Skip to content

Tales of Herding Gods 386

Tales of Herding Gods
BC

ตอนที่ 386 วิชาช่วงชิงชะตา

C

ตอนที่ฉินมู่ผุดขึ้นจากนํ้านั้น มังกรไร้เขาตัวใหญ่ก็มุดนํ้า เฉียดเขาไป ดําดิ่งลงยังก้นบึ้งลึกลํ้า มันมิใช่ใครอื่นนอกเสียจาก ราชามังกรเทวะไร้เขา ฉินมู่หยุดดู สังเกตเห็นไม้เท้าไผ่ปักอยู่บน

หน้าผากของมังกรไร้เขาสีนํ้าเงินไพลินตัวนี้ ตรงแผลปักมีเลือดพุ่ง ออกมา

ไม้เท้าผ่ของท่านปู่บอด!

ฉินมู่ขึ้นมาจากแม่นํ้าและเดินตรงไปยังชายฝั่ง กิเลนมังกรนํา ฝูงมังกรไร้เขา 10 กว่าตัวมา พลางแบกหลิงอวี้จิว ฮู่หลิงเอ๋อ และ ซีอวิ๋นเซี่ยงอย่างระมัดระวัง การต่อสู้ระหว่างเฒ่าบอดและราชา มังกรเทวะไร้เขานั้นเพิ่งสิ้นสุดไป พวกเขาหลบหลีกลูกหลงจาก การต่อสู้อยู่ จึงมาถึงล่าช้า

ฮู่หลิงเอ๋อนั้นสร่างเมาในที่สุด และมองไปรอบๆ อย่างฉงนฉงาย ไม่รู้ว่าจากงานเลี้ยงในเมืองเล็กๆ มาโผล่ที่นี่ได้อย่างไร นางจึงค่อนข้างงุนงง

ฉินมู่มองไปรอบๆ และเห็นเฒ่าบอด

ในตอนนี้ เฒ่าบอดดูยับเยินหมดสภาพ เปื้อนเปรอะดินโคลน ไปหมด เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่น และมีแผลเต็มไปหมดทั่วตัว เห็นได้ ชัดว่าเขาต้องเผชิญกับการต่อสู้ขับเคี่ยวกับราชามังกรเทวะไร้เขา

สิ่งมีชีวิตนั้นแข็งแกร่งอย่างสุดขั้ว เพราะไม่ว่าอย่างไรมันก็คือ มังกรไร้เขาที่บรรลุเป็นเทพเจ้า มันมีกําลังฝีมืออันเลิศลํ้าเหนือ ธรรมดา และยังเป็นมังกรไร้เขาธาตุนํ้าอีกต่างหาก เฒ่าบอดได้ใช้ พละกําลังทั้งหมดของเขาเพื่อคุกคามชีวิตราชามังกรเทวะไร้เขา แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน

กิเลนมังกรเหาะมาและลงจอดที่พื้น ฮู่หลิงเอ๋อกระโดดลงมา จากหลังของเขา ยังคงอยู่ในร่างจิ้งจอกน้อย นางกระโดด หย็องแหย็งและกระโจนขึ้นไปบนบ่าของฉินมู่ ถึงเพิ่งสังเกตเห็น มังกรไร้เขาสีเขียวเข้มบนบ่าอีกข้างหนึ่ง อันทําให้นางขนลุกชูชัน ไปทั้งตัว แม้แต่หางของนางก็เหยียดแหน็ว

เมื่อนางเมาสุรา นางก็จะกลับสู่ร่างเดิม และเมื่อตื่นขึ้น นางก็ลืมที่จะแปลงกายกลับเป็นมนุษย์เช่นกัน

“หลิงเอ๋อ ไม่ต้องกลัว นี่เป็นมังกรไร้เขาที่ข้าเพิ่งรับมาเลี้ยง มัน ได้ทําความดีชอบยิ่งใหญ่อีกด้วย” ฉินมู่ปลอบใจจิ้งจอกน้อยพลาง เหลือบตาดูเฒ่าบอด เขากะพริบตาปริบและยิ้มกว้างให้แก่ผู้เฒ่า แล้วหันไปกล่าวกับสองสาว “น้องสาวอวี้จิว ธิดาเทพเซี่ยง ให้ข้าอวดเจ้าตัวใหญ่ให้พวกเจ้าดูสักหน่อย”

