ตอนที่ 788
สะกด!
ผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งซึ่งทรงพลังมากที่สุดในดินแดนทางเหนือ, ผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิ จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยสายตาที่เบิกกว้าง ก่อนหน้านี้เมิ่งฮ่าวถูกมันติดตามรังควาน แต่ตอนนี้ ความรู้สึกที่เขากระจายออกมานั้น คล้ายกับเป็นสัตว์อสูรแห่งบรรพกาลบางอย่าง สายตา, กลิ่นอาย, ลมพายุสีโลหิตของเขาทั้งหมด ทำให้ผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ
สีหน้ามันเคร่งเครียดขณะที่เมิ่งฮ่าวเดินตรงมา พร้อมกับสายตาที่สาดประกายเย็นชา ไม่นานเขาก็มาถึง โบกสะบัดมือทำให้แสงสีโลหิตพุ่งกระจายออกไป ในชั่วพริบตาคนทั้งสองก็ปะทะกันสิบกว่าครั้ง
เสียงระเบิดดังก้องออกมาอยู่รอบๆ ตัวคนทั้งสอง การต่อสู้อย่างโหดเหี้ยมก็ดำเนินต่อไป และที่ด้านบนสูงขึ้นไป การต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
เดิมทีดินแดนด้านใต้ตกอยู่ในสถานะที่อ่อนแอกว่า แต่ตอนนี้เมื่อเมิ่งฮ่าวได้ทะยานขึ้นมาด้วยอสูรโลหิตและเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตระดับหก ก็ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง…พลิกกับตาลปัตรกัน!
ถ้าเมิ่งฮ่าวสามารถสังหารผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิไปได้ ดินแดนด้านใต้ก็จะ…มีโอกาส…ได้รับชัยชนะ!
ขวัญกำลังใจของผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้พุ่งขึ้นมา และพวกมันก็พุ่งกระโจนเข้าไปโจมตีอย่างดุร้ายมากยิ่งขึ้น
ที่ด้านนอกของค่ายกลเวทป้องกัน หนึ่งในยักษ์ที่สวมชุดเกราะสีทองถูกสังหารไป และอีกตัวกำลังยืนสั่นสะท้านอยู่ที่นั่น หวาดกลัวต่อเมิ่งฮ่าวโดยสิ้นเชิง สำหรับประตูขนาดใหญ่สีทอง เมื่อยักษ์ที่คอยค้ำจุนมันตายไปหนึ่งตน ทำให้ตอนนี้มันเริ่มเอียงตะแคงไปที่ด้านข้างอย่างช้าๆ
ยักษ์ที่ยังรอดชีวิตอยู่มองไปด้วยความหวาดกลัว ขณะที่เมิ่งฮ่าวต่อสู้กับผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิ หนังศีรษะมันเริ่มด้านชาขนลุกตั้งชี้ชัน ในที่สุดมันก็โยนประตูขนาดใหญ่นั้นลงไป และหันหลังหลบหนี
นอกจากนี้มันก็ไม่ใช่ผู้ฝึกตน แต่เป็นยักษ์ที่สืบทอดสายเลือดมาตั้งแต่ครั้งสมัยโบราณ เมื่อคิดไปถึงการต่อสู้ของเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้มันต้องหวาดกลัวขึ้นมาอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม ในทันทีที่มันหันหลังหลบหนี หญิงสาวคลุมหน้าผู้เย็นชาซึ่งลอยตัวอยู่ในกลุ่มหมอกสีเขียวที่กำลังพลุ่งพล่านปั่นป่วนก็มองไปด้วยสายตาที่สาดประกาย มือที่งดงามของนางยื่นออกมา และชี้ตรงไปที่ยักษ์ตนนั้น
“หลบหนีไปก่อนที่การต่อสู้ยังไม่จบ? ข้าจะกำจัดสายเลือดของเจ้าไปจนถึงเก้าชั่วโคตร!”
