Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 422

ตอนที่ 422

ตัดกรรม

โลกตกอยู่ในความเงียบ ไร้สิ่งใดเคลื่อนไหว แม้แต่เกราะป้องกันสีทองก็ดูเหมือนจะเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของความนิรันดร์นี้ ลำแสงที่สาดประกายออกมาจากเกราะป้องกันก็หยุดการเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน

กลุ่มคนจากห้าชนเผ่าในบริเวณนั้น ต่างก็เหมือนกับเป็นรูปปั้นดินเหนียว ไม่ขยับตัวเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย

แม้แต่ชายชราที่ใช้วิชาเวทกรรมลี้ลับ ซึ่งรวมตัวเข้ากับไส้เดือนยักษ์ก็นิ่งแข็งอยู่กลางอากาศเหมือนกับเป็นรูปปั้น ใบหน้ามันกำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

สิ่งที่สามารถขยับตัวได้มีแต่เมิ่งฮ่าวและเส้นสีเงินที่อยู่ในอากาศ!

ความรู้สึกถึงอันตรายอย่างลึกล้ำปรากฎขึ้นในจิตใจเมิ่งฮ่าว หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เขาต้องหลบหนีออกมาจากดินแดนด้านใต้ และมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่ก็คือตระกูลจี้ แต่พวกมันก็ยังมาปรากฎขึ้นอีกครั้งในท้องฟ้าเหนือทะเลทรายตะวันตกในที่แห่งนี้

แสงสีเงินที่ลอยไปมาอย่างเกียจคร้านของเส้นใย ขณะที่มันแหวกฝ่าอากาศลงมาจากด้านบน ระลอกคลื่นแผ่กระจายออกมา จนดูเหมือนจะสามารถฉีกกระชากอากาศให้แยกออกจากกันได้ ขณะที่กลายเป็นเช่นนี้ เมิ่งฮ่าวไม่ได้ตกเป็นเป้าหมาย แต่สายเบ็ดไปเกี่ยวกับชายชราไส้เดือน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอยู่เบื้องหน้าของทุกคน ถึงแม้ว่าพวกมันไม่อาจจะมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ก็ตามที

เมิ่งฮ่าวเริ่มหายใจอย่างรุนแรง เขาไม่กล้าจะขยับตัว ยืนมองอยู่ที่นั่น พยายามทำตัวให้เหมือนกับคนอื่นๆ ไม่ขยับตัวเคลื่อนไหว ไม่พยายามแม้แต่จะขบคิด

เขามองเห็นปลายของเส้นสีเงินเป็นตะขอ ตอนนี้ตะขอกำลังแทงเข้าไปในร่างของไส้เดือน ทะลุผ่านเข้าไป เหมือนกับว่าตอนนี้ชายชราไส้เดือนคือเหยื่อบนตะขอ…

จิตใจเมิ่งฮ่าวหมุนคว้างหนักอึ้ง

“มันไม่ใช่เส้นใย มันเป็นสายเบ็ดตกปลา เป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ในการตกปลา!!” เมิ่งฮ่าวรักษาความนิ่งไว้ แต่ก็มองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน หลังจากที่ชายชราไส้เดือนถูกเกี่ยวโดยตะขอเรียบร้อยแล้ว มันก็ถูกดึงขึ้นไปในท้องฟ้าทันที

ทันใดนั้น เสียงเก่าแก่โบราณก็ได้ยินมาจากด้านบน ซึ่งเป็นจุดที่สายเบ็ดถูกปล่อยลงมา มันกล่าวด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ

“กลายเป็นว่ายังมีผู้ฝึกตนในทะเลทรายตะวันตกที่ฝึกวิชาเวทกรรมลี้ลับ เปลี่ยนร่างตัวเองให้กลายเป็นเหยื่อ, หือ? ข้าคงต้องใช้เจ้าเพื่อตกปลา บางทีข้าสามารถจะตกได้ปลาตัวใหญ่จากทะเลทรายตะวันตก เมื่อเจ้ากลายเป็นเหยื่อไปแล้วในตอนนี้ เจ้าก็ไม่มีความจำเป็นสำหรับเรื่องกรรม”

ขณะที่เสียงนั้นดังก้องออกมา เมิ่งฮ่าวก็ประหลาดใจเมื่อพบว่า ทันใดนั้นเขาสามารถมองเห็นเส้นใยที่เชื่อมต่อกับร่างกายของทุกคนในบริเวณนั้น เป็นเส้นใยที่บางๆ มองเห็นได้ไม่ชัดเจนและเปล่งแสงริบหรี่ ดูเหมือนจะประกอบไปด้วยกรรม ถ้ามองดูโดยละเอียด ก็จะเห็นว่าเส้นใยทั้งหมดมีการเชื่อมต่อกัน

ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ปีศาจ หรือผู้ฝึกตน แม้แต่ภูเขาและแม่น้ำ ทุกสิ่งในโลกนี้ ต่างก็เต็มไปด้วยเส้นใยจำนวนมาก พวกมันกระจายออกไป เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน แม้แต่ชายชราไส้เดือนที่สูงขึ้นไปในอากาศ ทุกสิ่งทุกอย่างและทุกคนก็เชื่อมต่อเข้าด้วยกันคล้ายกับเป็นใยแมงมุมขนาดใหญ่

ทุกสิ่งทุกอย่างที่มองเห็นหรือจดจำได้ ทำให้เกิดเป็นเส้นใยกรรม เชื่อมต่อกันทั้งหมด

“นับจากนี้เป็นต้นไป เจ้าหมดสิ้นกรรมแล้ว” เสียงโบราณในท้องฟ้ากล่าว ทันใดนั้น เมิ่งฮ่าวมองเห็นเส้นใยที่เชื่อมต่อกับไส้เดือนในท้องฟ้า จู่ๆ ก็เริ่มสลายและถูกทำลายไป!

ขณะที่เส้นใยแห่งกรรมนี้กำลังถูกทำลายไป ก็ทำให้เกิดเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ขนาดใหญ่ เส้นใยอื่นๆ ทั้งหมดที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นภูเขา, แม่น้ำ, พื้นดิน, สัตว์ปีศาจ, ผู้ฝึกตน ทั้งหมดเริ่มสั่นสะท้าน

ที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นสำหรับเมิ่งฮ่าวก็คือ ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ ทั้งหมดกำลังสั่นสะท้าน ใบหน้าพวกมันซีดขาว เส้นใยที่เชื่อมต่อพวกมันเข้ากับไส้เดือนเริ่มแตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ มันไม่ใช่เส้นใยที่เชื่อมต่อกับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่การเชื่อมต่อใดๆ หรือความทรงจำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับชายชราไส้เดือนต่างก็พังทลายลง

ตอนนี้ดูราวกับว่าสมดุลย์แห่งกรรมได้ถูกกระจายออกไป ด้วยการลบล้างกรรมที่ถูกเพาะหว่านไว้ ทำให้มันมีผลกระทบต่อกรรมของสิ่งมีชีวิตที่เหลือทั้งหมด

ในตอนนี้เองที่จิตใจเมิ่งฮ่าวเริ่มสั่นสะท้าน เขาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าเส้นใยที่เชื่อมต่อกับร่างของตัวเองกำลังสั่นสะท้าน และดูเหมือนว่าใกล้จะแตกกระจายไป พลังที่ไม่อาจจะบอกออกมาได้กระจายออกไปทั่ว ดูเหมือนว่าร่องรอยหรือความทรงจำของชายชราไส้เดือนกำลังถูกกวาดหายไปโดยสิ้นเชิง

ขณะที่จิตใจเขาหมุนเคว้งคว้าง แผ่นหยกผนึกอสูร ทันใดนั้น ก็เริ่มสั่นไปมาอยู่ในถุงสมบัติ พลังที่อบอุ่นอ่อนโยนกระจายออกมา ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างเมิ่งฮ่าว ราวกับว่าเส้นใยที่เชื่อมต่อกับเมิ่งฮ่าวกำลังจะแตกสลายไป แต่ในความเป็นจริง ขณะที่พลังขนาดใหญ่กวาดมาที่เขา ความทรงจำของชายชราไส้เดือนยังไม่ได้ถูกกวาดออกไป

ฉับพลันนั้น ชายชราไส้เดือนที่อยู่สูงขึ้นไป ก็กลายเป็นลำแสงพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า และจากนั้นก็หายตัวไป

ในที่สุด ทั้งโลกก็เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง

ขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ…ทุกคนตัวสั่นสะท้าน

แสงสีทองกระจายไปทั่วลานประลองอีกครั้ง กู่ลามีสีหน้าสับสน แต่จากนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยความดีใจอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการตะโกนเสียงดัง มันประกาศยอมแพ้ หลังจากนั้นมันก็ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีทอง และถูกดึงออกไปจากลานประลอง

สิ่งที่เกี่ยวข้องกับชาวประมงชราหายไปจากความทรงจำของมัน มันจำได้แต่เพียงว่า เมิ่งฮ่าวเอาชนะซือหลงคนอื่นๆ ได้ทั้งหมดอย่างน่าเหลือเชื่อ

ด้านนอกของเกราะป้องกันสีทอง หัวหน้าเผ่าของห้าชนเผ่าอันยิ่งใหญ่ฟื้นสติคืนกลับมา พวกมันทั้งหมดมีสีหน้าแตกต่างกัน ขณะที่เพ่งมองไปยังเมิ่งฮ่าว ความทรงจำของพวกมันไม่มีสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับชาวประมงชรา ราวกับว่าชาวประมงชราผู้นั้น…ไม่เคยมีอยู่มาก่อน

“เผ่าอูต๋ามีต้าซือหลง!”

