Skip to content

สู่วิถีอสุรา 79

ตอนที่ 79 ข้าจะกลับไป

“กลับมาแล้ว…” ท่านปู่ลืมตา ใบหน้าไร้เลือดฝาด ทว่ายังคงมองซูหมิงด้วยรอยยิ้มเมตตา

“ท่านปู่…นี่…นี่ท่านเป็นอะไร ท่านปู่ ท่าน…” เสียงดังสนั่นขึ้นในความคิดซูหมิง เห็นสภาพของท่านปู่แล้ว น้ำตารินไหล เขาหวาดกลัวมาก ไม่ทราบว่าควรจะทำอย่างไรดี ในใจตื่นตระหนก แม้แต่เสียงยังสั่นเครือ

“ท่านปู่…เหลยเฉิน ที่มันเกิดอะไรขึ้น!” ซูหมิงพลันแหงนหน้ามองเหลยเฉิน ยามนี้เขาไม่สนใจเรื่องปกปิดขั้นพลังหรือฐานะอีกต่อไป ในใจหลั่งทะลักความโกรธแค้นอย่างรุนแรง เขาอยากทราบว่าใครเป็นคนทำให้ท่านปู่เป็นเช่นนี้ แม้เขาจะแก้แค้นให้ไม่ได้ ทว่าเขาก็ต้องรู้!

เสียงของเขาไม่ดังมาก ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยแรงกดดันที่ไม่อาจกล่าวได้ ช่วงที่มองเหลยเฉิน น้ำตาเหลยเฉินพลันรินไหลเช่นเดียวกัน

“ข้าก็ไม่รู้…ท่านปู่เพิ่งกลับมา…”

“เอาละ พวกเจ้าฟังข้าให้ดี……” ท่านปู่สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนยันกายขึ้น สีหน้าจริงจัง กวาดสายตามองไปที่ทุกคน

“ข้าไป…เผ่าภูผาดำมา” ท่านปู่กล่าวเรียบๆ น้ำเสียงไม่ดังมากนัก ทว่าเมื่อกล่าวจบ กลับทำให้ทุกคนล้วนตกตะลึงเหมือนดั่งฟ้าผ่า

ผู้นำกองรักษาการณ์สีหน้าพลันเปลี่ยน ซานเหินข้างกายนัยน์ตาฉายประกายโดยผู้อื่นไม่อาจรับรู้ ส่วนเป่ยหลิงสูดลมหายใจเข้าลึก อูลาพลันมีสีหน้าขาวซีด

ซูหมิงก็เช่นเดียวกัน พวกเขาทราบดีถึงวิกฤตในชนเผ่า และจุดสำคัญคือเผ่าภูผาดำ แม้จะไม่ทราบเรื่องทั้งหมด ทว่าแรงกดดันในเผ่าตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา กลับทำให้พวกเขามองออกถึงเงื่อนงำ

“ตอนที่พวกเจ้าเข้าร่วมงานประลองในด่านที่สอง ข้าไปเผ่าภูผาดำมา…ข้าอยากจะรู้ว่าปี้ถูทะลวงอยู่ในขั้นพลังใดกันแน่!” ท่านปู่กล่าวอย่างสงบนิ่ง โดยรอบนอกจากเสียงของเขาแล้วเงียบสงัด แม้แต่เสียงลมพัดครืนๆ ยามนี้ยังมลายหาย

“เขา…เป็นขั้นชำระล้างจริงๆ…” ใบหน้าท่านปู่เผยความขมขื่น

สีหน้าผู้นำกองรักษาการณ์เคร่งขรึม ลังเลอยู่ครู่หนึ่งเหมือนอยากกล่าวอะไรบางอย่าง ทว่ากลับเห็นท่านปู่โคลงศีรษะเล็กน้อย ราวกับทราบดีว่าเขาจะกล่าวอะไร

“ข้าจำเป็นต้องไป หากไม่รู้ถึงขั้นพลังของเขาจริงๆ ข้าก็ไม่อยากให้คนในเผ่า…จากบ้านจากเมืองนับต่อแต่นี้ แล้วกลายเป็นบริวารของร่องลม…ใครกันจะยอมจากบ้านที่อาศัยมานับหลายร้อยปี…” ท่านปู่มีสีหน้าอ่อนลง

“เวลามีจำกัด ข้าได้ปรับลมหายใจเล็กน้อยแล้ว ตอนนี้ข้าจะพาพวกเจ้ากลับเผ่าทันที แม้ว่าปี้ถูจะเป็นขั้นชำระล้าง ทว่าก็ยังไม่เสถียรสมบูรณ์ แม้ข้าบาดเจ็บ แต่เขาก็ไม่ทางลงมืออย่างแน่นอน พวกเรา….ต้องอพยพ!”

