Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1027

ตอนที่ 1027

ความวุ่นวายของทะเลแมลง

มันเป็นดินแดนที่ถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ใบหญ้า ที่ยืดยาวออกไปอย่างไม่รู้จบ ดูเหมือนจะแตกต่างเป็นอย่างยิ่งกับในตอนแรกที่เมิ่งฮ่าวเคยพบเห็นมา ต้นหญ้าส่วนใหญ่ในที่แห่งนี้เป็นสีม่วง เติบโตสูงขึ้นไป และส่ายไหวไปมาด้วยความอ่อนโยน

เสียงกรอบแกรบดังกระจายไปทั่วในบริเวณนั้น นอกจากนั้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบสงบไปโดยสิ้นเชิง

ที่แอบอยู่ในท่ามกลางต้นหญ้าสีม่วงทั้งหลาย มองเห็นเป็นต้นสมุนไพรนานาชนิด มีทั้งดอกตะวันฉาย, ต้นเถาวัลย์ประกายเซียน และต้นสมุนไพรอื่นๆ อีกมากมาย แม้แต่ต้นสมุนไพรชนิดที่พบเห็นได้ยากไปกว่านั้นก็ยังมีให้เห็นอยู่หลากหลาย

สามารถกล่าวได้ว่าสถานที่แห่งนี้…คือสวนต้นสมุนไพรอันมีค่าอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้

อย่างไรก็ตามเมิ่งฮ่าวก็ไม่อาจจะลืมไปได้ว่า ถึงแม้สถานที่แห่งนี้จะเงียบสงบจนดูคล้ายกับเป็นขุมทรัพย์ของผู้ฝึกตนใดๆ ก็ตาม แต่จริงๆ แล้วก็เต็มไปด้วยตัวด้วงสีดำอันน่ากลัวนับไม่ถ้วน!

พื้นดินสีดำนี้…ที่เป็นสีดำก็เพราะว่ามันถูกปกคลุมไปด้วยตัวด้วง โดยที่ยังไม่ได้พูดถึง…ทั่วทั้งบริเวณนี้จริงๆ แล้วก็คือ ส่วนหลังของตัวด้วงสีดำขนาดยักษ์อันน่าตกใจยิ่ง

ไม่เพียงแต่เมิ่งฮ่าวเท่านั้น แม้แต่คนที่อยู่ในอาณาจักรเต๋าก็ต้องหวาดกลัวจนหนังศีรษะด้านชา และต้องบังคับให้ตนเองหลีกเลี่ยงดินแดนแถบนี้ไป

แทบจะในทันทีที่เมิ่งฮ่าวมองเห็นดินแดนแห่งทุ่งหญ้าสีม่วง ต้นหญ้าก็ส่ายไหวไปมาอย่างรุนแรง จนเผยให้เห็นถึงพื้นที่บางแห่งบนพื้นดิน และดูเหมือนว่ากำลังจะบิดเบี้ยวไปมาและกลายเป็นระลอกคลื่น

 

สีหน้าเมิ่งฮ่าวเปลี่ยนไป และรีบยกมือขวาขึ้นมาทำการร่ายเวทในทันที เครื่องหมายผนึกจำนวนมากได้ปรากฏขึ้นอยู่บนร่างของเขา เรียงซ้อนกันขึ้นไป บังคับให้พื้นฐานฝึกตนของตัวเองต้องลดต่ำลงไปด้วยความรวดเร็ว

ภายในเวลาแค่หนึ่งอึดใจ เสียงหึ่งๆ ก็ดังขึ้นมาจากบริเวณนั้น ต่อมาพื้นดินก็ดูราวกับเป็นชั้นๆ ขณะที่มันลอกขึ้นไปด้านบน เมื่อตัวด้วงสีดำอันดุร้ายนับไม่ถ้วนได้บินขึ้นไปในอากาศ