“เผ่าอูต๋าคงต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างมากมาย เพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันสักการะบรรพบุรุษครั้งนี้ มิเช่นนั้นพวกมันคงไม่อาจจะชักชวนให้ต้าซือหลงมาเข้าร่วมด้วยได้!”

ขณะที่เสียงพูดคุยดังขึ้นมาจากกลุ่มคนทั้งห้าเผ่า เมิ่งฮ่าวยืนอยู่บนลานประลองด้วยสีหน้าซีดขาว เขามองไม่เห็นใครที่จะดูแตกต่างไปจากเดิมแม้แต่น้อย จริงๆ แล้ว ก็ดูราวกับว่า…ไม่มีใครตระหนักว่าทุกสิ่งทุกอย่างได้หยุดการเคลื่อนไหวไปเมื่อครู่นี้

ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันไม่มีปฏิกิริยาใดๆ กับการหายตัวไปของชายชราไส้เดือน เห็นได้ชัดว่าชีวิตของชายชราไส้เดือน ไม่เคยมีอยู่ในความทรงจำของทุกคนมาก่อน

ราวกับว่าสาเหตและผลกระทบของกรรมของชายชราผู้นั้น ได้ถูกตัดขาดไปจากทุกสิ่งทุกอย่างโดยสิ้นเชิง, สัตว์ปีศาจ, ภูเขา, แม่น้ำและแม้แต่พื้นดิน ไร้ร่องรอยใดๆ หลงเหลืออยู่ในจิตสำนึกของทุกคน

เมิ่งฮ่าวมองไปรอบๆ หอบหายใจ สีหน้าซีดขาว ความรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเติมเต็มอยู่ในจิตใจ

“มันคือความตาย…ความตายอย่างแท้จริง เป็นการลบความทรงจำของทุกคนที่เคยรู้จัก ราวกับว่าไม่เคยมีอยู่เลยในโลกนี้…นั่นคือ…นั่นคือเส้นใยกรรมแห่งตระกูลจี้!”

ทันใดนั้น เมิ่งฮ่าวก็นึกได้ถึงเบ็ดตกปลาในถุงสมบัติของเขา เป็นเบ็ดที่ได้มาจากตอนที่เขาสังหารหนึ่งในบุตรแห่งจี้ ตอนนี้เขาเข้าใจถึงความสามารถของเบ็ดนั่นแล้ว

เขายังตระหนักด้วยเช่นกันว่า ถ้าสายเบ็ดนั้นมาเกี่ยวเขาไปแทน บางทีร่องรอยของเขาทั้งหมดก็จะถูกลบหายไปจากโลกนี้

“ตระกูลจี้…” ใบหน้าเมิ่งฮ่าวขาวซีด โบกสะบัดมือขวาเพื่อรวบรวมฝูงสัตว์ปีศาจ จากนั้นก็ก้าวเดินออกไปจากลานประลอง ยักษ์เถื่อนติดตามจากไปด้วย

เมิ่งฮ่าวไม่ได้สนใจต่อสายตา และคำพูดที่กล่าวกับเขา แต่มองขึ้นไปในท้องฟ้าด้วยสีหน้าน่าเกลียด แน่นอนว่า ไม่มีใครเข้าใจว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร แม้แต่นกแก้วก็ดูเหมือนจะไม่รู้ว่าเพิ่งจะมีอะไรเกิดขึ้น

บางทีนี่ไม่ใช่เพราะว่านกแก้วไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอ แต่เป็นเพราะมันอาจจะไม่สนใจสังเกตชายชราไส้เดือนมากพอ บางทีมันอาจจะยินดีที่จะปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

บางทีมันอาจจะมีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันออกไป ถ้าการตัดกรรมนั้น ได้เกิดขึ้นกับใครบางคนที่สำคัญต่อมัน

ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็มองกลับไปยังกลุ่มคนทั้งห้าเผ่าของอีกาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งยืนอยู่รอบๆ ตัวเขา ในตอนนี้ ทุกคนได้ยอมรับว่าเผ่าอูต๋าเป็นผู้ชนะ มีสิทธิ์เข้าไปในดินแดนสักการะอีกาศักดิ์สิทธิ์เป็นเผ่าแรก

