Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 793

ตอนที่ 793

ตัดจิตมาร ค้นหาเต๋า!

การตัดครั้งที่สาม!

กลุ่มหมอกทำให้เสียงของเมิ่งฮ่าวดังก้องออกไปทั่วทั้งดินแดนแห่งดาวหนานเทียนและจากนั้นก็ตามมาด้วยการรวมตัวกันของกลุ่มหมอก ซึ่งถูกดูดกลับเข้าไปจนในที่สุด กลุ่มหมอกก็ก่อตัวขึ้นเป็นหมอกใบมีดและเสียงของเมิ่งฮ่าวก็ดังก้องไปทั่วทั้งสนามรบอย่างน่าตกใจ

หมอกใบมีดนั้นดูธรรมดาไปทุกส่วน

มันถูกสร้างขึ้นมาจากกลุ่มหมอกแต่กลุ่มหมอกนั้น…ก่อตัวขึ้นมาจากเต๋าอันยิ่งใหญ่ จนทำให้มันบริสุทธิ์อย่างถึงที่สุด! ภายในของใบมีดเป็นการกลั่นสกัดของเต๋าอันยิ่งใหญ่ที่ตกลงมาทั้งหมด!

ใบมีดไม่เพียงแต่จะประกอบไปด้วยกลุ่มหมอกจากก่อนหน้านี้เท่านั้นความปั่นป่วนวุ่นวายที่เกิดขึ้นในท้องฟ้าทั้งหมดได้กลายเป็นเส้นใยแห่งพลังที่ไร้รูปร่าง รวมตัวเข้าด้วยกันกับกลุ่มหมอก เพื่อกลายเป็นใบมีดขนาดใหญ่

มันคือใบมีดและมันก็คือเต๋า!

มันเป็นกลุ่มหมอกและมันก็คือการรู้แจ้ง!

มันเป็นหมอกใบมีดและมันก็คือการรู้แจ้งแห่งเต๋า!

ตัด!

หมอกใบมีดตกลงมายังกรงขัง ด้านในกรงขัง ดวงตาของวานรศิลาลืมขึ้นมาในทันที สาดประกายด้วยแสงแปลกๆ พยายามที่จะต่อสู้กลับไปยังใบมีดแต่แทบจะในทันทีที่มันส่องประกายออกมา แสงนั้นก็แตกกระจายไป ใบมีดตกลงมา ตวัดกรีดลงไปบนกรงขังและตัดลงไปบนร่างเมิ่งฮ่าว

วานรศิลาส่งเสียงแผดร้องและพุ่งทะยานขึ้นไปในอากาศ พยายามที่จะขัดขวางใบมีดนั้น

ทันทีที่มันแตะสัมผัสไปโดนใบมีด เสียงกระหึ่มก็ดังเต็มไปทั่วร่าง โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก จากนั้น…มันก็ถูกตัดออกไปครึ่งตัว ไร้กำลังที่จะสร้างผลกระทบต่อหมอกใบมีดแม้แต่น้อย

ในโลกแห่งกรงขังนั้นมีความกว้างเหลืออยู่เพียงแค่หนึ่งร้อยจ้างเท่านั้น ขณะที่หมอกใบมีดกรีดเฉือนลงมามันก็ตัดกรงขังให้ขาดออกไปอย่างง่ายดายก่อนที่กรงขังนั้นจะกลายเป็นอุปสรรคต่อเมิ่งฮ่าว

เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่กรงขังแยกเปิดออก!

กำแพงพังทลายลงไป วานรศิลาถูกตัดออกเป็นสองส่วน กรงขังที่เป็นมรดกวิเศษของตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิงในที่สุดมันก็แตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและเมิ่งฮ่าวก็ปรากฏขึ้นที่โลกด้านนอกอีกครั้ง!

เขานั่งขัดสมาธิเหมือนก่อนหน้านี้มองขึ้นไป เส้นผมสีขาวพริ้วไปมาอยู่รอบๆ ตัว เปลวไฟมารปกคลุมไปรอบๆ ร่าง ผิวหนังส่องแสงด้วยกลิ่นอายสีดำ ซึ่งดูเหมือนจะซึมลึกลงไปภายในร่างเขา

นั่นก็คือจิตมาร ซึ่งเป็นต้นกำเนิดในความต้องการเข่นฆ่าของเขา!

เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่คนทั้งหมดมองไปอย่างเงียบๆพวกที่มุงดูอยู่ทั้งหมดไม่อาจจะขยับตัวเคลื่อนไหวได้แม้แต่ผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าก็ตามที

พวกมันได้แต่จ้องมองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ขณะที่เหตุการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตได้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกมัน!

หมอกใบมีดส่งเสียงดังกระหึ่มขณะที่กรีดเฉือนลงมาเมื่อมันแตะไปที่ด้านบนศีรษะเมิ่งฮ่าวความรู้สึกเจ็บปวดก็มองเห็นได้จากสีหน้าเขาความดำมืดที่อยู่รอบๆ ตัวเริ่มไหลวนไปมาอย่างรวดเร็วกลายเป็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวพยายามตะเกียกตะกายดิ้นรนมากมายนับไม่ถ้วน

เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านความเจ็บปวดที่กำลังเกิดขึ้นนี้มากมายจนไม่อาจจะอธิบายออกมาได้เขาแทบจะรู้สึกว่าร่างกายกำลังจะถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆแต่ดวงตาก็ยังคงสาดประกายด้วยความมุ่งมั่น

ตอนนี้ไม่เพียงแต่กลุ่มฝูงชนในสนามรบที่กำลังมองดูเขาอยู่ ปรมาจารย์ในดินแดนตะวันออกก็กำลังใช้วิธีการต่างๆ กัน เพื่อคอยสังเกตการณ์ บางคนยังต้องจ่ายด้วยค่าตอบแทนที่สูงลิ่วออกมาอีกด้วย

ตระกูลจี้กำลังมองมาอย่างใกล้ชิดด้วยความอยากรู้ว่าเมิ่งฮ่าวจะทำได้สำเร็จหรือไม่!

“ตัดจิตมาร!” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาสาดประกายด้วยความมุ่งมั่นมองไปยังหมอกใบมีดและส่งเสียงกู่ร้องที่ทรงพลังออกมาพื้นฐานฝึกตนระเบิดออกไปด้วยพลังอันน่าเหลือเชื่อ ขณะที่กระตุ้นให้จิตมารซึ่งอยู่ด้านในให้พุ่งขึ้นมา ลึกลงไปในจิตใจความต้องการเข่นฆ่าสังหารพุ่งขึ้นมาในเวลาเดียวกันนั้น ภาพของการสังหารหมู่ทั้งหมดที่เขาได้กระทำมาหลังจากที่กลายเป็นมารก็ปรากฏขึ้น

หมอกใบมีดสั่นสะท้าน จากนั้นก็ตกลงมาต่อไปครั้งนี้ได้แทงเข้าไปในศีรษะเมิ่งฮ่าวสามชุ่น (1 ชุ่น ยาวประมาณ 1 นิ้ว)ไม่มีโลหิตไหลออกมา เพราะว่านี่ไม่ใช่ใบมีดที่แท้จริงแต่เป็นเต๋า!

แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังคงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรงเป็นความรู้สึกเจ็บปวดที่มากกว่าความรู้สึกที่เขาได้รับจากการถูกแทงด้วยมีดจริงๆ กลิ่นอายสีดำเริ่มกระจายออกมาจากร่างอย่างน่าตกใจยิ่งที่มันกลายเป็นใบหน้า

ใบหน้านั้น…ดูเหมือนกับเมิ่งฮ่าวเป็นอย่างยิ่ง!

แต่มันก็เต็มไปด้วยความดุร้าย, โหดเหี้ยมและบ้าคลั่ง ปราณปีศาจพุ่งขึ้นไปและใบหน้านั้นก็อ้าปากขึ้น แผดร้องอย่างไร้เสียงออกไปยังหมอกใบมีด

หมอกใบมีดตกลงมาอย่างช้าๆ ต่อไป พลังของใบมีดนี้ไม่ได้มาจากสวรรค์, จากปฐพี หรือจากปรโลกแต่มาจากตัวเมิ่งฮ่าวเอง!

นี่คือการตัดของเมิ่งฮ่าว!

พลังของการตัดเกิดขึ้นมาจากเจตจำนงของตนเองสิ่งที่เขาปรารถนาจะตัด ใบมีดนี้ก็จะตัดออกไป ถ้าเขาล้มเลิก ใบมีดก็จะจางหายไปและตัดวิญญาณของเขาก็จะล้มเหลว!

