Skip to content

King of Gods 108

King Of Gods

บทที่ 108 : การทดสอบความสามารถ

พรสวรรค์ของซุนหยวนเฮาทำให้จ้าวเฟิงเหงื่อแตกพลั่กเพราะอีกฝ่ายนั้นมีกายผันแปรที่แท้จริง แต่เป็นเพราะเจ้าเมืองกว่านจวินนั้นไม่ได้รู้จักกายผันแปรดีนักเมื่อมันเป็นสิ่งที่หายากยิ่ง เขาจึงไม่ได้เอ่ยสิ่งใด

ในตอนนี้ ทุกคน รวมทั้งผู้คุมกฎชิวต่างตื่นเต้น แสงจากแท่งผลึกจิตวิญญาณนภาเกือบจะดึงดูดความสนใจจากครึ่งหนึ่งของเทือกเขาจันทร์นภา

“กายผันแปรนั้นอย่างน้อยนับว่าเป็นกายจิตวิญญาณขั้นสุดยอด คะแนนเต็ม! รับเข้าร่วมสำนักโดยตรง!” ผู้คุมกฎชิวรู้สึกตัวก่อนจะเอ่ยประกาศ

ซุนหยวนเฮาได้เอาชนะหลิวเยว่เอ๋อร์และพลันถูกรับเข้าสำนักในทันที ขณะที่เขาเดินลงจากแท่นหิน คนอื่นๆ ล้วนมองเด็กชายด้วยสายตาอิจฉาริษยา

“อัจฉริยะเช่นเขาย่อมกลายเป็นหนึ่งในศิษย์ของผู้มากอำนาจในไม่ช้าเป็นแน่” เจ้าเมืองกว่านจวินถอนหายใจ

เห็นซุนหยวนเฮานั้นทำให้เขานึกถึงเป่ยโม่ย ดังนั้นแล้วอารมณ์ของบุรุษวัยกลางคนจึงดำดิ่งลง

ฟุ่บ

เสียงของสายลมพลันปรากฏขึ้นพร้อมกับร่างของคนผู้หนึ่งลงทิ้งตัวลงมาจากฟากฟ้า

“นั่น…”

กลุ่มคนเบื้องล่างพลันรู้สึกราวกับตนเองเป็นเพียงมดต่อหน้าคนผู้นั้น คนผู้นั้นแต่งกายด้วยอาภรณ์สีทอง เขานั้นราวกับเทพเซียนยามที่เขาเดินผ่านอากาศ ภายใต้แรงกดดันนั้น กระทั่งผู้ที่อยู่ในหนทางแห่งเซียนก็ยังรู้สึกว่าโลหิตของพวกเขาจับตัวแข็ง

ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงมองเห็นร่างของชายในชุดสีทองบินผ่านอากาศ

บิน!

เด็กหนุ่มไม่เคยคิดเลยว่าผู้ฝึกตนจะสามารถบินได้ เพราะการบินนั้นเป็นเพียงตำนานเท่านั้น

“คารวะท่านผู้อาวุโสเซว่!” ผู้คุมกฎชิวเอ่ยเสียงลั่นปาดเหงื่อจากหน้าผากก่อนค้อมคำนับอีกฝ่าย

“คารวะ” ศิษย์คนอื่นๆ ต่างก็ค้อมคำนับลงในเวลาเดียวกัน

ผู้อาวุโสชุดทองยืนอยู่ใจกลางอากาศและกวาดตามองเหล่าศิษย์ราวกับเทพเจ้า ไม่ห่างไกลออกไป ใบหน้าของกวานเฉินนั้นขาวซีดพร้อมกับกายที่สั่นสะท้าน

บุรุษเบื้องหน้าเขาคือผู้อาวุโสที่กระทั่งมีพลังอำนาจมากกว่าไฮ่หยุนเสียอีก

ฟุ่บ+

แสงประกายสีทองพุ่งวาบ ผู้อาวุโสชุดทองปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าซุนหยวนเฮา

“ฮะฮะฮะฮะ กายผันแปร! ข้าเพียงแค่ต้องการจะรับศิษย์สักคน ดูเหมือนว่าข้าจะโชคดีไม่น้อย!” ผู้อาวุโสเซว่สำรวจเด็กชายอย่างยินดี

“ซุนหยวนเฮา! เจ้าต้องการจะรับผู้อาวุโสท่านนี้เป็นอาจารย์หรือไม่? ตามกฎนั้นหากเจ้าทำเช่นนั้น เจ้าจะกลายเป็นศิษย์สายในโดยตรง” ผู้คุมกฎชิวเอ่ยแก่เด็กชาย

