№ 518 ข้าชื่อเฟิ่งจิ่ว
ผู้ประเมินสามคนด้านในชำเลืองมองคนที่เข้ามา เห็นเป็นเด็กหนุ่มชุดแดงที่อายุยังน้อยนัก พอเข้ามาก็พินิจมองรอบๆ ด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น ดูจากท่าทางก็รู้ว่าเข้ามาสมาคมนักปรุงยาเป็นครั้งแรก
เห็นเช่นนี้ หนึ่งคนในนั้นกระแอมเบาๆ บอกว่า “เข้ามาลงบันทึกเสียสิ เจ้าชื่ออะไร? อายุเท่าไรแล้ว?”
การสอบประเมินต้องลงแค่ชื่อกับอายุพอ ชื่อเป็นนามแทนตัว แต่อายุไม่เป็นเช่นนั้น พวกเขาต้องรู้อายุผู้เข้าสอบทุกคนรวมถึงระดับนักปรุงยาที่จะสอบ เพื่อสะดวกให้นักปรุงยาจัดทำสถิติ
ยามนี้เฟิ่งจิ่วหยุดสายตาลงบนร่างทั้งสามคน เห็นเป็นชายวัยกลางคนสองคนกับชายชราอีกหนึ่ง จึงเดินเข้าไปคารวะ ใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ไร้พิษสง
“คารวะอาจารย์ทั้งสาม ข้ามีนามว่าเฟิ่งจิ่ว อายุสิบหกขอรับ”
สามคนเห็นหนุ่มน้อยรูปโฉมงดงามตรงหน้า น้ำเสียงสดใสมีชีวิตชีวา บนใบหน้ามีความโง่เขลาไม่เข้าใจโลก แต่กลับมีมารยาทครบถ้วนรู้จักควบคุมตัวเอง แต่ละคนต่างลอบพยักหน้า คิดว่าเด็กคนนี้คงมาจากตระกูลสูงศักดิ์
ชายวัยกลางคนที่เขียนบันทึกจดชื่อกับอายุลงไปแล้ว ก็ชี้ประตูหินด้านหลัง บอกว่า “ด้านนั้นเป็นห้องเก็บยาทิพย์ มียาทิพย์หลากหลายชนิด เจ้าต้องแยกแยะยาทิพย์และคัดเลือกสมุนไพรด้วยตนเอง เลือกสมุนไพรที่ต้องการให้เรียบร้อย แล้วไปปรุงกลั่นยาตรงลานกลั่นยาทางนั้น”
เฟิ่งจิ่วมองยังทิศทางที่เขาชี้ พยักหน้าตอบ “ขอรับ”
ต่อมาจึงเดินไปทางนั้นและผลักเปิดประตูหิน ด้านในเป็นอีกโลกหนึ่ง แม้บอกว่าเป็นห้องเก็บยาทิพย์ กลับยังต้องออกไปอีกเกือบสิบเมตร เมื่อมาถึงห้องเก็บยาทิพย์ แทนที่จะบอกว่าเป็นห้อง สู้เรียกว่าหอโอสถสามชั้นยังดีกว่า
หน้าหอมีโต๊ะสี่เหลี่ยมตัวเล็ก ตรงนั้นมีชายชราคนหนึ่งนั่งเอามือเท้าคางสัปหงก อาจเพราะได้ยินเสียงฝีเท้าถึงได้ลืมตาขึ้นมา
“หยิบใบรับรองการชำระเงินมาลงบันทึกด้วย” ชายชราเหลือบมองเฟิ่งจิ่ว นิ้วมือเคาะๆ ลงบนหน้าโต๊ะ
ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วก็หยิบใบรับรองการชำระเงินก่อนหน้านี้ยื่นให้ แอบคิดในใจว่าที่นี่มีเรื่องยุ่งยากไม่น้อยเลย แต่ละด่านเคร่งครัดนัก
ชายชราอ่านวันที่ชำระเงินสักพัก เมื่อสายตามองผ่านตรงราคาที่จ่ายโดยบังเอิญ ดวงตาพลันเบิกกว้าง ขยี้ตาด้วยนึกว่าตนเองมองผิดไป แต่มองอีกครั้งก็ยังคงเป็นตัวเลขนั้น จึงอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าอย่างตกตะลึง กวาดมองเด็กหนุ่มชุดแดงตรงหน้าขึ้นลงด้วยความแปลกใจ
“เข้าไปเถอะ!”
เขายื่นใบรับรองคืนให้เฟิ่งจิ่ว แววตาประหลาดจับจ้องเด็กหนุ่มที่เข้าไปด้านในอยู่ตลอด ก่อนกระซิบเสียงเบา “นึกไม่ถึงว่าราคาที่จ่ายจะเป็นระดับสูงสุด หนุ่มน้อยคนนี้สอบเหรียญตราระดับไหนกัน?”
เมื่อเข้ามาแล้ว เฟิ่งจิ่วรู้สึกว่ามุมมืดในหอสามชั้นนี้ปกคลุมไปด้วยจิตของผู้แข็งแกร่ง คล้ายมีดวงตาคู่หนึ่งกำลังสังเกตทุกอย่างด้านในนี้ เธอไม่สนใจ หยิบตะกร้ามาเลือกพวกยาทิพย์ที่ต้องใช้ ในเวลาไม่ถึงครึ่งก้านธูปก็ถือยาทิพย์สองตะกร้าเดินออกมา
ครั้นเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นถือยาทิพย์สองตะกร้าเดินมา ชายชราที่นั่งข้างโต๊ะจ้องมองอย่างตาค้างไปบ้าง ยาทิพย์มากมายเพียงนั้น หนำซ้ำยังไม่ใช่ยาทิพย์ทั่วไป ต่อให้จ่ายเงินอีกรอบก็ชดเชยกลับมาไม่ได้หรอก!
การชำระเงินของสมาคมแบ่งออกเป็นสามระดับ ปกติคนที่มาสอบประเมินเหรียญตราล้วนเลือกอะไรที่ถนัด แม้เป็นยาทิพย์สำหรับกลั่นยาทิพย์ระดับบรรพชนก็ไม่มากเกินกว่าห้าสิบต้น แต่เมื่อครู่เด็กหนุ่มคนนั้นเข้าไปใช้เวลาไม่ถึงครึ่งก้านธูปก็ถือออกมาสองตะกร้าแล้ว
ตอนนี้เขาเพียงอยากรู้ว่า หากอาจารย์สองสามท่านด้านหน้าเห็นหนุ่มน้อยถือยาทิพย์ออกไปสองตะกร้าจะแสดงอาการเช่นไร…