เด็กสาวทั้ง 2 ใคร่รู้เป็นอย่างยิ่ง และถาม “เจ้าตัวใหญ่ไหน”

ฉินมู่ยืนอยู่ข้างๆ แม่นํ้าและตะโกนด้วยเสียงอันดัง “ราชามังกร สยบแม่นํ้า เจ้ายังไม่ออกมาอีกหรือ”

คลื่นซัดโถมเข้ามาและกระเซ็นสู่ท้องฟ้า มังกรมหึมาอันก็คือ เทพครองแดนเลี้ยงมังกรโผล่ศีรษะขึ้นมาจากแม่นํ้า สูงราวขุนเขา

หนวดยาวเฟื้อยของเขาห้อยมาจากจมูก โปร่งแสงและเปล่ง ประกาย สะบัดพริ้วไปตามลมยิ่งหนวดมังกรคู่นั้นยาวถึง 150 วาและงดงามเป็นอย่าง

เทพครองแดนเลี้ยงมังกรก้มหัวลงมา “ไม่ทราบว่าฝ่าบาทมีบัญชาใด”

สตรีทั้ง 2 ตกตะลึง และเฒ่าบอดเองก็แตกตื่น ฉินมู่ปลื้มอกปลื้มใจกับตนเองพลางมองไปรอบๆ เมื่อเขาเห็นสี

หน้าของทุกคน เขาก็กอดอก แย้มยิ้ม แล้วก็กล่าว “ไม่มีอะไรมาก ข้าเพียงแต่อยากให้เจ้าออกมาทักทายทุกๆ คนเท่านั้น”

ด้วยสีหน้าอันเคร่งขรึม เทพครองแดนเลี้ยงมังกรอดทนข่ม ตัวเองไม่ให้ใช้กรงเล็บตบไอ้ตัวจ้อยนี่ในตะปบเดียว ขณะที่เขา กําลังจะจมหายลงไปในนํ้า ฉินมู่ก็กล่าว “ช้าก่อน อย่าเพิ่งรีบไป เจ้าสัญญากับข้าไว้นี่ว่าจะสอนวิธีการรวบรวมสายแร่มังกร และวิธีการขับเคลื่อนพลานุภาพของจ้าวแห่งมังกรแท้”

เทพครองแดนเลี้ยงมังกรหยุดทันที ไม่ดําลงไปในนํ้าต่อ ฉินมู่ยืดอกมองไป “ท่านปู่บอด เป็นอย่างไรล่ะ” “สุดยอดเกินไปแล้ว” เฒ่าบอดใบหน้าเกลื่อนยิ้ม

ฉินมู่สายตาวูบไหว และเขาลอบนําเอาขลุ่ยทองคําออกมา เขา พลันขับเคลื่อนเคล็ดลับควบคุมมังกรเพื่อให้มังกรไร้เขามากมาย พุ่งเข้าใส่เฒ่าบอด!

พวกมันล้วนแต่ทรงพลังเหลือลํ้า และหากว่าพวกมันกําราบ เฒ่าบอดเอาไว้ เขาต้องดิ้นไม่หลุดเป็นแน่!

แต่ในพริบตานั้น เฒ่าบอดพลันดีดนิ้ว และฉินมู่ก็ครางเสียง หนัก 3 มหาสมบัติเทวะในร่างกายของเขาถูกปิดผนึกอีกครั้ง เสียงของขลุ่ยหยุดไป และมังกรไร้เขาทั้งหลายก็มองไปรอบๆ อย่าง เหม่องง พวกมันไม่โจมตีเฒ่าบอด

“มู่เอ๋อเจ้าเก่งกาจเกินเจียมตัวไปหน่อยนะ” เฒ่าบอดดีดนิ้วอีก หนและเชือกทองคําก็บินออกไปมัดแขนและขาของเขา ตาเฒ่า ถอนหายใจ “เฮ้อ แต่ละยุคสมัยก็มีวีรชนใหม่ในแดนดินแห่งนี้ แต่กระนั้นรุ่นเยาว์ทั้งหลายก็ได้แต่ทิ้งชีวิตไว้บนหาดทราย อันว่าขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ด เจ้าลงมือชักช้าเกินไป หมายจะควบคุมมังกรไร้เขามา

กําราบข้างั้นหรือ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก”

