Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1248

ตอนที่ 1248 มือใหญ่จากโลกแท้จริง

ผีเสื้อสีเทำไม่มีสีอื่น ปีกสองข้างสยายออก ทั้งตัวยาวหมื่นจั้ง อยู่กลางฟ้า มีแรงกดดันยากจะบรรยายลงสู่พื้นดิน

ทันทีที่เห็นผีเสื้อสีเทา ในความคิดซูหมิงลอยขึ้นมาเป็นตำนานที่สืบทอดกันมาในโลกหมานตอนที่เขายังอยู่เผ่าหมานอีกครั้ง…

มีผีเสื้อนามว่าซางเซียง…

“ซางเซียง…” ชายชราวิญญาณสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นข้างกายซูหมิงบนโลกหมานเป็นครั้งแรก เขาเหม่อมองฟ้า มองผีเสื้อสีเทา นัยน์ตาเผยประกายมีสติปัญญา

“การเชื่อมโยงสุดท้ายในการคาดเดาของข้า…อยู่ที่ตัวซางเซียงในตำนานที่ สืบทอดมาแต่สมัยโบราณ น่าจะเป็นเช่นนี้!” ขณะที่ชายชราวิญญาณสวรรค์พูดพึมพำ ในตัวเขาเผยความซับซ้อน แต่เพิ่งเกิดความซับซ้อนก็ถูกแทนด้วยความแน่วแน่

“ตำนาน…” ซูหมิงพูดเสียงเบา เผ่าหมานมีการเล่าสืบต่อเกี่ยวกับตำนานของ ซางเซียงมานิจนิรันดร์ นั่นเป็นครั้งแรกที่เขารู้ว่ามีผีเสื้อตัวหนึ่งนามซางเซียง เมื่อมันขยับปีกจะก่อให้ฟ้าดินเกิดการเปลี่ยนแปลง ทุกครั้งจะเกิดปรากฏการณ์ต่างกัน

ซูหมิงยังจำได้ว่าตอนที่ย้อนกลับไปยุคโบราณในโลกของวิหารเหล่าเทพ ขณะที่จ้าวหมานต้าอวี๋กำลังทำนายฟ้าหมาน เขายังเห็นว่าช่วงที่มังกรโลหิตระเบิดกลางฟ้าที่มีพายุหิมะ ยังปรากฏผีเสื้อตัวหนึ่งแล้วก็ตายลงในทันที…

ซูหมิงเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง เขามองผีเสื้อสีเทาบนฟ้าเงียบๆ ผีเสื้อก็มองเขาเช่นกัน ทันใดนั้นมันขยับปีก เกิดสายลมอ่อนหมุนวนพร้อมด้วยดวงจิตที่ทำลาย ทุกอย่างได้พุ่งลงมายังทั้งแผ่นดินหมาน

น่าเสียดาย ผีเสื้อตัวนี้ก็ยังไม่ใช่ซางเซียงในตำนานจริงๆ มันเป็นเพียงเงาสะท้อนที่รวมจากดวงจิตชายชราชุดคลุมเทา

ซูหมิงยกมือขวาขึ้นเงียบๆ ในฝ่ามือปรากฏหม้อฮวงขึ้นมา ระหว่างที่หม้อขยับแสงสีทองสัมฤทธิ์ แสงปกคลุมใบหน้าซูหมิง ทำให้คนนอกมองไม่เห็นสีหน้าเขาตอนนี้ เห็นเพียงแสงหม้อสีทองสัมฤทธิ์สว่างจ้าขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดร่างเงาหนึ่ง

นั่นคือ ร่างเงากำยำถือหอกยาว ทันทีที่ร่างเงานี้ปรากฏ พลันมีกลิ่นอายป่าเถื่อนดึกดำบรรพ์แผ่มา ด้วยความรุนแรงของมันจึงแผ่คลุมโดยรอบในทันที

