Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1010

ตอนที่ 1010

เดิมพัน

หลังจากงานเลี้ยงผ่านไปสองสามวัน สามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่ได้จากไป เช่นเดียวกับสำนักและตระกูลต่างๆ ทั้งหมด เรื่องสัญญาแต่งงานกับตระกูลหลี่ยังไม่ได้ข้อสรุปใดๆ ฟางโส่วเต้าไม่ได้ลังเลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ยังคงพยายามต่อไป

เมื่อผ่านไปสองสามวัน ฟางโส่วเต้าก็เรียกเมิ่งฮ่าวมาหลายครั้ง แต่เมิ่งฮ่าวอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้เป็นแค่นายน้อยของตระกูลเท่านั้น ตอนนี้เขายังเป็นดวงตะวันอันเจิดจ้าอีกด้วย

ดังนั้น เขาจึงไม่สนใจฟางโส่วเต้าโดยสิ้นเชิง ละทิ้งเรื่องราวเหล่านี้ไว้ด้านข้าง ด้วยการเพ่งสมาธิไปที่การฝึกฝนผลเนี่ยผาน

สามวันต่อมา ขณะที่เมิ่งฮ่าวนั่งขัดสมาธิเข้าฌานอยู่ในที่พัก ฟางโส่วเต้าก็มาหาด้วยตัวเอง ทันทีที่มันผ่านเข้าไปในลานบ้าน มันก็ส่งกลิ่นอายของตนเองออกไป และฉับพลันนั้นเมิ่งฮ่าวก็ลืมตาขึ้นมาในทันที

ในตอนนี้เองที่ฟางโส่วเต้าได้มาปรากฏกายขึ้นที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว ใบหน้ามันเคร่งเครียดขณะที่มองมาที่เขา จากนั้นก็ถอนหายใจยาวออกมาและนั่งลงขัดสมาธิ

เมิ่งฮ่าวนั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ไม่พูดอะไรออกมา

“นางมีความสำคัญกับเจ้ามากจริงๆ?” ฟางโส่วเต้าถามขึ้นอย่างช้าๆ มองไปยังเมิ่งฮ่าว อันที่จริงแล้วเมิ่งฮ่าวก็มีความสำคัญต่อฟางโส่วเต้าเป็นอย่างยิ่ง แต่เป็นความสำคัญที่เมิ่งฮ่าวไม่ได้ตระหนักถึงแม้แต่น้อย

สำหรับฟางโส่วเต้าแล้ว เรื่องที่สำคัญมากที่สุดในตอนนี้ก็คือว่า ทำให้ตระกูลฟางสามารถจะคงอยู่ไปอีกนานนับพันปี

นอกจากนั้นมันยังต้องการที่จะช่วยให้เมิ่งฮ่าวเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น นั่นคือเหตุผลเดียวที่ทำไมมันถึงไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอของสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่

มันเชื่อว่าด้วยการไปอยู่ในสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่ เมิ่งฮ่าวจะต้องได้รับการฝึกฝนที่ดีกว่าการที่เขาจะอยู่ในตระกูลฟาง

สำหรับสถานการณ์ด้านการเงินของตระกูล เป็นสิ่งที่มันไม่ได้หลอกลวงเมิ่งฮ่าวแม้แต่น้อย

“นางเป็นภรรยาของข้า” เมิ่งฮ่าวกล่าวตอบ ด้วยเสียงที่แผ่วเบา พร้อมกับก้มศีรษะลง

หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ ฟางโส่วเต้าก็พูดขึ้น ถึงแม้ว่าเสียงนั้นไม่ได้ฟังดูเศร้าหมอง เหมือนกับตอนที่มันได้ต่อรองแบ่งทรัพย์สมบัติกับเมิ่งฮ่าวก็ตามที แต่น้ำเสียงและสีหน้าของมันก็ดูเหมือนว่าจะมีความเคร่งเครียดและจริงจังมากกว่าในตอนนั้น

“เจ้าปล่อยนางไปได้หรือไม่? เจ้าคือนายน้อยแห่งตระกูลฟาง ก็แค่ลืมนางไปเท่านั้น”