ฉินมู่ล้มลงกับพื้น ใบหน้าของเขามืดดําราวกับถ่าน ขณะที่ เขากําลังจะออกคําสั่งแห่งเทพครองแดนเลี้ยงมังกรเพื่อให้จัดการ เฒ่าบอดนั่นเอง ปากของเขาก็ถูกยัดเอาไว้ด้วยก้อนผ้า ทําให้เขา ได้แต่ร้องอู้ๆ อี้ๆ

“งานวิวาห์ยังต้องดําเนินต่อไป และลูกก็ต้องผลิตต่อ!” เฒ่าบอดหิ้วเขาขึ้นมาและกล่าวแก่เทพครองแดนเลี้ยงมังกร “แบกพวกเรากลับไปที่แดนโบราณวินาศตามแม่นํ้าสายนี้ พวกเราจะกลับไป

ที่หมู่บ้านเพื่อจัดงานแต่งต่อ! ยังมีเจ้าสาวอีก 2 คน และหากว่าเจ้า ช่วยจัดแจงได้เรียบร้อยดี ข้าจะเชิญเจ้าเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลอง วิวาห์ด้วย”

เทพครองแดนเลี้ยงมังกรลังเลอยู่ครู่หนึ่งขณะที่มองไปยังฉินมู่ เสียงอู้อี้ดังมาจากปากของเด็กหนุ่มเมื่อเขาพยายามดิ้นรน แต่ทว่า ผ่านไปสักพัก เด็กหนุ่มก็ได้แต่คอตกรับชะตากรรม

เทพครองแดนเลี้ยงมังกรลอบสุขสันต์ในใจ ไอ้เด็กหน้าซื่อตา ใสนี่มันกลอกกลิ้งดีนัก แต่ก็ยังอุตส่ห์มีเวลาที่มันเพลี่ยงพล้ำ สมน้ำหน้านัก

เขาก้มตัวลง เผยหลังยาวๆ ให้แก่คณะ มันเหมือนกับเกาะแคบ ยาวบนแม่นํ้า

“ขึ้นมาบนหลังข้า!” เขาตะโกน

เฒ่าบอดแบกฉินมู่ขึ้นไปบนหลังมังกร และกิเลนมังกรก็รีบขึ้น ไปด้วยเช่นกัน มังกรไร้เขามากมายที่เพ่นพ่านวุ่นวายไปหมดก็มุด เข้ามาขดตัวเป็นลูกกลมบนนั้นด้วย

มังกรร้เขาพวกนี้ข้าเลี้ยงเอาไว้ทั้งนั้น มีแต่พวกตะกละกินฟรี

เทพครองแดนเลี้ยงมังกรรู้สึกรวดร้าวใจอีกรอบ แต่เหตุการณ์

มันเกินกว่าที่เขาจะแก้ไขอะไรทั้งสิ้น หากว่าเขาสามารถย้อนเวลา ได้ เขาคงฟาดฝ่ามือใส่ฉินมู่ให้บี้แบนตั้งแต่วินาทีแรกที่พบกัน สังหารไอ้เด็กพรหมจรรย์หน้าตาใสซื่อด้วยลูกตบเดียว

บนหลังมังกร ดูเหมือนฉินมู่จะปลงตกกับชะตากรรมแล้วและ ไม่ดิ้นรนอีกต่อไป เขาก็ไม่ได้พยายามให้เทพครองแดนเลี้ยงมังกร ลงมืออะไรเช่นกัน ดังนั้นเฒ่าบอดจึงเอาผ้าในปากของเขาออกและกล่าว “ให้เทพครองแดนปลาไหลสอนเจ้าสิ”

ฉินมู่ยื่นมือออกไป และเฒ่าบอดก็ปลดเชือกทองคําออกให้ แต่ทว่าที่มัดขาเขาไว้ยังคงอยู่

ฉินมู่สายตาวอกแวก “ทําไมท่านปู่บอดต้องระมัดระวังขนาด นั้น ข้าก็แค่จะเรียนการรวบรวมสายแร่มังกรจากเทพครองแดน เลี้ยงมังกรและต้องใช้พลังวัตรในการเรียนรู้ ยิ่งไปกว่านั้น มังกรไร้ เขาพวกนี้ก็หิวกันแล้ว ต่อให้ท่านปลดผนึกออก ข้าก็จะหนีไปได้

หรือ แม้แต่ข้าอยากจะวิ่งหนี ข้าก็จะหนีพ้นเงื้อมมือท่านปู่บอดหรือ การผนึกพลังวัตรข้าใหม่อีกหน ก็ง่ายดายเพียงแค่ท่านดีดนิ้วไม่ใช่หรือ”

