Skip to content

Outside Of Time 923

Outside of Time
BC

บทที่ 923 ชั้นบางๆ

ภายในถ้ำ ร่างของสวี่ชิงกลายเป็นสายรุ้ง พุ่งตรงไปยังหนูทอง เส้นวิญญาณ 40 ล้านเส้นก่อตัวเป็นโลกด้วยพลังอันน่าตกใจ

C

ชายหนุ่มแซ่เฟิงสูดหายใจเข้าลึกๆ โลก 5 ใบ โลกจริง 2 ใบและโลกเสมือน 3 ใบ ปรากฏขึ้นในร่างกาย ปล่อยแสงสีต่างๆ โจมตีไปทางหนูทอง

หลานเหยาเองก็เช่นกัน กลีบดอกไม้โดยรอบก่อตัวเป็นพายุ กลายเป็นนกยูง 8 สี ดูดพลังจากฟ้าดินรอบด้าน จากนั้นพุ่งสูงขึ้นร้อยจั้ง ส่งเสียงหวีวหวิว พุ่งเข้าใส่หนูทอง

ในขณะเดียวกัน หุ่นเชิดศพก็พุ่งเข้าใส่อย่างไม่กลัวตาย

พลังจาก 4 ทิศทาง พุ่งเข้าโจมตีหนูทองจากทิศทางต่างๆ

ชั่วขณะหนึ่ง พลังทำลายล้างนั้นก็น่าสะพรึงดั่งสายรุ้ง

เสียงคำรามสนั่น ผนังดินโดยรอบสั่นสะเทือนจนเกิดสัญญาณของการพังทลาย ซากปรักหักพังเบื้องล่างก็พังทลายลง รากไม้เหี่ยวเฉานับไม่ถ้วนกลายเป็นเถ้าถ่าน

แต่หนูทองตัวนี้ก็น่ากลัวไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นกายเนื้อหรือความเป็นเทพในกายของมัน ล้วนแต่อยู่ในขั้นสูงสุดของสิ่งมีชีวิตประเภทเทพ ห่างจากกไฟเทวะเพียงเล็กน้อย

ด้วยเหตุนี้ การโจมตีของพวกสวี่ชิงทั้ง 4 ทางจึงเปี่ยมด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง ทว่าแสงสีทองทั่วร่างกายของหนูทองกลับส่องแสงวาบในชั่วขณะนั้น

ในชั่วพริบตา โลกภายในถ้ำทั้งหมดก็กลายเป็นสีทอง

พลานุภาพทำลายล้าง กวาดไปทุกทิศทางพร้อมกับแสงทองอันสว่างไสว

ที่ที่แสงสีทองเคลื่อนผ่าน โลกที่เกิดจากเส้นวิญญาณ 40 ล้านเส้นของสวี่ชิงก็พังทลายลงทันที แสงสีทองกลายเป็นพลังท่วมท้น กระแทกใส่ร่างสวี่ชิง ทำให้เขาพ่นเลือดออกมา ร่างเซถลา

ชายหนุ่มแซ่เฟิงเองก็เช่นกัน ภายใต้แสงสีทอง โลกทั้งหมดแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ร่างกายม้วนตัวไปด้านหลังด้วยพลานุภาพที่ไม่อาจต้านทาน

หลานเหยาก็เช่นกัน นกยูง 8 สีถูกแสงสีทองฉีกกระชาก ใบหน้าของนางซีดเผือด ฉายแววเคร่งขรึมอย่างยิ่ง ถอยหลังพร้อมกับป้องกัน

หลังจากที่แสงสีทองผ่านไป มันก็สั่นเทา ในชั่วพริบตา ร่างของหนูทองก็ปรากฏขึ้นตรงหน้ามัน อ้าปาก เผยให้เห็นฟันสีดำ กัดลงไปอย่างแรง

เสียงดังกร๊อบ

ร่างครึ่งหนึ่งของหุ่นเชิดศพถูกหนูทองกลืนกิน ครึ่งที่เหลือถูกเหวี่ยงข้ามหัวของหนูทอง กระแทกเข้ากับผนังดินด้านข้าง แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ก่อนจะดับสูญไป

