บทที่ 949 จักรพรรดินี
ทุกสิ่งมีคำตอบแล้ว
เหตุใดสาปแช่งด้วยโลหิตจักรพรรดิมนุษย์ ไหมคำสาปสีดำนั้นไม่ได้มีเป้าหมายเป็นจักรพรรดิมนุษย์ หากลอยไปยังส่วนลึกของดาวจักรพรรดิโบราณ
เหตุใดในพิธีกรรมสำเร็จเทพก่อนหน้านี้ แท่นบูชา 5 เหลี่ยมนั้นถึงมีโลงศพรวมถึงศาลเจ้าของเสวียนจั้น
เหตุใดตอนสวี่ชิงหยิบตะเกียง กลิ่นอายศพที่ลอยแผ่ออกจากโลงศพทั้ง 5 กลายเป็นฝ่ามือ 5 นิ้วไม่ใช่ 4 นิ้ว
เหตุใดการกระทำขององค์ชายสิบเอ็ดผิดมหันต์ แต่จักรพรรดิมนุษย์เฉยเมยโดยตลอด ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้ลงมือจัดการเขาสักน้อยนิด ทั้งไม่เคยเข้าปราม กลับทำตัวอยู่ในสถานะผู้ปกครอง
เหตุใดองค์ชายสิบที่ถูกจักรพรรดิทุนเทียนยืมร่าง สุดท้ายมีเพียงจักรพรรดิทุนเทียนที่ถูกสังหารด้วยน้ำมือจักรพรรดิมนุษย์ แต่ตัวองค์ชายสิบไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด
ทั้งหมดล้วนมีคำตอบในชั่วขณะที่จักรพรรดิมนุษย์ลอกคราบใบหน้า
เพราะว่า นางไม่ใช่เสวียนจั้น!
นางคือคู่ฝึกเต๋าของเสวียนจั้น นางคือมารดาขององค์ชายสิบเอ็ดกับหนิงเหยียน ด้วยฐานะของนางตอนนั้น ถึงกับถูกเรียกเป็นจักรพรรดินีเผ่ามนุษย์และขาดแค่ได้รับการแต่งตั้งเท่านั้น
พริบตานั้น ผู้คนในดาวจักรพรรดิโบราณ กลุ่มขุนนางนอกดาวจักรพรรดิโบราณ แม้แต่ผู้บำเพ็ญในเมืองหลวงจักรพรรดิที่ให้ความสนใจอยู่ตรงนี้ ต่างจิตใจสั่นสะเทือน ต่างหวาดกลัวถึงขีดสุด ต่างมีฟ้าผ่าเลื่อนลั่นในหัว
ความจริงแล้ว…ระดับความสั่นสะท้านของเรื่องนี้เหนือจินตนาการ เหนือความเข้าใจทั้งปวง
เดิมนี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้
เพราะไม่ว่าทุกการกระทำคำพูดที่ผ่านมาของจักรพรรดิมนุษย์ หรือการดำรงชีวิตประจำวันล้วนเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีช่องโหว่เลยสักนิด
ต่อให้ทำได้สมบูรณ์แบบจริง แต่ตอนแท่นบูชา 5 เหลี่ยมปรากฏ พริบตาที่โลงศพของเสวียนจั้นปรากฏ ผู้คนถึงกับไม่รู้สึกแคลงใจ
หากเชื่อโดยสัญชาตญาณว่าโลงศพของเสวียนจั้นว่างเปล่า
เรื่องนี้คิดถ้วนถี่แล้วน่ากลัวยิ่ง
โดยเฉพาะ…กลิ่นอายศพ 5 สายลอยขึ้นจากโลงทั้ง 5 ใบ แต่ยังคงไม่มีใครตริตรองว่าเหตุใดเป็นเช่นนั้น…
ราวกับเรื่องอันว่าจักรพรรดิมนุษย์มิใช่เสวียนจั้นถูกปิดบังด้วยพลังน่าตื่นกลัวบางอย่าง กั้นไว้นอกเหนือความตระหนักของทุกคน
ทำให้ผู้คนเข้าใจความไม่สมเหตุสมผลทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ว่าสมเหตุสมผลโดยไม่รู้ตัว
จนกระทั่งตอนนี้
ผ้าคลุมแห่งความตระหนักถูกจักรพรรดิมนุษย์เลิกขึ้นเอง
ความจริงเผยตรงหน้า ความสั่นสะท้านที่เกิดขึ้นย่อมทำให้ผู้คนตื่นตะลึงกันหมด
ด้วยว่าผู้ที่สามารถปิดบังโดยไม่แย้มพรายและเปลี่ยนความเข้าใจของผู้คนได้นั้น เทพเจ้าอาจทำได้ แต่ก็ต้องเป็นผู้แข็งแกร่งในหมู่เทพชั้นสูง กระนั้นยังมีคนหนึ่งที่ทำได้เช่นกัน
และเขายิ่งมาทำเรื่องนี้ได้สมบูรณ์ไร้ที่ติ
นั่นคือ…จักรพรรดิครองกระบี่!
