ตอนที่ 1048 สูญเสียจิตวิญญาณ
วันรุ่งขึ้น เซียวหวงพาซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนออกจากวังหลวงเดินทางไปตระกูลฟู่ คืนก่อนเซียวหวงมาตระกูลฟู่ ตระกูลฟู่ก็ตกใจมากแล้ว ปรากฏวันรุ่งขึ้นเซียวหวงไม่เพียงแต่ยังมาอีก หากยังพาฮองเฮามาด้วยจริงๆ
ตระกูลฟู่ทุกคนต่างตกใจตัวแข็งทื่อ ไม่อยากจะเชื่อคำพูดเซียวหวงที่ว่าบุตรชายปัญญาอ่อนตระกูลพวกเขาช่วยรัชทายาทเอาไว้ แต่หากไม่เช่นนั้นเหตุใดรัชทายาทหญิงจึงทุ่มเทเพื่อบุตรชายพวกเขาเช่นนี้
ใต้เท้าฟู่กับฮูหยินฟู่คิดถึงเรื่องนี้ ในใจก็เริ่มวุ่นวายสับสน แต่มีความยินดีมากกว่าสักหน่อย หากบุตรชายได้เคยช่วยรัชทายาทไว้จริง ตระกูลพวกเขาย่อมต้องได้รับพระเมตตาไปด้วยอย่างแน่นอน
แต่ไม่ว่าในใจคิดเช่นไร สีหน้าก็ยังคงนอบน้อม “กระหม่อมถวายบังคมฮองเฮา รัชทายาท”
ใต้เท้าฟู่กับฮูหยินฟู่พาบุตรชายหญิงมารับเสด็จฮองเฮาพร้อมกัน สายตาคุณชายรองฟู่มองตามเซียวหวงไม่กะพริบตา ได้ยินว่ารัชทายาทหญิงคิดเลือกราชบุตรเขย คุณชายไม่น้อยหวาดกลัวรัชทายาทหญิง จึงไม่ยินดีแต่ง แต่เขายินดี
ฟู่เซวียนยิ่งมองรัชทายาท ในใจก็ยิ่งหวั่นไหว รัชทายาทงดงามเช่นนี้ ยังเป็นว่าที่ฮ่องเต้หญิง หากได้แต่งกับนางจะได้พบพานวาสนาสุขเพียงใดกัน
น่าเสียดายทุกคนไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นสายตาของคุณชายรองฟู่ มีเพียงน้องสาวเขาฟู่ซือที่รู้ว่าฟู่เซวียน อยากแต่งกับรัชทายาทหญิง ฟู่ซือเห็นด้วย แต่ตระกูลพวกเขาเป็นเพียงแต่ขุนนางระดับห้าเล็กๆ ไม่ได้อยู่ในขอบข่ายตัวเลือกของนาง แต่หากพี่รองได้แต่งกับรัชทายาทหญิง วันหน้านางก็จะได้พลอยได้ดีไปด้วย ถึงตอนนั้นนางเลือกหาคู่ครองก็จะมีตัวเลือกยิ่งมากขึ้น
แต่ฟู่ซือเห็นว่ารัชทายาทหญิงไม่แม้แต่จะชายตามองฟู่เซวียน ในใจก็แอบผิดหวังอยู่บ้าง นางคิดแล้วก็ยื่นมือไปสะกิดพี่รองตนเอง ทำปากขมุบขมิบบอกให้พี่รองแสดงตัวต่อหน้าฮองเฮาและรัชทายาท
พี่รองหน้าตาสุภาพรูปงาม เผยตัวต่อหน้าฮองเฮาและรัชทายาท ไม่แน่ว่าอาจได้รับความเมตตาจากฮองเฮาและรัชทายาทก็เป็นได้ แม้ไม่ได้รับเลือกเป็นราชบุตรเขยเอกของรัชทายาทหญิง ได้เป็นราชบุตรเขยรองของรัชทายาทหญิงก็ยังดี
ฟู่เซวียนพยักหน้าเล็กน้อย แสดงท่าทีรับรู้แล้ว ทุกคนเดินไปยังเรือนฟู่หลิน
ฟู่หลินยังคงกอดตุ๊กตาอยู่ในห้องนอนตนเองด้วยท่าทีสงบนิ่งดังเดิม พอเห็นเซียวหวงมา เขาก็พยายามครุ่นคิด คล้ายกำลังคิดว่านางคือผู้ใด
เซียวหวงเดินไปตรงหน้าเขา ยิ้มมองเขา “ฟู่หลิน ข้ามาเยี่ยมเจ้าแล้ว”
ฟู่หลินได้ฟังคำพูดนาง แม้ว่าสมองยังคงสับสน แต่สีหน้ากลับอดเผยรอยยิ้มไม่ได้
