Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 119

№ 119 ขายหน้าเป็นที่สุด!

กวนสีหลิ่นสู้หน้ากับสายตาเขาอย่างไม่ยำเกรง “ใจร้ายกับข้าหรือไม่ หรือในใจพวกท่านยังไม่รู้แจ้งอีกเล่า? ในตระกูลกวนนี้ ข้าไร้พ่อขาดแม่ พวกท่านไม่รู้จริงๆ รึ ว่าได้ใจร้ายกับข้ารึเปล่า?”

ฟังเขาถามตอกกลับทีละประโยค ริมฝีปากผู้เฒ่ากวนก็สั่นเครือน้อยๆ กลับพูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว

แม้จะเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ทว่าที่จริง ปกติพวกเขาก็ไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวเขาสักเท่าไหร่ พอได้ยินว่าเขาตาย ก็จัดการงานศพให้โดยไม่เศร้าเสียใจแม้แต่น้อย ยกเลิกการหมั้นหมาย ให้สีหร่วนแต่งงานกับคู่หมั้นเขา เมื่อรู้ว่าเขายังไม่ตาย ก็หวังให้เขาอยู่ด้านนอกไม่ต้องกลับมา พอกลับถึงบ้านตระกูลกวน ยังปรี่เข้าไปห้ามปราม ไม่อยากให้เขาเข้าร่วมการประลองอีก…

“ตระกูลกวนชุบเลี้ยงเจ้าเติบโตถึงเพียงนี้ ยังมีหน้ามาแข็งข้อกับท่านปู่ ซ้ำยังเอ่ยถอนตัวจากตระกูลอะไรนั่นอีก ข้าว่าจิตสำนึกเจ้าคงโยนให้สุนัขกินไปเสียแล้วกระมัง!” ผู้นำตระกูลกวนแผดเสียงกร้าว ความมีหลักการเยือกเย็นบนใบหน้าแบกรับไว้ซึ่งท่าทีของผู้นำวงศ์ตระกูล

“ฮะๆๆๆ!”

กวนสีหลิ่นเงยหน้าหัวเราะลั่น พลันเมื่อเสียงหัวเราะหยุดลง ก็ดึงผ้าคาดเอวเปิดเสื้อคลุมออก เผยให้เห็นบาดแผลฉกรรจ์ตรงช่วงท้อง

“รู้หรือไม่ว่าแผลเป็นนี้ข้าได้มาอย่างไร?” เขาเดินลงจากบนเวที มายังเบื้องหน้าผู้นำตระกูลกวน เข้าใกล้ทีละก้าวๆ พลางซักไซ้ไถ่ถาม “รู้หรือไม่ว่าแผลเป็นนี้ข้าได้มาอย่างไร? ข้าจะบอกท่าน ว่าเป็นลูกชายท่าน ญาติผู้พี่ของข้า ใช้มีดแทงเข้ามาทิ้งรอยไว้จากด้านหลัง!”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ผู้คนต่างสูดหายใจด้วยสายตาเหลือเชื่อ นิ่งเงียบกันถ้วนหน้า ทั้งหมดล้วนกลั้นหายใจขึ้นมา เงียบงันเสียจนได้ยินเสียงเข็มตกลงพื้น

“เจ้าพูดเหลวไหล!”

ผู้นำตระกูลกวนร้องตะโกนลั่น โกรธเคืองเสียจนร่างกายสั่นเทา ทว่าในใจกลับมีเสียงหนึ่งกำลังบอก ว่านี่เป็นเรื่องจริง ไม่เช่นนั้น เขาไม่กล้าพูดออกมาต่อหน้าคนตั้งมากมายเช่นนี้

ผู้เฒ่ากวนดวงตาหม่นหมอง แทบจะเป็นลมล้มไปเพราะเรื่องนี้ พี่น้องเข่นฆ่ากัน อัปยศ น่าอัปยศยิ่งนัก!

“ข้าพูดเหลวไหลรึ?”

กวนสีหลิ่นผูกผ้าคาดเอว เอ่ยว่า “เมื่อครู่เขาก็มีดสั้นมาจะฆ่าข้าจากด้านหลังไม่ใช่รึ? หรือท่านจะทำเหมือนทุกคนตาบอดกันหมด? ตระกูลกวนเช่นนี้ ท่านคิดว่าข้ายังอยู่ต่อได้อีกหรือ? หากอยู่ต่อ จะหมายหัวให้ถูกฆ่าวันไหนก็ยังไม่รู้เลย”

เขามองไปที่ผู้เฒ่ากวน “วันนี้ที่ข้าขอถอนตัวจากตระกูลก็แค่มาบอกกล่าวไว้ ไม่ใช่จะให้พวกท่านอนุญาต กฎระเบียบของตระกูลกวนอะไรนั่น ตั้งแต่เวลานี้ไปจะใช้กับข้าไม่ได้แล้ว! เชิญพวกท่านอยู่สั่งสอนเด็กๆ ในตระกูลกันให้ดีๆ เถิด!”

เดินก้าวยาวไปหาเฟิ่งจิ่ว กล่าวว่า “น้องหญิง พวกเราไปกันเถอะ!”

ผู้คนมองหน้ากันไปมา ต่างนึกไม่ถึงโดยสิ้นเชิง ว่างานประลองคัดเลือกตระกูลกวนจะกลายเป็นเช่นนี้ ช่างเป็นการชมละครปาหี่น้ำดีเสียจริงเชียว!

ตอนแรก กวนสีหลิ่นที่อายุยังน้อยนักสามารถสำแดงวิชาย้ายร่างสลับเงาได้ จากนั้นคุณชายใหญ่ตระกูลกวนก็ลอบโจมตีจากด้านหลัง ตามมาด้วยการขอถอนตัวออกจากตระกูล สุดท้ายยังเปิดโปงเบื้องหลังข่าวลือการตายในป่าเก้าหมอบอีก

แต่ละเรื่องแต่ละราวนี้ พวกเขาถูกกระเทือนเสียจนตื่นตระหนกตกใจกันอย่างมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนพวกนั้นของตระกูลกวนหรอก

เวลานี้ เห็นสามคนนั้นสาวก้าวเดินจากไป ทุกคนในตระกูลกวนไม่มีใครปริปากรั้งไว้อีก เหมือนจะยังไม่ได้สติกลับมา พวกเขาเองก็ออกหน้าคำนับอำลาจากไปตามกันติดๆ

เดิมนึกว่าวงศ์ตระกูลจะมีผู้มีพรสวรรค์ แต่ใครจะรู้ว่ากลับขอถอนตัวออกจากตระกูล ซ้ำยังพัวพันถึงเรื่องอื้อฉาวที่พี่น้องฆ่าฟันกันเอง นึกถึงตรงนี้ ผู้เฒ่ากวนก็มีเลือดลมปั่นป่วนอยู่กลางอก ไม่อาจหายใจขึ้นมาได้ ทั้งร่างจึงเป็นลมล้มไป

“ท่านผู้เฒ่า! ท่านผู้เฒ่าเป็นลมไปแล้ว! เร็ว รีบไปตามท่านหมอ…”

ฟังเสียงอึกทึกครึกโครมที่ลอยมาด้านหลัง เหล่าผู้นำตระกูลที่เดินออกไปต่างลอบส่ายหน้ากับตัวเอง ‘วันนี้นับว่าตระกูลกวนสูญสิ้นทั้งชื่อเสียงหน้าตาใดๆ ไปเสียหมดแล้ว…’

……………………………

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!