“ถ้าเจ้าไม่อาจจะปล่อยนางไปได้ชั่วนิรันดร์” มันกล่าวขึ้นอย่างเงียบๆ

“ถ้าเช่นนั้นก็แค่หนึ่งพันปีเป็นอย่างไร? ถ้าเจ้าไม่ชอบหญิงสาวตระกูลหลี่ เจ้าไม่จำเป็นต้องไปสนใจนางก็ได้ ตระกูลทั้งหมดต่างก็ต้องการพันธมิตร พวกมันก็เป็นเช่นเดียวกับตระกูลหลี่ แค่ต้องการพันธมิตรเท่านั้น”

“การแต่งงานเป็นแค่พิธีการเท่านั้น”

เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไปยังฟางโส่วเต้าอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็ตบไปที่ถุงสมบัติหยิบเอาของวิเศษอันล้ำค่าแห่งอาณาจักรโบราณ ซึ่งก็คือเหรียญคำสั่งนายน้อยของตนเองออกมา เขาลูบมันอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะวางลงไปที่เบื้องหน้าของฟางโส่วเต้าด้วยความระมัดระวัง

ดวงตาฟางโส่วเต้าเบิกกว้างขึ้น และคลื่นแห่งโทสะก็เริ่มพุ่งขึ้นมาอยู่ภายในจิตใจ มันมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจ

“ในจิตใจของเจ้า เด็กหญิงนางนั้นมีความสำคัญมากไปกว่าตระกูลทั้งหมดจริงๆ?” มองเห็นสีหน้าผิดหวังของฟางโส่วเต้าได้อย่างชัดเจน นี่คือความผิดหวังที่แท้จริง ไม่ใช่การเสแสร้งเหมือนก่อนหน้านี้

“ท่านปรมาจารย์…”

“ข้าไม่เคยลืมเลือนเกี่ยวกับชีวิตในช่วงแรกบนดาวหนานเทียน” เมิ่งฮ่าวพึมพำ “สิ่งที่ข้าจำได้จากตอนที่ยังเยาว์วัยก็คือว่าบิดาและมารดาข้าจากไป ข้าจำได้ถึงการเดินไปค้นหาพวกท่านในกลุ่มหมอก ต้องร้องไห้ออกมาเพราะว่าข้าไม่อาจจะพบเห็นพวกท่าน”

“หลังจากที่เติบโตขึ้น ข้าไปสอบแข่งขันเพื่อเป็นขุนนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากนั้น ข้าก็มีความฝันที่จะกลายเป็นผู้ร่ำรวยเมื่อเติบใหญ่ขึ้น”

“ในที่สุดข้าก็ได้พบกับนาง และได้เข้าสังกัดสำนัก นั่นคือวิธีการที่ข้าได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกแห่งการฝึกตนนี้”

“จริงๆ แล้วนางคือศิษย์พี่ของข้าจากสำนักนั่น” หลังจากนั้นเมิ่งฮ่าวก็บอกฟางโส่วเต้าเกี่ยวกับสวี่ชิงไปจนหมดสิ้น เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวพร้อมทั้งรายละเอียดทั้งหมด เท่าที่เขาสามารถจดจำได้ออกมา

“ท่านปรมาจารย์ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ข้าได้ตายไป แต่นางก็ยอมละทิ้งอายุขัยอันยืนยาวของนางไป เพื่อช่วยชีวิตข้า…”

“เมื่อพวกเราแต่งงานกัน มันก็กลายเป็นวิวาห์สีเลือด ที่เปียกชุ่มไปด้วยโลหิต…”

“ข้าได้สัญญากับนางว่าข้าจะไปค้นหานางในตอนที่นางได้ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่” ขณะที่เสียงของเขาดังก้องออกไป ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกแห่งความทรงจำ ใบหน้าของฟางโส่วเต้าค่อยๆ อ่อนโยนลง มองไปยังเมิ่งฮ่าวเป็นเวลานาน จากนั้นก็ถอนหายใจออกมา

 

“มันก็เป็นแค่พิธีการเท่านั้น” มันกล่าวขึ้น หลับตาลง “ทำไมเจ้าถึงต้องเป็นเช่นนี้ด้วย?!”

