Skip to content

สู่วิถีอสุรา 637

ตอนที่ 637 สอนปลาว่ายน้ำ

ซูหมิงเงยหน้ามองซุนซานแวบหนึ่ง บุคคลนี้มีสีหน้าเด็ดเดี่ยว ดูแล้วเหมือนยอมจ่ายครั้งใหญ่เพื่อมีชีวิตรอด ทว่าแม้ซุนซานจะหลักแหลมและมีแผนการลุ่มลึก หากแต่ประสบการณ์ที่แลกมาซึ่งอันตรายเป็นตายหลายครั้งของซูหมิงกลับทำให้เขามองเงื่อนงำออกเล็กน้อย

ซูหมิงไม่กล่าวในทันที แต่มองพื้นถ้ำ

‘ที่นี่มีเส้นชีพจรวิญญาณอยู่ เป็นจุดใช้ฟื้นฟูพลังที่ยอดเยี่ยม ทว่าตอนสูบเส้นชีพจรวิญญาณจะต้องสร้างความตื่นตกใจครั้งใหญ่แน่นอน ไม่เหมาะจะสูบตอนนี้…..เพราะมันจะส่งผลกระทบถึงแผนการล่อสำนักซ่อนมังกร’

ซูหมิงตกอยู่ในห้วงความคิด ถึงอย่างไรการวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงการคาดเดา ตอนนี้เลยคำนวณส่วนได้ส่วนเสีย ผ่านไปพักหนึ่งนัยน์ตาเขาถึงขยับประกาย

‘ต้องล่อคนสำนักซ่อนมังกรให้มาก่อน หากสำเร็จจะเป็นการดีที่สุด หากไม่สำเร็จก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องนี้อีก และต้องหันมาสูบเส้นชีพจรวิญญาณเพื่อฟื้นพลังอย่างเต็มที่ จากนั้นก็ทะลวงไปขั้นวิญญาณหมาน!’

ซูหมิงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เขาสะบัดแขนเสื้อไปทางซุนซาน ควันสีเทาตรงหน้าอีกฝ่ายลอยกลับมาอยู่ในนิ้วก้อยมือขวาซูหมิงอีกครั้ง

“พูดต่อไป” ซูหมิงกล่าวเนิบช้า

หลังจากซุนซานเอ่ยประโยคนั้นแล้ว ในใจก็ตึงเครียดอย่างยิ่ง ทว่าสีหน้ายังคงเด็ดเดี่ยว ไม่กล้าเผยพิรุธใดๆ เขารู้ถึงความน่ากลัวของคนตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นทักษะการทำความเข้าใจหรือขั้นพลังล้วนเหนือกว่าตนมาก ต่อให้เป็นคนเจ้าแผนการ ในสายตาเขาก็ยังยากจะตบตาอีกฝ่าย

“ผู้เยาว์มีคุณสมบัติตามหามังกร สามารถตามหาความรู้สึกถึงที่ซ่อนสมบัติได้ ต่อให้เป็นผู้อาวุโสในสำนักซ่อนสมบัติเอาไว้ แต่หากข้าเซ่นไหว้ชีวิตก็มีโอกาสแปดส่วนที่จะหาเจอ

ส่วนผนึกของที่นั่น ข้าพอจะแก้ได้ ถึงข้าจะไม่กล้ารับรองว่าเปิดได้ ข้าก็ทำให้มันอ่อนแอลงมากได้ เท่านี้ผู้อาวุโสก็จะสบายขึ้นแล้ว

เรื่องนี้เท่ากับหักหลังชนเผ่า ผู้เยาว์ใช้ชีวิตกับสิ่งเหล่านี้เป็นราคาต้องจ่าย ขอแลกกับคำสาบานของผู้อาวุโส หากสำเร็จจะต้องปล่อยข้าไป” สีหน้าซุนซานไม่มีพิรุธใดๆ สีหน้ายอมทุกอย่างในความสิ้นหวัง แม้แต่เสียงและคำพูดยังแฝงไว้ด้วยความกระหายในการมีชีวิตรอด

หากเป็นคนอื่น บางทีอาจถูกคำพูดคนผู้นี้ตบตาจริงๆ แต่ซูหมิงกลับมีสีหน้าปกติ มองซุนซานแวบหนึ่งแล้วพยักหน้า

ซุนซานยามนี้ตึงเครียดยิ่งกว่าเดิม เขามองซูหมิง พอเห็นฝ่ายนั้นพยักหน้าก็โล่งใจขึ้นมาบ้าง ทว่าสีหน้ากลับไม่เปลี่ยนไป เด็ดเดี่ยวยิ่งขึ้น

‘โอกาสมีครั้งเดียว หากสำเร็จคนผู้นี้ต้องตายอย่างแน่นอน! หากล้มเหลว…ข้าไม่น่าจะล้มเหลว ถึงเขามีความคิดแผนการไม่ธรรมดา แต่ข้ามั่นใจว่าจะไม่เผยพิรุธใดๆ ต่อให้เขาจะสงสัย แต่ไม่ว่าใครก็ต้องไม่ปฏิเสธ อย่างมากสุดก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งและคอยดูสถานการณ์ต่อไป’

“เชิญผู้อาวุโสสาบานด้วย มิเช่นนั้นแล้วต่อให้ผู้เยาว์ต้องตายก็จะไม่ยอมเด็ดขาด!”