ภายใต้สายตาริษยา ซุนหยวนเฮาผงกศีรษะอย่างลนลาน

“ศิษย์ต้องการ”

ผู้อาวุโสเซว่หัวเราะ จับร่างของเด็กชายด้วยมือก่อนจะกลายเป็นเพียงเงาเรือนลางสีทองพร้อมกับหายลึกไปในเทือกเขา

หลังจากการแทรกแซงเล็กๆ การทดสอบแรก ‘แท่งผลึกจิตวิญญาณนภา’ ก็ได้สิ้นสุดลง ในความคิดของจ้าวเฟิงนั้น ภาพของผู้อาวุโสที่บินมายังคงวนเวียนอยู่และไม่อาจทำให้เขาเยือกเย็นลงได้

“นั่นเป็นผู้ที่อยู่ในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริง พวกเขามีความสามารถในการบินในระยะเวลาสั้นๆ และควบคุมพลังที่ไม่อาจจินตนาการ…” เจ้าเมืองกว่านจวินถอดถอนใจอย่างเคารพ ความปรารถนาปรากฏขึ้นในแววตา

ถัดลงไปจากขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงนั้นคือขอบเขตก่อกำเนิดปราณ และที่ขอบเขตนี้มีทั้งหมดเจ็ดนภา เจ็ดนภานั้นหมายถึงความเปลี่ยนแปลงทั้งเจ็ด โดยที่ทุกๆ การเปลี่ยนแปลงได้ให้พลังอันน่าเหลือเชื่อแก่ผู้ที่อยู่ในขั้นนั้น

จากจุดๆ หนึ่ง ผู้ฝึกตนในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงนั้นเป็นมนุษย์ที่วิวัฒนาการแล้ว ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงสามารถทำสิ่งที่ดูจะเป็นไปไม่ได้ในสายตาของมนุษย์ธรรมดาได้

เด็กหนุ่มสาวทั้งหมด 45 คนผ่านการทดสอบแรกด้วยคะแนน 1-5 คะแนน

มีการทดสอบทั้งหมดสามการทดสอบ และการทดสอบแรกนั้นมีคะแนนเต็มที่ 6 คะแนน หากคนผู้หนึ่งได้คะแนนเต็ม พวกเขาจะถูกรับเข้าสำนักในทันที

“บททดสอบอีกสองอย่างคือบททดสอบความสามารถและบททดสอบค่ายกลเก้าลักษณ์ คะแนนเต็ม 2 คะแนนทั้งสองการทดสอบ”

เจ้าเมืองกว่านจวินเอ่ยกับศิษย์ของเขา ทว่าเขากำลังบอกกับจ้าวเฟิงเป็นพิเศษเพราะเขานั้นมีคะแนนเพียง 2 คะแนนจากบททดสอบแท่งผลึกจิตวิญญาณนภา และบททดสอบอีกสองอย่างนั้นมีค่าเพียง 4 คะแนน หากคะแนนของเขาต่ำเกินไป เขาอาจไม่ถูกรับเข้าสำนัก

“ข้าเข้าใจแล้ว” จ้าวเฟิงรู้ว่าต้องทำสิ่งใด

“ตามข้าไปยังการทดสอบความสามารถ”

ผู้คุมกฎชิวนำกลุ่มคนไปยังทางที่กว้างเพียง 1.5 เมตร ทั้งสองฝั่งขนาบไปด้วยเทือกเขาและมีถ้ำที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์อยู่

นี่คือบททดสอบความสามารถ?

“หลังจากเข้าไปยังเส้นทางกลไก เจ้าจะต้องฆ่าสัตว์อสูรจำลองซึ่งมีพลังฝึกตนเท่าเทียมกับเจ้า เจ้าจะได้รับหนึ่งคะแนนหากฆ่าได้สอง และสองคะแนนจากการฆ่าได้ 4 หรือมากกว่า…” ผู้คุมกฎชิวประกาศ

ความจริงนั้น จ้าวเฟิงได้รับข้อมูลมาจากเจ้าเมืองกว่านจวินก่อนแล้ว

“หมายลข 3 หวู่ตัน” เสียงของศิษย์คนหนึ่งดังขึ้น

ปึก!

เด็กหนุ่มผู้ฝึกตนขั้นเจ็ดกระโดดออกไปยังทางเข้าและเดินเข้าไปตามทาง

ครืดดด!