นี่ก็อธิบายแล้วว่าเหตุใดจักรพรรดิครองกระบี่ยอมรับจักรพรรดิมนุษย์มาตั้งแต่แรก เหตุใดก่อนหน้านี้กระบี่จักรพรรดิของสวี่ชิงไม่ลงมือกับจักรพรรดิมนุษย์
เพราะว่า…การปรากฏตัวของนาง ทุกสิ่งทุกอย่างของนางล้วนถูกจักรพรรดิครองกระบี่ยอมรับ!
พริบตานั้นความคิดนี้ไม่เพียงผุดขึ้นในหัวสวี่ชิง ยังปะทุขึ้นในจิตใจของทุกคน
ส่วนตอนนั้นสตรีปราดเปรื่องไร้ใดเทียมผู้นี้เผชิญเรื่องใด มีจุดพลิกผันกับเสวียนจั้นอย่างไร เสวียนจั้นทำให้นางสมปรารถนา หรือนางถูกกลืนกินตายแล้วฟื้นคืนชีพจริง กลายเป็นจักรพรรดิมนุษย์ด้วยวิธีใด…
หรือแกล้งตายสวมรอยเป็นจักรพรรดิมนุษย์ตั้งแต่ต้น…
เรื่องนี้ ไม่มีใครรู้ความจริง
กลายเป็นปริศนาตลอดกาล
แต่ในขณะที่เหล่าขุนนางเผ่ามนุษย์หวาดกลัว ในหัวมีเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นไม่ขาดสาย ตามมาด้วยความหวาดผวาและกังวลกับอนาตค มีสามคนสีหน้าปกติ
คนแรก คือราชเลขาที่นิ่งเงียบอยู่บนดาวจักรพรรดิโบราณโดยตลอด
ยามนี้ผู้อาวุโสผู้นี้ก้าวออกมา คุกเข่าคารวะไปยังจักรพรรดิมนุษย์
“ถวายบังคมจักรพรรดิมนุษย์!”
คนที่ 2 คือขันทีอาวุโสเตรียมสู่เทวะ 9 เขตขั้นที่อยู่ข้างกายจักรพรรดิมนุษย์ เขาก้มหน้า คุกเข่าคารวะเช่นกัน
“ถวายบังคมจักรพรรดิมนุษย์!”
คนที่ 3 คือคนที่เหนือความคาดหมายของทุกคน แต่พอคิดถ้วนถี่กลับสมเหตุสมผล นั่นคือ…อ๋องเจิ้นเหยียน
เขาสีหน้าสุขุม เดินจากข้างกายองค์ชายสิบเอ็ดมาถึงเบื้องหน้าจักรพรรดิมนุษย์ มองใบหน้านั้นของนาง นัยน์ตาฉายแววรำลึก สุดท้ายก้มหัวคุกเข่าคารวะ “ถวายบังคมจักรพรรดิมนุษย์!”
แท้จริงแล้วเขาไม่เคยทรยศ!
ทั้งหมดเป็นแค่การร่วมมือเท่านั้น
เพราะนี่คือหมากกระดานหนึ่ง
เป็นหมากกระดานที่สตรีปราดเปรื่องผู้เป็นตัวแทนเสวียนจั้นเตรียมไว้กว่า 1 ปีก่อน
ตอนนางเริ่มลงมือเตรียมพิธีกรรมสำเร็จเทพ รู้ว่าการกระทำเช่นนี้ต้องทำให้ขุมอำนาจทั้งหลายไม่ยอมรับ นางจึงซ่อนกำลังรบของตนมาโดยตลอด
นางไม่อาจเผยพลังบำเพ็ญเจ้าเหนือหัวขั้นสูงสุด แม้เผ่าอื่นบุกรุกเข้ามา แม้เผ่ามนุษย์อยู่ในสถานการณ์ล่อแหลม เว้นแต่ความเป็นความตายของเผ่ามาถึงอย่างแท้จริง…
ไม่อย่างนั้น หากนางเผยพลังบำเพ็ญเจ้าเหนือหัวขั้นสูงสุด สิ่งที่รอคอยเผ่ามนุษย์จะเป็นการมาเยือนของเหล่าเทพ
เทพเจ้าไม่อนุญาตให้เผ่าบนแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ปรากฏเจ้าเหนือหัวขั้นสูงสุด
แม้นางแสดงพลังขั้นสูงสุดได้แค่ในเขตแดนเผ่ามนุษย์ หากอยู่นอกเผ่ามนุษย์ จะเป็นแค่กึ่งขั้นสูงสุด
แต่ยังคงเป็นการทำผิดมหันต์
นางจึงทำได้เพียงอดทน
นางกำลังรอโอกาส โอกาสที่จะทำให้นางมีวิธีควบคุมสถานการณ์แม้แสดงกำลังรบออกมา
นางจึงไม่ได้สนใจหนิงเหยียน 2 พี่น้อง ปล่อยให้พวกเขาอยู่ข้างนอก ปล่อยให้มีความแค้นต่อจักรพรรดิมนุษย์เสวียนจั้นจนกลายเป็นจุดดึงดูดเผ่าอื่น