ซุนซานมองซูหมิงพลางกัดฟันกล่าว

ซูหมิงยิ้มเยาะในใจ ทว่าสีหน้าเป็นปกติ

“หากเป็นอย่างที่เจ้าว่าจริงๆ พอสำเร็จแล้วข้าย่อมมอบอิสระให้เจ้า”

“เชิญผู้อาวุโสสาบะ…” ซุนซานกล่าวอีกครั้ง แต่ยังกล่าวไม่จบก็ถูกซูหมิงขัดเสียก่อน

“ให้เวลาเจ้าสามลมหายใจ จะหาที่ซ่อนสมบัติหรือตาย!” ซูหมิงมีสีหน้าหงุดหงิด สะบัดแขนเสื้อคลายผนึกบนตัวซุนซานให้ เขาจึงเคลื่อนไหวได้ ขั้นพลังเองก็ถูกคลายผนึกเช่นกัน

สามลมหายใจผ่านไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าซุนซานมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้น

ทันทีที่เห็นซูหมิงยกมือขวา เขาก็ออกแรงกัดฟัน สีหน้าเด็ดเดี่ยวยิ่งกว่าเดิม

“หวังว่าผู้อาวุโสจะทำตามสัญญา!” ซุนซานเอ่ยพร้อมกับนั่งขัดสมาธิบนพื้น สองมือประสานสัญลักษณ์แล้วกดบนหูสองข้าง ร่างเขาสั่นไหว มีน้ำตาโลหิตไหลลงมาจากหางตาสองข้าง ขณะเดียวกันยังมีโลหิตสีดำทึบไหลออกมาจากหูทั้งสอง

ซูหมิงยืนอยู่ข้างๆ นัยน์ตาเกิดประกายเย็นชา เขาอยากรู้ว่าคนผู้นี้มีความคิดอะไรอยู่ ผ่านไปพักหนึ่งก็เห็นซุนซานตัวสั่นขึ้นเรื่อยๆ แล้วมือขวาสะบัดไป ในมือพลันปรากฏเข็มสีดำสี่เล่ม ก่อนปักไปตรงระหว่างคิ้วหนึ่งเล่ม กลางกระหม่อมหนึ่งเล่ม หน้าอกหนึ่งเล่ม และอีกหนึ่งเล่มปักตรงลำคอ

วินาทีที่เข็มดำสี่เล่มแทงเข้าไป นัยน์ตาซุนซานฉายแววประหลาดใจ ทั้งยังมีความเหนื่อยล้าอยู่ลึกๆ เขาเงยหน้ามองด้านบนประหนึ่งมองทะลุถ้ำ

‘เข็มสี่เล่มนี้กระตุ้นจิตวิญญาณและพลังชีวิตในร่างกายให้ปะทุมาเป็นศักยภาพ….อีกทั้งดูจากท่าทาง การกระตุ้นศักยภาพนี้ต้องเผาผลาญชีวิตเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน

ใช้วิธีนี้ทำให้ในร่างกายเกิดสภาวะว่างเปล่าและเปิดเผย ในทางกลับกันก็ต้องฝืนใจเซ่นไหว้ชีวิตเพื่อให้ตรงตามที่เขาบอกไว้ก่อนหน้านี้’ ซูหมิงกวาดสายตามองซุนซานพลางกล่าวในใจ

“ห่างจากหุบเขาพันวารีเจ็ดสิบแปดลี้ ภูเขารกร้างลูกที่สาม ในระยะพันจั้งรอบๆ…เป็นจุดซ่อนสมบัติ!” ซุนซานกล่าวเสียงแหบแห้งด้วยความยากลำบาก ทันใดนั้นก็กระอักโลหิตมาหนึ่งกอง ตอนที่โลหิตพุ่งออกมา เข็มดำสี่เล่มบนตัวพลันสั่นไหว ซุนซานหายใจกระชั้นแล้วหยิบเข็มดำอีกสองเล่มออกมาโดยพลัน จากนั้นปักเข้าไปในจุดตันเถียนหนึ่งเล่มกับตรงจุดเหนือสะดือไปสามชุ่น