เฒ่าบอดเลิกคิ้วและยื่นมือออกไปแตะที่หว่างคิ้วของฉินมู่ เขา ลิงโลดยินดีเมื่อได้ยินเสียงครืนครันจากในร่าง สมบัติเทวะทารก วิญญาณของเขาถูกปลุกเปิด แต่สมบัติเทวะห้าธาตุและหกทิศ ยังคงปิดผนึกอยู่

“ปราณชีวิตในสมบัติเทวะทารกวิญญาณก็พอให้เจ้าเรียนแล้ว” เฒ่าบอดกล่าวอย่างเยือกเย็น

ฉินมู่ถอนหายใจด้วยความชื่นชม และยกนิ้วหัวแม่โป้งให้เฒ่า บอด “สมแล้วกับที่เป็นผู้เฒ่าเปี่ยมประสบการณ์ที่สอนข้าให้เติบโต เป็นผู้ใหญ่ ระมัดระวังตลอดเวลาเลย!”

เฒ่าบอดจิตใจเริงร่าและหัวเราะขึ้นมา “เลิกประจบข้าได้แล้ว! ไป ไป!”

หลิงอวี้จิวและซีอวิ๋นเซี่ยงหันไปมองซึ่งกันและกันด้วยความอึ้ง การสั่งสอนในครอบครัวเด็กเลี้ยงวัวดูเหมือนจะแตกต่างจากครอบครัวอื่น ไม่ว่าจะมองมุมไหน นี่ก็ดูพาเด็กของพวกเขาเข้ารก เข้าพงชัด ๆ

ฉินมู่หลอมปรุงยาวิญญาณและป้อนมังกรทั้งหลาย กิเลนมังกร ก็ได้กินเต็มปากเต็มคํา แต่รู้สึกว่ารสชาติผิดปกติ เขาจึงแอบลอก เปลือกของยาวิญญาณเพลิงฉานออกมา และสีหน้าเขาก็มืดครึ้ม ทันใด เขาเห็นว่าในใจกลางของยาวิญญาณเพลิงฉานซ่อนเอาไว้ ด้วยยาชีวาเทพธาตุไฟ มิน่าล่ะมันถึงเผ็ดๆ!

“จ้าวลัทธิ ยาวิญญาณพวกนี้มันไม่ใช่แล้วนะ!” กิเลนมังกรรํ่า ร้อง หลังจากนั้นเขาก็ปอกแงะเอายาวิญญาณอีกหลายเม็ดและ โยนยาชีวาเทพธาตุไฟทิ้งลงแม่นํ้า พลางกินแต่เปลือกของมัน

ฉินมู่เป่าขลุ่ยทองคําให้มังกรไร้เขาเขียวเข้มทุบตีกิเลนมังกร เจ้าอ้วนร้องเย้วๆ อย่างน่าสงสารและไม่กล้าเลือกกินอีกต่อไป

เมื่อเทพครองแดนเลี้ยงมังกรว่ายนํ้าตรงไปยังแดนโบราณวินาศ เขาก็สอนฉินมู่ถึงเคล็ดลับควบคุมมังกรที่ลึกซึ้งกว่าเดิม คัมภีร์เลี้ยงมังกรที่เขาให้แก่ฉินมู่นั้นยังคงซุกงําวิชาเอาไว้อยู่ หลายๆ ประเด็นสําคัญมิได้บันทึกเอาไว้ในนั้น ฉินมู่เรียนอย่างขยัน

ขันแข็งและไม่เล่นตุกติกกับเฒ่าบอด

ผ่านไปครึ่งวัน เขาก็เรียนรู้เคล็ดลับควบคุมมังกรทั้งหมด และ เอ่ยถามถึงวิธีการขับเคลื่อนพลานุภาพของจ้าวแห่งมังกรแท้ เทพ ครองแดนเลี้ยงมังกรกล่าว “ข้าไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ขัดเกลาจ้าวแห่ง มังกรแท้ให้กลายเป็นสมบัติวิเศษ แต่บัดนี้มันได้กลายเป็นสมบัติ

แห่งโชคชะตา มันไม่มีวันกลายเป็นมังกรแท้ได้อีกต่อไป แต่ทว่า วางมันไว้ในรังจะทําให้มันสามารถดูดซับปราณมังกรในนั้น”

