความเจ็บปวดอย่างสุดๆ ที่หน้าอก เขาพุ่งทะยานเข้าไปสังหารมังกรโลหิตไร้เขาตัวเล็กๆ มากมายที่วิ่งพล่านไปทั่วโถง
หวางมู่หรันและมู่ชิงไต้ก็ทําเช่นเดียวกันเพื่อหลุดเป็นอิสระจาก กระบี่ที่ปักตัว สูญเสียเลือดเนื้อในกระบวนการนั้น
ฉินมู่โยนนํ้าลายมังกรให้พวกเขาคนละ 2 ขวดเช่นกัน และ ทั้ง 2 คนก็รีบเท พวกมันลงไปบนบาดแผลทันที หากว่ามันเป็น สถานการณ์ปกติ พวกเขาคงใช้ปราณชีวิตเพื่อรีดเร้นเลือดคั่งออก จากบาดแผลเพื่อป้องกันอากาศบาดเจ็บแฝงฝัง แต่ตอนนี้พวกเขา ไม่มีเวลาจะใส่ใจกับเรื่องแบบนี้ จึงได้แต่ควบคุมอาวุธวิญญาณของ ตนให้สังหารมังกรโลหิตอันเล็กละเอียดทั้งหมด
“อย่าเหยียบไปบนเลือดเสีย!” ฉินมู่ตะโกนเตือนพวกเขา “ยา พิษที่ข้าหลอมปรุงขึ้นมาร้ายกาจเกินไป แม้แต่ข้าก็ไม่อาจถอนพิษ มันได้!”
ทั้ง 3 คนแตกตื่น และรีบระมัดระวังมากขึ้น หลบหลีกเลือด เสีย บนพื้น
4 หนุ่มสาวกระโดดหย็องแหย็งไปมาราวกับกระต่ายป่า และผาดโผนขึ้นลงราวกับนกเหยี่ยว แต่ทว่า พลังของพวกเขาก็ยังไม่ เพียงพอที่จะขจัดกวาดล้างมังกรโลหิตทั้งหมด ก็ในเมื่อมังกรพวก นั้นก่อขึ้นมาจากโลหิตเทวะ หลังจากมังกรถูกสังหาร พวกมันก็จะ
ก่อรูปขึ้นมาใหม่ทันที มีก็แต่กระบี่ไร้กังวลของฉินมู่ที่สามารถขจัด โลหิตเทพเจ้าไปได้จํานวนหนึ่ง
“ให้ข้ายืมพลังวัตร และร่วมกันร่ายรํากระบี่นี้ด้ว ยกัน!”
หวางมู่หรันและพรรคพวกรีบแผ่พุ่งปราณชีวิตของพวกเขา แปรเปลี่ยนให้เป็นเส้นด้ายไปยังกระบี่ไร้กังวล ด้วยพลังวัตรของพวกเขาที่ถ่ายเทเข้ามา พลานุภาพกระบี่ทวีคูณขึ้นอย่างมหาศาล
ฉินมู่ควบคุมกระบี่ไร้กังวล และเพลงกระบี่ของเขาก็แผ่พุ่งไป เฉือน บั่นเศียรมังกรไร้เขาทั้งหมดที่วิ่งพล่านอยู่ แสงกระบี่พลัน แปรเปลี่ยนเป็นท่วงท่ากระบี่เจาะเมื่อมันโจนทะยานไปตามพื้นราว กับมังกรเงิน เพื่อฉีกทึ้งร่างไร้หัวทั้งหลายที่นั่น
มังกรโลหิตไม่กี่ตัวเข้ามาเกาะกันและกลิ้งไปกับพื้น หลบเลี่ยง แสงกระบี่ เมื่อมังกรเล็กละเอียดเหล่านั้นหยุดลง พวกมันก็หายวับ และตําแหน่งที่พวกมันหายไปก็ปรากฏเทพครองแดนเลี้ยงมังกรที่
สูงเพียงหนึ่งคืบ
“เทพครองแดนเลี้ยงมังกร สมนํ้าหน้าเจ้าแล้ว!”
ทั้ง 4 คนทั้งประหลาดใจทั้งยินดี พวกเขาอดไม่ได้ที่จะระเบิด
หัวเราะออกมา แต่ทันใดนั้น ร่างเล็กเตี้ยของเทพครองแดนเลี้ยง มังกรก็หายวับ กระดูกต้นขาของขาซ้ายหลงอวี๋พลันแตกร้าวจาก ลูกเตะของเทพครองแดนเลี้ยงมังกรตัวเล็ก!
