ตอนที่ 1040 ใช้ไม่ได้
หยางป๋อยื่นมือรับชามมาด้วยสัญชาตญาณ ก่อนจะมองไปยังนางอุ่นเตียงตัวน้อยข้างกาย นางอุ่นเตียงขอบตาแดงขอร้องว่า “ราชบุตรเขย ขอร้องท่านได้โปรดให้บ่าวได้ให้กำเนิดบุตรคนนี้ด้วยนะเจ้าคะ รอให้กำเนิดแล้ว บ่าวยินดีจบสิ้นชีวิตตนเองเจ้าค่ะ”
นางกล่าวเช่นนี้ ในใจหยางป๋อแทบทนรับไม่ไหว เงยหน้ามองไปยังองค์หญิงใหญ่ คิดขอร้อง
ไม่ต้องให้องค์หญิงใหญ่เอ่ย เซียวหวงเอ่ยขึ้นทันทีว่า “วันนี้ข้าเป็นคนมอบยานี้ให้นาง พี่เขยอย่าได้คิดขอต่อเสด็จพี่หญิงใหญ่จะดีกว่า นางตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ได้”
เซียวหวงต้องการตอบแทนคุณองค์หญิงใหญ่ ไม่ให้ราชบุตรเขยใหญ่นำความคับแค้นไปลงที่นาง ส่วนราชบุตรเขยใหญ่จะแค้นใจนาง นางจะทำให้เขาได้รู้ในไม่ช้านี้ว่าการรังแกราชนิกุลจะต้องมีจุดจบเยี่ยงไร
หยางป๋อได้ฟังองค์หญิงสามก็อดเอ่ยไม่ได้ว่า “น้องสาม นี่เป็นเรื่องในครอบครัวข้า”
องค์หญิงสามยิ้มกล่าวว่า “ข้าคิดว่าท่านควรเข้าใจหลักการหนึ่งมานานแล้ว การข้องเกี่ยวกับราชนิกุลก็ไม่มีคำว่าครอบครัวตนเองแล้ว ในฐานะราชบุตรเขย ประการแรก เสด็จพี่หญิงใหญ่คือนาย ท่านเป็นเพียงแค่ขุนนาง ขุนนางเล็กๆ ถึงกับกล้ารังแกองค์หญิง ผู้ใดมอบสิทธิ์นี้แก่ท่านกัน”
เซียวหวงกล่าวจบ ก็สีหน้าเคร่งเครียดสั่งการเจี้ยงเสวี่ย “กรอกยาเดี๋ยวนี้”
นางขี้เกียจจะยืดเยื้อกับพวกเขาต่อไป เจี้ยงเสวี่ยเดินเข้าไปยื่นมือรับยาตกโลหิตจากราชบุตรเขยมาพร้อมกับดึงตัวหงอีข้างกายเขามาคิดจะกรอกยาตกโลหิตลงไป หงอีตกใจหวาดกลัวมองราชบุตรเขยใหญ่ หยางป๋อคิดเข้าไปช่วย แต่กลับถูกฮว่าซ่านดึงไว้พร้อมกับถลึงตาใส่อย่างดุดัน “ราชบุตรเขยใหญ่ คิดทะนุถนอมหยกงามหรือ น่าเสียดายหากทะนุถนอมนาง ก็หมายความว่าราชบุตรเขยกล้ารังแกองค์หญิงใหญ่เรา”
แต่ไรมาหยางป๋อไม่เคยถูกกระทำเช่นนี้ ยามนี้สีหน้าดำทะมึนย่ำแย่อย่างมาก กัดฟันมองฮว่าซ่านและเจ้านายพวกนาง
เจี้ยงเสวี่ยรีบยกชามยาตกโลหิตกรอกลงไปทันที รออยู่ครู่หนึ่งหงอีก็เริ่มตกโลหิต สีหน้านางพลันซีดเผือดย่ำแย่กว่าเดิม เดิมยังคิดอาศัยบุตรคนนี้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งอนุราชบุตรเขย คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายถึงกับมีจุดจบเช่นนี้
ในยามนี้ นางกระจ่างในเรื่องหนึ่ง ตำแหน่งราชบุตรเขยฟังดูแล้วน่าฟัง แต่ในความเป็นจริงเป็นเพียงแค่ขุนนางรับใช้ราชนิกุล ราชนิกุลคิดจะลงมือกับพวกนาง เขาปกป้องพวกนางไม่ได้
เซียวหวงมองหงอีถูกกรอกยาแท้งบุตรจนแท้งแล้ว ก็มองไปยังชิงฉางกล่าวว่า “ส่งพวกนางทั้งหมดไปยังอารามชีนอกเมือง บอกกับเจ้าอารามว่า หากขาดหายไปสักคน ข้าจะเอาเรื่องนาง”