ทันใดนั้น ยักษ์ตนนั้นก็เริ่มสั่นสะท้าน เครื่องหมายผนึกได้ปรากฏขึ้นที่หน้าผากของมัน เครื่องหมายนั้นเริ่มลุกไหม้ลึกลงไปในผิวหนังของมัน เข้าไปถึงในกระดูก ยักษ์ส่งเสียงแผดร้องอย่างโหยหวนออกมา และความบ้าคลั่งก็ปรากฏขึ้นในแววตา
“ข้าจะลบจิตใจเจ้าไป” หญิงสาวกล่าวเสียงราบเรียบ “ทำให้เจ้าเสียสติ แทนที่พลังชีวิตของเจ้าด้วยความบ้าคลั่ง ไปสังหารศัตรูหนึ่งแสนคน คำสาปนี้ก็จะหายไปเอง” ยักษ์ส่งเสียงแผดร้อง ใบหน้ามันบิดเบี้ยวด้วยความบ้าคลั่ง ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำ ขณะที่พุ่งตรงไปยังศัตรูดินแดนด้านใต้
ผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้ใดๆ ก็ตาม ที่มาเผชิญหน้ากับมัน ก็จะถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะหลบหนีจากไป ยักษ์บดขยี้พวกมันด้วยเท้า จากนั้นก็หยิบร่างพวกมันโยนเข้าไปในปาก โลหิตไหลลงมาจากคางของมัน ดูเหมือนจะบ้าคลั่งไปแล้วโดยสิ้นเชิง
สำหรับกองกำลังดินแดนด้านใต้แล้ว ยักษ์ที่คล้ายภูเขาตนนี้มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับขั้นค้นหาเต๋า ทำให้มีผลกระทบต่อการต่อสู้โดยรวมทั้งหมด ในชั่วพริบตาผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้ก็ถูกสังหารไปนับร้อยคน
เห็นได้ชัดว่ายากที่จะหยุดยั้งมันได้ มีหนทางเดียวที่จะทำได้ก็คือ ต้องใช้ผู้ฝึกตนนับหมื่นโจมตีไปยังมันโดยพร้อมเพรียงกัน แต่โชคร้าย…ที่ผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือไม่มีทางจะให้โอกาสดินแดนด้านใต้กระทำได้เช่นนั้น ภายใต้การชี้นำของหญิงสาวในกลุ่มหมอกสีเขียว ผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือเริ่มถูกผลักดันให้พุ่งตรงไป
ทะเลของผู้คนที่ไร้จุดสิ้นสุดพุ่งตรงไป ราวกับเป็นอุทกภัยที่ไหลบ่าท่วมท้น
ในการต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งค้นหาเต๋าที่ด้านบน ปรมาจารย์ซ่งและตานกุ่ยต่างก็กระวนกระวายใจ แต่ก็ไม่อาจจะให้การช่วยเหลือดินแดนด้านใต้ได้แต่อย่างใด สิ่งที่พวกท่านสามารถทำได้ทั้งหมดก็คือมองไป ขณะที่กระแสของการต่อสู้ได้กลับตาลปัตรขึ้นมาอีกครั้ง
เสียงระเบิดดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่เมิ่งฮ่าวต่อสู้ไปมากับผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิ ซึ่งเป็นบุคคลอันดับหนึ่งแห่งดินแดนทางเหนือ ที่มีพื้นฐานฝึกตนอันน่าเหลือเชื่อ และโจมตีมาอย่างโหดเหี้ยมดุร้าย พร้อมกับเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตระดับหกของเมิ่งฮ่าว ทำให้ดูราวกับว่าพื้นดินกำลังจะระเบิดขึ้นไปในท้องฟ้า
ขณะที่คนทั้งสองดิ้นรนต่อสู้กันไปมา เมิ่งฮ่าวก็มองเห็นยักษ์กำลังบ้าคลั่ง และรับรู้ได้ถึงหญิงสาวผู้น่ากลัว ที่กำลังลอยตัวอยู่ในกลุ่มหมอกสีเขียว
“ตาย!” เขากล่าวกับผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิ รังสีสังหารแวบขึ้นมาในดวงตา ขณะที่ยกขาขวาขึ้นและจากนั้นก็เริ่มหมุนไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว กลายเป็นลมพายุพุ่งตรงไปกระแทกยังผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิที่กำลังต่อยหมัดเข้ามาโจมตี
เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกไป และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากคู่ต่อสู้ทั้งสอง แต่ในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวจู่ๆ ก็หายไป จากนั้นก็ไปปรากฏขึ้นอีกครั้งในตำแหน่งของผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือที่อยู่ด้านข้างยักษ์ที่กำลังพุ่งตรงไป
“บัดซบ!” ผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิแผดร้องออกมา การเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในสนามรบของเมิ่งฮ่าวทำให้มันต้องปวดศีรษะ มันกำลังจะไล่ล่าติดตามไป ในขณะที่เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมืออย่างเฉียบขาด ทำให้กลุ่มหมอกสีแดงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ฉับพลันนั้นกลุ่มหมอกก็พลุ่งพล่านปั่นป่วนกลายเป็นกระแสน้ำวน กลืนกินไปยังตัวยักษ์ที่กำลังแผดร้องคำรามอยู่ในทันที
เสียงบดเคี้ยวได้ยินมา เป็นเสียงที่เสียดแทงแก้วหู และใครก็ตามที่ได้ยินเข้าก็จะต้องตกตะลึงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
โลหิตลอยออกมาจากภายในกระแสน้ำวน ตามมาด้วยเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจ เสียงกึกก้องได้ยินมา ขณะที่กระแสน้ำวนจางหายไป กลุ่มหมอกสีโลหิตลอยตรงมายังเมิ่งฮ่าว หลอมรวมเข้าไปในร่าง ทำให้เขา…แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม!