“ปลุกเนตร!” หวางมู่หรันกู่ร้องออกมาและปลุกเนตรเทวะของ ตน แต่เขาเพียงสามารถเห็นเทพครองแดนเลี้ยงมังกรที่เคลื่อนไป มาอย่างรวดเร็ว ร่างนั้นเคลื่อนวูบวาบราวกับเงาภูตผี ถึงขั้นที่ว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจับจ้องเงาร่างเขาทัน
ฉินมู่ร่ายรํากระบี่ไร้กังวลเพื่อแทงเข้าไปซํ้าแล้วซํ้าเล่า แต่กระบี่ ของเขาเอาแต่พลาดเป้าไปอย่างเฉียดฉิวเสียทุกครั้ง มันเป็นป ไม่ได้ที่จะโจมตีโดน!
“ศิษย์พี่หญิง ระวัง!”
เมื่อหวางมู่หรันร้องเตือนอยู่นั่นเอง เทพครองแดนเลี้ยงมังกรก็ ปรากฏตัวข้างๆ มู่ชิงไต้ราวภูตผีและต่อยนาง มู่ชิงไต้ร้องด้วยเสียง อันดัง และสายรัดเอวของนางก็ม้วนพันรอบๆ แขนของเทพครอง แดนเลี้ยงมังกร ขณะที่นางโต้กลับไปด้วยท่าฝ่ามือ
ฉินมู่เข้ามาประชิดและขับเคลื่อนวิชากายาจ้าวแดนดินสาม อมตะพลางโคจรวิชาปริศนา 3 สภาวะ 9 เปลี่ยนแปลง ร่างของ เขาย่อหดลงไป กลายเป็นคนตัวเล็กๆ ที่สูงเพียงหนึ่งคืบ กระบี่ไร้กังวลของเขาก็ย่อลงเหลือเพียง 3 นิ้ว และเขาควบคุมมันโจมตีใส่เทพครองแดนเลี้ยงมังกร “อย่าปะทะกับเขาตรงๆ กําลังเถื่อนของเขานั้นไร้เทียมทาน!”
ปัง!
โลหิตสดกระฉูดออกมาจากฝ่ามือของมู่ชิงไต้อันแตกหัก ฉินมู่ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในอากาศและใช้ปราณของเขาควบคุม กระบี่โจมตีเทพครองแดนเลี้ยงมังกร เทพเจ้าตัวจิ๋วหลบหลีกกระบี่ ไร้กังวลด้วยความเร็วของเงาภูตพราย หวางมู่หรันรวบรวมปราณ ของเขาเป็นตาข่ายเพื่อหมายจะจับเทพครองแดนเลี้ยงมังกรตัวเล็ก แต่ถูกเป่ากระจุยไป
หลงอวี๋ยืนขึ้นด้วยขาข้างเดียว กระโดดมายังข้างมู่ชิงไต้ ร่วมมือกับฉินมู่และคนอื่นๆ เพื่อจู่โจมเทพครองแดนเลี้ยงมังกร
“ร่างของเขาเล็กเกินไป ทําให้ยากจะโจมตี พวกเจ้าย่อขนาด ตัวเร็วเข้า!” ฉินมู่ตะโกน
มู่ชิงไต้ขับเคลื่อนวิชาจากคัมภีร์เต๋าพิสดารศากยมุนี และร่าง ของนางหดย่อลงทันที นางกลายเป็นเด็กสาวขนาด 1 คืบที่เส้น ผมยาวเหยียดอยู่ข้างหลัง อีกฟากหนึ่ง หวางมู่หรันก็ย่อขนาดตัว กลายเป็นมนุษย์ตัวจิ๋ว มีก็แต่หลงอวี๋ที่มิได้ฝึกวิชาทํานองนี้ ดังนั้น เขาจึงได้ยืนขาเดียวและตั้งท่าป้องกัน
เขาขับเคลื่อนเนตรสวรรค์หัวใจกระบี่ และแสงกระบี่ก็ยิง ออกมาจากดวงตาของเขา พวกมันเคลื่อนที่ไปมาตามการ เคลื่อนไหวของคนตัวเล็กๆ 4 คนที่ตะลุมบอนกันอยู่ แม้ว่าเนตรกระบี่ของเขาจะว่องไว แต่ก็ยังยากที่จะไล่ตามร่างอันเล็กจิ๋วของ เทพครองแดนเลี้ยงมังกรทัน เขาได้แต่มองเห็นสิ่งเล็กๆ ทั้ง 4 พุ่งวูบ วาบไปมาบนท้องฟ้า
เร็วเกินไป…แย่ล่ะ!
