Skip to content

สู่วิถีอสุรา 215

ตอนที่ 215 น้ำ สุรา

“อะแฮ่ม ในเมื่อออกฌานแล้วก็ให้คำตอบข้า จะได้เป็นศิษย์ของข้าหรือไม่ ก็ต้องดูคำตอบของเจ้า” ชายชราทำเสียงกระแอมอีกครั้ง ใช้มือลูบเคราท่าทางเหมือนผู้อาวุโสที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน เมื่อรวมกับความตื่นตะลึงที่มอบให้กับซูหมิง ยิ่งทำให้มองไม่ออกถึงจุดพิรุธใดๆ

“รวมโลหิต ชำระล้าง เซ่นไหว้กระดูก วิญญาณหมาน สี่ขั้นพลังใหญ่ล้วนมาจากคำว่าสร้าง!” ซูหมิงสูดลมหายใจเข้าลึก กล่าวเรียบๆ

“การสร้าง ทำให้ไม่มีกลายเป็นมี คือความหมายของสี่ขั้นพลังใหญ่ การสร้างประเภทนี้ใช้ลายหมานเป็นหลัก!”

“ลายหมานของทุกคนต่างกัน ฉะนั้นการสร้างจึงต่างกัน ทว่าแท้จริงแล้วมาจากคำว่าสร้าง! เหมือนกับที่ข้าเห็นเมื่อครู่ ใช้โลหิตหนึ่งเส้นสร้างเป็นคนเหมือนภูเขา!”

ซูหมิงกล่าวเบาๆ ยามนี้เขายังคงตื่นตะลึง การฝึกฝนในวันนี้ทำให้เขาเข้าใจเส้นทางการฝึกฝนของตัวเองว่าคืออะไร

กระทั่งเขายังสังเกตเห็นว่า ภายในเวลาที่ไม่รู้นานเพียงใด หลังจากเส้นเลือดในร่างกายหลอมรวมเป็นเส้นเดียวและผสานเข้าสู่ลายหมานแล้ว ขั้นพลังของเขาแม้ยังเป็นชำระล้าง ทว่าพลังในการต่อสู้กับเหมือนแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย

นั่นคือการละทิ้งขั้นรวมโลหิตอย่างสมบูรณ์และก้าวเข้าสู่ขั้นชำระล้างอย่างแท้จริง! กระทั่งขั้นชำระล้างตอนต้นยังมีความรู้สึกอิ่มตัวจากการกระทำเมื่อครู่ เหมือนห่างจากชำระล้างตอนกลางอีกไม่ไกล

เพียงแต่ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ชายชราตรงหน้ามอบให้เขา

ชายชราได้ยินดังนั้นจึงหัวเราะ สีหน้าชื่นชมมากขึ้น

“ไม่ผิด เข้าใจถึงจุดนี้ได้นับว่าเข้าสู่ธรณีประตูแล้ว สมกับฐานะแม่ทัพเทพชำระล้าง คำว่าสร้างก็คือหัวใจหลักของเผ่าหมาน หนึ่งบรรพกาลสร้างหนึ่ง สิบบรรพกาลสร้างหนึ่ง ร้อยบรรพกาลสร้างหนึ่ง ไปจนถึงพันบรรพกาลสร้างหนึ่ง ท้ายที่สุดคือหมื่นบรรพกาลสร้างหนึ่ง นั่นคือวิชาของเทพหมาน!”

“โลกใบนี้มีต่างแดนจำนวนมาก ผู้ฝึกฝนมีหลายประเภทต่างกัน ทว่ามีแค่การฝึกฝนของเผ่าหมานเราที่มีคำว่าสร้าง เมื่อขั้นวิญญาณหมานทะลวงถึงระดับสูง จะสามารถสร้างเทวรูปหมานของตัวเอง!”

“การทดสอบแรก เจ้าผ่าน!” ชายชราหุบรอยยิ้ม สีหน้าเคร่งขรึม

“ซูหมิง ข้าเทียนเสียจื่ออาศัยอยู่ในสำนักเหมันต์สวรรค์ เดิมทีเป็นทั้งคนในสำนักและมิใช่คนในสำนัก ชีวิตนี้ข้าจะไม่รับศิษย์อีกแล้ว เคยมีหลายคนทำให้ข้าสนใจ ทว่าท้ายที่สุดก็ไม่คู่ควร ตอนเจ้าทะลวงสู่ชำระล้าง ข้าก็เฝ้าสังเกตอยู่แล้ว กระทั่งตอนเจ้าวาดลายหมานในความคิดข้าก็อยู่!” เทียนเสียจื่อกล่าวราบเรียบพลางมองซูหมิง

ซูหมิงเงยหน้ามองชายชรา ไม่สงสัยกับคำพูดของอีกฝ่าย

“ตอนนี้มีสองทางเลือกตรงหน้าเจ้า หนึ่ง ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิม เจ้ายังคงไปสำนักเหมันต์สวรรค์ มีข้าพูดแทนเจ้า อย่างไรก็ได้เป็นศิษย์สำนักเหมันต์สวรรค์!