ใต้เท้าฟู่กับฮูหยินฟู่เห็นดังนี้ก็นึกแปลกใจมาก เมื่อก่อนบุตรชายไม่ค่อยได้ยิ้มให้ผู้ใดเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าเมื่อวานรัชทายาทหญิงมาเยี่ยมเขาแค่ครั้งเดียว วันนี้เขาถึงกับยอมรับนาง นี่เป็นเรื่องน่าแปลกจริง หรือว่าสมองบุตรชายเริ่มฟื้นคืนแล้ว
ขณะใต้เท้าฟู่กับฮูหยินฟู่กำลังคิดอยู่ ฟู่เซวียนด้านหลังพวกเขารีบก้าวเดินมาตรงหน้าฟู่หลิน แนะนำว่า “ท่านพี่ นี่คือรัชทายาท ท่านพี่ยังจำได้หรือไม่ เมื่อวานทรงมาเยี่ยมท่านพี่”
ฟู่เซวียนกล่าวจบ ก็แอบเหลือบหางตามองเซียวหวง พบว่าเซียวหวงขมวดคิ้วมองเขาคล้ายไม่พอใจ ในใจฟู่เซวียนพลันรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที
ใต้เท้าฟู่กับฮูหยินฟู่ย่อมเห็นสีหน้ารำคาญใจของเซียวหวง ก็มองบุตรชายคนเล็กตนเองอย่างเป็นห่วง อยู่ดีๆ ออกมาทำอันใด อยู่สงบเสงี่ยมด้านหลังไม่ดีหรือ
แต่เซียวหวงเพียงขมวดคิ้วเล็กน้อยทีหนึ่งไม่ได้เอ่ยอันใด มองไปยังซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน “เสด็จแม่ ตรวจอาการให้ฟู่หลินหน่อยเพคะ ดูว่าเขาได้รับบาดเจ็บจนทำให้สมองเสื่อมจริงหรือไม่ หากเป็นเพราะสมองได้รับบาดเจ็บ หม่อมฉันจะให้คนส่งเขาไปรักษาที่เมืองหนิงโจว หากไม่ใช่ หม่อมฉันจะได้หาวิธีอื่น”
เซียวหวงเดิมก็เป็นวิชาแพทย์ แต่น่าเสียดายนางเรียนมาไม่มาก นางเรียนวิชาการปกครองมามากกว่า ในทางกลับกันวิชาการแพทย์ท่านแม่นางร้ายกาจ แต่ผู้ที่ร้ายกาจที่สุดก็คือท่านย่านางที่อยู่ไกลถึงเมืองหนิงโจว ดังนั้นนางจึงได้เอ่ยว่า หากสมองฟู่หลินได้รับบาดเจ็บจริง นางจะส่งเขาไปรักษาที่เมืองหนิงโจว
ในแคว้นต้าโจว ทุกคนต่างรู้ว่าฮูหยินโจวกั๋ววิชาการแพทย์ล้ำลึก ได้ชื่อว่า หมอเทวดาลู่
แต่ตอนนี้ หมอเทวดาลู่แม้อยู่เมืองหนิงโจว แต่ก็มักเดินทางไปทั่ว คนทั่วไปไม่ได้ขอพบนางได้ง่าย ๆ นางไม่ยอมช่วยรักษาคนง่ายดายดังเช่นเมื่อก่อน ใต้เท้าฟู่กับฮูหยินฟู่ต้องการเชิญนางมารักษา ย่อมไม่มีทางเป็นไปได้
ตอนนี้รัชทายาทอยากจะส่งฟู่หลินไปรักษาที่เมืองหนิงโจว คนตระกูลฟู่ย่อมดีใจ
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนเห็นบุตรสาวร้อนใจเช่นนี้ ก็รู้สึกแปลกใจมาก บุตรสาวนางผู้นี้แต่เล็กมาก็มักจะมีท่าทางสงบนิ่งไร้ความรู้สึก ไม่ว่าสิ่งใดก็ไม่คิดสนใจ แม้แต่พวกเขาเอง นางก็ไม่ยอมชิดใกล้ ต่อมาจึงค่อยๆ ดีขึ้น ส่วนกับผู้ชายแล้ว ก็ยิ่งไม่คิดมีใจให้แม้แต่น้อย คิดไม่ถึงว่าจะมีวันหนึ่งที่นางถึงกับกระตือรือร้นต่อผู้อื่นเช่นนี้
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนมองไปยังฟู่หลิน เพียงแต่น่าเสียดายชายผู้นี้ปัญญาอ่อน แม้หายดีได้ แต่จะให้เป็นราชบุตรเขยของบุตรสาวนางได้อย่างไร