“ตัด!”เขากล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง ผ่านร่องฟันที่กัดจนแน่น เสียงกระหึ่มได้ยินมาขณะที่หมอกใบมีดทำกรีดเฉือนลงมาต่อไป ตัดผ่านศีรษะไปยังลำคอ ใบมีดสั่นสะท้าน ขณะที่ใบหน้าอันโหดเหี้ยมดุร้ายได้เกิดขึ้นอยู่รอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าวทำให้มองเห็นว่าที่ตรงกลางใบหน้าขนาดใหญ่นั้นถูกกรีดเฉือนลงไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะฟื้นฟูให้กลับคืนมาเป็นเหมือนเดิมได้

เสียงแผดร้องอย่างโหยหวนได้ยินออกมาจากปากของใบหน้าที่โหดร้าย จากนั้นมันก็กระจัดกระจายออกและกลับเข้าไปในร่างเมิ่งฮ่าว ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ต่ำกว่าศีรษะของเขาได้กลายเป็นสีดำไปโดยสิ้นเชิง

“วิถีทางของข้าไม่ถูกต้อง!”เขาพึมพำ “อิสระและเสรีภาพที่แท้จริง! ดอกปี่อ้านไม่อาจจะยึดครองร่างข้าได้!แม้แต่ความตายข้าก็ยังหลุดพ้นมาได้! เต๋าของข้า…ไม่ใช่เต๋าแห่งมาร!”

“จิตมารมีแต่ความทุกข์ทรมานความพากเพียรเป็นสิ่งที่ข้าต้องการสิ่งที่ข้าไม่ต้องการก็คือการมีบางสิ่งมาควบคุมข้า ข้าไม่ใช่มาร ข้าไม่ใช่เซียน ข้าก็คือตัวข้าเอง!” เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆและพลังก็ไหลเข้าไปในหมอกใบมีดมากขึ้น เสียงกระหึ่มได้ยินมาขณะที่มันเริ่มกรีดเฉือนลงมามากขึ้นกว่าเดิม

ตูมมมมม!

หมอกใบมีดกรีดผ่านไหล่และจากนั้นก็ลงไปที่จุดตันเถียน (อยู่ที่ท้องน้อย) ตอนนี้เหลืออีกแค่นิดเดียว การตัดของเมิ่งฮ่าวก็จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์

ตอนนี้ปราณสีดำได้รวมตัวเข้าด้วยกันอยู่อีกด้านของร่างเขา เพื่อก่อตัวเป็นปีกสองข้างอย่างช้าๆพวกมันเริ่มมีรูปร่างหน้าตาเหมือนเมิ่งฮ่าว หนึ่งในเงาร่างนั้นกำลังแผดร้องด้วยความเกรี้ยวกราดมายังเมิ่งฮ่าวอีกร่างกำลังกระซิบมาที่เขาด้วยเสียงแผ่วเบา

ดูเหมือนว่าพวกมันไม่ยินดีที่จะต้องถูกตัดให้ขาดหายไปพวกมันถือกำเนิดขึ้นมาจากจิตมารและเป็นส่วนหนึ่งของเขาพวกมันต้องการจะคงอยู่ภายในจิตใจเขาไม่ต้องการที่จะถูกตัดไป

เมิ่งฮ่าวนั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆด้วยสีหน้าว่างเปล่า

ในตอนนี้เขาได้ลืมไปว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนการตัดวิญญาณในจิตใจเขามองเห็นภาพของตนเองสองภาพและพวกมันกำลังต่อสู้กันเองอยู่

ขณะที่จิตมารพุ่งขึ้นมาเขาก็คิดย้อนกลับไปยังสิ่งที่ได้เห็นในครั้งแรก ที่เขาบุกเข้าไปในสำนักชิงหลัว ขณะที่จิตมารอีกดวงกระซิบกับเขาทำให้เขาต้องคิดไปถึงตอนที่โอบกอดซากศพของสวี่ชิงไว้และเสียงหัวเราะอย่างโหดเหี้ยมของผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือ

เขาหยุดชะงักนิ่ง

ในตอนที่เจตจำนงของเขาหยุดชะงักไป หมอกใบมีดก็หยุดนิ่งไปด้วยเช่นกัน

คนทั้งหมดในสนามรบกำลังมองไปที่เขาอย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกับปรมาจารย์จากสำนักและตระกูลต่างๆในดินแดนตะวันออก

ผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิมีสีหน้ายินดีเมื่อได้เห็นเมิ่งฮ่าวลังเลอยู่ ร้องตะโกนอยู่ภายในใจด้วยความยินดี “หยุด! หยุดได้แล้ว!”