อีกทั้งเพราะเจ้ามีฐานะแม่ทัพเทพชำระล้าง ในสำนักจะต้องให้ความสำคัญกับเจ้ามาก ศิษย์ภายในเจ้าได้เป็นแน่นอนอยู่แล้ว กระทั่งตาแก่หลายคนในสำนักยังจะรับเจ้าเป็นศิษย์ด้วยซ้ำ เหมือนกับซือหม่าซิ่นที่เป็นโอรสแห่งสวรรรค์ในสำนัก ส่วนความก้าวหน้าในอนาคตก็ต้องดูที่วาสนาของเจ้า”

“สอง ละทิ้งเรื่องเข้าสำนักเหมันต์สวรรค์ แล้วมาเป็นศิษย์ของข้าเทียนเสียจื่อ ข้าอยู่สำนักเหมันต์สวรรค์ เจ้าก็จะอยู่ด้วย หากข้าไปเจ้าก็ต้องตามไปกับข้า

เมื่อเป็นศิษย์ของข้า เจ้าจะได้อยู่ในสำนักเหมันต์สวรรค์ ทว่ามิใช่ศิษย์สำนัก มิได้รับผลประโยชน์ของศิษย์ในสำนัก แต่หากคารวะข้าเป็นอาจารย์ วันหนึ่งเจ้าจะเข้าใจเองว่าสำนักเหมันต์สวรรค์ก็ไม่เท่าไร เพียงแต่ถ้าคิดจะเป็นศิษย์ของข้า เจ้าต้องผ่านการทดสอบที่สอง ต้องผ่านเท่านั้นข้าถึงจะยอมรับเจ้า!”

เทียนเสียจื่อกล่าวอย่างจริงจัง ขณะกล่าวเขาเผยความเหยียดหยามและโอหังต่อสำนักเหมันต์สวรรค์

เพียงแต่เมื่อเขาเห็นซูหมิงมีสีหน้าครุ่นคิดราวกับกำลังตัดสินใจ ก็อดตึงเครียดมิได้ หากเปลี่ยนเป็นก่อนหน้าที่เขาเห็นลายหมานของซูหมิง คงจะไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก ทว่าตอนนี้กลับต่างกัน

“อะแฮ่ม ข้าจะบอกเจ้าให้ซูหมิง เมื่อครู่เจ้าก็เห็นแล้วว่าข้าช่วยเจ้าครั้งเดียว ระดับการฝึกฝนของเจ้าก็เพิ่มมาเล็กน้อย หากเป็นศิษย์ของข้าในอนาคตจะมีเรื่องแบบนี้อีกเยอะ” ชายชรากระแอมไอ รีบกล่าว

ซูหมิงยังคงนิ่งเงียบ

“เจ้าต้องคิดให้ดี ข้าเป็นคนที่เจ้าพึ่งพาได้มากที่สุด หากเป็นศิษย์ของข้าย่อมจะมีแต่ข้อดีมากมาย หากปฏิเสธ…” ชายชราทำเสียงหึ ในใจจนปัญญายิ่งนัก การรับศิษย์เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง จะไปบังคับคนอื่นมิได้

“มีข้อดีอะไรบ้าง?” ซูหมิงเงยหน้ากล่าวอย่างสงบ

“มีแต่ข้อดีมากมาย…” เทียนเสียจื่อใจฝ่อเล็กน้อย หัวเราะเสียงดังเพื่อกลบเกลื่อน ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างเขาเชื่อว่าการกลบเกลื่อนในจุดนี้ซูหมิงมองไม่ออกแน่นอน

“ในถ้ำของข้ามีศาสตราวุธหมานเยอะแยะ เจ้าเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของข้า ย่อมเลือกได้ตามใจชอบ”

“ข้ายังมีเคล็ดวิชาของสำนักเหมันต์สวรรค์ทั้งหมด เจ้าไม่ต้องเข้าสำนักก็เรียนได้ อีกทั้งพวกเขาจะไม่พูดอะไร เพราะเจ้าเป็นศิษย์ของข้า”