สัตว์อสูรจำลองสีดำสนิทเดินออกมาจากถ้ำ รูปร่างของมันนั้นคล้ายคลึงกับมนุษย์และถือเคียวไว้ในมือพร้อมกับเหวี่ยงมันไปทางเด็กหนุ่มในทันที

เปรี้ยง!

เด็กหนุ่มและสัตว์อสูรจำลองเข้าปะทะกัน ทว่าสีหน้าของเด็กหนุ่มพลันแปรเปลี่ยนไปในทันทีขณะที่เขาล่าถอย

ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรจำลองเองหน้านั้นอยู่ที่ขั้นเจ็ด ทว่าพลังป้องกันและพลังโจมตีของมันนั้นสูงกว่าขั้นเจ็ดนัก

นั่นยังหมายความว่าสัตว์อสูรจำลองนี้เป็นยอดฝีมือในบรรดาผู้ฝึกตนขั้นเดียวกัน

เด็กหนุ่มใช้พลังทั้งหมดของเขาและสามารถเอาชนะสัตว์อสูรจำลองลงได้ในที่สุด

ครืดด! ครืดดด!

เขาเดินไปอีกไม่กี่ก้าว ก่อนที่สัตว์อสูรจำลองสองตัวจะปรากฏตัวขึ้นจากถ้ำใกล้ๆ

ไม่ดีแล้ว!

สีหน้าของเด็กหนุ่มแปรเปลี่ยนไปอย่างรุนแรงขณะที่เขาพยายามจะต่อสู้กับสัตว์อสูรจำลองทั้งสองในเวลาเดียวกัน ยิ่งเวลาผ่านไป สัตว์อสูรอีกจำนวนหนึ่งก็เดินออกมาจากถ้ำ ทว่าพวกมันไม่ได้รวดเร็วนัก ดังนั้นแล้วเด็กหนุ่มจึงสามารถจัดการได้อีกหนึ่งด้วยความเร็วของเขา

“ 1 คะแนนสำหรับการฆ่าได้ 2 ตัว” ศิษย์ที่ดูแลการทดสอบเอ่ยประกาศ

หลังจากนั้น อัจฉริยะอีกจำนวนหนึ่งก็ได้ออกไปและต่อสู้กับสัตว์อสูรจำลอง ส่วนมากนั้นสามารถฆ่าได้ 1-2 ตัว ทว่ามันยากจนน่าเหลือเชื่อในการฆ่า 4 ตัวหรือมากกว่านั้น

“พลังป้องกันของสัตว์อสูรจำลองนั้นแข็งแกร่งเกินไป”

ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงมองสถานการณ์

กระทั่งเซี่ยวซุนที่มีพลังฝึกตนขั้นเก้ายังรู้สึกกดดันยามที่เผชิญหน้ากับสัตว์อสูรจำลองขั้นเก้า

ยิ่งพลังฝึกตนของคนผู้นึ่งสูงเท่าใด สัตว์อสูรจำลองก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ดังนั้นแล้วเซี่ยวซุนจึงจำต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรจำลองขั้นเก้า เขาสามารถฆ่าได้ 3 ตัวในที่สุดและได้รับคะแนนไป .5 คะแนน มีเด็กหนุ่มสาวจำนวนน้อยนิดที่สามารถได้รับ 2 คะแนน

สองคะแนนนั้นเป็นคะแนนเต็มในบททดสอบที่สอง ทว่ามันได้ง่ายเช่นนั้นหรือ? คนผู้หนึ่งจำต้องฆ่ายอดฝีมือในขั้นเดียวกันถึง 4 คนและกระทั่งเผชิญหน้ามากกว่าหนึ่งในครั้งเดียว

“หมายเลข 49 จ้าวเฟิง” เสียงของศิษย์เอ่ยประกาศ

เจ้าเมืองกว่านจวินเอ่ยเตือน

“คะแนนของเจ้าในบททดสอบแรกนั้นต่ำนัก ดังนั้นแล้วเจ้าต้องได้คะแนนเต็มในบททดสอบนี้”

สำนักนั้นให้ความสำคัญกับพรสวรรค์ ดังนั้นแล้วกวานเฉินและศิษย์คนอื่นๆ จึงได้จากไปแล้ว ในสายตาของพวกเขา พรสวรรค์ได้ตัดสินอนาคต ดังนั้นแล้วบททดสอบอีกสองครั้งที่เหลือนั้นไม่สำคัญอันใด

ปึก!

ร่างของจ้าวเฟิงเดินเข้าไปยังทางกลไก

ครืดดด!

ร่างของสัตว์อสูรจำลองปรากฏขึ้นจากถ้ำใกล้ๆ ในไม่ช้า

ดรรชนีดารา! กระบวนท่าลมเคลื่อน!