ในตระกูลจี้แห่งดินแดนตะวันออก ปรมาจารย์เด็กหนุ่มที่ไร้แขนมองไปด้วยดวงตาที่สาดประกาย

ในเจดีย์แห่งถัง สตรีนางนั้นมีท่าทางกังวลใจอย่างถึงที่สุดแต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ ถ้านางสอดมือเข้าไปก็จะทำให้เกิดผลในด้านลบอย่างใหญ่หลวง ทุกสิ่งทุกอย่าง…ขึ้นกับเมิ่งฮ่าวเพียงผู้เดียว

เวลาผ่านไปสิบลมหายใจ

ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่สิบลมหายใจเท่านั้นแต่สำหรับคนทั้งหมดที่กำลังมองดูอยู่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเวลาที่ยาวนาน, นานมากๆ

เมิ่งฮ่าวนั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ดวงตาหลับอยู่เมื่อลืมขึ้นมาพวกมันก็สาดประกายด้วยความเยือกเย็นเป็นความเยือกเย็นที่ไม่มีใครบอกได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่แต่ภาพมารทั้งสองที่อยู่กันคนละข้างของเมิ่งฮ่าวก็มีท่าทางดีใจ

“ผู้คนบอกว่ามีความคิดที่ขัดแย้งกันสองอย่าง ดีและเลว” เมิ่งฮ่าวพึมพำ

“แทนที่จะบอกว่าการตัดครั้งที่สามของข้าคือการตัดจิตมารก็น่าจะดีกว่าถ้าจะบอกว่ามันคือการตัดความเลวออกไป”

“แต่…มันจะตัดความเลวออกไปได้หมดจริงๆ?”

“ถ้ามนุษย์เหลืออยู่แค่ความดีเท่านั้น บางทีก็อาจจะทำให้โลกนี้งดงามมากขึ้นแต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่ความจริง ถ้าไม่มีความเลวเหลืออยู่เลย บางทีความดี…ก็อาจจะไม่ถูกเรียกว่าความดีอีกต่อไป”

“ดีหรือเลวเป็นการตัดสินของจิตใจ ถ้าข้าทำดีอย่างแท้จริงความเลวก็จะถูกสะกดข่มไว้ในทำนองเดียวกัน ถ้าข้าคิดร้ายมุ่งกระทำแต่ความเลวความดีก็จะถูกสะกดไว้”

“บางทีอาจจะไม่มีอะไรที่เป็นความดีหรือความเลวอย่างแท้จริงในโลกนี้เช่นเดียวกับสิ่งที่ท่านอาจารย์ตานกุ่ยได้เคยบอกข้า เกี่ยวกับสิ่งที่ถูกหรือผิด”

“สิ่งที่ข้ามี…คือเจตจำนงของข้าเอง!”

“เป็นทางเลือกที่ทำให้ข้าสามารถตัดสินใจได้ในทุกๆเรื่อง!” ขณะที่เสียงเมิ่งฮ่าวดังก้องออกมา บทเพลงแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ก็ดังขึ้นมาอยู่รอบๆ ตัว รวมทั้งพลังแห่งกฎธรรมชาติ นี่เป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แต่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นหลังจากที่เมิ่งฮ่าวได้พูดออกมา

เห็นได้ชัดว่า…กฎแห่งธรรมชาติกำลังเกิดขึ้นจากคำพูดเหล่านั้นของเมิ่งฮ่าว!!

เมื่อผู้แข็งแกร่งค้นหาเต๋ารับรู้ได้ถึงกฎธรรมชาติเหล่านั้น จิตใจพวกมันก็สั่นสะท้านในตอนนี้เองที่…

“เต๋าอันยิ่งใหญ่ทำการตัดต่อไป!” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ

ตูม!