“ด้วยวิชาพิเศษเฉพาะสําหรับการดูดซับโชคชะตาของจ้าว แห่งมังกรแท้ วรยุทธ์ของบุคคลที่สวมใส่จ้าวแห่งมังกรแท้จะรุดหน้า อย่างก้าวกระโดด! ข้าไม่เคยเรียนวิชาชนิดนี้มาก่อน แต่ข้าคิดว่า บุคคลที่หมายจะเก็บสมบัตินี้คืนไปน่าจะจารึกฝังวิชาดังกล่าวเอาไว้ ในจ้าวแห่งมังกรแท้ หลังจากที่ช่วงชิงชะตาแล้ว เจ้าก็จะกลายเป็น จ้าวแห่งมังกรแท้!”

“วิชาพิเศษเฉพาะ?”

ฉินมู่อึ้งไปเล็กน้อย เขาจึงกล่าวถึงวิชา 9 มังกรราชันย์ที่เขา เรียนจากจักรพรรดิเอี้ยนเฝิงทันที “นี่คือวิชาที่ใช้ช่วงชิงชะตาที่ว่า หรือเปล่า”

เทพครองแดนเลี้ยงมังกรครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหัว “วิชาประเภทนี้สามารถช่วงชิงได้ก็แต่ปราณ หยิบยืมปราณมังกร มาฝึกวิทยายุทธ์ ดังนั้นมันจึงมิใช่วิชาที่ใช้ช่วงชิงชะตา พวกข้า เผ่ามังกรถือกําเนิดจากฟ้าและดิน และย่อมสืบทอดปัญญาความรู้ของจักรวาล แปรเปลี่ยนมันให้เป็นภาษาอันเรียกกันว่าภาษามังกร”

“มังกรแต่ละตัวนั้นย่อมเชี่ยวชาญในภาษามังกรมาแต่กําเนิด ดังนั้นไม่มีความจําเป็นต้องเรียนมัน ข้อเขียนและอักษรรูนบนจ้าว แห่งมังกรแท้และรังของมันมิใช่ใดอื่นนอกเสียจากข้อเขียนในภาษา

เผ่ามังกรของข้า ข้าได้เห็นแต่ที่จารึกไว้บนรังมังกร เมื่อดูจากที่นั่น มันก็เป็นวิชาที่ใช้ช่วงชิงชะตาอย่างแน่แท้ แต่ทว่ามันไม่ครบสมบูรณ์”

ฉินมู่จิตใจหวั่นไหว เขาคงจะสามารถเรียนวิชาที่ใช้ช่วงชิง ชะตาได้ก็ต่อเมื่อประกอบจ้าวแห่งมังกรแท้กับรังมังกรเข้าด้วยกัน เท่านั้น

ตํานานกล่าวไว้ว่า เทพเจ้าตนหนึ่งได้มอบห่วงหยกจักรพรรดิ ให้แ ก่บรรพบุรุษแห่งตระกูลหลิง และนั่นก็กลายเป็นสัญลักษณ์แห่ง อํานาจจักรพรรดิ วิชา 9 มังกรราชันย์นั้นย่อมเป็นวิชาที่ตรึกตรอง ทําความเข้าใจจากห่วงหยกจักรพรรดิ

ยิ่งไปกว่านั้น อัจฉริยะอย่างจักรพรรดิเอี้ยนเฝิงยังสามารถ ยกระดับวิชา 9 มังกรราชันย์จนสมบูรณ์แบบ ถึงขั้นที่สามารถ ประชันขันแข่งกับคัมภีร์มารฟ้ามหาศึกษิตและพระสูตรมหายาน ยูไล!

ก็คงนึกภาพออกได้ว่า วิชาอันได้มาจากการประกอบห่วงหยก จักรพรรดิเข้ากับรังมังกรจะน่าสะพรึงกลัวมากแค่ไหน!

“เทพครองแดนเลี้ยงมังกร สอนภาษามังกรให้ข้าสิ!” ฉินมู่กล่าวทันที

เทพครองแดนเลี้ยงมังกรสอนภาษามังกรเท่าที่เขารู้และกล่าว “จริงๆ แล้วมันซ่อนอยู่ในสายเลือด ยิ่งสายเลือดบริสุทธิ์มากเท่าไร ก็จะยิ่งรู้ถ้อยคําในภาษามังกรมากเท่านั้น ข้ามิใช่มังกรแท้ ดังนั้นจึง มีบางส่วนที่ข้าไม่รู้ความหมาย”

ฉินมู่จดจําทุกการออกเสียงและการสะกดในข้อเขียนภาษามังกรทั้งหมด และหัวของเขาก็เริ่มโป่งพอง การขีดเขียนอักขระในภาษามังกรพิลึกประหลาด และมันดูเหมือนจะประกอบไปด้วยมังกร มากมาย ไม่มีโครงสร้างรูปแบบปรากฏให้เห็น!