ในทันทีที่พวกมันบินขึ้นไป ก็กลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับเป็นลมพายุ ส่งเสียงกรีดร้องม้วนกวาดขึ้นไปในอากาศ เป้าหมายของพวกมันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเป็นเมิ่งฮ่าว ที่กำลังลอยตัวอยู่ที่นั่นในกลางอากาศ

เห็นได้ชัดว่า ต้องมีบางสิ่งบางอย่างบนร่างเขา ที่ไปกระตุ้นพวกมันขึ้นมา

สีหน้าเมิ่งฮ่าวสลดลง เขาแทบจะลืมไปว่าตัวด้วงสีดำเหล่านี้ มักจะมีพฤติกรรมเช่นนี้ ยิ่งมีพื้นฐานฝึกตนสูงมากเท่าใด ก็จะยิ่งไปกระตุ้นพวกมันมากขึ้นเท่านั้น และในตอนนี้เมิ่งฮ่าวก็มีความแข็งแกร่งมากกว่าในครั้งแรก ที่เขามายังที่แห่งนี้ หลังจากที่ขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ชั่วขณะ เมิ่งฮ่าวก็ตัดสินใจว่า มันเป็นแค่ธรรมชาติของตัวด้วงสีดำเท่านั้น ที่สามารถจะรับรู้ถึงตัวตนของเขาได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ใกล้กับพวกมันนักก็ตามที

เมื่อได้ข้อสรุปเช่นนี้แล้ว เมิ่งฮ่าวก็เริ่มล่าถอยออกไปในทันที ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็ทำการผนึกและสะกดข่มพื้นฐานฝึกตนของตัวเองอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมีกลิ่นอายเช่นเดียวกับขั้นรวบรวมลมปราณ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ตัวด้วงสีดำก็ยังไม่ยอมหยุดลง ความจริงแล้วพวกมันยิ่งมีจำนวนมากขึ้นกว่าเดิมไปเรื่อยๆ จนทำให้หนังศีรษะของเมิ่งฮ่าวต้องด้านชา และจิตใจก็หมุนคว้าง

“เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกมันยังคงไม่พอใจอยู่?” เมิ่งฮ่าวรีบหลบหนีไปด้วยความตกใจ แต่พวกมันก็ยังคงไล่ตามเขาไปอย่างต่อเนื่อง ดวงตาที่แดงก่ำของพวกมันเต็มไปด้วยความเกลียดชังและบ้าคลั่ง

“ช่างแปลกนัก!” เมิ่งฮ่าวครุ่นคิดด้วยจิตใจที่สั่นสะท้าน จากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ของเขากับพวกมัน ทำให้มั่นใจว่าได้อยู่ห่างออกไปไกลมากแล้ว และพวกมันก็ไม่น่าจะไล่ติดตามมาอีก

สีหน้าเขาเปลี่ยนไป ขณะที่มองกลับไปยังตัวด้วงสีดำที่กำลังใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นเองที่เขาตระหนักว่าดวงตาของตัวด้วงสีดำทั้งหลายเหล่านี้ ไม่ได้จ้องนิ่งมาบนร่างเขาแต่เป็น…ถุงสมบัติของเขา!!

เมิ่งฮ่าวอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ในช่วงของวิกฤตนี้เอง เขารีบส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในถุงสมบัติ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเป็นปกติ ไม่มีอะไรที่แตกต่างไปแม้แต่น้อย ยังคงมีกลุ่มของตัวด้วงสีดำที่เขาจับได้ในครั้งแรกที่มายังที่แห่งนี้ กำลังถูกปกคลุมด้วยเครื่องหมายผนึก และยังไม่ตื่นขึ้นมาจากการจำศีลของพวกมัน

“หรือว่าเป็นเพราะของสิ่งนี้?” เขารีบหยิบเอาตัวด้วงออกมาหนึ่งตัว และโยนตรงไปยังกลุ่มตัวด้วงที่พุ่งเข้ามา แต่…พวกมันก็ยังไม่หยุดพุ่งตรงมาหาเขา

