ตอนที่ 600 จะตั้งครรภ์เมื่อใดกัน
ลู่เจียวเชิญพวกฮูหยินซ่งกับหลี่อวี้เหยาเข้าไปด้านใน
วันนี้หลี่อวี้เหยาตามฮูหยินซ่งมาด้วย ก่อนหน้านี้นางคิดให้บุตรสาวตามจ้าวอวี้หลัวไปเล่น นางมองสายตาอยากไปของบุตรสาวออก แต่พอเห็นแม่สามีที่เอาแต่ยึดมั่นจารีตมาตลอด หากนางเอ่ยปาก ย่อมต้องทำให้นางโมโห วันนี้มาเป็นแขกตระกูลเซี่ย หากพวกนางมีเรื่องกันขึ้นย่อมไม่ดี ดังนั้นหลี่อวี้เหยาจึงไม่ได้กล่าวอันใด
ลู่เจียวเห็นหลี่อวี้เหยา พบว่าสีหน้านางไม่ดีอย่างมาก จิตใจก็ดูลอยๆ เห็นแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้ “พี่อวี้เหยา สีหน้าพี่ไยจึงไม่ค่อยดีนัก ป่วยหรือ”
หลี่อวี้เหยาพยักหน้า “ไม่ค่อยสบาย นอนไม่ค่อยหลับ เอาแต่ฝันตกใจตื่นมากลางดึก พอตื่นมาก็นอนไม่หลับอีก แต่ก็คิดไม่ออกว่าฝันถึงอันใด แต่รู้สึกได้ว่าเป็นฝันร้าย”
ลู่เจียวไม่ทันได้เอ่ยปาก จางซื่อภรรยาสวี่เซี่ยนเว่ยก็อดเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงไม่ได้ “เจ้าให้ลู่เหนียงจื่อตรวจดูให้เจ้าหน่อย วิชาการแพทย์นางร้ายกาจอยู่นะ”
หลี่อวี้เหยากำลังคิดเอ่ย แต่จ้าวหลิงเฟิงที่เดินอยู่ด้านหน้าทุกคนพลันหันมากล่าวว่า “เรียกลู่เหนียงจื่ออันใดกัน พวกเจ้าควรเรียกนางว่าฮูหยินเซี่ย นางเป็นถึงฮูหยินถงจือเมืองหนิงโจว”
พอจ้าวหลิงเฟิงเอ่ย พวกนายอำเภอหูก็ตกใจ ถามขึ้นว่า “อวิ๋นจิ่นได้รับตำแหน่งแล้วหรือ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มบางเอ่ยว่า “ใช่แล้ว เบื้องบนแต่งตั้งข้าเป็นถงจือเมืองหนิงโจว”
นายอำเภอหูแอบรู้สึกปวดใจ คนเขาอายุน้อยๆ ก็ได้เป็นถงจือเมืองหนิงโจว เขาเล่า อายุปูนนี้ยังเป็นได้แค่นายอำเภอเล็กๆ คนหนุ่มสาวมีความสามารถดังคาด อวิ๋นจิ่นผู้นี้วันหน้าไม่ธรรมดา
“คารวะเซี่ยถงจือ”
สวี่เซี่ยนเว่ยรีบแย่งกล่าวว่า “คารวะเซี่ยถงจือ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มกล่าวว่า “ส่วนตัวกันเองไม่ต้องมากพิธีรีตอง”
สีหน้าฮูหยินซ่งด้านหลังกลับนอบน้อมขึ้นทันที รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งฉีกกว้าง
“ที่แท้ลู่เหนียงจื่อเป็นฮูหยินถงจือแล้ว พวกข้าเสียมารยาทแล้ว ฮูหยินเซี่ยอย่าได้ตำหนิ”
ลู่เจียวได้ฟังคำพูดนางก็รู้สึกไม่ค่อยชิน เดิมทุกคนเรียกนางว่าลู่เหนียงจื่อมาตลอด ตอนนี้กลับมีคำว่าฮูหยินมาด้วย เรียกฮูหยินเซี่ย ฟังอย่างไรก็คิดว่าเรียกผู้อื่น
“ฮูหยินซ่งอย่าได้เกรงใจ”
หลี่อวี้เหยาดีใจดึงมือลู่เจียวมาแสดงความยินดี “ขอแสดงความยินดีกับน้องพี่ด้วย”
