Skip to content

พลิกปฐพี 178-4

ตอนที่ 178-4

ดอกท้อมาเสนอตัวเอง!

พักอยู่ในเทียนตูสองวัน ภายในสองวันนี้ มู่ชิงเกอไม่ทราบเลยว่ามีข่าวลือเกี่ยวกับนางสามเรื่องกระจายไปทั่ว

เรื่องที่หนึ่งก็คือเรื่องตอนที่นางเข้ามาในเมืองแล้วได้ต่อสู้กับแม่ทัพรักษาเมือง

เรื่องที่สองก็คือเรื่องที่นางประลองฝีมือกับเฉินปี้เฉิง

เรื่องที่สามก็คือเรื่องฉากอันน่าตื่นตะลึงบนถนนในคืนนั้น

สามเรื่องนี้ถูกเล่าลือไปทั่วแต่ไม่มีประชาชนคนไหนรู้ว่านี่เป็นคนๆ เดียวกัน

พวกเขารู้เพียงว่า คุณชายที่มาจากแคว้นระดับสามผู้หนึ่งต่อสู้กับแม่ทัพรักษาเมืองของประตูเมืองเทียนตู แต่กลับปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน มีคนประลองฝีมือกับเจ้าบ้าเฉิน พูดกันว่าเสมอกัน แล้วก็ยังมีคืนที่สาวงามอันดับหนึ่งแห่งเทียนตูปรากฏตัวคืนนั้น มีชายสวมชุดสีแดงที่ดูงดงามยิ่งกว่าอยู่คนหนึ่ง ได้ขโมยหัวใจของประชาชนชายหญิงของเทียนตูไปไม่น้อย

“องค์รัชทายาท!” มองเห็นแขกที่มา มู่ชิงเกอก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

หวงฝู่ฮ่วนมาพบนางด้วยตนเองทำให้นางรู้สึกแปลกใจ “คุณชายมู่ ข้ารู้สึกนับถือเจ้ายิ่งนัก” เมื่อหวงฝู่ฮ่วนเห็นมู่ชิงเกอก็ยิ้มอย่างขมขื่นพร้อมส่ายหน้า

มู่ชิงเกอมึนงง จากนั้นหวงฝู่ฮ่วนก็พูดเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนางทั้งสามเรื่องออกมา หลังจากนั้นก็ถอนหายใจ “ข้ายังไม่เคยพบมาก่อนว่ามีใครที่เพิ่งจะมาถึงเทียนตูเพียงไม่กี่วันก็สามารถทำให้เกิดลมพายุขึ้นทั้งเมืองได้ขนาดนี้”

มุมปากของมู่ชิงเกอกระตุก “องค์รัชทายาทกล่าวเกินไปแล้ว เป็นเพียงคำไม่กี่คำที่กล่าวเกินจริงเท่านั้น”

“กล่าวเกินจริงอย่างนั้นหรือ? อย่างน้อยสองเรื่องแรกข้าสามารถรับรองว่าเป็นเรื่องจริง ส่วนเรื่องที่สาม…” หวงฝู่ฮ่วนมองพิจารณามู่ชิงเกอ พยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “คุณชายมู่ หากว่าเจ้าเป็นผู้หญิง เกรงว่าข้าคงจะไม่สนใจสิ่งแลกเปลี่ยน จะต้องขอแต่งตั้งเจ้าเป็นพระชายารัชทายาทให้ได้แล้ว”

มู่ชิงเกอรู้สึกขมขื่นในใจ ยิ้มแล้วเอ่ยว่า “องค์รัชทายาท เรื่องล้อเล่นเช่นนี้ไม่อาจพูดเล่นได้ หากว่าหลุดออกไปเกรงว่าจะทำให้พระองค์เสื่อมเสียชื่อเสียงได้!”

“ฮ่าๆๆๆๆ ข้าล้อเล่น หากว่าคุณชายมู่เป็นผู้หญิง เช่นนั้นข้าก็ยิ่งละอายในรูปโฉมของตัวเองแล้ว” หวงฝู่ฮ่วนเอ่ยยิ้ม ๆ

เอ่ยตามมารยาทไปไม่กี่คำ มู่ชิงเกอถึงเอ่ยถามว่า “องค์รัชทายาทมาในวันนี้มีเรื่องอะไรหรือ?”

หวงฝู่ฮ่วนพยักหน้า “ข้ามาก็ตั้งใจจะมาบอกคุณชายมู่ แล้วก็ยังมีองค์ชายจ้าว รัชทายาทหญิงฟ่ง ว่าเข้าวันพรุ่งนี้ เสด็จพ่อของข้าจะนำทุกคนไปตำหนักหลีกงเพื่อพบมหาปราชญ์ด้วยกัน”

พรุ่งนี้หรือ!

อยู่ดีๆ ก็ต้องพบกับซือมั่วแล้ว ในใจของมู่ชิงเกอสั่นสะท้านขึ้น

“เป็นพรุ่งนี้อย่างนั้นหรือ?” ในขณะที่กำลังมึนงง นางถามอีกครั้ง

หวงฝู่ฮ่วนไม่ได้สัมผัสถึงความแปลกไปของนาง เพียงแต่คิดว่านางฟังไม่ชัด จึงกล่าวยํ้าอีกครั้ง “ใช่แล้ว พรุ่งนี้ยามหยิน รวมตัวกันที่นอกประตูวัง จากนั้นก็ออกเดินทางไปพร้อมกัน”