ด้วยการใช้พลังของสายโลหิตพวกมัน ตามด้วยวิชาที่พิเศษเฉพาะ ห้าชนเผ่าของอีกาศักดิ์สิทธิ์ก็เปิดดินแดนสักการะอีกาศักดิ์สิทธิ์ได้โดยสมบูรณ์

กลุ่มคนเผ่าอูต๋าร้องตะโกนออกมา ขณะที่หัวหน้าเผ่าและผู้เฒ่าสูงสุดท้องฟ้าประสานมืออย่างสุภาพเพื่อขอบคุณเมิ่งฮ่าว

จากนั้น กลุ่มคนเผ่าอูต๋าทั้งหมด รวมทั้งเมิ่งฮ่าว กลายเป็นลำแสงขณะที่พวกเขาพุ่งตรงไปยังแสงสีทอง ด้านบนขึ้นไป ลานประลองกำลังจางหายไป แทนที่ด้วยประตูขนาดใหญ่สองบาน ซึ่งกำลังเปิดออกอย่างช้าๆ

ตรงหน้าประตู หัวหน้าเผ่าประสานมือคารวะให้กับเมิ่งฮ่าว และบุรุษที่แปลงร่างมาจากสัตว์อสูรเทียมสวรรค์ “ขอบคุณมาก เมิ่งต้าซือและสหายเต๋าเทียน (สวรรค์) จากข้อตกลง พวกท่านสามารถติดตามคนในเผ่าเพื่อเข้าไปในสระแห่งโชคชะตาได้!”

เมิ่งฮ่าวพยักหน้าอย่างใจลอย ขณะที่เขามองไปยังประตูที่เปิดอยู่

“เส้นใยกรรมแห่งตระกูลจี้ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง การถูกมันทำลายไป ก็เป็นการลบการคงอยู่ให้หายไปจนไร้ร่องรอย อืม…” เมิ่งฮ่าวตกอยู่ในภวังค์ครุ่นคิด ขณะที่ประตูขนาดใหญ่เปิดออกจากภายในแสงสีทอง เมื่อประตูนั้นเปิดออกมาได้ครึ่งหนึ่ง ฉับพลันนั้น เขาก็รู้สึกว่ามีแรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านเข้ามาในร่าง จนทำให้สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างช่วยไม่ได้

นี่เป็นเพราะว่า ทันใดนั้น เขาก็ตระหนักขึ้นมาได้

“ไม่ถูกต้อง!! เส้นใยกรรมที่ถูกลบออกไป ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างจำไม่ได้ว่าอะไรถูกตัดไป นั่นเป็นการลบล้างอย่างสมบูรณ์ แต่…ถ้ามีใครบางคนจดจำได้เกี่ยวกับคนที่ถูกลบไป นั่นก็หมายความว่าวิชานี้ยังไม่สมบูรณ์ ไม่ดีพร้อม โดยหลักแล้วก็หมายความว่าวิชานั้นล้มเหลว…ไม่ดีพอ!”

เมื่อครุ่นคิดมาถึงจุดนี้ สีหน้าเมิ่งฮ่าวก็สลดลง เขาคาดคิดได้ถึงสถานการณ์ที่ใครก็ตามซึ่งใช้วิชานั้นได้พบว่ามันล้มเหลว แต่เขาก็มีเวลาเพียงเล็กน้อยในการครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ ร่างเขาแวบขึ้นขณะที่พุ่งตรงไปยังประตูบานใหญ่

เกือบจะในทันทีที่เขาพุ่งตรงไป ทั่วทั้งโลกจู่ๆ ก็เริ่มเงียบสงบ ทันใดนั้น สายเบ็ดตกปลาที่หายไปเมื่อครู่นี้…ก็มองเห็นได้อีกครั้งในท้องฟ้า ครั้งนี้ มันกำลังพุ่งลงมาตรงไปยังเมิ่งฮ่าว!

“ยังมีปลาน้อยที่หลุดรอดไปจากร่างแห” เสียงโบราณนั้นกล่าวขึ้น หัวเราะหึๆ “เจ้าบังอาจทำให้การตกกรรมของข้าล้มเหลว? โชคดีที่เจ้าทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ทำให้ข้าสังเกตได้ รวมถึงทำให้วิชาของข้าต้องย้อนกลับมาหาตัวเอง แม้สวรรค์จะกว้างใหญ่ ปฐพีจะกว้างไพศาล แต่เจ้าคิดว่าจะหลบหนีข้าไปได้จริงๆ?”

รอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว ทุกสิ่งทุกอย่างสงบเงียบและไม่ขยับเคลื่อนไหว!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!