ตอนที่ 745 พืชลืมทุกข์
ซูหมิงเงยหน้าขึ้น มุมปากยกยิ้มเย็นเยียบ ทว่าหากมองดีๆ คนที่ยิ้มไม่ใช่ซูหมิง แต่เป็นชายชราที่ร่างซ้อนทับอยู่
ทันทีที่ยกยิ้ม ซูหมิงยกมือขวาคว้าไปทางทาสเต๋ายี่สิบเอ็ด ฝ่ายตรงข้ามหน้าเปลี่ยนสีเด่นชัด รีบสะบัดแขนเสื้อ พลันมีแสงดาราโอบล้อมนอกกาย จากนั้นก็ระเบิดพลังของก้าวที่สามออกมา แต่ทว่า…..
แสงดาราไร้ที่สิ้นสุดทะลวงผ่านร่างซูหมิงไปราวกับโปร่งใส ส่วนมือขวาซูหมิงไม่หยุดชะงัก ยังคงคว้าไปทางทาสเต๋ายี่สิบเอ็ด
ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดหน้าเปลี่ยนสี วินาทีที่ถอยออกมาอย่างร้อนรนด้วยความกลัว
ซูหมิงยิ้มพิลึกพลางกล่าวเนิบๆ “ตะวันโลหิต!”
สิ้นเสียง ทั่วร่างทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดกลายเป็นสีแดงทันใด นอกกายปรากฏดวงตะวันโลหิตมายาขึ้นหนึ่งดวง ช่วงที่ปรากฏดวงตะวัน ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดยังกระอักเลือดและยากจะถอยไปอีก แต่กลับตรงมาหาซูหมิงด้วยความหวาดกลัว ก่อนถูกบีบคอเอาไว้
“ครึ่งก้าวก่อนภัยพิบัติตะวัน!” ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดร้องเสียงแหลม แต่ก็หยุดนิ่งไปอย่างรวดเร็ว ครั้นถูกซูหมิงบีบคอแล้ว ตัวทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดพลันแดงขึ้นเรื่อยๆ ชั่ววินาทีเดียว โลหิตจำนวนมากหลั่งไหลมาจากร่างกาย ภายในพริบตาทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดก็กลายเป็นศพแห้งไร้โลหิตในมือซูหมิง
ร่างสิ้นลมหายใจ จากเป็นแมวไล่จับหนูเดินไปสู่ความตาย
ซูหมิงคลายมือขวาแล้วสะบัดมือไปข้างหน้า โลหิตที่กระอักออกมาของทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดบริเวณรอบๆ รวมกันเข้ามา แล้วกลายเป็นกระจกสีโลหิตตรงหน้าซูหมิง
คลื่นบิดเบี้ยวในกระจกเผยเป็นฟ้ากระจ่างดาวกับดาราแท้จริงดวงหนึ่ง บนดาราแท้จริงนั้นมีหองดงามอยู่หลังหนึ่ง ภายในหอมีสตรีสวมอาภรณ์ขาวกำลังมองทอดไกลด้วยความสับสน สีหน้าเต็มไปด้วยความเหม่อลอย
รูปลักษณ์ของนางเหมือนกับไป๋ซู่ทุกประการ
“ข้าทำตามสัญญาแล้ว” พอซูหมิงเอ่ยประโยคนี้เสร็จ กลับมีโลหิตเส้นหนึ่งบินออกจากร่างเขา กลายเป็นดวงตะวันโลหิตบินไกลออกไป
เหตุการณ์ทุกอย่างเร็วมาก เต้าหยวนกับทาสเต๋าสามคนยังไม่ทันตั้งตัว
ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดก็เป็นศพแห้งเหี่ยวไปแล้ว ลูกตาดำเต้าหยวนหดตัว เขากรีดร้องพร้อมถอยไปอย่างร้อนรนด้วยความหวาดกลัว ทาสเต๋าสามคนจึงไม่สนใจยอดเขาลำดับเก้าอีก แต่ตรงมาหาซูหมิงแทน
ซูหมิงในตอนนี้ ในตัวเขาไม่มีชายชราร่างซ้อนทับอีก ที่มีอยู่คือตัวเขาเอง เขาไม่สนใจทาสเต๋าสามคนที่กำลังตรงเข้ามา แค่หันไปมองมังกรยมโลกบนผิวทะเลด้านล่างซึ่งกำลังแบกอวี่เซวียนเข้าไปในรอยแยก
อวี่เซวียนหลับตาแน่นิ่งอยู่บนหลังมังกรยมโลก ซูหมิงมองนางกับมังกรยมโลกหายเข้าไปในนั้น ตรงหน้าเขาปรากฏเป็นภาพเด็กสาวซุกซนคนหนึ่งกำลังยิ้มตาหยีตะโกนเรียกตนว่าเจ้าทึ่มซูน้อย
‘เจ้าทึ่มซูน้อย’
‘หากเจ้าไม่ตอบ ข้าจะหักเม็ดยาหนึ่งเม็ด’
‘เจ้าทึ่มซูน้อย เจ้าดูสิ ปลาตัวใหญ่ในทะเลงดงามมาก ช่วยจับมาให้ข้าตัวหนึ่ง’
‘เจ้าซูน้อย เรียกข้าว่าพี่สาวสิ เร็วๆ เรียกข้าว่าพี่สาว…’
‘ซูซูน้อย คนยักษ์ในทะเลนั่นมันถลึงตามองข้า เจ้าไปทุบตีมันที’
‘เจ้าทึ่มซูซู แสงตะวันมันช่างเป็นพิษนัก เจ้าช่วยกางร่มให้ข้าที…’
ขณะซูหมิงกำลังใจลอย ภายในร่างกายเขาก็เกิดร่างเงาซ้อนทับอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่ชายชรา แต่เป็นชายร่างกำยำหัวโล้น ชายผู้นี้กำยำล่ำสันอย่างยิ่ง พอซ้อนทับกับร่างเงาซูหมิงแล้วก็มองทาสเต๋าสามคนที่กำลังตรงเข้ามาด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
แต่ซูหมิงยังคงหันไปมองเหมือนเดิม มองรอยแยกบนทะเลค่อยๆ จางหาย และยังมีเสียงคำรามเต็มไปด้วยความเศร้าเสียใจก่อนมังกรยมโลกจากไป
‘รู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าถึงมีนามว่าอวี่เซวียน…..’
‘เซวียนคือพืชลืมทุกข์ ข้าคือพืชท่ามกลางสายฝน…ท่านแม่อยากให้ข้ามีความสุขไปชั่วชีวิต ไม่มีความทุกข์….’
‘ข้าจะให้ของขวัญเจ้าชิ้นหนึ่ง…..’
ดวงตาซูหมิงชื้นๆ ทว่าเขาเป็นวิญญาณ…ดังนั้นจึงไม่มีน้ำตา
“เดิมทีเจ้าไปก่อนได้” ซูหมิงพึมพำเบาๆ ตรงหน้าเขาก็ลอยขึ้นมาเป็นภาพไป๋ซู่หันหน้ามายิ้มให้ รอยยิ้มนั้นงดงามมาก แฝงไว้ด้วยความอาลัยอาวรณ์ ก่อนค่อยๆ ลอยไกลออกไป
ยามนี้ชายร่างกำยำที่เงาซ้อนกับร่างซูหมิงยิ้มชั่วร้าย พร้อมกับขยับกายวูบไหวตรงไปอยู่หน้าทาสเต๋าสามคน ตอนที่ยกมือขวาขึ้นมีแสงดำระเบิดมาจากตัวเขา แสงดำนั้นกลายเป็นดวงตะวันสีดำดวงหนึ่ง ทำให้ฟ้าดินสูญเสียสีสันไป ก่อนมีเสียงกรีดร้องดังมาจากทาสเต๋าสามคน