“ผู้อาวุโสพาข้าไป ข้าจะเปิดผนึกให้!” หลังจากปักอีกสองเข็มดำแล้ว ซุนซานมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังแดงเลือดฝาดผิดปกติอยู่ ซูหมิงเห็นชัดเลยว่าหลังจากปักเข็มสองเล่มไปแล้ว พลังชีวิตอีกฝ่ายเผาไหม้มากขึ้นอีกเล็กน้อย จึงทำให้อีกฝ่ายยืนหยัดต่อไปได้อีก

ซูหมิงไม่กล่าวอะไร เพียงสะบัดแขนเสื้อม้วนซุนซานพร้อมเดินหน้าหนึ่งก้าว ช่วงที่เหยียบเท้าลง จิตแรกของซูหมิงลอยออกมาแล้วพาเขากับซุนซานหายวับไป

เมื่อเคลื่อนย้ายออกจากถ้ำมาแล้ว ซูหมิงไม่หยุดชะงักใดๆ เขาเคลื่อนย้ายต่ออีกครั้ง จนกระทั่งหลายครั้งต่อมาก็มาปรากฏตัวอยู่นอกภูเขารกร้าง ภายใต้ความเร็วของเขาจึงไม่ดึงดูดความสนใจของใครมากนัก

ที่นี่ห่างจากหุบเขาพันวารีเจ็ดสิบแปดลี้!

โดยรอบมีภูเขารกร้างเจ็ดลูก ครั้นซูหมิงปรากฏตัวแล้วก็กวาดสายตามอง ก่อนไปหยุดอยู่ตรงภูเขารกร้างลูกที่สาม ภูเขานี้หัวโล้น ไม่มีพืชใดๆ ทั้งยังดูธรรมดาจนไม่เตะตา

“ผู้อาวุโสปล่อยข้าบนยอดเขาลูกนี้ด้วย ข้าจะช่วยท่านเปิดผนึกอย่างเต็มที่ หวังว่าหลังจากผู้อาวุโสได้สมบัติแล้ว จะเห็นแก่ที่ข้าเผาพลังชีวิตและยอมหักหลังสำนัก ปล่อยข้าให้เป็นอิสระ” ซุนซานหายใจกระชั้น เอ่ยอย่างยากลำบาก

ซูหมิงมองซุนซานแวบหนึ่งแล้วพยักหน้า หากบุคคลผู้นี้ไม่มีเจตนาร้ายจริงๆ เขาจะให้อิสระตามสัญญา

เขาเคลื่อนตัวพาซุนซานมาถึงภูเขารกร้างลูกที่สาม หลังจากวางบนหินใหญ่ตรงยอดเขาก็ถอยออกมาหลายก้าว ก่อนกวาดสายตามองไปรอบๆ ที่นี่รกร้างกันดาร ไม่มีกลิ่นอายพลังใดแฝงอยู่

‘หรือว่าคนผู้นี้จะจริงใจจริงๆ?’ ซูหมิงลังเลอยู่ชั่วครู่ เขาสังเกตซุนซานมาจนถึงตอนนี้ ตั้งแต่เริ่มใช้วิชาจนมาถึงที่นี่ก็ยังไม่เผยพิรุธใดๆ ทุกอย่างเหมือนตามหาสมบัติจริงๆ การเผาขั้นพลังกับปะทุศักยภาพก็เป็นของจริง โดยเฉพาะในร่างกายอีกฝ่าย ยามนี้ว่างเปล่าเหมือนกับขวดที่เดิมทีบรรจุน้ำจนเต็ม ตอนนี้น้ำในขวดกำลังระเหยเป็นไอและยังลดลงเรื่อยๆ

ซุนซานใช้สองมือประสานสัญลักษณ์อีกครั้งแล้วกดลงบนผืนดิน ทั้งยอดเขาส่งเสียงอื้ออึง มีเศษหินร่วงหล่นจำนวนมาก เห็นรางๆ ว่าตรงกลางยอดเขามีลำแสงปรากฏขึ้น

ลำแสงนั้นกึ่งโปร่งใส เห็นได้ว่าภายใต้ลำแสงนั้นมีประตูถ้ำอยู่บานหนึ่ง!

