ตอนที่ 193 ขั้นชำระล้าง
“อะไรคือภัยพิบัติฟ้าผ่า!” ซูหมิงพึมพำ คำนี้เคยถูกกล่าวถึงในวิธีการหลอมโอสถชิงวิญญาณซึ่งอยู่ในหัวเขา
ในความทรงจำของเขา ภัยพิบัติฟ้าผ่าจะเกิดได้เมื่อปรากฏโอสถชิงวิญญาณ เป็นสิ่งที่ฟ้าดินไม่ยอมรับ ใช้มนุษย์มาเป็นหม้อหลอมโอสถ ทั้งยังใช้พลังความตายในการผสานรวม ฉะนั้นจึงทำให้ภัยพิบัติสายฟ้ามาเยือน มันจะบดขยี้เม็ดโอสถ ทว่าเม็ดโอสถอยู่ในศพมนุษย์ สายฟ้าจึงอ่อนแรงลง เมื่อศพแหลกสลายไปในที่สุด เม็ดโอสถจึงจะเสร็จสมบูรณ์!
เรื่องเหล่านี้ซูหมิงไม่เคยขบคิดอย่างละเอียด ในความเข้าใจเขานี่มิใช่เรื่องที่จะคาดเดาได้ ทว่ายามนี้หัวใจเขาเต้นแรง ความคิดที่น่าตะลึงกลับผุดขึ้นในสมองหลังจากนึกได้
‘อะไรคือภัยพิบัติฟ้าผ่า? ตัดคำว่าภัยพิบัติทิ้งไปก็เหลือแค่ฟ้าผ่า!’ ซูหมิงขบคิดเป็นร้อยรอบ เขาคุ้นหูกับคำว่าฟ้าผ่า ในช่วงที่เพิ่งมาถึงแดนอรุณใต้ก็เคยเห็นสายฟ้าผ่าต้นไม้
ตอนนั้นเขายังเคยวิเคราะห์ไว้ คิดว่าต้นไม้มีความชื้นมากไปเลยเป็นตัวนำไฟฟ้า ทำให้ต้นไม้ถูกแผดเผาในชั่วพริบตา ท้ายที่สุดเหลือจึงเพียงวัตถุดิบในการหลอมสมุนไพรที่เขาต้องการ
ทว่ายามนี้ เขากลับรู้สึกว่าความคิดในตอนนั้นเหมือนจะผิดพลาดไปเล็กน้อย
‘ต้นไม้ในป่าฝนมีเยอะนัก เหตุใดถึงมีแค่ต้นไม้ใหญ่พวกนั้นที่ถูกฟ้าผ่า…บางทีอาจเป็นเพราะมันมีความชื้นที่มากกว่า แต่ก็อาจมีสาเหตุอื่นอยู่
ฟ้าผ่าต้นไม้ เช่นนั้นเหตุใดภัยพิบัติฟ้าผ่าในครั้งนี้ถึงผ่าลงใส่เหอเฟิง ส่วนคำอธิบายในความทรงจำพวกนั้นลึกลับเกินไป เหมือนอธิบายไม่ถูกต้อง’ ซูหมิงไม่เข้าใจ ไม่อาจอธิบายปรากฏการณ์ในครั้งนี้ได้
กระทั่งในความรู้สึกเขา เรื่องของภัยพิบัติฟ้าผ่าเหมือนควรจะเป็นเช่นนี้แต่แรกอยู่แล้ว ส่วนเพราะอะไรและสาเหตุต้นตอคืออะไร เขาคิดไม่ออก
ทว่ายามนี้หากอยากทำความคิดบ้าบิ่นของเขาให้สำเร็จ ก็จำเป็นต้องไตร่ตรองเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน!
เพราะเหตุใดจึงเกิดฟ้าผ่า และฟ้าผ่าคืออะไร!