“สำหรับตระกูลแล้ว มันอาจจะเป็นแค่พิธีการ” เมิ่งฮ่าวกล่าวตอบด้วยเสียงราบเรียบ “แต่สำหรับข้าแล้ว มันคือการทรยศหักหลัง ท่านปรมาจารย์ ได้โปรดแต่งตั้งคนอื่นขึ้นมาเป็นนายน้อย ตระกูลหลี่ไม่ได้ต้องการหาสามีให้กับหลี่หลิงเอ๋อร์ สิ่งที่พวกมันต้องการคือพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็สามารถจะจับคู่กับนางได้ แล้วทำไมถึงต้องเป็นข้า? ดังนั้นขอท่านได้โปรดแต่งตั้งคนอื่น มันน่าจะเป็นคำตอบที่ดีสำหรับตระกูล”

ฟางโส่วเต้านิ่งเงียบไป หลังจากที่ผ่านไปนานสักพัก มันก็ลุกขึ้นมายืนและโบกสะบัดชายแขนเสื้อ ไม่ได้นำเหรียญคำสั่งนายน้อยจากไป แต่ส่งให้มันลอยกลับไปในฝ่ามือของเมิ่งฮ่าว

“ในอีกสามเดือน สามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่จะมารับตัวเจ้าไป ข้าได้จัดเตรียมหินลมปราณหนึ่งพันห้าร้อยล้านก้อนให้เจ้านำไปใช้ในการฝึกตนแล้ว เดิมทีข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะบอกเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เมื่อคิดว่าเจ้าไม่ยอมรับการแต่งงาน ถ้าเช่นนั้น…เจ้ากล้าที่จะเดิมพันกับข้าหรือไม่?”

“ถ้าเจ้าชนะ ข้าก็จะเป็นผู้รับผิดชอบในการยกเลิกสัญญาการแต่งงานเอง!”

“แต่ถ้าเจ้าแพ้ ก็ไม่อาจจะปฏิเสธการจัดการจากตระกูลได้ และเจ้าจะต้องเข้าร่วมพิธีการแต่งงาน!”

เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ

“ฮ่าวเอ๋อร์” ฟางโส่วเต้ากล่าวต่อไปพร้อมกับถอนหายใจออกมา “ถ้าปู่ของเจ้ายังคงอยู่ในตระกูล มันก็ต้องเกลี้ยกล่อมเจ้าให้กับข้าอย่างแน่นอน…”

ฟางโส่วเต้าคิดถึงปู่ของเมิ่งฮ่าว ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นคนที่มันโปรดปรานมากที่สุดในท่ามกลางกลุ่มผู้เยาว์ อันที่จริงในมุมมองของมัน สุดท้ายแล้วปู่ของเมิ่งฮ่าวจะต้องกลายมาเป็นผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าคนที่สามของตระกูล!

แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว ขณะที่เขารำลึกนึกไปถึงภาพอันเลือนรางของท่านปู่ เป็นภาพที่เขาไม่มีทางจะสามารถลืมเลือนไปได้

บิดามารดาของเมิ่งฮ่าวได้จากตระกูลไป เพื่อไปเป็นผู้พิทักษ์ดาวหนานเทียนเป็นเวลาหนึ่งแสนปี สำหรับท่านปู่ของเขา ท่านได้ออกไปค้นหาบุคคลภายนอกเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อบุคคลภายนอกมาถึง ท่านปู่ของเขาก็ได้หายตัวไป และไม่เคยติดต่อกลับมายังตระกูลอีกเลย

ด้วยความรู้สึกขมขื่นใจอยู่เล็กน้อย เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไปยังฟางโส่วเต้า ถามขึ้นว่า

“เดิมพันเรื่องอะไร!?”