ร่างของจ้าวเฟิงพลันเข้าใกล้ร่างของอีกฝ่ายก่อนที่จะขยับเล็กน้อยไปด้านข้างเพื่อหลบการโจมตีของคู่ต่อสู้

ฉึก!

นิ้วมือสีครามของเขาชี้ไปยังข้อต่อของร่างกายอีกฝ่าย

ตุบ!

แขนที่ใช้ถืออาวุธของมันพลันร่วงลง ปฏิกิริยาตอบโต้และความแม่นยำนั้นทำให้คนอื่นๆ นิ่งอึ้ง

ฉึก! ฉึก! ฉึก!

จ้าวเฟิงพลันยิงดรรชนีออกอีกสองสามครั้งซึ่งดูราวกับดอกไม้ไฟ

ในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ แขนและขาของสัตว์อสูรจำลองได้ถูกตัดออกโดยเด็กหนุ่มก่อนที่ร่างของมันจะร่วงลงบนพื้น

“ความแม่นยำและความเร็วอันใดกัน! เขาเพียงแค่หยอกล้อกับสัตว์อสูรจำลองนั่น” เจ้าเมืองชางตี้ถอดถอนใจอย่างช่วยไม่ได้และมองจ้าวเฟิงด้วยสายตาใหม่

ครืดด! ครืดดด!

สัตว์อสูรจำลองอีกสองตัวปรากฏตัวขึ้นในไม่ช้าจากถ้ำใกล้ๆ

ดรรชนีดารา! กระบวนท่าลมเคลื่อน! ย่างก้าวหมอกผันแปร!

ร่างของจ้าวเฟิงนั้นราวกับภูติพรายที่กระโดดไปยังเบื้องหน้าสัตว์อสูรจำลองทั้งสอง

ครืดดด!

หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ลมหายใจ หนึ่งในสัตว์อสูรจำลองก็ถูกหั่นออกเป็นแปดส่วนด้วยน้ำมือของเด็กหนุ่ม และเมื่อเขาทำเช่นนั้น ร่างของสัตว์อสูรจำลองอีกสามตัวก็ปรากฏตัวขึ้น เมื่อรวมกับตัวที่เหลือแล้วจึงเป็นสี่ตัวที่ย่างเท้าเข้าไปใกล้ร่างของจ้าวเฟิง

นี่เป็นสัตว์อสูรจำลองที่ใกล้เคียงกับผู้ฝึกตนขั้นเก้าอย่างยิ่งด้วยพลังป้องกันขั้นสุดยอดที่เข้าไปใกล้เด็กหนุ่ม ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มีเด็กหนุ่มสาวเพียงไม่กี่คนที่สามารถรับมือได้

ดรรชนีชี้ดารา! กระบวนท่าวายุกรรโชก!

ประกายแสงเย็นเยียบปรากฏขึ้นในดวงตาของจ้าวเฟิงขณะที่เขาชี้นิ้วไปเบื้องหน้า เป็นการโจมตีวงกว้าง

กะบวนท่าวายุกรรโชกนั้นเป็นวิชาซึ่งช่วยเพิ่มพลังโจมตีและพื้นที่ในการโจมตี

คว้างงงง!

นิ้วนั้นพุ่งตรงไปยังจุดที่ควรเป็นหัวใจของสัตว์อสูรจำลองเหล่านั้น มันยากที่จะจินตนาการว่าพลังอันใดที่จะสามารถฆ่าสัตว์อสูรจำลองตัวหนึ่งได้ในเสี้ยววินาที ทุกคนควรจะรู้ว่าพลังป้องกันของพวกมันนั้นอยู่ที่ราวๆ ขั้นเก้า

ตูม! ตูม! ตูม!

จ้าวเฟิงพลันยิงดรรชนีออกไปอีกสามครั้ง ทุกๆ ดรรชนีล้วนสามารถทะลุผ่านร่างของสัตว์อสูรจำลองได้อย่างง่ายดาย

ตุบ! ตุบ! เปรี้ยงงงง!

สัตว์อสูรจำลองอีกสามตัวล้วนถูกทำลายลงโดยจ้าวเฟิงในกระบวนท่าเดียว และพวกมันนอนทอดร่างนิ่งอยู่บนพื้น ไม่ขยับไหว

ในเวลาเพียงไม่กี่นาที เด็กหนุ่มได้จัดการสัตว์อสูรจำลองไปห้าตัว ทิ้งกลุ่มเด็กหนุ่มสาวที่นิ่งอึ้งไว้เบื้องหลัง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!