หลงอวี๋เห็นเทพครองแดนเลี้ยงมังกรพุ่งมาใส่เขา ก็รีบกระโดด ขึ้นมาด้วยขาเดียว ในพริบตาที่เขาทําเช่นนั้น เขาก็ได้ยินเสียงกร๊ อบและเมื่อมองลงไปก็เห็นขาอีกข้างของเขาบิดหักไปในมุมอันไม่ น่าเชื่อ
แย่แล้ว เขาคิด
ตึง
หลงอวี๋ร่วงลงมายังพื้นในท่าคุกเข่า ความเจ็บปวดแทบจะทํา ให้เขาสลบ เทพครองแดนเลี้ยงมังกรปรากฏร่างที่ข้างหลังศีรษะ ของเขา และปลายเท้าของเทพครองแดนเลี้ยงมังกรก็เล็งไปยัง เป้าหมายที่ไม่อาจป้องกันตัวได้ หากว่าเทพเจ้านี้เตะเข้าไปสําเร็จ ศีรษะของหลงอวี๋ก็จะแตกระเบิดอย่างแน่นอน!
แต่ในพริบตานั้น กระบี่ไร้กังวลอันยาวเพียง 3 นิ้วก็พุ่งวาบมา แทงทะลุเท้าของเทพครองแดนเลี้ยงมังกร ทําให้ลูกเตะของเขา พลาดเป้า
หลงอวี๋ถอนใจและกัดฟันอํามหิตบิดคอของตนเองไป 180 องศา แสงกระบี่ระเบิดออกจากดวงตาของเขาและแทงไปยังเทพ ครองแดนเลี้ยงมังกร เป่าเขากระเด็นไป!
“สุดฝีมือข้าแล้ว!” หลงอวี๋ตะโกน เขาล้มครืนลงกับพื้น คอแทบหักจากการบิดนี้
เทพครองแดนเลี้ยงมังกรปลิวไปข้างหลัง ขณะที่เท้าของเขา แตะพื้นไปอย่างซํ้าๆ บนอากาศเพื่อขจัดแรงแฝงใน 2 กระบี่ ร่าง ของเขาก่อขึ้นมาจากโลหิต ดังนั้นเขาจึงไม่มีพลังวัตร และต้องพึ่ง แต่พละกําลังกายเนื้อเพื่อใช้ต่อกรกับฉินมู่และพวกพ้อง แต่ทว่า ความเหนื่อยล้าของโลหิตเทพเจ้านั้นน่าตื่นตระหนก เขาไม่มี ทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้ทักษะเทวะกายเนื้อมาเอาชนะ
ทันใดนั้น ร่างใหญ่ทะมึนก็ปรากฏที่ประตูโถง กวางผู้ซึ่งปักเต็ม ไปด้วยกระบี่คลานเข้ามาพลางสะบัดหัว เขาของมันพุ่งออกไปจาก ศีรษะ และหนึ่งในกิ่งเขาเล็กๆ ก็แทงเข้าไปที่ด้านหลังหัวใจของเทพครองแดนเลี้ยงมังกร
ร่างของเทพครองแดนเลี้ยงมังกรระเบิดออก โลหิตเป็นก้อน กลมจํานวนมากกลิ้งกระจายออกไป และเทพเจ้านี้ก็มีขนาดเล็กลง ยิ่งกว่าเดิม เขากระโดดขึ้นมาจากเขากวางเหล่านั้น และกระโจน ขึ้นไปบนหัวเลี่ยนเตียนของกวางใหญ่ เขาต่อยหมัดลงไป หมายที่
จะทุบหัวของกวางยักษ์ให้แหลก
ฉินมู่ส่งกระบี่ไป เทพครองแดนเลี้ยงมังกรหลบหลีกมัน แต่พลันเห็นคนตัวเล็กๆ 3 คนขึ้นมาล้อมเขาบนหัวของกวาง
กวางใหญ่กะพริบตาและเผยสีหน้าหวาดผวา เมื่อคนตัวเล็กๆ 4 คนต่อสู้ตะลุมบอนกันบนร่างของเขาทางนั้นและทางนี้ กระดูกของเขาก็ส่งเสียงกร๊อบแกร๊บราวกับว่าจะหักไปได้ทุกเมื่อ
“เจ้า เจ้า…” กวางใหญ่ร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกและ รีบเคลื่อนตัวไปหากิเลนมังกรที่นอนแผ่อยู่กลางโถง เขาพยายาม จะส่งเภทภัยทั้ง 4 บนร่างไปให้กิเลนมังกร