‘หากข้าไม่ทราบถึงสาเหตุของมัน เช่นนั้นก็ไม่มีทางนำสายฟ้าที่เหลือในร่างกายมาเป็น…วัตถุประจำตัว!’ นี่คือความคิดบ้าคลั่งของซูหมิงที่ทำให้เขาเองก็รู้สึกเหลือเชื่อ แต่กลับหัวใจเต้นแรง
เพียงแต่หลังจากขบคิดในเวลาอันสั้นแล้ว เขากลับต้องล้มเลิกความคิดนี้ เขาคิดไม่ออกว่าฟ้าผ่าคืออะไร สาเหตุการเกิดฟ้าผ่าที่แท้จริงคืออะไร เขาจึงไม่มีความมั่นใจมากพอจะกักสายฟ้าเอาไว้ในร่างกาย
มีหลากหลายความคิด ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเสียงถอนหายใจ ซูหมิงรู้ดีว่าเวลาของเขามีจำกัด ตอนนี้เทวรูปชำระล้างกำลังยืนขึ้นอย่างช้าๆ สายฟ้าบนนภากำลังรวมตัวอย่างรวดเร็วเพื่อผ่าลง กระดูกหมานในร่างกายไม่ว่าจะละลายอย่างไรก็ไม่อาจเพิ่มเส้นเลือดได้อีก อีกทั้งตัวเขายังต้องกัดฟันยืนหยัดถึงจะทำสำเร็จ
เหมือนกับแก้วหินใบหนึ่งที่มีน้ำเต็ม ต่อให้เทเพิ่มก็ไม่สามารถเพิ่มปริมาณได้อีก มีแต่ไหลล้นออกมาก็เท่านั้น หากอยากเพิ่มเส้นเลือดอีกนิด มีวิธีเดียวนั่นคือขยายแก้วหิน!
ความจริงแล้วก่อนหน้าที่ซูหมิงจะเพิ่มเส้นเลือดเป็นเก้าร้อยเก้าสิบเส้น ก็เคยเกิดเหตุการณ์น้ำเต็มแก้วมาก่อน แต่ที่ยังเพิ่มเส้นเลือดมาได้อีกสี่เส้น นั่นก็เป็นเพราะการหลอมรวมของกลิ่นอายพลังชำระล้างปรับร่างกายของเขาโดยไม่รู้ตัว ทำให้เส้นเลือดของเขาไม่เพิ่มและไม่ลด เหมือนกับขยายแก้วหินเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเป็นนักรบขั้นชำระล้าง
ทว่าการปรากฏของสายฟ้าได้หยุดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจย้อนคืนนี้ มอบโอกาสที่พันปียังหายากกับซูหมิง เปลี่ยนจากความเป็นไปไม่ได้มาเป็นไปได้ เส้นเลือดเขาจึงเพิ่มมาอีกสี่เส้น
เพียงแต่ตอนนี้กลับถึงขีดจำกัดอีกครั้ง
ไม่มีวิธีใดจะขยายแก้วหินเพื่อให้ใส่น้ำได้มากขึ้นหรือเพิ่มเส้นเลือดของเขาอีกแล้ว ในจุดนี้ซูหมิงทราบดี กระทั่งเพลิงโลหิตแผดเผายังทำมิได้
‘ข้าไม่รู้ว่าคนในยุคบรรพบุรุษหมานเพิ่มเส้นเลือดถึงหนึ่งพันเส้นอย่างไร บางทีอาจมีผู้มีพรสวรรค์น่าตกตะลึงจริงๆ ร่างกายสามารถรับเส้นเลือดได้หนึ่งพันเส้น แต่ข้าไม่ใช่…
ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาทำอย่างไร ทว่าหากข้าอยากจะเพิ่มเส้นเลือดอีก…ก็มีแค่วิธีเดียว!’ นัยน์ตาซูหมิงเป็นประกายแวววาว ยืนขึ้นจากท่านั่งขัดสมาธิ กระทืบเท้าลงพื้นก่อนกระโดดลอยกลางอากาศ แล้วพลันกางแขนทั้งสองข้าง
‘ร่างกายเต็มแล้วยากจะเพิ่มได้อีก วิธีที่ข้าคิดได้คือต้องระเบิดตัวเองเหมือนกับแก้วแตก ในตอนนั้นจะรับน้ำได้มากขึ้นเล็กน้อย! แม้อาจต้องแหลกสลาย ทว่าหากทำในช่วงที่จะข้ามผ่านชำระล้าง ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!’ นัยน์ตาซูหมิงฉายแววบ้าบิ่นและเยือกเย็น
บ้าบิ่นคือความคิดนี้ เยือกเย็นคือการทำไปทีละก้าว!
ทั้งตัวซูหมิงลอยอยู่กลางอากาศ ลอยได้ไม่นานก็เริ่มตกลงพื้น เวลานี้แขนทั้งสองข้างกางออก พลันมีเสียงดังสนั่นมาจากในร่างกายทั้งตัว ท่ามกลางเสียงดังลั่น เส้นเลือดเก้าร้อยเก้าสิบสี่เส้นแผ่ขยายออกทันใด ราวพังทลายและถูกแผดเผาก็มิปาน
‘การฉีกร่างกายทำให้ไม่มีแก้วอีก ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะเพิ่มเส้นเลือดอีกไม่ได้!’ ซูหมิงร้องลั่นในใจ หลังจากเสียงระเบิดในกาย มีโลหิตไหลมาจากมุมปาก หางตา หูทั้งสองข้าง และจมูกของเขา
ขณะเดียวกันเสียงสนั่นในร่างกายดังถึงขีดสุด เส้นเลือดพลันระเบิด หลังจากการระเบิด สิ่งแรกที่แบกรับคือร่างกายของเขา เปรียบได้ว่าเหมือนแก้วแตก!