“เพคะ องค์หญิง”
หยางป๋อคิดไม่ถึงว่าเซียวหวงไม่เพียงแต่ทำแท้งให้หงอี แต่ยังส่งหญิงปรนนิบัติข้างกายเขาทุกคนไปอารามชีนอกเมืองไป เขานั่งไม่ติดอีกต่อไป ลุกขึ้นตวาดอย่างเดือดดาลว่า “องค์หญิงสาม ทำเกินไปแล้วนะ ทำแท้งหงอีแล้วยังไม่พอ ถึงกับยังส่งพวกนางไปอารามชี ถือสิทธิ์อันใด นี่เป็นเรื่องของตระกูลหยางเรา”
เซียวหวงยิ้มกล่าวว่า “พี่เขยลืมไปแล้วหรือว่าท่านแต่งกับองค์หญิง หากเด็ดเดี่ยวหยิ่งทะนงเช่นนี้ ตอนนั้นเหตุใดจึงได้แต่งกับองค์หญิง แต่งกับองค์หญิงแล้วก็ไม่มีคำว่าตระกูลหยางอีกแล้ว”
นางกล่าวจบก็หรี่ตามองหยางป๋อด้วยแววตาเยาะเย็นเยียบ
สีหน้านางตอนนี้ทำเอาหยางป๋อตกใจจนลืมเคลื่อนไหว
หญิงข้างกายเขาถูกชิงฉางให้คนส่งออกไปทั้งหมด
หญิงเหล่านี้ไม่กล้าร้องไห้ ไม่กล้าโวยวาย ยามนี้พวกนางกระจ่างใจเรื่องหนึ่ง หากพวกนางกล้าร่ำไห้โวยวาย องค์หญิงสามจะลงโทษพวกนางหนักยิ่งกว่านี้ องค์หญิงสามมิใช่องค์หญิงใหญ่ นางเหี้ยมโหดแล้งน้ำใจ ไม่มีความเห็นใจแม้สักนิด ต่อหน้านาง พวกนางมีเพียงทางตายสถานเดียว
ทุกคนถูกนำตัวออกไปรวดเร็ว เซียวหวงลุกขึ้นยืนมองหยางป๋อด้วยสีหน้าเยียบเย็น กล่าวว่า “วันหน้าหากให้ข้ารู้ว่าท่านมีหญิงอุ่นเตียงอีก หญิงเหล่านั้นไม่เพียงแต่จะถูกส่งไปอารามชีง่ายดายเช่นนี้แล้ว ในเมื่อรับปากเสด็จพ่อแล้วก็ควรทำตามที่รับปาก หากทำไม่ได้ก็ไม่ควรรับปาก เสด็จพ่อข้าเป็นฮ่องเต้แคว้นต้าโจว ไม่ควรต้องถูกขุนนางน้อยๆ ตระบัดสัตย์ต่อพระองค์”
นางกล่าวจบก็นำคนจากไป นางจัดการเช่นนี้ นอกจากตอบแทนคุณองค์หญิงใหญ่ และเพราะไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าราชบุตรเขยถึงกับกล้าขัดรับสั่งเสด็จพ่อ แม้ว่าเรื่องนี้แพร่ออกไปจะผิดที่ราชบุตรเขยใหญ่ แต่ผู้คนก็จะวิจารณ์เสด็จพ่อนางไร้บารมี ไม่อาจสยบราชบุตรเขยใหญ่ไว้ได้
คำพูดเซียวหวงทำให้องค์หญิงใหญ่พลันคิดถึงเสด็จพ่อที่ทรงรักนางมาก นางพลันร้องไห้ขึ้นมา ยามนี้นางเข้าใจแล้วว่า หากเรื่องของราชบุตรเขยใหญ่แพร่ออกไป ก็จะทำให้เสด็จพ่อเสื่อมเสียพระเกียรติ
แต่ไรมาองค์หญิงใหญ่ที่เคยสุภาพอ่อนโยน ยามนี้พลันมองหยางป๋อด้วยสีหน้าเย็นเยียบ กล่าวน้ำเสียงหนักแน่น ว่า “นี่เป็นครั้งสุดท้าย วันหน้าข้างกายเจ้าไม่อนุญาตให้มีหญิงปรนนิบัติอีก บ่าวปรนนิบัติเจ้าต้องเป็นบ่าวชาย หากให้ข้าพบว่าข้างกายเจ้ามีสาวใช้ ทุกคนต้องโดนโบยจนสิ้นลม”
นางกล่าวจบมองไปยังจินไช กล่าวน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ไปบอกอวิ๋นซานป๋อกับฮูหยินผู้เฒ่าว่านี่คือความประสงค์ข้า”
เมื่อก่อนองค์หญิงใหญ่อ่อนโยนมาก ทำให้จวนอวิ๋นซานป๋อค่อยๆ ลืมสถานะนาง
