Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1064

ตอนที่ 1064

สังหารแปดอสูร!

แปดผู้ฝึกตนอสูรร้องตะโกนขึ้นมาอยู่ภายในใจที่กำลังสั่นสะท้านของพวกมัน

“เป็นไปได้หรือไม่ว่าก่อนหน้านี้ มันได้แอบซ่อนพลังที่แท้จริงไว้? บัดซบ!!”

“เมิ่งฮ่าวผู้นี้ช่างตลบตะแลงสิ้นดี! มันมีพื้นฐานฝึกตนเช่นนี้ แต่กลับไม่ยอมเปิดเผยออกมา ในตอนที่อยู่ในประตูแท่นศิลาตัวอักษรสีทอง! กลับพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะยืดเวลาออกไป!”

“ช่างต่ำทราม! ไร้ยางอายนัก!!”

แม้ในขณะที่เมิ่งฮ่าวยังไม่ได้ทำการโจมตีไป พวกมันก็เห็นแล้วว่าเขามีความแข็งแกร่งเพียงพอ ที่จะเอาชนะแรงกดดันของทะเลที่เก้าได้ สิ่งที่ทำให้หนังศีรษะของพวกมันต้องด้านชามากที่สุดก็คือ ความรู้สึกที่ไม่มีค่ายกลเวทซึ่งเป็นแรงกดดันของทะเลที่เก้าอยู่ เมิ่งฮ่าว…ก็สามารถจะต่อสู้กับพวกมันได้อย่างง่ายดาย!

“พื้นฐานฝึกตนของมันอยู่ที่ระดับใดกันแน่?

คนที่อยู่ในอาณาจักรเซียนไม่มีทางจะแข็งแกร่งได้เช่นนี้อย่างแน่นอน!!”

แปดผู้ฝึกตนอสูรสั่นสะท้าน ขณะที่เมิ่งฮ่าวเดินไปเป็นก้าวที่ห้า มองไม่เห็นกลุ่มเมฆแม้แต่ก้อนเดียวในท้องฟ้า และเสียงกระหึ่มของฟ้าร้องคำรามก็ทำให้ทุกสรรพสิ่งต้องสั่นสะเทือนไปมา ขณะที่สุดยอดสะพานบดขยี้ลงไปบนแรงกดดันของทะเลที่เก้า!

พลังอันรุนแรงนั้นกดทับลงไปบนร่างเมิ่งฮ่าว อย่างไรก็ตามเขาได้อยู่ในอาณาจักรของจักรพรรดิเซียนตลอดไป และความแข็งแกร่งของเขาทั้งในแง่ของกายเนื้อและพื้นฐานฝึกตน ทำให้สามารถจะต่อต้านมันได้ นอกจากนั้นเขายังมีอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ที่กำลังฟื้นฟูร่างกายอยู่อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

แต่…แปดผู้ฝึกตนอสูรไม่อาจจะทนทานได้ พวกมันอาจจะเป็นผู้ถูกเลือกแห่งกลุ่มผู้ฝึกตนอสูร เป็นผู้ฝึกตนอันแข็งแกร่งของอาณาจักรโบราณ แต่ก็ไม่อาจจะเทียบได้กับเมิ่งฮ่าวเลยแม้แต่น้อย!

ดังนั้นเมิ่งฮ่าวจึงสามารถจะเดินไปเป็นก้าวที่ห้า ในขณะที่แปดผู้ฝึกตนอสูร…กระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง และได้รับบาดเจ็บมากขึ้นไปอีก

เมิ่งฮ่าวก้าวเดินไปอย่างรวดเร็ว และแต่ละก้าวก็คล้ายกับเป็นแรงกระทืบอย่างรุนแรง จนทำให้แปดผู้ฝึกตนอสูรต้องได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสติดต่อกันถึงห้าครั้งอย่างต่อเนื่อง!

สามคนในกลุ่มพวกมันไม่อาจจะทนทานได้อีก พวกมันแผดร้องออกมา ขณะที่ร่างกายเริ่มแห้งเหี่ยวและพังทลายลงไป

สามารถกล่าวได้ว่าก่อนหน้านี้ เมิ่งฮ่าวสามารถใช้พลังของสุดยอดสะพานได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ในตอนนี้เขาสามารถจะปลดปล่อยพลังของมันออกมาได้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะเขาได้เข้าไปอยู่ในอาณาจักรแห่งจักรพรรดิเซียนแล้ว ทุกย่างก้าวที่เขาเดินไป ทำให้สุดยอดสะพานได้เปิดเผยพลังอันยิ่งใหญ่ของมันออกมามากขึ้นไปเรื่อยๆ

จิตใจของแปดผู้ฝึกตนอสูรกำลังหมุนคว้างด้วยความตกใจ ขณะที่เมิ่งฮ่าวแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา จากนั้นก็เหยียบย่างลงไปเป็นก้าวที่หก และเจ็ด!