ภาพนี้ทำให้พวกสวี่ชิงทั้ง 3 คนตกตะลึง

แต่หลังจากที่หนูทองฆ่าหุ่นเชิดแล้ว ก็ไม่ได้พุ่งเข้าทำร้ายพวกสวี่ชิงทั้ง 3 คนต่อ แต่กลับเดินไปริมทางเดิน จ้องมองด้วยสายตาดุร้าย

“หากทั้ง 2 ท่านมีเพียงวิธีการเหล่านี้ ข้าขอถอนตัวจากการเดินทางครั้งนี้!”

สวี่ชิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ร่างกายถอยร่นอย่างต่อเนื่อง ความน่ากลัวของหนูทองเกินกว่าที่เขาจะต่อต้านได้

หากฝืนต่อไป ความตายจะมาเยือนในพริบตา

เพราะเมื่อครู่เพียงแสงทองวาบผ่าน ก็ทำให้โลกพังทลาย อีกทั้งหนูทองยังทำลายหุ่นเชิด สวี่ชิงถามกับตนเอง ต่อให้ต้านทานได้ แต่ก็ต้องแลกมาในราคามหาศาล

“ช้าก่อนสหายเต๋าเหยียนเสวียนจื่อ หนูทองตัวนี้ไม่ปกติ ดูเหมือนว่ามันจะเอาแต่ขวางอยู่ตรงนั้น ไม่ยอมให้พวกเราเข้าไป หรือว่าสระพิสดารบันลือที่ปฐมบรรพจารย์ของข้าจัดเตรียมไว้ มีสิ่งสำคัญของหนูทองตัวนี้อยู่?”

“หรือว่าเป้าหมายของมันคือวารีพิสดารบันลือ?”

ชายหนุ่มแซ่เฟิงใบหน้าบิดเบี้ยว มองไปยังเจ้าหนูสีทองที่เฝ้าตรงทางเดิน ส่งเสียงคำรามต่ำ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ร่างของสวี่ชิงก็หยุดชะงัก

ฝั่งหลานเหยาหอบหายใจถี่ ทันใดนั้นดวงตาของนางก็ฉายแสง 8 สี มองไปที่หนูทอง จากนั้นก็พูดอย่างรวดเร็ว

“ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ปกติ ความเป็นเทพของสัตว์ตัวนี้ถึงขั้นสูงสุดแล้ว อยู่ในสถานะที่กำลังจะจุดไฟเทวะ ห่างจากมหาขั้นเตรียมสู่เทวะขั้นบริบูรณ์ของผู้บำเพ็ญไม่มาก”

“ทว่าพลังการต่อสู้ที่มันแสดงออกมานั้นแข็งแกร่ง แต่ไม่ได้น่ากลัวเท่ามหาขั้นเตรียมสู่เทวะขั้นสูงสุด…”

“ข้าเข้าใจแล้ว สัตว์ตัวนี้เคยเป็นเทพเจ้า ไฟเทวะของมันดับไปแล้ว และในร่างกายมีบาดแผลสาหัส สั่นคลอนรากฐาน น่าจะเป็นบาดแผลที่เหลือจากการต่อสู้ที่มันถูกดับไฟเทวะ!”

“ซึ่งยังไม่หายดีจนทุกวันนี้ และสัตว์ตัวนี้ดูเหมือนจะเพิ่งคลอดลูก…จึงอ่อนแอมาก!”

แสง 8 สีในดวงตาของหลานเหยามีพลังทะลุทะลวงที่น่ากลัวอย่างเห็นได้ชัด นางเห็นจุดสำคัญมากมาย

เมื่อสวี่ชิงได้ยินเช่นนี้ เขาก็ครุ่นคิด ข้อมูลเหล่านี้สอดคล้องกับการประเมินของเขา โดยเฉพาะไข่ 2 ฟองหลังทางเดินนี้ที่เขามองเห็นผ่านเจ้าเงา…

“ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่สัตว์ร้ายตัวนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะต่อต้านได้ แต่ข้ามีสมบัติลับ อาจจะขังอีกฝ่ายไว้ได้ชั่วขณะ”