“ทำไมพวกมันถึงได้เป็นเช่นนี้!?!?” สีหน้าเมิ่งฮ่าวสลดลง และยกมือขวาขึ้นไป ทำให้พื้นฐานฝึกตนพุ่งขึ้นมา พลังของชีพจรเซียนระเบิดตรงไปยังกลุ่มตัวด้วงสีดำ ขณะที่เขาพุ่งตรงไปต่อสู้กับพวกมัน เสียงระเบิดดังก้องออกมา และตัวด้วงสีดำได้ตายไปเป็นจำนวนมาก แต่ยังมีอีกมากมายที่เพียงแค่ได้รับบาดเจ็บจากความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของเขาเท่านั้น ไม่ได้ถูกสังหารไป อันที่จริงก็ดูเหมือนว่า ยิ่งทำให้พวกมันมีโทสะมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้พวกมันโจมตีมาที่เขาด้วยความเมามันมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้เห็นว่าตัวด้วงสีดำกำลังบินขึ้นมามากขึ้น ซึ่งเป็นตัวด้วงที่เทียบเท่ากับอาณาจักรเซียนและอาณาจักรโบราณ ทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าวต้องเต้นรัว

“ต้องมีบางสิ่งในถุงสมบัติของข้า ไปดึงดูดความสนใจของพวกมันขึ้นอย่างแน่นอน แต่มันคืออะไรกัน?!?!?”

โดยไม่ลังเล เขาเริ่มทำการผนึกสิ่งของทั้งหมดในถุงสมบัติ ป้องกันไม่ให้กลิ่นอายของพวกมันกระจายออกไป ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็ล่าถอยไปทางด้านหลัง ในที่สุดเขาก็ผนึกไปที่แหวนวงนั้น และทันใดนั้นเองตัวด้วงสีดำก็หยุดอยู่ในกลางอากาศ จากนั้นพวกมันก็บินไปรอบๆ อยู่ชั่วขณะ ราวกับว่ากำลังทำการค้นหาอะไรบางอย่างอยู่ พวกมันมีท่าทางหงุดหงิดมากเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อเมิ่งฮ่าวมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ เหงื่อเย็นๆ ก็ไหลลงมา ในที่สุดตัวด้วงสีดำก็บินกลับไปยังตำแหน่งเดิมของพวกมันในสวนต้นสมุนไพร เมื่อพวกมันบินกลับลงไปจนหมดสิ้น พื้นดินบริเวณนั้นก็ดูเป็นสีดำขึ้นอีกครั้ง

เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ในกลางอากาศ ยังไม่ทันจะมีเวลาปาดเช็ดเหงื่อออกจากคิ้ว เขาก็จ้องนิ่งไปยังแหวนที่อยู่ในถุงสมบัติ นั่นคือแหวนที่…เขาได้มาจากอี้ฝ่าจือเมื่อเร็วๆ นี้!

“เป็นเพราะของสิ่งนี้? หรือว่าบางสิ่งที่อยู่ข้างในของมัน?”

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น หยิบเอาแหวนออกมา เขาเคยแต่ตรวจสอบดูมันอย่างคร่าวๆ เท่านั้นในตอนที่เพิ่งจะได้มา จริงๆ แล้วมันคือแหวนเก็บสมบัติ และต้องใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันแข็งแกร่งเพื่อเปิดออก เมิ่งฮ่าวต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ อันเนื่องมาจากความจริงที่ว่า เขากำลังอยู่ในเศษซากเซียน จึงคิดว่าจะรอจนกว่าออกไปจากที่แห่งนี้ได้แล้วถึงจะเปิดมันออกมา แต่ในตอนนี้เขาตัดสินใจแล้วว่า ถึงเวลาที่ต้องใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์เพื่อที่จะเปิดมันออกมาแล้ว

ของวิเศษที่ใช้เก็บสิ่งของของเมิ่งฮ่าวส่วนใหญ่แล้วจะเป็นถุงสมบัติ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นแหวนเช่นนี้ หลังจากผ่านไปชั่วขณะ เขาก็สวมแหวนไว้บนนิ้วและจากนั้นก็ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในแหวน

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้พุ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง ราวกับเป็นม้าที่หลุดออกมาจากบังเหียน ขณะที่มันถูกดูดเข้าไปในแหวนวงนั้นอย่างฉับพลัน หลังจากที่ใช้ความพยายามเปิดมันออกเพียงแค่ไม่นาน เมิ่งฮ่าวก็รู้สึกว่าเขาคงไม่อาจจะทนได้อีกต่อไป

“เป็นไปได้หรือไม่ว่า เป็นเพราะว่าแหวนวงนี้มาจากโลกอื่น ซึ่งมีกฎธรรมชาติและระบบการฝึกตนที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ข้าต้องใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์มากไปกว่านี้เพื่อเปิดมันออก!?” เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว หยิบเอาเม็ดยาออกมากลืนลงไป จากนั้นก็ใช้เวลาอีกครึ่งชั่วยามเพื่อเปิดแหวนออก ในที่สุดหลังจากที่ใส่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในแหวนเป็นจำนวนมาก เสียงแตกร้าวก็เริ่มดังก้องออกไปในทั่วทุกทิศทาง

ต่อมาเมิ่งฮ่าวก็เริ่มมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ด้านในของแหวนเก็บสมบัติ หลังจากที่มองไปแค่แวบเดียว ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็เริ่มสาดประกายเจิดจ้าขึ้น

มีสิ่งของมากมายอยู่ที่ด้านใน เพียงมองไปแค่แวบเดียว เมิ่งฮ่าวไม่มีทางจะรู้ว่าของชิ้นไหน ที่ทำให้ตัวด้วงสีดำถึงต้องมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวเช่นนั้น ในตอนแรกเขาคิดว่าอาจจะเป็นเม็ดยาที่อยู่ภายในแหวน เมิ่งฮ่าวมองเห็นเม็ดยามากมายหลายชนิด ที่อี้ฝ่าจือได้กลืนกินลงไปในช่วงการหลบหนีของมัน เขาหยิบเม็ดยาออกมาทีละเม็ด และจากนั้นก็มองไปยังตัวด้วงสีดำ ที่อยู่ในสวนต้นสมุนไพร

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ชื่อของเม็ดยาเหล่านี้ แต่จากทักษะในด้านเต๋าแห่งการปรุงยาของเขา เพียงแค่เวลาไม่นานเขาก็เข้าใจพวกมันได้ทั้งหมด ผลก็คือว่าเขายิ่งมีความยินดีมากขึ้น

เห็นได้ชัดว่าเม็ดยาเหล่านี้ถูกปรุงขึ้นมา ด้วยการใช้ระบบการปรุงยาที่แตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิงกับสิ่งที่มีอยู่ในขุนเขาทะเลที่เก้า ซึ่งได้จุดประกายความคิดของเมิ่งฮ่าวขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากที่ทำการค้นหามากขึ้นไปอีกที่ด้านในของแหวนเก็บสมบัติ เขาก็พบเห็นธูปก้านหนึ่ง

 

“ธูปดอกนี้? นี่คือสิ่งที่ข้ากำลังหาอยู่?” ธูปนี้ถูกห้อมล้อมด้วยแสงห้าสีซึ่งเมิ่งฮ่าวไม่อาจจะแยกแยะได้ว่ามันคืออะไร แต่เมื่อเขาหยิบมันออกมาจากแหวนเก็บสมบัติ ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากตัวด้วงสีดำทั้งหมด

เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว และจากนั้นก็ดมไปที่ก้านธูป เขาแค่สูดลมหายใจเข้าไปเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น แต่ทันใดนั้นเอง ชีพจรเซียนของเขาก็พุ่งขึ้นมา ราวกับว่าพวกมันถูกกระตุ้นขึ้นมาอย่างรุนแรง ในชั่วพริบตาปราณเซียนทั้งหมดที่อยู่ภายในร่างเขาก็หมุนวนไปมา