ซุนซานหน้าซีดขาว ขณะตัวสั่น สองมือเหมือนถูกแรงสะท้อนกลับจากผืนดินดีดขึ้นมาและยังสั่นสะท้าน ก่อนกระอักโลหิตมาอีกครั้ง จากนั้นเขาสะบัดสองมือ เข็มดำแปดเล่มปรากฏขึ้นโดยทันที

เขาปักเข็มเข้าไปในร่างกายทีละเล่ม จนกระทั่งปักครบแล้ว บนตัวเขารวมมีเข็มดำสิบสี่เล่ม ซูหมิงเห็นว่ามีเปลวเพลิงลุกลามมานอกร่างกายอีกฝ่ายจากการเผาพลังชีวิตจำนวนมาก

“ผู้อาวุโส ข้ายืนหยัดเปิดได้เพียงไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น อีกประเดี๋ยวข้าจะบอกเวลากับท่าน ท่านไม่ต้องเข้าไปเองก็ได้ ให้ใช้จิตสัมผัสเก็บของข้างในออกมา” เสียงซุนซานแหบแห้ง ดวงตาแดงก่ำ เม็ดเหงื่อซึมออกมาทั้งตัว

โดยเฉพาะในคำพูดยิ่งทำให้ซูหมิงมองพิรุธไม่ออก หากในถ้ำนั้นมีอันตรายจริงๆ เขาก็ไม่จำเป็นต้องบอกให้ซูหมิงส่งจิตสัมผัสเข้าไป

ซูหมิงขมวดคิ้วมองซุนซานอีกครั้ง ในใจพลันสั่นไหว ยามนี้มากกว่าครึ่งตัวซุนซานอบอวลด้วยเปลวเพลิงเผาพลังชีวิต ตอนที่มันลุกลามมาข้างนอกก็ค่อยๆ หายไป ดูแล้วไม่มีอะไรพิเศษ ทว่าท่าทางของอีกฝ่ายในตอนนี้กลับทำให้ซูหมิงคุ้นตาเล็กน้อย

‘ยึดวิญญาณ! ไม่ใช่สิ คือการมาเยือน!’ ซูหมิงหรี่ม่านตา ทั่วร่างซุนซานในยามนี้ว่างเปล่า เหมาะกับการถูกยึดวิญญาณยิ่งนัก แต่ที่เหมาะกว่าคือให้จิตแรกมาเยือน!

วิชาจิตแรกมาเยือนต้องการผู้ฝึกวิชาคล้ายๆ กัน ด้วยร่างกายที่ว่างเปล่าเหมือนขวดไม่มีน้ำ จะมีผลให้คนอื่นๆ หรือผู้ฝึกวิชาคล้ายกันสามารถอยู่ในสภาวะแบบนี้ของอีกฝ่ายได้ ต่อให้อยู่ไกลกันมากก็ยังส่งร่างมาถึงในเวลาอันสั้น เหมือนกับเติมน้ำให้เต็มขวดอีกครั้ง

นึกถึงสิบสี่เข็มที่ปักบนร่างอีกฝ่ายก่อนหน้านี้ จากการเฝ้าสังเกตของซูหมิง ในสิบสี่เข็มมีอยู่เจ็ดเข็มเหมือนใช้กระตุ้นศักยภาพ ทว่าความจริงคือเมื่อเทียบกับเจ็ดเข็มที่เหลือแล้ว มันใช้เพื่อสร้างความสับสนเท่านั้น!

เจ็ดเข็มที่เหลืออยู่บนตัวซุนซานใช้ลายผิวหนังเป็นเส้นโลหิตเพื่อวางวงแหวนอาคม เพียงแต่ว่าวงแหวนอาคมนี้ยังไม่สมบูรณ์ พอซูหมิงกวาดสายตามองก็พอมองออกบ้าง ดูเหมือนว่าจะขาดไปเข็มหนึ่ง

ทันใดนั้นซุนซานพลันยกมือขวาขึ้น ในมือปรากฏอีกเข็มหนึ่ง เขาปักไปบนหูซ้ายตนอย่างไม่ลังเล ก่อนปรากฏเส้นเลือดดำบนใบหน้าทันที

“ผู้อาวุโส เข้าไปตอนนี้!” ขณะเดียวกับที่กล่าว ลำแสงตรงกลางภูเขาพลันหยุดชะงักแล้วมัวหมองอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นเป็นช่องโพรง!

ซุ้มประตูภูเขาส่งเสียงดังพร้อมกับเปิดเป็นช่องเอง มีกลิ่นอายพลังหยางแผ่กระจายมาจากช่องนั้นเสี้ยวหนึ่ง!

หากเป็นคนอื่น ต่อให้เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ตอนนี้ย่อมต้องสนใจถ้ำแห่งนี้อย่างแน่นอน และต้องผ่อนความตื่นตัวต่อซุนซาน สิ่งที่ซุนซานต้องการก็คือโอกาสช่วงเสี้ยววินาทีนี้ ซึ่งตอนนี้เขาก็กำลังท่องคาถาบทหนึ่งก้องอยู่ในใจ

‘สายน้ำเหนือสวรรค์ อำนาจแห่งจักรพรรดิเกรียงไกร ขอเชิญอาจารย์ประทับร่าง….ณ กึ่งกลางนี้!’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!