สีหน้าท่านปู่ดูแน่วแน่ แววตาเด็ดเดี่ยว ยกมือขวาขึ้น น้ำจากหิมะในลานพลันแตกกระจายทันทีเหมือนกับระเบิดส่งเสียงดังสนั่น ในขณะเดียวกัน น้ำหิมะลอยสู่ฟ้ากระทบกับเกล็ดหิมะโปรยปราย เกิดเป็นเสียงดังสนั่นติดต่อกัน

ทันใดนั้น มีแสงผลึกจำนวนมากลอยอยู่บนท้องฟ้า ก่อนพลันรวมตัวขึ้นเป็นงูเหลือมทมิฬใหญ่ยักษ์ สีหน้าของมันดุร้าย ทะยานลงมาอยู่บนเรือนพักเผ่าเขาทมิฬ แรงกดดันมหาศาลพลันแผ่กระจาย ทำให้เหลยเฉินและอูลาตัวสั่นเทา แม้แต่เป่ยหลิงยังมีท่าทีแบกรับไม่ไหว

“เป่ยหลิง เหลยเฉิน อูลา…พวกเจ้าสามคนเลือกได้ว่าจะอยู่ที่นี่หรือจะกลับไปพร้อมปู่ หากกลับไปอาจจะเกิดอันตรายได้” ท่านปู่มองพวกเป่ยหลิง

“ท่านปู่ ข้ากลับ!” เป่ยหลิงตอบอย่างไม่ลังเล ก้าวขึ้นมา แววตาเด็ดเดี่ยว

“ท่านปู่ ข้าเหลยเฉินจะไม่ขออยู่ที่นี่!” เหลยเฉินกำหมัด ใบหน้าแฝงไว้ด้วยความโกรธแค้น เขาจะกลับไป เขาต้องปกป้องชนเผ่า

“ท่านปู่ อูลาก็จะไม่อยู่ที่นี่เหมือนกัน” อูลากัดฟัน มองท่านปู่อย่างแน่วแน่

ท่านปู่มองทั้งสามคน พยักหน้าก่อนสะบัดแขนเสื้อ พลันเกิดลมพายุคลั่งม้วนพวกเป่ยหลิงขึ้นไปบนงูเหลือมทมิฬ จากนั้นผู้นำกองรักษาการณ์และซานเหินจึงกระโดดตามขึ้นไป

ยามนี้บนลาน เหลือเพียงท่านปู่กับซูหมิงสองคน ท่านปู่มองซูหมิง ความเอ็นดูในแววตาเข้มข้นมากขึ้น ซูหมิงหัวใจเต้นแรง เขามีลางสังหรณ์ร้าย ไม่รอให้ท่านปู่ออกปาก ก็รีบกล่าวทันที “ท่านปู่ ข้าจะกลับไปด้วยเหมือนกัน พวกเรารีบไปกันเถอะ”

“เจ้ากลับไปไม่ได้” ท่านปู่หลับตา ก่อนพลันลืมตาขึ้น กล่าวอย่างเด็ดขาด

ซูหมิงตกตะลึง แหงนหน้ามองท่านปู่

“เจ้ากลับไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ ระหว่างอพยพบางทีอาจเกิดอันตราย เจ้าอยู่ที่นี่เถอะ รอพวกข้ากลับมา” ท่านปู่กล่าวจบ ร่างสั่นไหวกลายเป็นสายรุ้งตรงขึ้นไปหางูเหลือมทมิฬ เหลือเพียงซูหมิงคนเดียวในลาน

“เป่ยหลิงกลับไปได้ เหลยเฉินไปได้ อูลาก็ไปได้ ข้าเป็นคนในเผ่าเหมือนกัน ข้าจะกลับไปด้วย” ซูหมิงรู้สึกถึงลางร้ายอย่างชัดเจน เขาพอจะเดาออกว่าชนเผ่าจะต้องเกิดหายนะใหญ่หลวงอย่างแน่นอน ทว่าท่านปู่กลับไม่ให้ตนไปเผชิญอันตราย ฉะนั้นจึงไม่ให้ตามไปด้วย เขาขยับตัวอย่างร้อนรน กำลังจะกระโดดขึ้นไป

“ไม่ได้!” ท่านปู่หลับตา ใช้มือขวากดลง พลันมีแรงต้านกดทับบนตัวซูหมิง ทำให้ร่างที่กำลังจะกระโดดขึ้นมา ต้องแข็งค้างอยู่บนพื้น

“รออยู่ที่นี่! ห้ามออกไปข้างนอกเด็ดขาด!” ท่านปู่นั่งขัดสมาธิบนตัวงูเหลือมทมิฬ งูเหลือมแหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้า ก่อนค่อยๆ ลอยขึ้นสูง พวกเป่ยหลิงที่อยู่บนตัวของมันล้วนเงียบขรึม มองซูหมิงที่กำลังดิ้นรนบนพื้นด้วยแววตาซับซ้อน