ขณะเดียวกัน วิญญาณเผ่าหมานใหญ่ร้อยล้านกว่าดวงในร่างซูหมิงที่เดิมทีหลับใหลหลังซูหมิงใช้เปลี่ยนเทพหมานก็พากันตื่นขึ้นแล้วหลั่งทะลักเข้าไป ในหม้อทองสัมฤทธิ์ ก่อนมีใบหน้าเว้านูนนับไม่ถ้วนบนหม้อ ในขณะที่ผีเสื้อสีเทากระพือปีก ร่างเงาบนหม้อทองสัมฤทธิ์เงยหน้าขึ้น เผยดวงตาสีแดงโลหิตรวมถึง ความเหี้ยมโหดภายใน จากนั้นขยับไหวตัวพุ่งตรงไปหาผีเสื้อสีเทาบนฟ้า

ด้วยความเร็วของเขาจึงก่อให้เกิดพายุหมุน ระหว่างที่พายุหมุนลากผ่านก็เหมือนกับวาดออกมาเป็นหม้อพายุยักษ์ใบหนึ่ง ขณะเดียวกันรอบๆ หม้อนี้มีใบหน้าวิญญาณเผ่าหมานใหญ่จำนวนมากโผล่ขึ้นมา เหมือนกำลังร้องคำราม หม้อใบนี้ดูเหมือนเป็นมายา แต่มีความรู้สึกจริงอยู่ เมื่อมันรวมเข้าด้วยกัน จึงทำให้ร่างเงาถือหอกที่พุ่งออกไปขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พริบตาเดียวก็มีความสูงหลายร้อยจั้ง

“หมาน!” ชั่วขณะที่ร่างเงานี้พุ่งออกไป เขาพลันตะโกนเสียงต่ำแหบแห้งแต่กลับสะเทือนฟ้าคำนี้ออกไป ท่ามกลางเสียงตะโกน เขาพลันเข้าไปใกล้ผีเสื้อสีเทาที่ขยับปีกแล้วและก่อให้เกิดพายุแห่งการทำลายล้างขึ้น จากนั้นตรงไปทางปีกด้านขวา

ซูหมิงมีสีหน้าปกติ มือขวาถือหม้อ สายตามองทุกสิ่ง

เสียงครึกโครมพลันดังก้องแผ่นดิน ทั้งโลกหมานสั่นไหว ภายใต้การโคลงเคลงอย่างรุนแรง ร่างเงาที่เกิดจากหม้อทองสัมฤทธิ์สั่นสะท้านท่ามกลางเสียงระเบิด ก่อนพังทลายลง ทว่าปีกขวาของผีเสื้อสีเทาก็สั่นไหวและเกิดรอยแตกขึ้นเป็นวงกว้างพร้อมกับที่ร่างเงานั้นหายไป ก่อนเกิดเสียงดังสนั่นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

“น่าเสียดาย นี่เป็นเพียงเงาสะท้อนที่เจ้าสร้างขึ้นมาเอง ไม่ใช่…ซางเซียงในตำนาน” ซูหมิงพูดเสียงเบา ระหว่างที่คำพูดดังก้อง ผีเสื้อสีเทาที่เสียปีกไปข้างหนึ่ง บนฟ้าพลันมองซูหมิง ก่อนโบกปีกซ้ายอีกครั้ง พลังแห่งการทำลายล้างม้วนเข้ามา ซูหมิงถอนหายใจ

เขายกมือขวาชี้ผีเสื้อทีเทาที่เหลือปีกข้างเดียว ทันใดนั้นแหวนสมบัติล้ำค่าตรง นิ้วมือบินขึ้น มันขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่เข้าไปใกล้ผีเสื้อสีเทาในชั่วพริบตามันมีขนาดหมื่นจั้งแล้ว

เพียงชนเข้าไปท้องฟ้าแตกละเอียด เกิดรอยแยกมากมายขึ้นบนผนึกสีม่วงและแดงบนฟ้า จนกระทั่งเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทั้งผืนฟ้า…พังลงเป็นชั้นๆ แตกออกทั้งหมด เมื่อผนึกบนฟ้าพังลง วิญญาณร้ายจากนอกโลกเหล่านั้นยังไม่ทันพุ่งเข้ามาก็ถูกแรงระเบิดม้วนถอยไป ร่างสลายเป็นเถ้าธุลีในวูบเดียว