เมิ่งฮ่าวหันหน้าต่อยหมัดตรงไปยังผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิที่กำลังใกล้เข้ามา เสียงระเบิดขนาดใหญ่ได้ยินขึ้น เป็นครั้งแรกที่ผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง สีหน้ามันตกตะลึงขึ้นเป็นครั้งแรก จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นโทสะ ร่างกายมันแวบขึ้นขณะที่เปลี่ยนรูปร่างเป็นอีกาสีทองที่มีสามขา!
แสงเจิดจ้าสาดประกายออกมาจากร่างมัน ทำให้ดูคล้ายกับเป็นดวงตะวัน ความร้อนอันเข้มข้นพุ่งมาปะทะใบหน้าเมิ่งฮ่าว
ในเวลาเดียวกันนั้น ดวงตาของหญิงสาวในกลุ่มหมอกที่ดูเย็นชาก็สาดประกายขึ้น นางยกมือขึ้น ทำให้สัญลักษณ์เวทเก้าชิ้นลอยออกมาอย่างรวดเร็ว พวกมันหมุนวนอยู่ในกลางอากาศด้วยกันเพื่อก่อตัวเป็นสัญลักษณ์ผนึกขนาดใหญ่!
สัญลักษณ์ผนึกอันทรงพลังอย่างน่าตกใจ ทันใดนั้นก็ลอยตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
“สะกด!” หญิงสาวกล่าวเสียงแผ่วเบา เสียงของนางเย็นชาและไร้ความรู้สึกใดๆ ใบหน้าที่ซีดขาวในตอนแรก เมื่อปลดปล่อยสัญลักษณ์เวทเก้าชิ้นออกไป ก็ยิ่งซีดขาวมากขึ้นกว่าเดิม
ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้นด้วยรังสีสังหาร พื้นฐานฝึกตนพุ่งขึ้นมา ขณะที่ยกมือขึ้น มองเห็นเป็นกรงเล็บสีดำอันน่าตกใจ มีขนาดเท่ากับกำปั้นของมนุษย์
ทันทีที่กรงเล็บนั้นปรากฏขึ้น กลิ่นอายอันโหดร้ายก็ระเบิดออก ในเวลาเดียวกันนั้น บางสิ่งที่คล้ายกับเสียงแผดร้องของวิฬาร์ก็ดังก้องออกมา ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะท้าน
กรงเล็บนี้เป็นสิ่งที่เมิ่งฮ่าวได้มาจากช่วงการปะทุขึ้นมาของทะเลสาบเต๋าโบราณ! หลังจากที่กลั่นสกัดมันในช่วงเวลาที่ผ่านมา ในที่สุดเขาก็สามารถใช้มันได้!
มันไม่ใช่กรงเล็บของสัตว์อสูรใดๆ แต่จริงๆ แล้วก็เป็น วิฬาร์! (แมว)
มันเป็นกรงเล็บของวิฬาร์!