ลู่เจียวเห็นสีหน้าซีดขาวของหลี่อวี้เหยาก็พลันคิดถึงท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ที่ล้มป่วยก่อนหน้านี้ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าพวกนางทั้งสองคนเหมือนกันมาก แต่ยามนี้นางไม่อาจถามอันใด ได้แต่ยิ้มกล่าวว่า “พี่อวี้เหยาไม่ต้องเกรงใจข้า อีกสักครู่ ข้าจะตรวจชีพจรให้พี่เอง”
“ตกลง”
ทุกคนพูดกันไปก็เดินเข้าไปยังเรือนตะวันออกของตระกูลเซี่ย
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเพิ่งจะนำแขกไปถึงห้องโถงกลาง ลานด้านนอกก็มีแขกมาอีก หันถงตระกูลหัน เถียนจิ้นอานตระกูลเถียน ยังมีพ่อค้าอำเภอชิงเหอ ต่างได้ยินข่าวเซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับมาก็ล้วนพากันมาแสดงความยินดี
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรับรายงานจากบ่าวรับใช้ ก็ให้คนไปเชิญพวกหันถงเข้ามา
ปรากฏในห้องโถงตระกูลเซี่ยอัดแน่นไปด้วยผู้คน
ตอนเที่ยง บ้านตระกูลลู่ก็เร่งมากันถึง ลู่ต้าเหนียน เถียนซื่อ และพี่ใหญ่พี่รองลู่กับหู่จื่อ ยังมีลู่กุ้ยกับสวีจิ่นซิ่วก็มาด้วย
ลู่กุ้ยกับสวีจิ่นซิ่วเห็นลู่เจียวก็ดีใจมาก ดึงมือนางไปพูดคุยไม่หยุด
ลู่เจียวพบว่านิสัยสวีจิ่นซิ่วร่าเริงกว่าเมื่อก่อนไม่น้อย และนางยังตั้งครรภ์แล้ว
ลู่เจียวอดเตือนนางไม่ได้ “เจ้าระวังหน่อย ระวังสุขภาพหน่อย”
สวีจิ่นซิ่วแลบลิ้นอย่างเขินอาย “ข้ารู้แล้วพี่เจียว เพราะได้พบพี่ทำให้ดีใจเกินไปหน่อย”
ลู่กุ้ยถามลู่เจียวอย่างตื่นเต้นว่า “พี่เขยกลับมาได้อย่างไร ไหนบอกว่าเขาสอบจ้วงหยวนได้แล้ว ก่อนหน้านี้ท่านแม่ยังว่าพวกพี่จะอยู่เป็นขุนนางในเมืองหลวงกัน”
ลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “พี่เขยเจ้าไม่อยากอยู่เป็นขุนนางเมืองหลวง พวกเราตัดสินใจขอออกมาเป็นขุนนางท้องถิ่น เพื่อทำประโยชน์ให้แก่ราษฎร”
ลู่เจียวกล่าวเช่นนี้ก็ไม่ผิด นางกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดทำเพื่อราษฎรจริงๆ
ลู่กุ้ยได้ฟังก็อุทาน “พี่เจียว พี่นี่โง่หรือไม่นี่ อยู่เป็นขุนนางเมืองหลวงดีขนาดไหน อยู่ดีๆ ออกมาเป็นขุนนางท้องถิ่นทำไมกัน ขุนนางที่ไหนจะสู้เมืองหลวงได้”
เถียนซื่อได้ฟังบุตรชายก็โมโหตวาดว่า “หุบปาก เรื่องของพี่เขยเจ้า เขาจัดการเองได้”
เถียนซื่อกล่าวจบหันไปมองลู่เจียวถามอย่างห่วงใยกล่าวว่า “เจียวเจียว น้องสะใภ้เจ้าตั้งครรภ์แล้ว เจ้ายังไม่ตั้งครรภ์หรือ”
เถียนซื่อมองท้องลู่เจียวอย่างสงสัย
ลู่เจียวไม่ทันได้พูดอะไร แฝดสี่ก็วิ่งตะบึงเข้ามา “ท่านยาย ท่านตา พวกท่านมาแล้วหรือ”