รอยร้าวเล็กละเอียดปรากฏบนตัวซูหมิงดุจจะแยกร่างของเขาออกเป็นส่วนๆ หากขยายออกก็จะแหลกละเอียดทันที!
พร้อมกันนั้นมีแสงสีแดงขยับวูบวาบจากในรอยร้าวเหล่านั้น และลุกลามมากขึ้น
ความเจ็บปวดสุดจะบรรยายลามไปทุกจุดของร่างกาย นั่นคือความเจ็บปวดจากการระเบิดตัวเอง เป็นสิ่งที่คนธรรมดาไม่มีทางทนรับไหว ซูหมิงเองก็เช่นกัน ใบหน้าเขาบิดเบี้ยว ทว่าขณะร่างกายกำลังปริแตกกลับปรากฏเส้นเลือดเพิ่มมาอีกหนึ่งเส้น!
เก้าร้อยเก้าสิบห้าเส้น!
ตรงขาขวาของซูหมิง ในตำแหน่งที่ผู้อื่นมองไม่เห็น พลันปรากฏเส้นเลือดเส้นที่เก้าร้อยเก้าสิบห้า!
เส้นเลือดหนึ่งเส้นนี้ยิ่งทำให้ร่างกายซูหมิงแหลกสลายเร็วขึ้น รอยแตกร้าวบนตัวเขามากขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกถึงความตายอัดแน่นไปทั้งตัวเขา
แต่มุมปากใต้เสื้อคลุมดำกลับเผยรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นเหี้ยมโหดยิ่งนัก เขาไม่ได้เหี้ยมโหดกับคนอื่น แต่เหี้ยมโหดกับตัวเอง เขายังคงจำคำพูดของท่านปู่ได้เสมอ
หากอยากได้ก็ต้องรู้จักการจ่าย
ยิ่งได้มากเท่าไรก็ยิ่งจ่ายแพงเท่านั้น สิ่งเหล่านี้ต่างกัน คนอื่นสุดท้ายก็คือคนอื่น มีแค่ตัวเองเท่านั้นที่จะคิดได้ว่ามันคุ้มค่าหรือไม่
‘ข้ามาถึงเส้นเลือดเก้าร้อยเก้าสิบห้าเส้นแล้ว หากจะหยุดแค่นี้ ข้า…ไม่ยอม!’
ซูหมิงที่ลอยอยู่กลางอากาศเริ่มตกลงสู่พื้น ทว่าระหว่างตกลง ร่างกายของเขากำลังแหลกสลายอย่างรวดเร็ว
เสียงระเบิดดังก้องกังวาน บนขาซ้ายของเขาพลันปรากฏเส้นเลือดเพิ่มมาอีกหนึ่งเส้น
เก้าร้อยเก้าสิบหก!
การเพิ่มของเส้นเลือดทำให้ร่างกายของเขาทนรับไม่ไหวในที่สุด หมอกโลหิตขับมาจากในร่างกาย สติเลือนราง ความรู้สึกถึงความตายปกคลุมทั่วทั้งตัว
ภาพเหตุการณ์เหล่านี้ประจักษ์ในสายตาของทุกคนโดยรอบ ก่อเป็นความเคารพยำเกรงและตื่นตะลึงอย่างยิ่ง
ยามนี้แทบทุกคนที่ได้สติกลับมาล้วนมองออกว่าซูหมิงกำลังทำอะไร จากการกระทำก็สัมผัสได้ถึงความปรารถนาในการเพิ่มเส้นเลือดและความบ้าบิ่น
ในช่วงที่ซูหมิงตกลงสู่พื้น เขามองเทวรูปชำระล้างเกราะดำซึ่งยืนอยู่กลางอากาศ เหมือนกับคนยักษ์ยืนตระหง่านสูงใหญ่ เสื้อเกราะทั้งตัวเป็นสีดำทึบเผยกลิ่นอายชั่วร้ายมหาศาล
เขามองซูหมิงอย่างเย็นชา ก่อนพลันยกมือขวาชี้มาทางเขา
“เจ้า…ครั้งสุดท้าย…ชำระล้าง!”