หมอกใบมีดตัดผ่านจุดตันเถียนของเมิ่งฮ่าวไป ผ่านร่างเขาไปอย่างสมบูรณ์ เสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจได้ยินมา กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ขณะที่สองเงาร่างมารที่อยู่คนละข้างของเมิ่งฮ่าว ถูกแยกออกไปจากร่างเขาโดยสิ้นเชิง

ในตอนนั้นเอง บรรยากาศอันโหดเหี้ยมดุร้ายใดๆของเมิ่งฮ่าวก็จางหายไป กลิ่นอายของนักศึกษากลับคืนมา ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องหมายบนมือขวาของเขาก็แวบแสงเจิดจ้าขึ้นมาอีกครั้ง เต็มไปด้วยกลิ่นอายอันลี้ลับ กฎธรรมชาติอันทรงพลังพุ่งไปมาอยู่รอบๆ ตัวทำให้อากาศบิดเบี้ยวกลายเป็นลมพายุอันน่าตกใจที่ม้วนกวาดออกไป

หลังจากที่ได้เป็นสักขีพยานในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้ที่อยู่ในสนามรบ ทันใดนั้นก็เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นนี้และสีหน้าของพวกมันก็เต็มไปด้วยความยินดีอย่างถึงที่สุด

“เมิ่งฮ่าว!!”

“เมิ่งฮ่าว!!”

“เมิ่งฮ่าว!!” เสียงของผู้คนนับแสนดังก้องขึ้นมา ดวงตาพวกมันเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งเจ้าอ้วนอยู่ในกลุ่มฝูงชน แผดร้องออกมาจนสุดเสียงแม้จะคอแห้งอยู่ก็ตามที

ผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกก็ส่งเสียงแผดร้องออกมาเช่นเดียวกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกของชนเผ่าจินอู (อีกาทองคำ)และวิหารจินกวง (แสงสีทอง)

แต่กลับกันโดยสิ้นเชิงผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือกำลังสั่นสะท้านและมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความหวาดกลัวและครั่นคร้าม

สูงขึ้นไปในกลางอากาศ ตานกุ่ยกำลังหัวเราะเป็นเสียงดังออกมา พร้อมกับปรมาจารย์ซ่งถึงแม้ว่ามันจะตกอยู่ในสถานะที่อ่อนแออยู่ก็ตามที

ผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าแห่งดินแดนทางเหนือ มีใบหน้าที่ซีดขาวพวกมันทั้งหมดต่างก็สงสัยว่า…เมิ่งฮ่าวจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเท่าใดกันแน่!

“มันเพิ่งจะผ่านเข้าไปในขั้นค้นหาเต๋า”ผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิคิด กัดฟันแน่น “เหล่าฟูจะทำให้วันที่ผ่านเข้าไปในขั้นค้นหาเต๋ากลายเป็นวันตายของมันเอง!”มันผลักความครั่นคร้ามหวาดกลัวออกไปมองเห็นรังสีสังหารอันเข้มข้นเต็มอยู่ในแววตา

ในเวลาเดียวกันนั้น สองจิตมารก็รวมตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นกลิ่นอายสีดำขนาดใหญ่เมื่อพวกมันถูกตัดไปก็ไม่อาจจะคงอยู่ได้อีกต่อไปและเริ่มจะจางหายไป

“ช่างน่าเสียดายที่จะปล่อยให้จิตมารเช่นนี้ต้องหายไป…” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบด้วยเช่นนั้นเขาก็ยกนิ้วขึ้นทำให้จิตมารสั่นสะท้าน จากนั้นมันก็พุ่งตรงไปยังร่างจริงที่สองของเขา

ดวงตาของร่างจริงที่สองลืมขึ้นมาในทันทีและสูดลมหายใจเข้าไป ทันใดนั้นจิตมารก็พุ่งเข้าไปในร่างมัน ผ่านทางจมูกและปาก ดวงตาร่างจริงที่สองเริ่มเจิดจ้าขึ้นด้วยแสงอันเย็นชาในทันทีเป็นความเย็นชาที่ดูเหมือนจะดุร้ายและน่ากลัว จนกระทั่งดูโหดเหี้ยมความต้องการเข่นฆ่าสังหารเริ่มกระจายออกมาจากร่างมัน

มันถูกห้อมล้อมด้วยกลิ่นอายสีดำ จนทำให้ดูคล้ายกับเป็นมารเซียนโดยสิ้นเชิง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!