หลานเหยาพูดอย่างรวดเร็วขณะระวังหนูทอง

“แต่การใช้สมบัตินี้ต้องใช้เวลา ดังนั้นสหายเต๋าเฟิงและสหายเต๋าเหยียนเสวียนจื่อ ระหว่างนี้ข้าขอให้พวกท่านคุ้มครองข้า”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายหนุ่มแซ่เฟิงก็พยักหน้าทันที จากนั้นก็มองไปที่สวี่ชิงอย่างเย็นชา มือที่บีบคอเอ้อร์หนิวออกแรงเล็กน้อย เสียงดังลั่น

มีเจตนาข่มขู่อย่างชัดเจน ไม่ต้องแสดงออกมาเป็นคำพูด

สีหน้าของสวี่ชิงไม่สู้ดี หลังจากเงียบไปสองสามอึดใจ เขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆ พูดด้วยเสียงต่ำ “ข้าจะคุ้มครองเพียงชั่วก้านธูป หลังจากพ้น 1 ชั่วก้านธูป หากยังไม่อาจขังสัตว์ร้ายตัวนี้ได้ ข้าจะยอมแพ้ทันที เรื่องที่นี่ ข้าจะไม่เข้าร่วมอีกต่อไป และสหายเต๋าเฟิงจะต้องปล่อยศิษย์พี่ใหญ่ของข้าเมื่อข้าจากไป”

ชายหนุ่มแซ่เฟิงพยักหน้าอย่างเด็ดขาด ตราบใดที่สวี่ชิงไม่ขอให้ปล่อยคนตอนนี้ เขาก็รับได้

เมื่อเห็นว่าสวี่ชิงและชายหนุ่มแซ่เฟิงเห็นด้วยกับวิธีการของนาง หลานเหยาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป ถอยหลังไปเล็กน้อย นั่งขัดสมาธิจากไกลๆ หยิบกระจกออกมาวางไว้ตรงหน้า

จากนั้นจึงประสาน 2 มือเป็นปางมือ ส่งพลังเข้าไปในกระจก ทันใดนั้นกระจกก็ส่องแสง กลับปรากฏดวงตาที่ปิดสนิท 9 ดวง

ดวงตาทั้ง 9 ดวงนี้ให้ความรู้สึกที่น่าขนลุก กลิ่นอายก็เพิ่มขึ้น

“กระจก 9 เนตรมารทมิฬ!”

หลังจากที่ชายหนุ่มแซ่เฟิงกวาดสายตาดู เขาก็เริ่มเคลื่อนไหว เชื่อคำพูดของหลานเหยามากขึ้น

ดวงตาของสวี่ชิงเองก็ปราฏแสงประหลาดวาบผ่านเช่นกัน

“กระจกนี้คล้ายกับของวิเศษเวท 7 เนตรโลหิตเลย…”

ในเวลาเดียวกัน ขณะที่กลิ่นอายของกระจกนี้กระจายออกไป หนูทองที่เฝ้าอยู่ที่ทางเข้าก็หันขวับไปทางหลานเหยา ดวงตาเต็มไปด้วยความดุร้าย เมื่อแสงสีทองส่องสว่าง ร่างของมันก็พร่าเลือนอีกครั้ง

เสี้ยววินาทีต่อมา ร่างของหนูทองก็พุ่งเข้าใส่หลานเหยาพร้อมกับเสียงหวีดหวิว

ชายหนุ่มแซ่เฟิงไม่ลังเล ขัดขวางอย่างสุดกำลัง สวี่ชิงเองก็กัดฟัน ร่วมมือคุ้มครอง

เสียงคำรามดังขึ้น สวี่ชิงสั่นสะท้านไปทั้งร่าง รู้สึกถึงเพียงแสงสีทอง พลังอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้ามา เสี้ยววินาทีต่อมา ร่างของเขาก็เซถลา พ่นเลือดออกมา