“ธูปนี้คืออะไรกัน!? แค่สูดดมเข้าไปเพียงหนึ่งครั้ง ก็ทำให้พื้นฐานฝึกตนของข้าปะทุขึ้น…”

เขาทำการตรวจดูร่างกายด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ และบอกได้ว่าในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ พื้นฐานฝึกตนของเขา…ได้ก้าวหน้าขึ้นไปอย่างเห็นได้ชัดเจน

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายเจิดจ้าขึ้น ขณะที่มองไปยังธูปดอกนั้น ในตอนนี้เขารู้แล้วว่านี่คือของวิเศษอันล้ำค่า

“ธูปใช้สำหรับเผาไหม้ ข้าอยากรู้นักว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าจุดมันขึ้นมา…?” จิตใจเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะทำการทดลองเช่นนั้น เขาค่อยๆ เก็บธูปนั้นกลับเข้าไปในแหวนสมบัติ มีท่าทางพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง

“ธูปนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน มันต้องเป็นของวิเศษที่ใช้สำหรับการฝึกตน” เมิ่งฮ่าวพึมพำ ต่อมาก็มองกลับไปที่แหวนสมบัติ ยังของสิ่งหนึ่งซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งของที่เขามีความพึงพอใจมากที่สุดในโลกนี้ ในความคิดของเมิ่งฮ่าว มันเป็นสิ่งที่จะไปดึงดูดความสนใจของตัวด้วงสีดำได้น้อยมากที่สุด

พวกมันเป็นศิลาสีดำ ซึ่งประกอบไปด้วยกฎธรรมชาติ ดูคล้ายกับหยกเซียนเป็นอย่างมาก แต่ละชิ้นกระจายแสงอันลี้ลับ และกลิ่นอายแห่งพลังชีวิตออกมา

เห็นได้ชัดว่านี่คือสิ่งของที่ใช้ในการฝึกตนของโลกที่บ้านเกิดของอี้ฝ่าจือ เป็นสิ่งที่คล้ายกับหยกเซียน หรือหินลมปราณ

เมิ่งฮ่าวไม่มีทางจะรู้ว่าพวกมันมีค่ามากเท่าใด แต่ข้างในของแหวนสมบัตินี้มีขนาดใหญ่กว่าถุงสมบัติของเมิ่งฮ่าวมากนัก ทำให้มีพื้นที่ที่ใช้เก็บก้อนศิลาเหล่านี้อยู่มากมาย

ดูคร่าวๆ แล้วต้องมีหินดำปราณเซียนนี้อย่างน้อยก็หนึ่งล้านก้อน

เมิ่งฮ่าวหยิบออกมาหนึ่งก้อน เพื่อตรวจสอบดูอย่างละเอียด ทำให้ยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้นว่าข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ของเขาถูกต้องแล้ว

แต่แทบจะในทันทีที่เขาหยิบเอาหินดำปราณเซียนออกมา ทันใดนั้นเอง พื้นดินที่อยู่ในสวนต้นสมุนไพรก็ดูเหมือนจะระเบิดขึ้นมา เสียงหึ่งๆ ดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่ตัวด้วงสีดำนับไม่ถ้วน ซึ่งมีจำนวนมากกว่าก่อนหน้านี้อีกด้วย ได้บินขึ้นไปในอากาศ พวกมันหันหน้ามองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความกราดเกรี้ยว และจากนั้นก็เริ่มบินตรงมาที่เขาด้วยความรวดเร็วสูงสุด

เมิ่งฮ่าวเกิดความตกใจจนเริ่มสั่นสะท้าน ด้วยการมองไปยังหินดำปราณเซียนเป็นครั้งสุดท้าย เขาผนึกมันกลับเข้าไปในแหวนสมบัติโดยไม่ลังเล และจากนั้นก็พุ่งหลบหนีจากไปอย่างรวดเร็ว

ตัวด้วงสีดำยังคงบินวนไปรอบๆ บริเวณนั้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาครึ่งชั่วยาม ก่อนที่จะค่อยๆ กลับเข้าไปยังสถานที่ของพวกมันในสวนต้นสมุนไพรอย่างที่ไม่ค่อยจะเต็มใจนัก