สองก้าวที่เดินไปอย่างรวดเร็วนี้ ทำให้เกิดเป็นเสียงฟ้าร้องดังก้องกระหึ่มขึ้น โลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปากของเมิ่งฮ่าว เป็นค่าตอบแทนที่เขาต้องจ่ายออกไปในการปลดปล่อยพลังนี้ออกมา ในเวลาเดียวกันนั้นเกาะแห่งนี้ก็เริ่มแตกกระจายไป ชายขอบของมันกำลังพังทลายลงไปในน้ำทะเล ซึ่งกำลังพลุ่งพล่านปั่นป่วนอยู่ด้วยเช่นกัน แทบจะราวกับว่ามันกำลังแผดร้องคำรามออกมาด้วยโทสะ!

แรงกดดันของทะเลที่เก้าบิดเบี้ยวไปมา ราวกับว่า…แรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว กำลังทำให้แรงกดดันของทะเลที่เก้าต้องแตกกระจายออกไป!

สำหรับแปดผู้ฝึกตนอสูร นี่คือหายนะอันยิ่งใหญ่ของพวกมัน!

สามคนในกลุ่มพวกมัน ที่บรรลุถึงขีดจำกัดของตนเองไปแล้ว กำลังส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา!

“ไม่!!” แรงกดดันอันเข้มข้นที่กระจายออกมาจากการปะทะกันของทะเลที่เก้าและสุดยอดสะพาน ทำให้ร่างกายของพวกมันต้องระเบิดขึ้นอย่างแท้จริง พวกมัน…ถูกสังหารไปทั้งร่างกายและวิญญาณ!

จากแปดผู้ฝึกตนอสูร มีอยู่สามคนที่ตกตายไป จากห้าคนที่ยังหลงเหลืออยู่ สามคนกระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง และเริ่มสั่นไปทั้งร่างอย่างรุนแรง เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่อาจจะทนทานได้อีกต่อไป

ท่าทางประหลาดใจและหวาดกลัวแวบขึ้นมาผ่านใบหน้าพวกมันไป ทันใดนั้นพวกมันก็เต็มไปด้วยความเสียใจ พวกมันรู้สึกเสียใจที่ไปหาเรื่องเมิ่งฮ่าว และไม่เคยคาดคิดว่า…เขาจะแข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน!

พวกมันรู้สึกตกใจและหวาดหลัวจนเริ่มถอยไปทางด้านหลัง และกำลังจะหลบหนีเอาชีวิตรอดไป

“มันต้องไม่ได้อยู่ในอาณาจักรเซียนอย่างแน่นอน! ไม่มีทางที่คนในอาณาจักรเซียนจะมีความแข็งแกร่งได้เช่นนี้! มันต้องอยู่ในอาณาจักรโบราณ! ต้องเป็นอาณาจักรโบราณอย่างแน่นอน! มันต้องมีตะเกียงวิญญาณที่ดับลงไปแล้วอย่างน้อยก็ห้าดวง หรืออาจจะมากไปกว่านั้น!!”

ผู้ฝึกตนอสูรที่เหลืออยู่ต่างก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน

“ท่านอา ช่วยพวกเราด้วย!!” พวกมันร้องตะโกนขึ้น เกิดเป็นเสียงดังก้องออกไปอยู่รอบๆ เกาะแห่งนั้น

ในตอนนี้ บุรุษวัยกลางคนกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของเกาะ ดูคล้ายกับผู้ฝึกตนเป็นอย่างยิ่ง ยกเว้นว่ามันมีเขาหนึ่งข้างงอกออกมาจากศีรษะ

เขาข้างนั้นเป็นสีขาวบริสุทธิ์ เช่นเดียวกับสีของผิวกายมัน!

มันจ้องมองไปยังการต่อสู้ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ และมองเห็นเมิ่งฮ่าวเดินไปบนสุดยอดสะพาน กำลังบดขยี้ลงไปยังแรงกดดันของทะเลที่เก้า เพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็ทำให้แปดผู้ฝึกตนอสูรต้องได้รับบาดเจ็บและถูกสังหารไป

สิ่งที่มองเห็นอยู่นี้ ทำให้มันต้องหอบหายใจออกมาและอ้าปากค้างขึ้น

“บัดซบ! พวกเราคาดคะเนพื้นฐานฝึกตนของมันผิดไป! มันสามารถเอาชนะแรงกดดันของทะเลที่เก้าได้จริงๆ!! ในตอนนี้ ต่อให้ข้าออกไปก็ไม่อาจจะทำอะไรให้ดีขึ้นได้!”