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนคิดไปก็เดินไปหาฟู่หลินไป ฟู่หลินไม่รู้จักซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน เห็นนางเปล่งประกายบารมีในเครื่องแต่งกายหรูหรางดงาม ก็อดตกใจผงะถดตัวถอยหลังไม่ได้
เซียวหวงยิ้มเข้าไปดึงมาเขามาปลอบใจว่า “ฟู่หลิน นี่คือเสด็จแม่เรา นางจะรักษาเจ้าให้หายดี เจ้าเป็นเด็กดีนะ รอให้ให้หายแล้ว เราจะพาเจ้าออกไปเที่ยว”
ท่าทางของเซียวหวงทำเอาทุกคนในห้องพากันตกใจนิ่งอึ้ง ฟู่เซวียนอิจฉาพี่ชายที่นั่งมองอยู่บนเตียงมาก เห็นอยู่ว่าปัญญาอ่อน ถึงกับได้รับความเมตตาจากรัชทายาทเช่นนี้ หากพี่ใหญ่หายดี เกรงว่ารัชทายาทก็คงเลือกเขาเป็นราชบุตรเขย
แต่ฟู่เซวียนรู้สึกว่าหากพี่ใหญ่หายดี เกรงว่าคงไม่ยินยอมแต่งเป็นราชบุตรเขยของรัชทายาทหญิง เพราะการแต่งกับรัชทายาทหญิง ความจริงก็ถือว่าเป็นการเสียศักดิ์ศรี พี่ใหญ่ปณิธานแรงกล้า จะยินยอมแต่งกับรัชทายาทหญิงได้อย่างไร ในทางกลับกัน แต่ไรมาเขาไร้ซึ่งปณิธาน หากได้แต่งกับรัชทายาทหญิงก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องดีอย่างมาก
ฟู่หลินบนเตียงได้ฟังเซียวหวงก็อดรู้สึกผ่อนคลายลงอย่างไม่รู้ตัว ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนยื่นมือไปตรวจชีพจรให้เขา เพราะมักมีคนจับชีพจรฟู่หลิน ดังนั้นเขาจึงไม่ต่อต้านมากนัก
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนตรวจชีพจรให้ฟู่หลินแล้วก็ตรวจสภาพทั่วไปของฟู่หลิน สุดท้ายก็สรุปว่าไม่ได้เกิดจากสมองของฟู่หลิน
“หากสมองมีปัญหาย่อมต้องมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่นว่า ปากและตาเบี้ยว น้ำลายไหล หรือว่าเดินผิดปกติ มักจะปวดหัวหรือเวียนหัวหมดสติ แต่เห็นได้ชัดว่าฟู่หลินไม่ได้มีอาการเหล่านี้ เขาเพียงแต่มีพฤติกรรมสมองเสื่อม คล้ายเด็กสองสามขวบเท่านั้น”
“เสด็จแม่รู้สึกว่าอาการเขาคล้ายกับสูญเสียจิตวิญญาณบางส่วนไป จิตวิญญาณไม่ครบสมบูรณ์”
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนกล่าวจบ ในห้องก็พลันเงียบกริบ ใต้เท้าฟู่กับฮูหยินฟู่ตกใจเอ่ยพึมพำ “สูญเสียจิตวิญญาณหรือ เช่นนั้นทำอย่างไรดี”
เซียวหวงพลันคิดถึงพระอาจารย์ทงหุ้ย ท่านน่าจะมีวิธีเรียกจิตวิญญาณฟู่หลินที่สูญเสียไปกลับคืนมาได้
“พรุ่งนี้ข้าพาฟู่หลินเดินทางไปวัดเซี่ยงกั๋วพบพระอาจารย์ทงหุ้ย ไม่แน่ว่าพระอาจารย์ทงหุ้ยอาจมีวิธีเรียกจิตวิญญาณฟู่หลินที่สูญเสียไปกลับคืนมาได้”
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนไม่ได้เอ่ยค้าน ใต้เท้าฟู่กับฮูหยินฟู่ได้ฟังเซียวหวงก็รู้สึกซาบซึ้งใจยิ่ง รัชทายาทช่างทุ่มเทใส่ใจ ทำให้พวกเขารู้สึกทำอันใดไม่ถูก
ทั้งสองคนซาบซึ้งใจหลั่งน้ำตา มองเซียวหวง กล่าวว่า “ขอบพระทัยรัชทายาทๆ”