“นั่นคือสาเหตุของมัน!!” จิตใจเมิ่งฮ่าวเต้นรัวด้วยความหวาดกลัว มองไปยังหินดำปราณเซียนที่อยู่ในแหวนสมบัติ และดวงตาก็เริ่มสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ ในที่สุดก็เริ่มตรวจดูแหวนสมบัติอีกครั้ง

 

มีแผ่นหยกอยู่ชิ้นหนึ่งที่เมิ่งฮ่าวหยิบออกมาตรวจสอบ หลังจากนั้นดวงตาเขาก็ต้องเบิกกว้างขึ้น

“นี่คือ…” แผ่นหยกถูกบันทึกข้อมูลไว้ หลังจากที่ตรวจสอบมากขึ้นไปอีก เขาก็พบว่าแผ่นหยกทั้งหมดถูกบันทึกข้อมูลไว้เช่นเดียวกัน แต่ละชิ้นเป็นบันทึกที่คล้ายกับตั๋วแลกเงิน ซึ่งมนุษย์ทั่วไปนำไปใช้ขึ้นเงินได้ โดยหลักแล้ว…พวกมันคือตั๋วแลกเงิน ที่ช่วยให้สามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นหินดำปราณเซียนยังสถานที่ที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า

แผ่นหยกแต่ละชิ้นมีค่าเท่ากับหินดำปราณเซียนหนึ่งล้านก้อน และมีอยู่มากกว่าร้อยชิ้นที่ด้านในของแหวนสมบัติ หลังจากที่รับรู้ได้ว่าแผ่นหยกเหล่านั้นมีค่ามากแค่ไหน ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็กลายเป็นสีแดงไป ทันใดนั้นเขารู้สึกสนใจใคร่รู้เป็นอย่างมาก เกี่ยวกับสถานที่ที่อี้ฝ่าจือจากมา

แต่ในตอนนี้ เขามีความสนใจในสวนต้นสมุนไพรมากที่สุด

เมื่อมองไปยังสวนต้นสมุนไพร ก็ทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าวต้องสั่นสะท้านขึ้นด้วยความกระตือรือร้น เช่นเดียวกับครั้งแรกที่เขามายังที่แห่งนี้

“นี่คือโอกาสของข้าแล้ว…!” เมิ่งฮ่าวคิด ลูบไปที่แหวนสมบัติ เมื่อคิดย้อนกลับไปยังก้อนศิลาสีดำ ดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยความมุ่งหวัง ครั้งนี้เขาเตรียมตัวที่จะทำการสังหารแล้ว!

มันจะไม่เหมือนกับในครั้งแรก ที่เขาคว้าจับไปที่ต้นสมุนไพรได้แค่หยิบมือเท่านั้น ครั้งนี้เขาจะต้องทำกำไรได้อย่างงดงาม ทั้งในแง่ของต้นสมุนไพรและตัวด้วงสีดำ!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคิดย้อนกลับไปในตระกูลที่อยู่บนดาวตงเซิ่ง ผู้เฒ่าโอสถได้มอบตำราเล่มแรกซึ่งเป็นกฎแห่งเต๋าของแมลงให้เขาไว้ เมื่อทำการศึกษามันไปบ้างแล้ว เมิ่งฮ่าวก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถทำให้ตัวด้วงสีดำบางส่วนเหล่านี้เชื่อฟังได้บ้าง

“ข้าจะต้องปราบปรามพวกมันได้มากกว่าหนึ่งพันตัว…”

เมิ่งฮ่าวครุ่นคิดเลียริมฝีปากไปมา จากนั้นก็คิดไปถึงท่าทางของตนเอง เมื่อมีไพ่ไม้ตายเป็นตัวด้วงสีดำมากกว่าหนึ่งพันตัว ทำการพุ่งเข้าไปโจมตี ทำให้เขายิ่งมีความตื่นเต้นมากขึ้นไปกว่าเดิม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!