เกราะมหาขุนพลนภาทมิฬบนร่างกายก็ปรากฏรอยแตกร้าวนับไม่ถ้วน เกราะเวทนพกาฬก็เช่นกัน ร่างกายเทพของเขาสั่นเทา อวัยวะภายในปั่นป่วนอย่างรุนแรง

ชายหนุ่มแซ่เฟิงเองก็อาการหนักไม่แพ้กัน เขากระอักเลือดออกมา แต่ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ เขากลับหยิบวงแหวนสีม่วงออกมาอย่างไม่เต็มใจ ก่อตัวเป็นเกราะป้องกัน

พลังป้องกันนี้น่าตะลึง แม้จะปรากฏรอยแตกร้าว แต่ท้ายที่สุดก็ขัดขวางการโจมตีของหนูทองได้

“เหยียนเสวียนจื่อ ส่งพลังเข้าไปในวงแหวนนี้!”

ชายหนุ่มแซ่เฟิงหน้าซีด พูดอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันก็โคจรพลังบำเพ็ญทั่วร่างหลอมรวมเข้าไปในวงแหวนสีม่วง ทำให้การป้องกันของสมบัติชิ้นนี้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

วงแหวนสีม่วงนี้เป็นไพ่ตายที่เขาเตรียมไว้สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เดิมทีตั้งใจจะใช้ในภายหลัง แต่ตอนนี้ไม่มีทางเลือก จำต้องนำออกมาใช้ล่วงหน้า

สวี่ชิงเงียบ มองวงแหวนสีม่วง และเห็นว่าสิ่งนี้ไม่ธรรมดา เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ลังเลเล็กน้อย แต่ในชั่วพริบตาก็ทำการตัดสินใจ ส่งพลังออกไป หลอมรวมเข้าไปในเกราะป้องกันวงแหวนสีม่วง

ในพริบตา เมื่อพลังป้องกันของวงแหวนสีม่วงเพิ่มขึ้น หนูทองที่อยู่ข้างนอกก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง พลังของแสงสีทองปะทุขึ้น เมื่อรวมกับการพุ่งชน ก่อตัวเป็นพลังมหาศาลที่น่ากลัว

เสียงดังสนั่น เกราะป้องกันวงแหวนสีม่วงส่องแสงอย่างรวดเร็ว ปรากฏรอยแตก สวี่ชิงและชายหนุ่มแซ่เฟิงที่อยู่ภายใน พ่นเลือดออกมา ในที่สุดก็ขัดขวางได้อีกครั้ง

แต่หนูทองดูเหมือนจะคลั่งขึ้นมา ทันใดนั้นร่างของมันก็หยุดกลางอากาศ ทันใดนั้นขนสีทองทั้งหมดต่างตั้งชัน แล้วขาดออกจากกัน กลายเป็นเข็มสีทองนับไม่ถ้วน ทั้งหมดพุ่งเข้าใส่สวี่ชิงและชายหนุ่มแซ่เฟิง

ความเร็วที่น่าตกใจ พลานุภาพดุจสายรุ้ง ก่อตัวเป็นพายุสีทอง

ท่ามกลางเสียงคำราม การป้องกันของวงแหวนสีม่วงรองรับได้เพียง 1 ชั่วอึดใจก็พังทลาย วงแหวนเองแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

สีหน้าของสวี่ชิงและชายหนุ่มแซ่เฟิงเปลี่ยนไป ต่างก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าหมดพลังจริงหรือไม่

สถานการณ์ในขณะนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่อาจคุ้มครองได้อีกต่อไป

ดังนั้นเข็มสีทองเหล่านั้นจึงพุ่งตรงไปที่หลานเหยาทั้งหมด

เมื่อใกล้เข้ามา หลานเหยาที่หลับตาอยู่ก็ลืมตาขึ้น ความโกรธขึ้งแวบผ่านไป จากนั้นนางก็ยกมือขึ้นทันที กระจกตรงหน้านาง ดวงตาทั้ง 9 ดวงก็ลืมตาขึ้นพร้อมกัน

การที่สามารถลงมือได้ทันทีในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ สิ่งที่นางบอกกล่าวก่อนหน้านี้เรื่องที่ว่าต้องใช้เวลา จริงเท็จเพียงใดขึ้นอยู่กับมุมมองของใครของมัน