“ก่อนที่สามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่จะมาถึง ให้เจ้ากระทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพื่อได้รับหินลมปราณไปหนึ่งพันห้าร้อยล้านก้อน แต่ไม่นับหยกเซียน ถ้าเจ้าสามารถทำได้ นับจากนี้เป็นต้นไป ตระกูลก็จะไม่เรียกร้องให้เจ้าทำสิ่งใดๆ ที่เจ้าไม่ต้องการจะทำอีก”

“เจ้าต้องไม่ใช้เล่ห์เหลี่ยมคดโกง, ขโมย หรือหยิบยืม และข้าก็จะไม่สอดมือเข้าไปเช่นเดียวกัน”

เมิ่งฮ่าวจ้องมองไปด้วยความตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็ก้มหน้าลงและคิดคำนวนอยู่สักพัก เมื่อเขามองกลับขึ้นไป สีหน้าก็สงบนิ่งขึ้นอีกครั้ง จ้องมองไปยังฟางโส่วเต้าด้วยแววตาที่เจ็บปวดใจอยู่เล็กน้อย พยักหน้าให้

ฟางโส่วเต้าไม่พูดอะไรออกมาอีก ลุกขึ้นยืน หันหลังและหายตัวไป

หลังจากที่มันจากไป เมิ่งฮ่าวก็เริ่มหอบหายใจแรงขึ้น ความคิดนับร้อยนับพันวิ่งไปมาอยู่ในจิตใจ รู้ตัวดีว่าเขาคือคนของตระกูล

และไม่อาจจะตัดความสัมพันธ์ของสายโลหิตให้ขาดไปได้ บิดามารดา, ท่านปู่ และเครือญาติคนอื่นๆ ต้องไม่เห็นด้วยที่เขาจะตัดความสัมพันธ์กับตระกูลฟาง

ยิ่งไปกว่านั้น…ตระกูลก็คงไม่ยอมให้เมิ่งฮ่าวทำสิ่งใดๆ ที่อาจจะละเมิดกฎของตระกูลได้

ถ้าเป็นการเดิมพัน เขาก็จะต้องเอาชนะให้จงได้!

“สามเดือน…หินลมปราณหนึ่งพันห้าร้อยล้านก้อน” ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวจะไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ แต่สีหน้าเขินอายก็ได้ปรากฏขึ้นอย่างไม่รู้ตัวในทันที เท่าที่เขาคิด การเอาชนะเดิมพันในครั้งนี้…ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นเท่าใดนัก

เขาเก็บเหรียญคำสั่งนายน้อยไว้และยืนขึ้น จากนั้นก็กลายเป็นลำแสงพุ่งไปหาฟางซี

สองวันต่อมา คำพูดก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วทั้งตระกูลฟาง ไม่นานนักก่อนที่คนในตระกูลทั้งหมดจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเดียวกันนี้

“เจ้ารู้หรือไม่? นายน้อยกำลังจะไปทดสอบที่ศาลาโอสถอีกแล้ว!! ครั้งล่าสุดมันได้ผ่านชั้นหกไปด้วยคะแนนเต็ม! และยังทำให้ระฆังเต๋าดังขึ้นมาอีกด้วย!”

“ครั้งที่แล้วมันไปทดสอบที่ศาลาโอสถ ไปถึงชั้นที่เจ็ดใช้วิธีการทาบกิ่งสร้างเป็นต้นสมุนไพรขึ้นมาได้มากถึงเจ็ดหมื่นห้าพันชนิด!”

“คนทั้งหมดต่างก็พูดกันว่าครั้งนี้ นายน้อยจะต้องพุ่งขึ้นไปจนถึงชั้นเก้าได้อย่างแน่นอน!!”

ข่าวคราวนี้ได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งคนทั้งหมดในตระกูลต่างก็ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกคนต่างก็สั่นสะท้านอยู่ภายในใจ เมื่อเร็วๆ นี้ เมิ่งฮ่าวคล้ายกับเป็นดวงตะวันในยามเที่ยงของตระกูล และกลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งหมด

 

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาพูดออกมาหรือกระทำการใดๆ ต่างก็ถูกสังเกตให้ความสนใจ นอกจากนั้น ชื่อเสียงที่เขาได้สร้างไว้ในแผนกเต๋าแห่งการปรุงยาก็กลายเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ตอนนี้เมื่อเขากำลังจะมุ่งหน้ากลับไปยังที่นั่น คนทั้งหมดในตระกูลก็เต็มไปด้วยความมุ่งหวัง

ความมุ่งหวังนั้นได้บรรลุถึงจุดสูงสุดของรุ่งอรุณในเช้าวันหนึ่ง เมื่อเมิ่งฮ่าวบินออกมาจากที่พัก และมุ่งหน้าตรงไปยังแผนกเต๋าแห่งการปรุงยา พื้นฐานฝึกตนของผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรเซียนของเขาได้พุ่งขึ้นไปด้วยพลังอันแข็งแกร่ง