ใช้สิ่งนี้ตกเหยื่อ หมายเก็บผู้หยั่งเชิงทั้งหลายให้หมดในชั่วเวลาที่โอกาสมาถึง
ตอนนี้นางทำสำเร็จแล้ว
หลังจากราชเลขา ขันทีอาวุโสรวมถึงอ๋องเจิ้นเหยียนเข้าเฝ้า ในใจเหล่าขุนนางก็เกิดความคิดนับพันหมื่น ต่างคนสายตาสับสน แต่สุดท้าย…ยังพากันก้มหน้า
ใจสวี่ชิงก็เกิดพายุสะท้านสะเทือนไม่ต่างกัน
ฉากนี้เป็นการคาดเดาสุดท้ายที่โผล่มาในหัวเขาโดยแท้ แต่พอความจริงเปิดเผยตรงหน้า ความรู้สึกสั่นสะท้านเช่นนั้นยังคงรุนแรงหาใดเปรียบ
และที่ทำให้เขายิ่งเกิดคลื่นในใจ คือมารดาของหนิงเหยียนผู้นี้ถึงกับมีพลังบำเพ็ญเจ้าเหนือหัวขั้นสูงสุด
สวี่ชิงนิ่งเงียบ ถอนใจแผ่วเบา
ด้วยเขานึกถึงตอนเห็นกลิ่นอายคนใกล้ตายบนตัวจักรพรรดิครองกระบี่ตอนเพิ่งมาถึงเมืองหลวงจักรพรรดิ
ทั้งหมดนั้นคล้ายมีคำตอบ
‘เป็นไปได้หรือไม่ว่าจักรพรรดิครองกระบี่ใช้วิชาลับบางอย่างช่วยเหลือหรือถ่ายทอดให้จักรพรรดิมนุษย์ผู้นี้’
‘แล้วเอากระบี่จักรพรรดิมอบให้ข้า…’
สวี่ชิงไม่รู้ว่าการวิเคราะห์ของตนเป็นความจริงหรือไม่ บัดนี้เงยหน้าจ้องมองรูปปั้นจักรพรรดิครองกระบี่นอกดาวจักรพรรดิโบราณ
ส่วนด้านองค์ชายสิบเอ็ด ยามนี้นิ่งอึ้งเป็นท่อนไม้ ร่างกายสั่นเทา คนทั้งคนคล้ายสูญสิ้นกำลังไปทั้งหมด สีหน้าเขางุนงง กระทั่งเสียงจักรพรรดิมนุษย์ทอดมา
“หยุดก่อเรื่องได้แล้ว ถอยไปเสีย”
องค์ชายสิบเอ็ดรู้สึกสะเทือนใจด้วยประโยคนี้ ก้มหน้าลง น้ำตาแห่งความปีติไหลรินไม่หยุด
ความหัวดื้อหายไปหมดสิ้นในยามนี้
จักรพรรดิมนุษย์ที่ลอกคราบใบหน้าออกพลันหันมา
แววตานางเปี่ยมความยึดมั่นและเด็ดขาด สีหน้ามั่นใจแต่สุขุม ทุกกิริยาล้วนเปี่ยมด้วยพลังและความเฉียบขาด คล้ายกำลังใช้ความแน่วแน่ของตนบอกฟ้าดินว่านางคือจักรพรรดิของโลกใบนี้ นางมีพลังเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง
“เราคือจักรพรรดิมนุษย์ ขุนนางทั้งหลายมีความเห็นอื่นหรือไม่”
เสียงทรงพลังกึกก้องฟ้าดิน
8 ทิศเงียบสนิท ผ่านไปหลายลมปราณ เหล่าขุนนางนอกดาวจักรพรรดิโบราณต่างค้อมคารวะ
“ถวายบังคมจักรพรรดิมนุษย์!”
เสียงดังเลื่อนลั่น สะท้านฟ้าสะเทือนดิน
พริบตาต่อมา ดาวจักรพรรดิโบราณสนั่นหวั่นไหว โชคชะตาเผ่ามนุษย์ทั้งมวลป่วนปั่น ทั้งหมดนั้นมาถึงตัวจักรพรรดิมนุษย์ ปกคลุมทั่วทิศเสริมพลังให้นาง กลายเป็นกวานจักรพรรดิมายาเคลื่อนลงบนศีรษะ
เดิมโชคชะตายอมรับอยู่แล้ว บัดนี้ยิ่งยอมรับอีกครั้ง!
ยามนี้ หมื่นสายตาจับจ้องจักรพรรดิมนุษย์ นางเงยหน้าอยู่บนแท่นบูชาสวรรค์ เผชิญกับท้องนภาด้วยร่างสตรีและใบหน้าแท้จริง
“บูชาบรรพชนแล้ว ต้องบูชาสวรรค์!”
นัยน์ตานางฉายประกาย
ยิ่งมีความมั่นใจปะทุทั่วร่าง
พิธีกรรมยิ่งใหญ่ครั้งนี้ บัดนี้ส่วนแรกสิ้นสุด ส่วนที่ 2…กำลังเริ่มต้น!
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)