เมื่อไม่มีโครงสร้างรูปแบบ ก็ เป็ นไป ไม่ได้ที่จะอนุมานความหมายของตัวอักษรที่เขาไม่รู้จัก

ยิ่งไปกว่านั้น วิธีการเปล่งเสียงยังแตกต่างไปจากภาษามนุษย์ พวกมันมีจังหวะการออกเสียงที่แปลกประหลาด และบางคําศัพท์ก็ ไม่อาจเปล่งออกมาได้ด้วยคอของมนุษย์ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ เขาจะใช้ภาษามังกรที่รํ่าเรียนมาในการสื่อสารกับมังกรอื่นๆ

ฉินมู่จดจําภาษามังกรมากที่สุดเท่าที่เขาทําได้ จากนั้นก็นํา ห่วงหยกจักรพรรดิที่แขวนห้อยอยู่บนคอเขาออกมา มองไปที่มัน เขานั้นสามารถเข้าใจความหมายของบางคําและบางอักษรรูนได้ ในทันที แต่ทว่า ในเมื่อเทพครองแดนเลี้ยงมังกรไม่รู้ภาษาทั้งหมด

ฉินมู่จึงไม่อาจเข้าใจความหมายของข้อเขียนที่จารไว้ทั้งหมดได้

นิพนธ์บนห่วงหยกจักรพรรดิแปรเปลี่ยนไปมาไม่หยุดยั้ง และ ทําให้เขาเวียนหัวจากการอ่านมัน

ฉินมู่หลับตาลงและสลัดศีรษะ เขากล่าวด้วยเสียงตํ่า “มีก็แต่มังกรแท้ที่จะรู้จักตัวอักษรทั้งหมดของเผ่ามังกร เช่นนั้นข้าจะไปหา มังกรแท้เพื่อขอให้สอนภาษามังกรทั้งหมดให้แก่ข้าได้ที่ไหนกัน”

“ในแดนโบราณวินาศมีมังกรแท้อยู่” เทพครองแดนเลี้ยงมังกร กล่าว

ฉินมู่จิตใจฟูฟ่องขึ้นมาทันที เขาพลันเงยหน้าขึ้นมองไป ข้างหน้า และเห็นด่านวารีลับอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา

ความเร็วของเทพครองแดนเลี้ยงมังกรนั้นน่าแตกตื่น ภายใน เวลาครึ่งวัน เขาได้พาคณะเดินทางมาถึงแดนโบราณวินาศแล้ว

ด่านวารีลับถูกขวางกั้นไว้ด้วยกองทัพแห่งจักรวรรดิสันตินิรันดร์ หากว่าเทพครองแดนเลี้ยงมังกรหมายจะมุ่งตรงผ่านไป เขาก็จะต้องทําลายทั้งเมืองกลางนํ้า ฉินมู่รีบสั่งให้เขาหยุดทันที และทุกคนก็กระโดดลงจากหลังของเขาเพื่อเข้าไปในด่านวารีลับ

เฟิงซิ่วอวิ๋นพาผู้คนมากมายออกมาต้อนรับฉินมู่และโค้งคารวะ ทักทาย “พวกเราน้อมพบท่านจ้าวลัทธิ!”

ฉินมู่แย้มยิ้มแล้วกล่าว “ไม่ต้องมากพิธี ตอนนี้ก็ใกล้คํ่าแล้ว ดังนั้นพวกเราจะพักที่นี่ก่อนที่จะเข้าแดนโบราณวินาศในวันพรุ่งนี้ หัวหน้าธูปเฟิง โปรดจัดเตรียมห้องรับรองแขก”

เฒ่าบอดยิ้มกว้างและกล่าว “เด็กคนนี้สะสวยไม่เลว… เตรียม งานเลี้ยง คืนนี้จะเป็นการเบ่งบานครั้งที่ 2 ของจ้าวลัทธิของพวก เจ้า เขาจะเข้างานวิวาห์”

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!