กลุ่มคนในตระกูลฟางจำนวนมากได้ติดตามเขาไป ด้วยความต้องการที่จะได้เห็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้ด้วยสองตาของตนเอง

มีผู้คนเริ่มติดตามมามากขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อเขาบรรลุถึงแผนกเต๋าแห่งการปรุงยา ผู้ฝึกตนของตระกูลฟางจำนวนมากได้ไปอยู่ในที่แห่งนั้นแล้ว ลอยเต็มอยู่ในท้องฟ้า ขณะที่เขามุ่งหน้าตรงไปยังศาลาโอสถ

นักปรุงยาและเด็กฝึกปรุงยาของแผนกเต๋าแห่งการปรุงยาทั้งหมด ต่างก็รู้สึกตื่นเต้นขณะที่มาเข้าร่วมกับขบวนแห่นี้

ทั่วทั้งแผนกเต๋าแห่งการปรุงยาเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย ลำแสงหลากสีนับไม่ถ้วนพุ่งฝ่าอากาศมา ขณะที่เมิ่งฮ่าวพุ่งลงไปอยู่ที่ด้านนอกของศาลาโอสถ เขามองไปยังแท่นศิลาตัวอักษรขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างประตูทางเข้า และดวงตาก็สาดประกายขึ้น สองชายชราคนเดิมซึ่งยังคงนั่งเฝ้าพิทักษ์อยู่ที่ด้านนอกของศาลาได้ลืมตาขึ้นมา เมื่อพวกมันมองเห็นเมิ่งฮ่าว ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมายืนอย่างช้าๆ ประสานมือและโค้งตัวลง

“ขอคารวะ นายน้อย” พวกมันกล่าวขึ้นโดยพร้อมเพรียงกัน

เมิ่งฮ่าวพยักหน้าและก้าวเท้าเข้าไปในศาลาโอสถอย่างฉับพลัน โดยที่ไม่พูดจาใดๆ ออกมา

 

ขณะที่เขาทำเช่นนั้น ทั่วทั้งบริเวณนั้นก็แน่นหนาเต็มไปด้วยกลุ่มคนในตระกูล พวกมันทั้งหมดกำลังเฝ้ารอคอยเพื่อจะได้เห็น ฟางซีอยู่ในกลุ่มฝูงชน มันรีบส่งข้อความผ่านแผ่นหยกไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากนั้น กลุ่มคนในตระกูลเกือบหนึ่งหมื่นคน ก็พุ่งขึ้นไปอยู่ในทิศทางที่แตกต่างกัน และเริ่มร้องตะโกนออกมา

“นายน้อยกำลังเข้าไปทดสอบในศาลาโอสถ! นี่คือเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ของตระกูลฟาง และเป็นเกียรติของทุกคนที่จะได้เห็นด้วยสองตาของตัวเอง ข้าขอเรียกร้องให้มอบหินลมปราณออกมาหนึ่งร้อยก้อน เพื่อเป็นของขวัญแสดงความยินดี! ถ้าผู้ใดยินยอมที่จะมอบให้ ก็ได้โปรดใส่มันลงไปในถุงสมบัตินี้!”

“นั่นก็ใช่แล้ว! ถึงข้าจะมีหินลมปราณไม่มากนัก แต่ข้าก็ยินดีที่จะมอบให้ห้าสิบก้อน เพื่อเป็นของขวัญแสดงความยินดีกับนายน้อย!”

“แน่นอนว่ามันควรจะต้องเป็นเช่นนี้! นายน้อยกำลังทำการทดสอบอยู่ในศาลาโอสถ ในฐานะที่เป็นสหายร่วมตระกูล ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเราควรจะส่งมอบของขวัญเพื่อแสดงความยินดี! นี่คือหนึ่งร้อยหินลมปราณของข้า!”