“ข้าต้องรอจนกระทั่งพลังของมันจางหายไป ถ้าก้าวสุดท้ายของมันทำให้แรงกดดันของทะเลที่เก้าแตกกระจายไป ข้าก็จะหลบหนีจากไป ไม่มีทางที่ข้าจะไปต่อสู้กับมันได้ในตอนนี้ แต่ถ้ายังคงมีแรงกดดันอยู่หลังจากที่มันเดินไปเป็นก้าวสุดท้ายแล้ว ก็แสดงว่า…มันได้บรรลุถึงขีดจำกัดของมันแล้ว พลังของมันจะถูกใช้จนหมดไป และก็เป็นโอกาสดีที่จะโจมตีไป!”

ผู้ฝึกตนอสูรที่เป็นบุรุษวัยกลางคน ไม่สนใจต่อเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ และจ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความวิตกกังวล

เมื่อเห็นว่าไม่มีกลุ่มผู้อาวุโสของพวกมันปรากฏกายขึ้น ความรู้สึกสิ้นหวังของผู้ฝึกตนอสูรที่ยังเหลืออยู่ก็พุ่งขึ้นมาในจิตใจพวกมัน

แม้แต่ผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในกลุ่มพวกมัน ซึ่งเป็นผู้ฝึกตนอสูรหญิงสาว และรองจากผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุด ซึ่งเป็นไห่เจี้ยเยาคนที่เจ็ด

ต่างก็แทบไม่อาจจะทนทานได้อีกต่อไป พวกมันมองไปยังพลังที่กำลังพุ่งขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งของเมิ่งฮ่าว ขณะที่เขาเดินข้ามสุดยอดสะพานไป แรงกดดันของทะเลที่เก้ากำลังหายไปจากบนร่างเขา และเกาะแห่งนี้กำลังพังทลายลงไปอยู่รอบๆ ตัว ผู้ฝึกตนอสูรหญิงสาวกัดฟันแน่นและกรีดร้องออกมา ตะเกียงวิญญาณที่ดับลงไปแล้วสี่ดวงของนาง จู่ๆ ก็หมุนวนไปมา และนางก็พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้ฝึกตนอสูร กวาดเลียโลหิตที่อยู่บนริมฝีปากของตนเอง กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “พวกเจ้า…คงไม่เข้าใจถึงความหมายของสิ่งที่ถูกเรียกว่าเซียน!”

เขาไม่สนใจพวกมันอีกต่อไป รวมทั้งผู้ฝึกตนอสูรหญิงสาวผู้นั้น เดินไปอีกหนึ่งก้าว…

ก้าวที่แปด!

สุดยอดสะพานสั่นสะเทือน ในที่สุดมันก็เริ่มกลายเป็นของจริงมากขึ้น และกำลังกระจายบรรยากาศของความเก่าแก่โบราณออกมาอย่างถึงที่สุดด้วยเช่นกัน น้ำทะเลที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นพลุ่งพล่านปั่นป่วน และเกาะแห่งนี้ก็พังทลายลงไปมากยิ่งขึ้น

สามผู้ฝึกตนอสูรที่บรรลุถึงขีดจำกัดของพวกมันไปจากก่อนหน้านี้ ส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา ขณะที่เมิ่งฮ่าวเดินไปเป็นก้าวที่แปด จากนั้นแรงกดดันก็กรีดเฉือนร่างพวกมันออกเป็นชิ้นๆ ถูกสังหารไปทั้งร่างกายและวิญญาณ

ไม่มีอะไรเหลืออยู่ที่เบื้องหลังอีกเลย!

ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้ฝึกตนอสูรหญิงสาวก็กระอักโลหิตออกมากองโต และร่างกายก็เริ่มแห้งเหี่ยวลงไป นางไม่อาจจะก้าวมาข้างหน้าได้อีกต่อไป ไห่เจี้ยเยาคนที่เจ็ดหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา และดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยความดุร้าย

จากนั้นมันก็ฟาดฝ่ามือลงไปบนหน้าอกของตนเอง ทำการระเบิดตัวเองไป เลือดเนื้อปลิวกระจายไปทั่ว แต่จากนั้นก็กลายเป็นพลังชีวิตที่พุ่งตรงไปยังผู้ฝึกตนอสูรหญิงสาว