บนร่างของกิเลนมังกรก็มีกระบี่บินปักอยู่ 10 กว่าเล่ม แต่กล้ามเนื้อเขาอ่อนเปลี้ยไปหมด เขามีความหวาดกลัวโดย ธรรมชาติต่อเทพครองแดนเลี้ยงมังกร นั่นจึงเป็นเหตุให้ตลอดเวลา ที่ผ่านมานี้เขาไม่อาจกระดิกกระเดี้ย มังกรไร้เขาตัวอื่นๆ ก็นอนแบหลารอบๆ ตัวเขา และบางตัวก็ถูกกระบี่ปักตามเนื้อตัวเช่นกัน แต่พวกมันก็นอนหมอบไม่ไหวติง ไม่กล้าขยับ
ดีที่ว่าหนังของกิเลนมังกรนั้นหยาบ และเนื้อก็หนา ด้วยชั้นไขมันห่อหุ้มไปทั้งตัวเขา ทําให้ต่อให้กระบี่เป็น 10 เล่มปักบนตัวก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
“อย่ามาทางนี้…” กิเลนมังกรร้องครางเสียงระโหย
กวางใหญ่เกือบจะมาถึงเขาแล้ว แต่เสียงเปรี๊ยะๆ ดังมาจากร่าง ของมัน มันบิดตัวและแข้งขาก็หักเป๊าะ ทําให้มันล้มลงกับพื้นและ ไถลตัวไปข้างหน้า
กิเลนมังกรรีดเร้นพลังทั้งหมดที่มีเพื่อหันร่างกลับไปอีกทิศและ คลานออกห่างจากกวางเขา มังกรไร้เขาตัวอื่นๆ ก็หันเหเปลี่ยนทิศ บนพื้นและคืบคลานไปในทิศทางอื่นด้วยความยากลําบาก
กลิ่นอายคุกคามของเทพครองแดนเลี้ยงมังกรนั้นแข็งแกร่งจนเกินไป ทําให้พวกมันไม่กล้าจะต่อต้าน
ทันใดนั้น มู่ชิงไต้ก็กระเด็นไปข้างหลังและปะทะเข้ากับกิเลน มังกรผู้ซึ่งกําลังคลานหนีด้วยกําลังทั้งหมดที่มี นางสลบลงไป เทพ ครองแดนเลี้ยงมังกรพุ่งปราด หมายที่จะคร่าชีวิตของมู่ชิงไต้ และ
กิเลนมังกรก็อ่อนเปลี้ยอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นอัมพาตอยู่กับพื้น
ฉินมู่คว้ากระบี่ไร้กังวลและตะโกน “พี่มู่หรัน!”
หวางมู่หรันอาเจียนเลือดสดออกมาเมื่อเขารีดเร้นพละกําลัง ทั้งหมดเพื่อจับฉินมู่ยกขึ้นและเขวี้ยงเขาไปข้างหน้า เท้าของฉินมู่ แตะอากาศอย่างรัวเร็วและพุ่งเข้าไปด้วยความเร็วปานสายฟ้า แสง กระบี่ของกระบี่ 3 นิ้วในมือของเขาพวยพุ่งขึ้นมาอย่างอัศจรรย์ และเทือกเขาเขียวกับธารนํ้าใสเล็กละเอียดกระผีกหนึ่งก็ปรากฏ ขึ้นมาจากแสงกระบี่ ท่วมทับใส่เทพครองแดนเลี้ยงมังกร
เสียงเคร้งคร้างดังมาไม่หยุดยั้ง และกระบี่ย่างไปในทิวทัศน์ พลันแยกมลายไป เหลือแต่เงาร่างของฉินมู่ที่ควงกระบี่ของเขาพุ่ง ขยํ้า
ร่างของเทพครองแดนเลี้ยงมังกรเล็กจิ๋วลงไปกว่าเดิม และข้าง ใต้เท้าของเขาก็มีกองเลือดเสียมากขึ้น เขาใช้ดรรชนีและฝ่ามือ สลับกันไปมาเพื่อฟาดและจี้ใส่กระบี่ไร้กังวลอย่างถี่ยิบ และแรงสะเทือนมหาศาลก็ส่งไปทั่วสรรพางค์กายของฉินมู่ ทําให้เขากระอักเลือดอย่างต่อเนื่อง เขาจึงแปลงร่างเป็นเงามืดเพื่อเคลื่อนไหวไปบนพื้น แต่เทพครองแดนเลี้ยงมังกรก็ซัดหมัดลงไป และเป่าเขากระเด็นออกมาจากพื้น