และตอนนี้ เมื่อดวงตาทั้ง 9 บนกระจกลืมตาขึ้น แสง 9 สายก็เปลี่ยนจากภาพเสมือนเป็นภาพจริง ก่อตัวเป็นลำแสงสีดำ 9 สาย

พลังมหาศาลปะทุขึ้นภายใน ที่ที่มันผ่านไป เข็มสีทองกลับหยุดกลางอากาศ

หนูทองตัวนั้นก็ถูกสายตาทั้ง 9 จับจ้อง ร่างกายสั่นเทา หยุดนิ่งกลางอากาศ แต่กลิ่นอายบนร่างกายของมันกลับปั่นป่วน เหมือนกำลังดิ้นรน

“ข้าขังมันไว้ได้เพียงธูป 1 ดอก หากสัมผัสมันในช่วงเวลานี้ มันจะหลุดออกทันที!”

หลานเหยาพ่นเลือดออกมากระเซ็นโดนกระจก ทำให้ดวงตาทั้ง 9 ในกระจกดูน่าขนลุกยิ่งขึ้น จากนั้นร่างกายก็สั่นไหวพุ่งตรงไปที่ทางเดิน โดยไม่สนใจกระจกที่ลอยคว้าง

ชายหนุ่มแซ่เฟิงก็รวดเร็วไม่แพ้กัน

สวี่ชิงกะพริบตา จากนั้นก็ตามไปอย่างรวดเร็ว

ในชั่วพริบตา ร่างของทั้ง 3 ก็หายไปจากภายนอก กลายเป็นสายรุ้ง 3 สาย พุ่งตรงไปตามทางเดิน

เมื่อไม่มีหนูทองขวางกั้น และเวลากำลังจะหมดลง ชายหนุ่มแซ่เฟิงและหลานเหยาก็ไม่มีใจที่จะซ่อนเร้นอีกต่อไป ดังนั้นการเดินทางในทางเดินนี้จึงราบรื่น

ในไม่ช้า พวกเขาทั้ง 3 ก็มาถึงสุดทางเดิน

ที่นี่เป็นถ้ำเช่นกัน แต่มีขนาดไม่ใหญ่ เพียงร้อยจั้ง มีร่องรอยหยาบกร้าน เห็นได้ชัดว่าถูกเปิดขึ้นอย่างเร่งรีบในอดีต

ตรงกลางมีสระขนาดครึ่งจั้ง ด้านบนมีกิ่งไม้สีเขียวอ่อนห้อยลงมาจากผนังดิน ทันทีที่ทั้ง 3 มาถึง มีของเหลวใสหยดหนึ่ง หยดมาจากกิ่งไม้นี้

กระทบกับผิวน้ำในสระเกิดเป็นเสียงหนึ่งดังขึ้น

พร้อมกับระลอกคลื่น ดึงดูดความสนใจของพวกสวี่ชิง

ในน้ำมีไข่ฟองหนึ่ง และยังมีกลิ่นหอมเข้มข้นลอยขึ้นมาจากน้ำ แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ

สวี่ชิงได้กลิ่น ก็รู้สึกว่าสมองปลอดโปร่งอย่างมาก แม้แต่อำนาจเทพเจ้าจางๆ จากกองดินในร่างกายของเขายังสั่นไหวเล็กน้อย

อำนาจเทพเจ้านับไม่ถ้วนไหลผ่านในใจของเขา

สวี่ชิงรู้สึกท่วมท้นจากผลกระทบนี้

“วารีศักดิ์สิทธิ์พิสดารบันลือ!”

ชายหนุ่มแซ่เฟิงและหลานเหยาต่างหายใจถี่

แต่หลังจากเห็นปริมาณน้ำในสระ สีหน้าของทั้ง 3 ก็ฉายแววปั้นยาก วารีศักดิ์สิทธิ์พิสดารบันลือในสระนั้นมีน้อยเกินไป…

มีเพียงชั้นบางๆ เท่านั้น

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!