คำพูดของเขาดังสนั่น แม้แต่เมฆครามบนท้องฟ้ายังหยุดชะงักไปชั่วครู่ ซูหมิงแหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้า
“เส้นเลือด!”
ร่างกายเขาพลันระเบิดออกเหมือนแก้วหินแหลกละเอียด สิ่งที่ระเบิดยังมีเสื้อคลุมดำของเขา แต่หมอกโลหิตอบอวลอยู่รอบตัว ปกคลุมร่างกายแหลกสลายและใบหน้าของเขาไว้ ทำให้ผู้อื่นมองไม่เห็น
วินาทีที่ร่างกายแหลกสลาย เส้นเลือดของซูหมิงเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งและน่าตกใจ ราวกับไม่มีขีดจำกัด!
เก้าร้อยเก้าสิบเจ็ด!
เก้าร้อยเก้าสิบแปด!
เก้าร้อยเก้าสิบเก้า!!
เส้นเลือดเก้าร้อยเก้าสิบเก้าเส้นอัดแน่นอยู่แทบทุกส่วนของร่างกายที่กำลังแหลกสลาย เหมือนไม่มีที่จะให้เพิ่มอีกจนถึงหนึ่งพันเส้นเลือด!
มีเพียง…รอยแผลเป็นจากเศษเทวรูปเขาทมิฬใต้ดวงตาทั้งสองข้างบนใบหน้าซึ่งถูกหมอกปกคลุมเท่านั้น มันเป็นรอยแผลเป็นธรรมดา ทว่าสำหรับซูหมิง มันเป็นร่องรอยเดียวที่ภูเขาทมิฬทิ้งเอาไว้บนตัวเขา
เส้นเลือดเส้นที่หนึ่งพันกำลังปรากฏ รอยแผลเป็นบนใบหน้าซูหมิงถูกเส้นเลือดเข้ามาแทนที่ ยามรอยแผลเป็นภูเขาทมิฬกำลังจะถูกลบ นัยน์ตาซูหมิงฉายแววต่อสู้ดิ้นรน
มันคือการเลือกระหว่างเส้นเลือดหนึ่งพันเส้นที่หายากยิ่งในยุคบรรพบุรุษหมาน แต่ต้องลบรอยแผลเป็นที่ภูเขาทมิฬฝากเอาไว้บนตัวเขา หรือจะเลือกรอยแผลเป็นแล้วละทิ้งเส้นเลือดหนึ่งพันเส้นไป นี่คือการเลือกอย่างหนึ่ง
‘หากเจ้าอยากได้ ก็ต้องเรียนรู้การจ่าย…มีแค่ตัวเจ้าที่จะรู้ว่ามันคุ้มค่าหรือไม่…’ คำพูดของท่านปู่ดังกังวานในความคิด เขาเหมือนเห็นภาพท่านปู่ เห็นภาพภูเขาทมิฬ เห็นภาพเทวรูปหมานเขาทมิฬแตกกระจาย
ท้ายที่สุดตรงหน้าซูหมิง เขาเห็นกาลเวลาในมิติจากพลังของหานคง เห็นตัวเองถูกตรึงด้วยโซ่เหล็ก ตัวเขาในตอนนั้นไม่มีรอยแผลเป็น ทว่าเมื่อกล่าวจบประโยคสุดท้าย กลับปรากฏรอยแผลเป็นขึ้นบนใบหน้า
“ข้า…ปฏิเสธ…” ซูหมิงกล่าวพึมพำ
ในช่วงที่กล่าว เส้นเลือดเส้นที่หนึ่งพันหายไป ขณะเดียวกันกลิ่นอายพลังมหาศาลของขั้นชำระล้างก็ปกคลุมร่างกายเขาทันใด ร่างกายที่จะแหลกสลายรวมกลับมาใหม่อีกครั้งในพริบตาเดียว หมอกโลหิตกระจัดกระจายทั้งหมดไหลเข้าสู่ร่างกาย กระทั่งเศษเสื้อคลุมยังเหมือนกับย้อนเวลา ปรากฏบนตัวใหม่อีกครั้ง
ฟ้าดินส่งเสียงดังสนั่น ความรู้สึกของขั้นชำระล้างระเบิดมาจากตัวซูหมิง! แรงกดดันมหาศาลพลันทำให้นักรบขั้นรวมโลหิตทั้งหมดตัวสั่นเทิ้ม ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งขั้นชำระล้างอย่างพวกหนานเทียน ยามนี้ยังจิตใจสั่นไหว เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลอย่างชัดเจนจากตัวซูหมิง
ขั้นพลังชำระล้าง!