ช่วงที่เกิดเสียงระเบิดดังต่อเนื่องกันสองครั้ง ทาสเต๋าสามสิบเอ็ดกับทาสเต๋าสี่สิบเอ็ด ยอดฝีมือก้าวที่สามผู้สวมเสื้อคลุมดาราสองคนร่างหลอมละลายไปต่อหน้าซูหมิงกลายเป็นเถ้าธุลี ถูกแสงตะวันสีดำแผดเผาทุกอย่างจนสิ้นไป
ทาสเต๋าห้าสิบเอ็ดที่เหลืออยู่ถอยออกมาราวกับเสียสติ ทั่วร่างเขาเกิดรอยปริแตกจำนวนมาก ทั้งยังมีควันดำลอยโชย ความรู้สึกถึงความตายอบอวลอยู่ในร่างกาย
เขาถอยมาอยู่ข้างเต้าหยวน แล้วดึงเต้าหยวนที่กำลังตัวสั่นหนีไกลออกไป
ร่างเงาชายร่างกำยำซ้อนทับกับซูหมิงกลายเป็นหมอกดำ ลอยไปผสานรวมกับดวงตะวันสีดำบนฟ้า หันมามองซูหมิงแวบหนึ่ง แล้วหัวเราะเสียงดังพลางตรงขึ้นฟ้า ไม่รู้ว่าใช้วิธีใดร่างเขาถึงค่อยๆ หายไป
“สุดท้ายคือข้า…” เสียงแหบแห้งดังกึกก้องอยู่ในร่างมายาของซูหมิง ปรากฏร่างเงาชายวัยกลางคนผมขาวคนหนึ่งขึ้นซ้อนทับร่าง เขายกมือขวาขึ้นชี้ไปทางเต้าหยวนกับทาสเต๋าห้าสิบเอ็ดที่อยู่ไกลๆ
หลังจากชี้ไป ทาสเต๋าห้าสิบเอ็ดก็ร้องโหยหวน มีแมงเม่ามุดออกมาจากร่างเขาจำนวนมากในฉับพลัน พริบตาเดียวร่างทาสเต๋าห้าสิบเอ็ดก็กลายเป็นแมงเม่านับไม่ถ้วน
แมงเม่าเหล่านั้นกระพือปีกอยู่กลางอากาศรวมกันเป็นก้อนกลมเหมือนดวงตะวัน ก่อนตรงเข้าไปหาเต้าหยวน
เต้าหยวนร่างสั่นไหว สีหน้าสิ้นหวัง ทว่าในความสิ้นหวังมีความคลุ้มคลั่งก่อนเสียสติอยู่ เขายกมือขวาชี้ขึ้นฟ้า
“ด้วยคำสั่งของข้าเต้าหยวน ขอใช้เสื้อคลุมดาราศักดิ์สิทธิ์เป็นตัวนำ…” เขายังกล่าวไม่จบ ดวงตะวันจากแมงเม่าก็พลันตรงเข้ามาใกล้ แต่ทันทีที่เข้ามาใกล้กลับมีระลอกคลื่นมรณะหยินลงมาจากบนฟ้าตกลงบนดวงตะวันแมงเม่า ทำให้แมงเม่าหยุดชะงักแล้วหายไป
ขณะเดียวกัน เสียงของเต้าหยวนไม่ถูกขัด จึงตะโกนออกไปจนจบ
“…ผู้สวมเสื้อคลุมบุตรของข้าทั้งหมด จงมาเยือนยังเผ่าหมาน!”
เมื่อสิ้นเสียง เสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดาราของเต้าหยวนเปล่งแสงดาราสว่างจ้า ผืนฟ้ากลายเป็นฟ้ากระจ่างดาว อีกทั้งฟ้ากระจ่างดาวยังหมุนโคจรกลายเป็นน้ำวนยักษ์ ก่อนมีเรือยาวบินออกมาจากในนั้นทีละลำ
“ไม่ใช่ว่าข้าไม่ทำตามสัญญา แต่มีคนไม่ยอมให้ข้าช่วยเจ้า อยากให้คนเหล่านี้มาเยือนเลยเปิดเส้นทางให้พวกเขา ขั้นพลังบุคคลผู้นี้…แกร่งกว่าข้ามาก…มันเป็นกลิ่นอายพลังโบราณ” ชายวัยกลางคนผมขาวบนตัวซูหมิงกลายเป็นแม่งเม่ามายาบินออกจากร่างซูหมิง แล้วค่อยๆ หายไปบนฟ้า
“คำสัญญาของข้ายังไม่เสร็จสิ้น แต่ภายภาคหน้าหากเจ้าออกไปได้ ตอนที่วิญญาณกลับสู่กายหยาบ ข้าจะลงมือช่วยเจ้าหนึ่งครั้ง…”