ขณะที่เสียงเหล่านั้นดังก้องออกไป ก็มีผู้คนมากมายได้หยิบเอาหินลมปราณใส่เข้าไปในถุงสมบัติ บางคนก็ลังเล แต่จากนั้นกลุ่มคนก็เริ่มทำตามเพิ่มมากขึ้น

ในที่สุด หินลมปราณจำนวนมากมายอย่างน่ากลัวก็ได้ก่อตัวขึ้นอยู่ภายในถุงสมบัติ

เมื่อฟางโส่วเต้ามองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ มันก็จ้องมองไปด้วยความตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ และจากนั้นก็ตบไปที่หน้าผากของตัวเอง สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที

“บัดซบ! ข้าลืมไปได้อย่างไร…ข้าเคยได้ยินมาว่าเมิ่งฮ่าวได้เก็บค่าเข้าฟังคำบรรยายเกี่ยวกับต้นพืชสมุนไพร จากกลุ่มคนในแผนกเต๋าแห่งการปรุงยามาก่อน!” จากนั้นฟางโส่วเต้าก็คิดไปถึงของรางวัลที่ถูกประกาศไว้สำหรับสามเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ และความรู้สึกตื่นตระหนกก็พุ่งขึ้นมาในจิตใจ

สามเม็ดยาเหล่านั้นประกอบด้วยยาเม็ดแรก วิญญาณตะวันทุกชั้นฟ้า ซึ่งเมิ่งฮ่าวได้ปรุงไปเรียบร้อยแล้ว ยาเม็ดที่สองคือ แยกทะเลต่อต้านสวรรค์ รางวัลที่จะได้ก็คือ หินลมปราณหนึ่งพันล้านก้อน…

ยาเม็ดที่สามคือ เม็ดยาคิดถึงฟ้า รางวัลอันน่าเหลือเชื่อสำหรับการปรุงยาเม็ดนี้ก็คือ การที่ได้เป็นเจ้าแผนกเต๋าแห่งการปรุงยา ทันใดนั้นฟางโส่วเต้าก็ต้องหอบหายใจออกมา หลังจากที่ผ่านไปเป็นเวลานาน มันก็ฟื้นสติกลับคืนมาได้ และตระหนักว่าในครั้งนี้มันได้ถูกเมิ่งฮ่าวหลอกลวงแล้ว

“เจ้าอันธพาลน้อย!” มันคิด หัวเราะอย่างขมขื่นออกมา แต่ดวงตาก็สาดประกายขึ้นอย่างรวดเร็ว พึมพำกับตัวเองว่า

“อย่างไรก็ตาม มันไม่เลือกที่จะไปปรุงเม็ดยา แต่กลับไปทดสอบในศาลาโอสถ นั่นเป็นการบ่งบอกว่ามันไม่มีความเชื่อมั่นในความสามารถการปรุงยาของมันอย่างเต็มที่…ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็ยังไม่ได้พ่ายแพ้ในการเดิมพันครั้งนี้…” แต่มันก็ยังคงรู้สึกกังวลขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นมันจึงหายตัวไปในทันที เมื่อปรากฏกายขึ้นใหม่ มันก็ไปอยู่ในสำนักเย่าเซียน เพื่อไปปรึกษากับฟางเหยียนซวี

หลังจากนั้นไม่นานนัก มันก็ออกจากสำนักเย่าเซียน และใบหน้าก็สงบนิ่งเป็นอย่างยิ่ง จากสิ่งที่ฟางเหยียนซวีได้บอกมา ทำให้ตอนนี้มันมีความเชื่อมั่นต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้

“แม้แต่ฟางเหยียนซวีก็ยังไม่อาจจะปรุงเม็ดยาคิดถึงฟ้าได้ สำหรับเม็ดยาแยกทะเลต่อต้านสวรรค์ มันก็มีความยุ่งยากเช่นเดียวกัน เจ้าอันธพาลน้อยต้องไม่อาจจะปรุงพวกมันขึ้นมาได้ ด้วยการพึ่งพาทักษะของตนเองเพียงลำพัง ข้าบอกมันว่าข้าจะไม่สอดแทรกเข้าไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ข้าไม่อาจจะใช้วิธีการอื่นได้”

ฟางโส่วเต้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง และมีท่าทางคล้ายกับเป็นจิ้งจอกชราที่เจ้าเล่ห์มากขึ้นกว่าเดิม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!