ตอนที่ 1030 รัชทายาทหญิงร่วมว่าราชกิจ 2
ชาติภพนี้นางมีบิดา มารดา ท่านปู่ ท่านย่า และบรรดาพี่น้องที่รักนาง นางมิได้อาศัยสถานะผู้อื่นดำรงตำแหน่งบุตรีประมุขสำนักเซียวเหยาดังเช่นในภพก่อนอีกแล้ว นางไม่จำเป็นต้องแบกรับเสียงด่าทอพวกนั้นอีกแล้ว กล่าวอันใดว่านางแย่งชิงสถานะคุณหนูตัวจริง กล่าวอันใดว่านางควรชดใช้ สุดท้ายบิดามารดาเลี้ยงของนางยังถึงกับคิดดูดเอาพลังวิเศษที่นางบำเพ็ญเพียรมาไปให้บุตรสาวตัวจริงของตนเอง
น่าเสียดายนางเป็นคนที่มีแค้นแม้เพียงนิดก็ต้องชำระ นางยินยอมทำลายพลังวิเศษตนเองก็ไม่ยินยอมให้พวกเขาได้สมดังหวัง
เพียงแต่นางคิดไม่ถึงว่า พอนางตายลงถึงกับกลับมาเกิดใหม่ยังโลกมนุษย์ที่มิได้มีพลังวิเศษ เป็นเพียงองค์หญิงในองค์ฮ่องเต้กับฮองเฮาแห่งแคว้นต้าโจว เดิมตอนนางเพิ่งจะมาถึงที่นี่ นางเย็นชาและไม่คิดสนใจผู้ใด เพราะนางถูกบรรดาคนภพก่อนพวกนั้นทำร้ายมา
แต่คิดไม่ถึงว่าชาติภพนี้นางถึงกับได้พบกับบิดามารดาที่รักนาง ท่านปู่ ท่านย่าและทุกคนรอบกายนางต่างก็รักนางมาก นางคล้ายว่ามีชีวิตอยู่ท่ามกลางความรักดังนิยาย
ทำให้นางค่อยๆ ลืมเลือนเรื่องราวที่ถูกทำร้ายมาในภพก่อน ชาติภพนี้นางจะมีชีวิตให้ดี ตอบแทนญาติสนิทใกล้ชิดทุกคนที่รักนางเหล่านั้น
ทุกคนเดินตรงไปยังตำหนักหลงอวี้ที่ประทับฝ่าบาท หลายปีมานี้ ในวังไม่มีสตรีอื่น ฮ่องเต้และฮองเฮาประทับตำหนักหลงอวี้ ไม่เพียงแต่ฮ่องเต้และฮองเฮา แม้แต่องค์หญิงสี่เซียวเย่ว์ก็อยู่ตำหนักหลงอวี้เช่นกัน
องค์หญิงสามเซียวหวงเพิ่งจะนำคนไปถึงก็เห็นน้องสาวตัวน้อยวิ่งมารอรับ “เสด็จพี่หญิง วันนี้งามกว่าเมื่อวานอีกแล้วเพคะ”
องค์หญิงสามอดหัวเราะขำวาจาน้องสาวตัวน้อยไม่ได้ นางเป็นคนรักสวยรักงาม ทุกวันก็จะชมนางครั้งหนึ่ง ไม่สิ ต้องเอ่ยชมหลายครั้ง จึงจะแสดงความจริงใจของนางได้เพียงพอ
“ขอบคุณเย่ว์เย่ว์ วันนี้เย่ว์เย่ว์น่ารักกว่าพรุ่งนี้อีกแล้ว”
ปีนี้องค์หญิงสี่อายุแปดขวบ อวบอ้วนเพราะกินดีอยู่ดี แก้มเป็นพวงยุ้ย น่ารักอย่างที่สุด
ฮ่องเต้กับฮองเฮาไม่รู้สึกว่ามีอันใดไม่ดี จึงไม่ได้ห้ามองค์หญิงสี่กิน ในฐานะองค์หญิง หรือว่าไม่อาจทำให้นางได้พึงใจกับเรื่องการกินได้กัน สรุปก็คือพวกเขาฝากความหวังไว้ที่องค์หญิงสาม กับองค์หญิงสี่มีแค่ความรักทะนุถนอมเท่านั้น มีพี่สาวเช่นองค์หญิงสาม องค์หญิงสี่มีหน้าที่แค่กินดื่มเที่ยวเล่นก็เพียงพอแล้ว
องค์หญิงสี่ได้ยินพี่สาวเอ่ยชมก็ดีใจมาก เข้าไปจูงมือพี่สาวไว้
“ขอบคุณเสด็จพี่หญิง เสด็จพี่คนงามจิตใจก็ดีงาม เย่ว์เย่ว์รักเสด็จพี่ที่สุด”
องค์หญิงสามรีบหยอกนางทันที “แต่หลายวันก่อนเจ้าว่าคนที่เจ้ารักที่สุดคือเสด็จพ่อ เมื่อวานเจ้าบอกว่าคนที่เจ้ารักที่สุดคือเสด็จแม่ วันนี้บอกว่าคนที่เจ้ารักที่สุดคือเสด็จพี่ เช่นนั้นแท้จริงเจ้ารักผู้ใดที่สุดกันแน่”