“มานึกๆ ดูแล้ว ข้ายังมีภูเขาเป็นเรือนที่พักและมีถ้ำของข้าเอง หากเจ้าเป็นศิษย์ข้า ข้าจะช่วยสร้างถ้ำของเจ้าเอาไว้ข้างๆ ทันที”

“ข้ายังมีคนรู้จักในราชวงศ์ต้าอวี๋ ตอนเจ้าไปรับแต่งตั้งยศแม่ทัพเทพที่นั่น ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”

“อีกอย่าง ข้าขอคิดก่อน อ้อ เมื่อเจ้าเป็นศิษย์ของข้า การนับรุ่นจะต่างกันออกไป แม้ข้าจะมีความสัมพันธ์ค่อนข้างซับซ้อนกับสำนักเหมันต์สวรรค์ ทว่าก็ถือเป็นผู้อาวุโสในสำนัก หากเจ้าคารวะข้าเป็นอาจารย์ จะมีการนับรุ่นเหมือนกับของอาจารย์ใหญ่ เด็กสาวพวกนั้นต้องเรียกเจ้าว่าอาจารย์อา”

“มีแต่ข้อดีทั้งนั้น ใช่แล้ว ข้ายังมีคัมภีร์ล้ำค่าซ่อนไว้อีกเยอะ ในนั้นครอบจักรวาล กระทั่งมีแผนที่แดนอรุณใต้ส่วนหนึ่ง ไม่แย่ไปกว่าของสำนักเหมันต์สวรรค์แน่นอน ถึงอย่างไรข้าก็เคยไปมาแล้วหลายที่นัก”

นัยน์ตาซูหมิงเป็นประกาย ขณะชายชรายังกล่าวไม่หยุด เขาเงียบไปชั่วครู่ก่อนพยักหน้า

“ได้ เชิญผู้อาวุโสพูดถึงการทดสอบที่สอง”

เทียนเสียจื่อตะลึง รอยยิ้มบนใบหน้าเด่นชัดมากขึ้น ชี้เหยือกสุราตรงหน้าซูหมิง

“เหยือกสุรานี้ข้าใช้เวลาหมักดองด้วยตัวเองนานยิ่งนัก แม้แต่อาจารย์ใหญ่ฝ่ายซ้ายและขวาในสำนักยังมิได้ดื่มมัน เจ้าอยากลองหรือไม่?”

ซูหมิงมองเหยือกสุราตรงหน้า ก่อนหยิบมาดื่มอึกหนึ่งอย่างไม่ลังเล เขาทราบดีถึงขั้นพลังของชายชราตรงหน้า หากคิดจะทำร้ายเขาจริงๆ คงมิต้องทำเรื่องให้ยุ่งยากแบบนี้

ทว่าเมื่อดื่มลงไป ซูหมิงกลับตะลึงงัน

“น้ำ?” ซูหมิงมองชายชรา

“คือสุรา” ชายชรายิ้มทำทีเล่นทีจริง ยันกายขึ้นจากท่านั่งขัดสมาธิ สีหน้าดูสนุกสนานยิ่งนัก

ซูหมิงขมวดคิ้ว ขบคิดพลางมองเหยือกสุราในมือ

“การทดสอบที่สองเจ้าผ่านแล้ว ไปกันเถอะ ตามข้าออกไป ใช้อาคมเคลื่อนย้ายเข้าสำนักเหมันต์สวรรค์ กลับบ้าน!” ชายชราหัวเราะเสียงดัง เดินมายืนหน้าซูหมิง เขาไม่สังเกตเห็นว่าช่วงที่กล่าวคำว่ากลับบ้าน ซูหมิงที่ถือเหยือกสุราตัวสั่นเทา เงยหน้ามองชายชราด้วยความลึกซึ้งแวบหนึ่ง

“ในเหยือกสุรานี้มีอะไรข้าเองก็ไม่รู้ อย่ามองแค่ว่าข้าหมักมัน ในนั้นสร้างโดยเคล็ดวิชาหมานของข้า ทุกคนที่ดื่มจะได้รับรสชาติต่างกัน ซือหม่าซื่นเคยดื่มก็บอกว่าขม และยังมีอีกสามคนบอกไว้ต่างกัน ข้าก็เคยดื่ม รู้สึกว่ามันคือสุรามีแค่เจ้าคนเดียวที่บอกว่ามันคือน้ำ คำตอบนี้ตรงกับความรู้สึกของข้าในวันนี้ ดังนั้นจากนี้ไปเจ้าซูหมิงคือศิษย์เพียงคนเดียวของข้าเทียนเสียจื่อ!”