สิ่งที่สลายไปพร้อมกันยังมีผีเสื้อสีเทาที่เหลืออีกครึ่งเดียว ตอนที่มันสลายเป็นผุยผงหายไป ยังพาดวงจิตชายชราชุดคลุมเทาที่ส่งเสียงถอนหายใจไปด้วย

“คนที่ทำลายข้าไม่ใช่เจ้า…” นี่คือประโยคสุดท้ายของชายชรา จากนั้นดวงจิตใหญ่สามดวงที่อยู่ในน้ำวนมรณะหยินมาแต่โบราณกาลก็ถูกลบหายไปตลอดกาล

ผืนฟ้าเกิดเสียงดังสนั่น รอยแตกลุกลามไปอย่างต่อเนื่อง มองไปท้องฟ้าเหมือนกับเศษหินที่พังลงไม่หยุด ขณะพังลงยังมีเศษฝุ่นจำนวนมากลอยขึ้น ภาพวันสิ้นโลกสั่นสะเทือนจิตใจทุกคนที่พบเห็นด้วยตาตัวเอง

นอกโลก แหวนหมื่นจั้งของซูหมิงลากยาวไป จุดที่ผ่านตัวประหลาดจากนอกโลกทั้งหมดจะสลายไป ไม่ว่าขั้นพลังใด เมื่อปะทะกับแหวนแล้วจะสลายไป

แหวนนี้พุ่งออกจากโลกหมานด้วยเสียงดังสนั่นและยังมีเสียงแหลม มันหมุนวนอย่างรวดเร็วในน้ำวนมรณะหยินพร้อมกับพุ่งตรงไปยังทางออกของน้ำวนมรณะหยินด้วยความเร็วของมันชั่วพริบตาเดียวก็บินไกลออกไป มันม้วนหมอกไปด้วยตลอดทาง แยกกลิ่นอายมรณะออก ทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่บินออกมาจากมิติ กระทั่ง มังกรมรณะตัวนั้นก็ยังยากจะหลบพ้นอย่างสิ้นหวัง ร่างถูกชนจนละเอียดแล้วก็ถูกทะลวงผ่านไป

ทุกอย่างกล่าวเหมือนนาน แต่ความจริงแค่สิบกว่าลมหายใจแหวนก็พุ่งออกจากน้ำวนมรณะหยินมาอยู่ในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม ทันทีที่มันปรากฏตัวก็เหมือนกับเปิดเส้นทางหนึ่งระหว่างโลกดาราสัจธรรมกับโลกเผ่าหมาน เส้นทางนี้กลายเป็นน้ำวน และยังเหนี่ยวนำกลิ่นอายพลังของทั้งโลกแท้จริงดาราสัจธรรมเข้ามา

ที่นี่มีดวงจิตของซูหมิง ขณะเดียวกับที่พุ่งเข้าไปในน้ำวน ซูหมิงในโลกหมาน ยกสองมือขึ้น เขาเงยหน้ามองฟ้าพังพินาศ

“พวกเรา…ออกจากน้ำวนมรณะหยิน จากนี้ไป โลกหมานจะเป็นส่วนหนึ่งของโลกแท้จริงดาราสัจธรรม! ข้าจะพาพวกเจ้าทั้งโลกนี้ออกไป!”

เสียงซูหมิงดังก้องข้างหูผู้ฝึกฌานเผ่าหมานทุกคนอยู่นานไม่หายไป เมื่อกลิ่นอายพลังโลกดาราสัจธรรมในน้ำวนเส้นทางม้วนเข้ามา มองไกลๆ เหมือนว่ามีมือใหญ่ จากโลกดาราสัจธรรมเข้ามาในน้ำวนมรณะหยินด้วยพลานุภาพไม่อาจบรรยาย คว้าโลกหมานเอาไว้หมายจะดึงออกไป!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!