องค์หญิงสี่ฟังจนนิ่งอึ้ง จากนั้นก็ครุ่นคิดจริงจังว่าแท้จริงรักผู้ใดที่สุด
สุดท้ายนางทำหน้าปั้นยาก กล่าวว่า “เสด็จพี่ ข้าแยกไม่ออกว่าแท้จริงข้ารักผู้ใดที่สุด ข้ารักเสด็จพ่อ รักเสด็จแม่ และก็รักเสด็จพี่หญิงด้วย”
องค์หญิงสามทนเห็นน้องสาวกลัดกลุ้มไม่ไหว ก็ลูบศีรษะนางกล่าวว่า “เอาละ อย่าทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เสด็จพี่รู้ว่าเจ้ารักทุกคนที่สุด ใช่หรือไม่”
องค์หญิงสี่พลันดีใจ พยักหน้าหงึกๆ “เสด็จพี่กล่าวได้ถูกต้อง ข้ารักทุกคน ทุกคนล้วนเป็นที่รักที่สุดของข้า”
สองพี่น้องหัวเราะฮาดังพร้อมกันเดินเข้าไปในตำหนัก ฮ่องเต้และฮองเฮาหันมามอง เห็นพวกนางท่าทางสนิทสนมกันก็ดีใจมาก
เซียวเหวินอวี๋หรี่ตามองประเมินองค์หญิงสาม นี่คือบุตรสาวที่เขารักมากที่สุด แม้แต่รัชทายาทในตอนนั้นก็สู้นางไม่ได้ ตอนนางเกิดมาก็มิได้หน้าตายับย่นเหมือนลิงดังเด็กทารกอื่น แต่นางขาวละมุนราวกับก้อนแป้งนุ่มน่ารัก เขาเห็นคราแรกก็รักนางทันที ตอนนั้นในใจเขาไม่ได้คิดแต่งตั้งนางเป็นรัชทายาทหญิง เขาเพียงแค่คิดอยากให้นางเป็นองค์หญิงไปอย่างเบิกบานใจ ต่อมานางแสดงความฉลาดน่าตื่นตะลึง ทำให้เขาเกิดความคิดนี้
“หวงเอ๋อร์ เตรียมพร้อมแล้วหรือยัง”
เซียวหวงได้ยินเสด็จพ่อตรัสถาม ก็รีบวางท่าทางและสีหน้าเคร่งขรึม ย่อกายคำนับ “เสด็จพ่อ หม่อมฉันพร้อมแล้วเพคะ”
ตอนนางไม่กี่ขวบ นางก็เตรียมพร้อมกับการตัดสินใจนี้แล้ว และก็พยายามอย่างมากมาโดยตลอด
นางไม่คิดละโมบในตำแหน่งฮ่องเต้ ความจริงในฐานะเซียนผู้บำเพ็ญตนในแดนเซียนมา ตำแหน่งฮ่องเต้ไม่ใช่ความฝันสูงสุดของนางมากนัก
นางมีความคิดนี้ก็เพราะคิดตอบแทนบุญคุณเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ และท่านปู่กับท่านย่า
นางรู้ความคิดเสด็จพ่อ เสด็จพ่ออยากเลือกฮ่องเต้ที่จะดูแลตระกูลเซี่ยให้ดี เพื่อตอบแทนพระคุณของตระกูลเซี่ยต่อไป
นางต้องการเป็นรัชทายาทก็เพื่อเสด็จแม่ เสด็จแม่กับเสด็จพ่อรักนางมาก แต่เสด็จแม่ให้กำเนิดบุตรสาวเพียงสองคน ก็คือนางกับน้องสาว จากนั้นสุขภาพนางไม่อาจให้กำเนิดได้อีก หากนางไม่รับตำแหน่งรัชทายาทหญิง เช่นนั้นเสด็จพ่อก็จำเป็นต้องรับพระสนมให้กำเนิดองค์ชาย เสด็จแม่ก็คงปวดใจมากเป็นแน่
นางรักเสด็จพ่อมาก ดังนั้นในฐานะที่เป็นองค์หญิงที่พวกเขาให้ความรักอย่างมาก นางจะไม่ช่วยเสด็จแม่แบ่งเบาภาระนี้ได้อย่างไร
ส่วนท่านปู่กับท่านย่า ขอเพียงนางขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้หญิง ตระกูลเซี่ยก็จะไม่มีวันตกต่ำ นี่คือเรื่องที่นางจะทำเพื่อเสด็จพ่อ
องค์หญิงสามคิดไปก็อมยิ้มมองเซียวเหวินอวี๋ไป