“ท่านปู่ ข้าไม่อยู่ที่นี่!” ซูหมิงเกิดความกังวลและร้อนใจยิ่งกว่าเก่า ยิ่งท่านปู่ทำเช่นนี้ ก็ยิ่งอธิบายได้ว่าชนเผ่ากำลังเผชิญหน้ากับหายนะอย่างร้ายแรงจริงๆ ในตัวเขาอัดแน่นไปด้วยเส้นเลือด ทว่าผู้อื่นกลับไม่อาจสัมผัสได้ ในร่างกายของเขามีแรงต้านมหาศาลก่อตัวขึ้น ก่อนพลันแผ่กระจายสู่ภายนอกราวกับพยามทำลายผนึกของท่านปู่ ทว่ามันแข็งแกร่งเกินไป ด้วยพละกำลังของซูหมิงในตอนนี้ ไม่อาจทำลายได้

บนงูเหลือมทมิฬ ผู้นำกองรักษาการณ์เหมือนอยากจะกล่าวอะไรบางอย่าง ทว่ามองท่านปู่แวบหนึ่งก่อนเงียบขรึมทันที ส่วนซานเหินข้างกายหลับตาไม่มองสิ่งใด

งูเหลือมทมิฬลอยสู่ฟ้า ท่านปู่ลืมตาขึ้นมองซูหมิงด้วยแววตาเศร้าโศก ที่ไม่ให้ซูหมิงไปนั่นก็เพื่อปกป้องเขา เพื่อไม่ให้ซูหมิงบาดเจ็บแม้เพียงเล็กน้อย ถึงอย่างไรการอพยพในครั้งนี้…ต้องมีการสูญเสียอย่างแน่นอน ต่อให้เป็นเขาก็ไม่อาจปกป้องได้

“ไม่ได้!” ท่านปู่โบกมือขวาอีกครั้ง ลมพายุหิมะเคลื่อนตัวส่งเสียงหวีดร้อง ตรงเข้าไปหาซูหมิงที่กำลังพยามต่อสู้บุกทะลวงแรงต้านบนพื้น มันพลันโอบล้อมตัวเขา ก่อนม้วนตัวพากลับเข้าไปในห้อง ประตูปิดลงดังปัง ทันใดนั้น ลมพายุแผ่กระจายโดยรอบ ปกคลุมห้องเอาไว้จนกลายเป็นที่คุมขังใหญ่ยักษ์ โดยเฉพาะประตูห้อง มีสัญลักษณ์ประหลาดที่ก่อตัวขึ้นจากหิมะ ภาพนั้นเป็นลักษณะของเทวรูปหมานแห่งเผ่าเขาทมิฬ!

เสียงร้องของซูหมิงสิ้นสุดลงเมื่อผนึกสมบูรณ์

หิมะยังคงโปรยปราย งูเหลือมทมิฬทะยานสู่ท้องนภา ไม่นานก็หายลับไป ห้อเหยียดไปทางเผ่าเขาทมิฬด้วยความเร็วสูงสุด

“ซูหมิง…สิ่งสุดท้ายที่ปู่จะทำให้เจ้าได้ก็คือสิ่งนี้…จากนี้ไป เจ้าจะต้องดูแลตัวเองให้ดี…” ท่านปู่โม่ซังนั่งอยู่บนงูเหลือมทมิฬ สีหน้าเศร้าสลด ทว่าในขณะเดียวกันกลับแฝงไว้ด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อย่างสุดชีวิต!

“ปี้ถู!”

งูเหลือมทมิฬบินไกลออกไป หิมะบนท้องฟ้ายังคงโปรยปรายตกบนแผ่นดินกว้างใหญ่ ตกในเมืองหินโคลน ตกบนบ้านเรือนต่างๆ ตกบนเรือนพักเผ่าเขาทมิฬ

โดยรอบเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมพัดครืนๆ ดังก้อง เหมือนกับว่านอกจากเสียงนี้แล้ว ไม่มีสิ่งอื่นใด…ทว่าในเรือนพักเผ่าเขาทมิฬ ภายในห้องที่ถูกผนึก กลับมีเสียงร้องตะโกนดังอยู่ภายใน ไม่อาจเล็ดลอดออกมาได้

“ข้าจะกลับเผ่า ข้าจะปกป้องทุกคน! ท่านปู่ ข้าจะออกไป!” ภายในห้อง ซูหมิงมีเส้นผมยุ่งเหยิง เขาโจมตีเข้าใส่ประตูห้องไม่หยุดด้วยพละกำลังและความเร็วทั้งหมด ทุกการโจมตีล้วนทำให้ห้องสั่นสะเทือน ทว่าลวดลายผนึกกลับไม่สั่นไหวแม้แต่น้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!