หวางมู่หรันตะโกนด้วยเสียงอันดัง และเส้นผมของเขาก็ปลิว สยายในสายลมเมื่อพุ่งตัวมา คนตัวจิ๋ว 2 คนต่อสู้กันอย่างดุเดือด ท่ามกลางประกายไฟ เสียงของกระดูกหักดังมาเมื่อหวางมู่หรันถูก ซัดกระเด็นกลับ
ฉินมู่นอนแผ่อยู่กับพื้นและใช้กําลังเฮือกสุดท้ายยกกระบี่ของ เขาแทงลงไป เทพครองแดนเลี้ยงมังกรอันเหลือเพียงขนาด 2 นิ้ว ประกบฝ่ามือ 2 ข้างบนใบมีดของกระบี่ไร้กังวล ใช้พลังทั้งหมด ของตนเพื่อต้านรับมัน
กระบี่ของฉินมู่พลันไม่เคลื่อนที่ต่อไปได้ และเขาก็ตะโกนอย่าง ดุดัน “มังกรอ้วน เจ้ายังอยากมีอาหารกินอยู่หรือเปล่า หากว่าข้า ตาย เจ้าก็จะอดตายไปด้วย!”
สายตาของกิเลนมังกรเต็มไปด้วยความหวาดผวาเมื่อเขามอง ไปยังเทพครองแดนเลี้ยงมังกรอย่างเหม่อลอย แต่เมื่อเขาได้ยินประโยคนั้น เขาก็พลันร้องคํารามอย่างดุร้าย และเงื้อกรงเล็บขึ้นมา ฟาดลงไปบนด้ามกระบี่
ฉึก
แสงกระบี่แทงทะลุร่างเทพครองแดนเลี้ยงมังกร และเขาผู้ซึ่ง เหลือเพียง 2 นิ้วก็ถูกผ่าออกเป็น 2 เสี่ยง เลือดสดๆ ยังบิดไปมา บนพื้นและหมายจะไหลเข้ามารวมกันอีกครั้ง แต่กิเลนมังกรคําราม อย่างเกรี้ยวกราด พลังวัตรของเขาหลั่งไหลเข้าไปในกระบี่ ให้แสง กระบี่ยิ่งคมกริบและระเบิดออกไปในทุกทิศทาง โลหิตเทวะกลุ่ม สุดท้ายแห้งเหี่ยวกลายเป็นกองเลือดเสียบนพื้นและแน่นิ่งไปในที่สุด
ฉินมู่ตะลึงไป พลังในร่างกายของเขาถดถอยลงราวกับคลื่น ทะเลยามนํ้าลง และมือของเขาที่กําด้ามกระบี่อยู่ก็คลายออก เขา ล้มควํ่าลงกับพื้น
กิเลนมังกรยังคงคํารามอย่างดุเดือด เขาเงื้อกรงเล็บขึ้นอีก หมายจากฟาดใส่ด้ามกระบี่อีกครั้ง แต่ฉินมู่กล่าวด้วยเสียงอ่อนล้า “เลิกทุบได้แล้ว…หากว่าเจ้ายังทุบฟาดอีก ข้านี่แหละก็จะตายไป ด้วย…”
เขาไออย่างรุนแรง พลังวัตรของเขานั้นแห้งเหือดไปโดยสิ้นเชิง และกายหยาบของเขาก็ค่อยๆ ขยายกลับมาเป็นขนาดปกติ เขาหมายที่จะคลานลุกขึ้นมาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของตน แต่เขากระดิกกระเดี้ยไม่ได้
กิเลนมังกรคลานด้วยขาทั้ง 4 ของมัน และมองไปยังรอยเลือดบนพื้น จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆ และเห็นมังกรไร้เขาอันแข็งแกร่ง
ไร้เทียมทานทั้งหลายไม่กล้าสบตาเขาสักตัว หัวของพวกมันก้มตํ่า ดวงตาเต็มไปด้วยความสะพรึง