เซียวเหวินอวี๋ยิ่งมองก็ยิ่งพึงพอใจ ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจที่บุตรสาวผู้นี้ไม่ใช่ผู้ชายอันใด บุตรสาวผู้นี้ของเขาไม่แพ้ผู้ชาย เขาเชื่อว่าหากมอบแคว้นต้าโจวไว้ในมือนางจะต้องยิ่งดีขึ้น ไม่เพียงแต่ผู้ชาย แม้แต่ผู้หญิงก็จะได้รับการปฏิบัติที่ดี
ก่อนหน้านี้ฮองเฮามีราชโองการจัดตั้งสำนักเมตตาสตรี สำนักนี้จัดตั้งในแต่ละพื้นที่และให้ฮูหยินที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ดูแลรับผิดชอบ ขอเพียงสตรีและเด็กประสบเหตุ ก็จะให้ฮูหยินเหล่านี้ออกหน้าไกล่เกลี่ย
เพราะการจัดการของฮองเฮาเช่นนี้ ทำให้สถานะสตรีในแคว้นต้าโจวสูงขึ้นไม่น้อย
เซียวเหวินอวี๋เชื่อว่ารอให้หวงเอ๋อร์ได้เป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจว สถานะสตรีในแคว้นก็จะยิ่งยกระดับสูงขึ้น หากเป็นเช่นนั้น แคว้นต้าโจวก็จะยิ่งก้าวไปสู่ระดับที่ไม่มีผู้ใดเหนือกว่าได้
แต่รัชทายาทหญิงไม่ได้เป็นกันง่ายดายเช่นนั้น
เซียวเหวินอวี๋มองบุตรสาวตนเอง “หวงเอ๋อร์ เจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้วหรือยัง รัชทายาทหญิงไม่ได้เป็นกันง่ายดายเช่นนั้นนะ”
เซียวหวงแววตากระจ่างใสเปล่งประกายแวววาว ยิ้มมองเสด็จพ่อตนเอง “เสด็จพ่อวางพระทัยได้เพคะ หม่อมฉันเตรียมพร้อมแล้วเพคะ”
เซียวเหวินอวี๋ลุกขึ้นเดินไปข้างกายเซียวหวง จูงมือนางกล่าวว่า “เช่นนั้นพวกเราไปกันเถอะ”
ฮองเฮาด้านหลังอุ้มองค์หญิงสี่ไปส่งพวกเขาสองพ่อลูกออกนอกประตูตำหนักไป
พอฮ่องเต้กับองค์หญิงสามไปแล้ว องค์หญิงสี่ก็เงยหน้ามองฮองเฮากล่าวว่า “เสด็จแม่ เสด็จพี่สามไปเป็นรัชทายาทหญิงแล้วหรือเพคะ”
“ใช่ วันหน้าพี่หญิงสามก็จะเป็นฮ่องเต้หญิงแห่งแคว้นต้าโจว”
องค์หญิงสี่ส่งเสียงอุทานดังขึ้น “เช่นนั้นก็ดีมากเลย เสด็จพี่เป็นฮ่องเต้หญิง เช่นนั้นข้าอยากทำอันใดก็ทำได้แล้วใช่หรือไม่”
วาจาบุตรสาวคนเล็กทำเอาซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนนึกขำ หัวเราะยื่นมือไปบีบจมูกนาง “ใช่ เจ้าตัวซุกซน เสด็จพี่หญิงสามรักเจ้าที่สุด วันหน้าเจ้าต้องการสิ่งใดล้วนได้ตามที่ต้องการ”
องค์หญิงสี่เบิกบานใจ ส่งเสียงหัวเราะดัง
ประชุมท้องพระโรงยามเช้า ฮ่องเต้ยังไม่ทันมา ขุนนางใหญ่พากันมาครบแล้ว ผู้ที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดก็คือใต้เท้าวังโส่วฝู่แห่งสำนักมนตรีกับใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่ รอบกายของพวกเขาทั้งสองคนมีคนล้อมวงสนทนากันอยู่ เรื่องที่คุยกันมากที่สุดก็คือเรื่องฝ่าบาทรับพระสนม
ตอนนี้เรื่องที่ร้อนใจที่สุดก็คือเรื่องนี้แล้ว ฝ่าบาททรงอายุมากแล้ว หากยังไม่รับพระสนมอีก จะไปหารัชทายาทได้จากที่ใด