เทียนเสียจื่อเดินนำหน้า หันกลับมายิ้มมองซูหมิง

ซูหมิงอึ้งไป เขายิ้มเฝื่อน เดินอากาศไปพร้อมกับเทียนเสียจื่อ ค่อยๆ ห่างออกไป ไม่นานฟ้าดินในโลกมิติค่อยๆ บิดเบี้ยว ท้ายที่สุดกลายเป็นว่างเปล่า รวมถึงเงาร่างของเทียนเสียจื่อกับซูหมิงก็หายไปไร้เงา

นอกเมืองเขาหาน บนยอดเขาเหยียนฉือ ยามนี้แสงจากอาคมเคลื่อนย้ายเด่นชัดถึงขีดสุด มีเสียงอึกทึกดังสนั่น แผ่นดินสั่นสะเทือน ราวกับมีพลังงานไร้รูปรวมเข้ามาเป็นชั้นๆ จากแปดทิศ หลั่งไหลเข้าสู่อาคมเคลื่อนย้ายในเผ่าเหยียนฉือ ก่อนระเบิดจากยอดเขา สร้างขึ้นเป็นวงแหวนอาคม

แสงสว่างจ้าตาปกคลุมทุกคนไว้ข้างใน ซูหมิงตัวสั่นสะท้าน ได้สติกลับมา ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่ในมือของเขาปรากฏเหยือกสุรา ทำให้เขามึนงงไม่แน่ใจ ที่แท้ทุกอย่างในโลกมิติเป็นเพียงเสี้ยววินาทีของโลกภายนอก

“โลกมิติ…” ซูหมิงก้มหน้ามองเหยือกสุราในมือ ก่อนยกดื่มอีกหนึ่งอึก

นอกจากเขาได้ยินเสียงอึกทึกจากวงแหวนอาคมแล้ว ยังมีเสียงร้องตะโกนส่งจากโดยรอบภูเขาหาน ท่ามกลางสายตาของทุกคนนอกวงแหวนอาคม แสงจากอาคมเคลื่อนย้ายบนยอดเขาเหยียนฉือพลันขยับแสงวูบวาบ ทำให้ทุกคนตาพร่ามัวในชั่วพริบตา ก่อนฟ้าดินจะมืดลงฉับพลัน

แสงจากยอดเขาเหยียนฉือหายไป เหลือเพียงประกายแสงแตกกระเซ็น ไม่นานก็หายลับไปกับอากาศ

“ไปแล้ว…” ในเมืองเขาหาน หนานเทียนถอนหายใจเบา สีหน้าตื่นตะลึงแฝงด้วยความซับซ้อนยามส่ายศีรษะ

“ไม่รู้ว่าเมื่อพบเขาอีกครั้ง ความต่างระหว่างพวกเราจะมากขนาดไหน…บางทีอาจไม่มีโอกาสพบเขาอีกแล้ว”

เหลิ่งอิ้นข้างกายมองยอดเขาเหยียนฉือที่ไร้ประกายแสงจากอาคมอย่างเงียบๆ แววตาเด็ดขาด

“ในที่สุดเขาก็ไปแล้ว” บนยอดเขาผู่เชียง จ้าวหมานถอนหายใจโล่งอก

เขาทราบดีว่าตนไม่มีทางลืมเรื่องนี้ไปชั่วนิรันดร์ ในภูเขาหาน ในแดนแห่งนี้เคยปรากฏแม่ทัพเทพชำระล้าง และใช้วิธีแบบนี้ในการเข้าสำนักเหมันต์สวรรค์

บนยอดเขาบูรพาสงบ ฟางมู่ก้มหน้าลง บิดาเขายืนอยู่ข้างกาย อ้าปากคิดจะกล่าวอะไรบางอย่าง ทว่าฟางมู่กลับไม่สนใจ ก้มหน้าเดินจากไป ฟางเซินจึงถอนหายใจอย่างเงียบงัน

เมื่อทูตจากสำนักเหมันต์สวรรค์จากไป ภูเขาหานค่อยๆ กลับมาเงียบสงบดังเดิม มีคนจากไป มีคนเลือกอยู่ต่อ ทุกคนที่อยู่ในโรงเตี๊ยมก็เช่นเดียวกัน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เมื่อสำนักเหมันต์สวรรค์รับศิษย์ในครั้งหน้า อาจมีพวกเขาบางคนกลับมาพบปะกันอีกครั้ง และดื่มสุราพูดคุยกันถึงเรื่องปาฏิหาริย์ในวันนี้

โดยเฉพาะคนที่เคยดื่มสุรากับซูหมิง พวกเขาอาจกล่าวได้อย่างเต็มภาคภูมิว่า ตอนนั้นที่นี่เคยมีท่านแม่ทัพเทพชำระล้างนามซูหมิงอยู่ และเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเขา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!