กรงเล็บนั้นเป็นสีดำ และวิฬาร์ก็มีสีดำสนิทด้วยเช่นเดียวกัน
ทันทีที่มันปรากฏขึ้น กลิ่นอายอันดุร้ายก็เต็มอยู่ในอากาศ และเสียงแผดร้องอันน่าประหลาดใจของวิฬาร์ก็ทำให้จิตใจของคนทั้งหมดในบริเวณนั้นสั่นสะเทือน แทบจะราวกับว่าเป็นการโจมตีในระดับจิตวิญญาณ ด้วยการเร่งปฏิกิริยาจากพื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าว กรงเล็บนั้นก็ลอยขึ้นไปในอากาศและขยายขนาดขึ้น มีขนาดใหญ่ขึ้นและใหญ่มากขึ้นจนกระทั่งมีความกว้างนับสิบจ้าง ทันใดนั้นกรงเล็บก็กรีดเฉือนตรงไปยังอีกาสีทองสามขาที่พุ่งเข้ามา
อีกาสีทองสามขาสั่นสะท้าน แต่ก็ไม่อาจจะหลบเลี่ยงการโจมตีนี้ได้ กรงเล็บกรีดเฉือนเข้าไปในร่างมัน และขาทั้งสามก็ระเบิดออก เสียงแผดร้องอย่างโหยหวนดังก้องออกมา ขณะที่มันกลายร่างกลับไปเป็นผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิ โลหิตไหลซึมออกมาจากปาก และแขนก็ถูกเฉือนออกเป็นชิ้นๆ พุ่งถอยไปด้านหลังด้วยความประหลาดใจ ในเวลาเดียวกันนั้นก็ใช้วิชาเวททำให้แขนที่หายไปของมันกลับคืนมาใหม่ในทันที
ใบหน้ามันซีดขาว และน้ำเสียงก็อ่อนแอลงขณะที่กล่าวว่า “เก้าหลุมฝังศพวิฬาร์!”
ในเวลาเดียวกันนั้น สัญลักษณ์ผนึกก็พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวอย่างต่อเนื่อง เขามองไปยังมัน และกระแสน้ำวนเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตก็ส่งเสียงดังกระหึ่มอยู่รอบๆ ตัว กลายเป็นสายลมอันวุ่นวาย และจากนั้นก็เป็นศีรษะของอสูรโลหิต ซึ่งมีสีหน้าดุร้าย ขณะที่พุ่งตรงไปยังสัญลักษณ์ผนึก กระจายพลังอันน่าตกใจ ซึ่งดูเหมือนจะสามารถฉีกกระชากทุกสรรพสิ่งให้ฉีดขาดออกเป็นชิ้นๆ ได้
“แตกกระจาย!” เมิ่งฮ่าวกล่าวเป็นเสียงดังก้องออกไป สัญลักษณ์ผนึกขนาดใหญ่แตกกระจายออกไปในทันที จากนั้นก็เริ่มแยกส่วนออกจากกัน เสียงแตกร้าวได้ยินมา และจากนั้นมันก็ระเบิดออก กลายเป็นสัญลักษณ์เวทเก้าชิ้นอีกครั้ง สามในเก้าชิ้นกลายเป็นสีดำไปแล้วในตอนนี้ และค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ อีกหกชิ้นลอยกลับไปยังหญิงสาวที่อยู่ภายในกลุ่มหมอก
จากนั้น เมิ่งฮ่าวก็เริ่มสังหารไปตลอดทาง ตรงไปยังหญิงสาวนางนั้น
“ถึงตาที่เจ้าต้องโดนสะกดบ้างแล้ว! ขุนเขาที่เก้า!” เมิ่งฮ่าวกล่าว ชี้นิ้วออกไป และทุกสรรพสิ่งก็สั่นสะเทือน ขุนเขาที่เก้าปรากฏขึ้น ตามมาด้วยเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิต ซึ่งหลอมรวมเข้าไปในขุนเขาที่เก้า ทำให้มันกลายเป็นสีแดงเจิดจ้า จากนั้นก็พุ่งตรงไปยังหญิงสาวที่อยู่ภายในกลุ่มหมอก
ขณะที่มันตกลงไป รอยแตกขนาดใหญ่ก็เปิดออกบนพื้นดินที่ด้านล่าง กลืนกินผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือลงไปเป็นจำนวนไม่น้อย สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไป และทันใดนั้นนางก็ยื่นมือออก และคว้าจับไปยังปีศาจที่เหลืออยู่ซึ่งกำลังสั่นสะท้าน จากนั้นก็ขว้างมันออกไปในอากาศ
ปีศาจกลายเป็นดาวตกพุ่งตรงไปยังขุนเขาที่เก้า ในเวลาเดียวกันนั้น หญิงสาวก็ขยับมือร่ายเวท ทำให้สัญลักษณ์เวทที่ยังเหลืออยู่หกชิ้นของนาง ลอยขึ้นไปอย่างรวดเร็ว และก่อตัวเป็นวงแหวนไปรวมตัวกับปีศาจ ขณะที่พุ่งกระแทกเข้าไปยังขุนเขาที่เก้า
ตูมมมมม!