“มีใครไปบ้าง?” มู่ชิงเกอสงบจิตสงบใจเอ่ยถาม

“คนที่ร่วมงานเลี้ยงในคืนวันนั้นตามปกติก็น่าจะไปทั้งหมด” หวงฝู่ฮ่วนตอบตามจริง จากนั้นเขาก็เสริมขึ้นประโยคหนึ่ง “เฉินปี้เฉิงน่าจะปรากฏตัว แต่ว่าเจ้าไม่ต้องเป็นกังวล เขาไม่กล้ารบกวนเจ้าในตำหนักหลีกง ยิ่งไม่สามารถทะเลาะกับเจ้าในตำหนักหลีกงได้”

“อา? เพราะเหตุใด?” มู่ชิงเกอเอ่ยถามอย่างสงสัย

จากที่นางมอง เฉินปี้เฉิงเป็นพวกคลั่งวิชา เพียงแค่คิดจะประลองยุทธ์กับใครก็จะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

ก็เหมือนกับคืนวันนั้นในวังหลวงของอาณาจักรเซิ่งหยวน

“เพราะว่าที่นั้นเป็นสถานที่ของมหาปราชญ์ใครก็ไม่สามารถทำตัวตามสบายได้ เฉินปี้เฉิงเป็นพวกคลั่งวิชา ไล่ตามความฝันที่จะขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของวิชายุทธ์ เขา เคยขอร้องให้มหาปราชญ์รับเขาเป็นศิษย์คุกเข่าอยู่ที่ตำหนักหลีกงเป็นเวลาหนึ่งปี ไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออกเขาก็ไม่จากไป” หวงฝู่ฮ่วนเอ่ยถึงเรื่องนี้ในดวงตาก็ฉายแววแห่งความนับถือ แต่ก็กลับส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “น่าเสียดาย คุกเข่าไปหนึ่งปี แม้แต่ใบหน้าของมหาปราชญ์ เขาก็ไม่เคยเห็น สุดท้ายเป็นเพราะว่าสลบไปถูกคนในตระกูลหามกลับ นับจากนั้นมา เขาก็เป็นบ้าฝึกฝนวิชา ออกข้างนอกหาคนประลองยุทธจนได้รับชื่อเสียงเจ้าบ้าเฉินมา”

“ที่แท้ก็ยังมีความลับเช่นนี้ซ่อนอยู่!” มู่ชิงเกอเอ่ย

เฉินปี้เฉิงไปคุกเข่าให้ซือมั่ว? หากว่าพวกเขาเคยรู้จักกันมาก่อน มู่ชิงเกอคงจะปลอบเขาไม่ให้เสียเวลาเปล่า อย่าพูดถึงว่าคุกเข่าหนึ่งปีเลย ต่อให้คุกเข่าถึงร้อยปี สัตว์ประหลาดเฒ่าใจแข็งผู้นั้นก็ไม่หวั่นไหวง่าย ๆ นางก็ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงได้ผลสรุปเช่นนี้ออกมา เพียงแค่รู้สึกว่านี่ถึงเป็นซือมั่วที่แท้จริง เลือดเย็น ไร้ความรู้สึก ไม่สนใจเรื่องของคนอื่น ความสูงส่งและมีเกียรติของเขาในสายตาของผู้คนนั้น เป็นแค่ของปลอม!

“แต่ทว่า ข้าอยากจะเตือนเจ้าเรื่องหนึ่ง” ทันใดนั้นหวงฝู่ฮ่วนก็เอ่ยเตือนมู่ชิงเกอ “เรื่องที่มหาปราชญ์โปรดปรานเจ้านั้น อย่าให้เฉินปี้เฉิงรู้อย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเขาก็จะตามหาเพื่อประลองเป็นตายกับเจ้า ไม่ตายไม่หยุดอย่างแน่นอน”

“…” มุมปากของมู่ชิงเกอกระตุก

หวงฝู่ฮ่วนกล่าวว่า “เรื่องที่ไม่สามารถเป็นศิษย์ของมหาปราชญได้กลายเป็นปมในใจของเขาไปแล้ว หากว่าเขารู้เรื่องของเจ้า จะต้องไปทุ่มสุดตัวกับเจ้าอย่างแน่นอน เพื่อหาความชัดเจนว่าเหตุใดเจ้าจึงสามารถเป็นที่โปรดปรานของมหาปราชญได้ แต่เขาไม่สามารถเป็นได้”

เรื่องนี้ก็จำเป็นต้องเอามาเกี่ยวโยงกันด้วยอย่างนั้นหรือ?

ในใจของมู่ชิงเกอรู้สึกอดสูอยากด่าคนขึ้นมา! ซือมั่วไม่ได้คิดจะรับนางเป็นลูกศิษย์เลยสักหน่อย? เขาอยากจะ…อยากจะ…

“อ้าว? คุณชายมู่ เหตุใดเจ้าจึงหน้าแดง? หรือว่ารู้สึกไม่สบายหรือเปล่า?” ทันใดนั้น หวงฝู่ฮ่วนก็เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

“ไม่มีอะไร เพียงแค่รู้สึกร้อนนิดหน่อย” มู่ชิงเกอรีบร้อนส่ายหน้า ปฏิเสธคำกล่าวของหวงฝู่ฮ่วน

“เช่นนั้นก็ดี ข้าขอตัวกลับก่อนละ เจอกันพรุ่งนี้” หวงฝู่ฮ่วนไม่รั้งอยู่อาคารรับรองต่อ ความเร็วในการเข้ามาและออกไปของเขา ทำให้มู่ชิงเกอรู้สึกสบายที่คบหา

กับเขา

เมื่อส่งหวงฝู่ฮ่วนไปแล้ว มู่ชิงเกอก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พึมพำเสียงตํ่าด้วยท่าทางคลุมเครือว่า “พรุ่งนี้!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version