เถียนซื่อรีบหันไปสนใจมองแฝดสี่ที่วิ่งมา “ยายดีใจ พวกเจ้ากลับมาแล้ว ยายคิดถึงพวกเจ้ามาก พวกเจ้าคิดถึงยายไหม”
แฝดสี่รีบกล่าวเสียงดังว่า “คิดถึง”
โดยเฉพาะตอนท่านแม่หนีไป พวกเขาคิดอย่างร้ายกาจ ตอนนั้นครุ่นคิดว่าจะต้องมาฟ้องท่านยาย
แฝดสี่ครุ่นคิดหันไปมองลู่เจียว ก่อนหน้านี้ลู่เจียวบอกกับพวกเขาอย่าเอาเรื่องนางกับท่านพ่อไปบอกท่านยาย เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เดิมคิดบอก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูด
เถียนซื่อไม่ทันสังเกตสีหน้าพวกเขา กอดพวกเขามาหอมแก้มทีละคน
จ้าวอวี้หลัวเดินตามมาด้านหลัง มาตรงหน้าเถียนซื่อแล้วก็ยิ้มตาหยีกล่าวว่า “ท่านยาย ข้าคือจ้าวอวี้หลัว ท่านยังจำข้าได้ไหม”
เถียนซื่อเงยหน้ามองไปยังจ้าวอวี้หลัว เด็กหญิงสวยกว่าเมื่อก่อนมาก แต่บุตรสาวนางบอกว่านางไม่ใช่คู่หมั้นเอ้อร์เป่าไม่ใช่หรือ เหตุใดพอเอ้อร์เป่ากลับมา เด็กหญิงก็มา
เถียนซื่อหันหน้าไปมองลู่เจียวด้วยสัญชาตญาณทันที ลู่เจียวยกมือลูบศีรษะนางอย่างรู้สึกปวดหัว นางไม่รู้ว่าคนงามตัวน้อยแซ่จ้าวผู้นี้เหตุใดจึงยึดมั่นปักใจเช่นนี้
นี่ก็ผ่านมานานแล้ว ยังไม่ลืมเรื่องนี้ สาวน้อยคงไม่ได้ปักใจจะแต่งกับเอ้อร์เป่าให้ได้กระมัง
ยามนี้เอ้อร์เป่ากำลังออดอ้อนเถียนซื่ออยู่
“ท่านยาย พวกเราวันหน้าไปอยู่เมืองหนิงโจว ท่านยายว่างก็มาเล่นบ้านข้านะ”
บ้านตระกูลลู่ยังไม่รู้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะไปรับตำแหน่งถงจือเมืองหนิงโจว พอได้ฟังเอ้อร์เป่าก็ตกใจ ถามว่า “พวกเจ้าทำไมจึงจะไปอยู่เมืองหนิงโจว”
เอ้อร์เป่ารีบกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ท่านพ่อข้าได้เป็นถงจือเมืองหนิงโจว ดังนั้นพวกเราจะไปอยู่เมืองหนิงโจวกัน”
บ้านตระกูลลู่ไม่รู้ว่าถงจือตำแหน่งใหญ่เพียงใด แต่เป็นขุนนางเมืองหนิงโจวได้ น่าจะไม่เลวกระมัง
บ้านตระกูลลู่ดีใจกันขึ้นมาทันที เถียนซื่อยิ้มมองลู่เจียวกล่าวว่า “ลูกเขยได้เป็นถงจือเมืองหนิงโจวจริงหรือ”
ลู่เจียวพยักหน้า “เจ้าค่ะ วันหน้าท่านแม่คิดถึงข้า ก็มาหาที่เมืองหนิงโจวได้”
เถียนซื่อรีบย้ำคำเดิมว่า “เจ้าตั้งครรภ์ แม่ก็จะไปดูแลเจ้า”
ลู่เจียวรับปาก “ได้ รอข้าตั้งครรภ์ ก็จะมารับท่านแม่ไปดูแล”
เถียนซื่อเอาแต่คิดถึงเรื่องหย่าที่ลู่เจียวพูดไว้ก่อนหน้านี้ ตอนนี้ได้ยินนางกล่าวเช่นนี้ แววตานางก็ส่องประกายจ้องมองลู่เจียว พบว่าสีหน้านางอ่อนโยนมาก เถียนซื่อเข้าใจเรื่องหนึ่งได้ทันที ก็ยิ้มเบิกบานขึ้นมาอย่างไม่อาจระงับ
“ได้ ได้ รอเจ้าตั้งครรภ์ แม่ก็จะไปดูแลเจ้าที่เมืองหนิงโจว”