จินไชได้ฟังก็ดีใจรีบไปพบอวิ๋นซานป๋อทันที
หยางป๋อมององค์หญิงใหญ่อย่างตกใจ องค์หญิงใหญ่มองเขาเย็นเยียบทีหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นนำคนจากไป หยางป๋อรู้สึกเพียงแค่ฟ้าถล่มลงมาตรงหน้า นี่มันเรื่องอันใดกัน ผู้ชายมีสามภรรยาเอกสี่อนุไม่ใช่เรื่องสมเหตุสมผลหรอกหรือ อันใดกล่าวว่าวันหน้าข้างกายเขาไม่อาจมีสาวใช้ปรนนิบัติ หากมีสาวใช้ปรนนิบัติ นางก็จะถูกโบยจนสิ้นลม นี่ยังใช่ภรรยาที่เคยอ่อนโยนของเขาคนเดิมหรือ
หยางป๋อคิดไปมาก็รู้สึกว่าล้วนเป็นความผิดขององค์หญิงสาม หญิงเช่นนี้ถึงกับคิดขึ้นเป็นรัชทายาทหญิงแคว้นต้าโจว หากนางได้เป็นรัชทายาทหญิงแคว้นต้าโจว วันหน้าผู้ชายแคว้นต้าโจวคงต้องอยู่อย่างไร้ปากไร้เสียงใช่หรือไม่ วันหน้าผู้ชายไม่อาจรับอนุได้ใช่หรือไม่
หยางป๋อยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ตรงไปหาฮูหยินอวิ๋นซานป๋อทันที ฮูหยินอวิ๋นซานป๋อเพิ่งจะได้ฟังจินไช สีหน้ากำลังย่ำแย่ พลันได้ยินบุตรชายตนเองกล่าวเช่นนี้ ก็อดโมโหไม่ได้ “ในฐานะองค์หญิง ถึงกับไม่ดำรงธรรมเนียมจารีตเป็นผู้มีจิตใจกว้างขวาง ข้าอยากเข้าวังไปทูลถามฮองเฮาว่าอบรมองค์หญิงมาอย่างไร”
แม้ว่าฮูหยินอวิ๋นซานป๋อกล่าวเช่นนี้ แต่ในความเป็นจริงนางไม่กล้าเข้าวัง หลายปีมานี้พวกนางมองออกว่า ฮองเฮาไม่เหมือนเผยฮองเฮาและหวังฮองเฮาก่อนหน้านี้
ซั่งกวนฮองเฮาไม่เพียงแต่ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท นางเองก็ร้ายกาจมาก หากไปหาเรื่องนาง พวกนางก็อย่าคิดดำรงชีวิตสุขสบาย
ดังนั้นฮูหยินอวิ๋นซานจึงกล้าพูดอยู่แต่ในจวนเท่านั้น
ตกค่ำ อวิ๋นซานป๋อกับอวิ๋นซานป๋อซื่อจื่อกลับมา ได้ฟังฮูหยินอวิ๋นซานกับบุตรชายรอง ทั้งสองคนต่างมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
แต่ละคนเห็นด้วยกับฮูหยินอวิ๋นซานป๋อ องค์หญิงใหญ่กับองค์หญิงสามทำไม่ถูกต้อง องค์หญิงสามเช่นนี้จะให้นางขึ้นสู่ตำแหน่งรัชทายาทหญิงได้อย่างไร ไม่ได้ พวกเขาไม่มีทางเห็นด้วย
คนตระกูลหยางไม่รู้ว่า พอเซียวหวงก้าวออกจากตระกูลหยาง ก็มอบให้จ้าวเหิงสำนักจิ่วหลงซือนำคำสั่งลงไปตรวจสอบตระกูลหยาง ทำเอาทุกคนในตระกูลหยางถูกนางตรวจสอบจนละเอียด
แม้สำนักจิ่วหลงซือรับหน้าที่ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของขุนนางในและนอกเมืองหลวง แต่ไม่ได้ละเอียดเช่นนั้น แต่พอองค์หญิงสามรับสั่งลงมา จ้าวเหิงก็เริ่มตรวจสอบคนตระกูลหยางทุกภาคส่วน
โลกเรานี้ ไม่ว่าตระกูลใดล้วนย่อมต้องมีเรื่องปกปิด ตระกูลหยางเองก็เช่นกัน สายสืบสำนักจิ่วหลงซือใช้เวลาเพียงสองวัน ก็สืบเรื่องชั่วร้ายของตระกูลหยางได้กองโต