อย่างน่าตกใจยิ่ง พลังที่กระแทกลงไปของขุนเขาที่เก้า ดูเหมือนจะถูกขัดขวางไว้ได้
“ไข่มุกดำขาว!” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ กลุ่มหมอกสีดำและขาวปรากฏขึ้นอยู่รอบๆ ขุนเขาที่เก้า จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นไข่มุกสองลูก ขณะที่พวกมันหมุนวนอยู่รอบๆ ขุนเขาที่เก้า เสียงกระหึ่มก็ได้ยินมา และภูเขาก็เริ่มตกลงมาอีกครั้ง ปีศาจแตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ และวงแหวนก็ระเบิดออกกลายเป็นสีสันที่แวบขึ้นมาอย่างเจิดจ้า พวกมันไม่อาจจะขัดขวางขุนเขาที่เก้า ขณะที่พุ่งลงมายังหญิงสาวที่กำลังตกตะลึงอยู่ได้
สีสันแวบขึ้นไปในท้องฟ้า และเสียงกระหึ่มก็ดังเต็มอยู่ในอากาศ กลุ่มหมอกสีเขียวระเบิดออก หญิงสาวรวมทั้งผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือจำนวนไม่น้อยในบริเวณนั้น ต่างก็ถูกขุนเขาที่เก้าบดขยี้ไปโดยสิ้นเชิง
ในตอนนี้มีภูเขาลูกใหม่อยู่ในดินแดนแถบนี้!
คนทั้งหมดในบริเวณนั้นตกตะลึง รวมทั้งผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิ ดวงตามันกลายเป็นสีแดงก่ำ เนื่องจากเมิ่งฮ่าว ทำให้ดินแดนทางเหนือต้องสูญเสียไปอย่างมากมายในการต่อสู้ที่ยากลำบากนี้
เดิมที ดินแดนทางเหนือต้องได้รับชัยชนะอย่างแน่นอนแล้ว แต่ตอนนี้…ทั้งหมดนั้นก็เนื่องมาจากเมิ่งฮ่าว เหตุการณ์ได้พลิกกลับตาลปัตร! ถ้าไม่อาจจะจัดการเมิ่งฮ่าวได้ ดินแดนทางเหนือก็ต้อง…พ่ายแพ้!
เมื่อได้ข้อสรุป ดวงตาของผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิก็แวบขึ้นด้วยความมุ่งมั่น เดิมทีมันต้องการจะหลีกเลี่ยงการใช้รูปปั้นบรรพบุรุษ ซึ่งทำให้มันต้องสูญเสียพลังลมปราณไปเป็นจำนวนมาก จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมมันถึงต้องพยายามจะกำจัดเมิ่งฮ่าวไปด้วยตนเองในตอนแรก
ตอนนี้มันรู้แล้วว่า…มันได้กระทำผิดพลาดไป
“ข้าควรจะใช้รูปปั้นบรรพบุรุษไปตั้งแต่ตอนแรก ไม่ว่าจะต้องชดใช้ด้วยอะไรก็ตามที!! แต่มันก็ยังไม่สายจนเกินไป!”
“เมิ่งฮ่าว, การที่ถูกสะกดด้วยรูปปั้นบรรพบุรุษของตระกูลข้า ถือว่าเป็นความโชคดีของเจ้า!” ดวงตาของผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิสาดประกายความมุ่งมั่นออกมา ขณะที่มันชี้นิ้วขึ้นไปในท้องฟ้า และอีกนิ้วชี้ลงไปบนพื้น
“รูปปั้นบรรพบุรุษ โปรดปรากฏตัวออกมา!”