“หนีไป!” นี่คือคำพูดสุดท้ายที่มันได้กล่าวออกมาก่อนที่จะตกตายไป

แปดผู้ฝึกตนอสูรจากเมื่อครู่นี้ เจ็ดคนได้ตายไปแล้ว เหลือแค่หญิงสาวนางนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น นางสั่นสะท้านขึ้นด้วยความหวาดกลัวขณะที่ได้รับพลังชีวิตของสหายมา ขณะที่พลังนั้นไหลเข้าไปในร่าง ตะเกียงวิญญาณดวงที่ห้าจู่ๆ ก็ดับลงไปในทันที และพื้นฐานฝึกตนของนางก็เริ่มพุ่งขึ้นไป

แต่การเพิ่มขึ้นของพื้นฐานฝึกตนในตอนนี้…ก็มีน้อยมาก และช้าไปแล้ว!

นางกัดฟันแน่น ใช้พลังชีวิตที่เพิ่มขึ้นมาและพลังของพื้นฐานฝึกตนถอยไปทางด้านหลังเพื่อหลบหนี

อย่างไรก็ตาม รังสีสังหารของเมิ่งฮ่าวที่ถูกสร้างขึ้นมาจากตอนที่ออกมาจากอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า ก็ไม่ยอมที่จะปล่อยให้ศัตรูหลบหนีเอาชีวิตรอดจากไปได้

ในช่วงเวลาเดียวกับที่ผู้ฝึกตนอสูรหญิงสาวหมุนตัวและหลบหนีไป เขาก็เดินไปเป็นก้าวที่เก้า ซึ่งเป็นก้าวสุดท้าย ขณะที่เท้าได้เหยียบย่างลงไป เขาก็สั่นไปทั้งร่างและกระอักโลหิตออกมากองโต ในเวลาเดียวกันนั้น ร่างกายก็แห้งเหี่ยวลงไปอย่างรวดเร็ว

แต่พลังระเบิดที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากก้าวสุดท้ายนี้ ทำให้เกาะแห่งนี้สั่นไหวไปมาอย่างรุนแรง ตอนนี้มีอยู่มากกว่าสามในสิบส่วนของตัวเกาะที่พังทลายลงไปในทะเล ผืนดินชั้นแล้วชั้นเล่าได้แตกกระจายและจมลงไปในน้ำ น้ำทะเลในบริเวณนั้นพลุ่งพล่านปั่นป่วน

ราวกับว่าถูกโจมตีด้วยพลังอันยิ่งใหญ่บางอย่าง ทำให้เกิดเป็นพายุขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของน้ำทะเล

ผู้ฝึกตนอสูรหญิงสาวไม่อาจจะป้องกันตนเอง ไม่ให้ส่งเสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนออกมาได้ ขณะที่อยู่ห่างออกไปไกลถึงหนึ่งร้อยจ้าง จากนั้นร่างกายนางก็ระเบิดขึ้นกลายเป็นกลุ่มหมอกของเลือดเนื้อไป

เมิ่งฮ่าวถอยโซเซไปทางด้านหลังเล็กน้อย ราวกับว่าเขาแทบจะตกลงไปได้ทุกเมื่อ สุดยอดสะพานกลายเป็นภาพลวงตาขึ้นอีกครั้ง และแรงกดดันของทะเลที่เก้าก็ยังคงมีอยู่ในที่แห่งนี้ กดทับลงมาบนร่างเขาอย่างรุนแรง ด้วยความต้องการที่จะกลบฝังเมิ่งฮ่าวไป ร่างกายเขากำลังเกิดเป็นเสียงแตกร้าวดังขึ้นมา เห็นได้ชัดว่ากำลังอยู่ในช่วงที่เปราะบางเป็นอย่างยิ่ง ร่างกายเขากำลังฉีกขาดออกไปอย่างน่ากลัว

ในตอนที่เขากำลังจะตกลงไป ในตอนที่แรงกดดันของทะเลที่เก้ากำลังจะท่วมไปทั่วร่าง จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะดังก้องกังวานออกมาจากจุดศูนย์กลางของตัวเกาะ เงาร่างหนึ่งได้พุ่งออกมาอย่างรวดเร็วราวกับเป็นสายฟ้า มาปรากฏกายขึ้นที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว กลิ่นอายของอาณาจักรโบราณที่มีตะเกียงวิญญาณดับลงไปแล้วหกดวงระเบิดเต็มไปทั่วในบริเวณนั้น

“ตาย!” มันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเป็นผู้ฝึกตนอสูรวัยกลางคนผู้นั้น ซึ่งได้เฝ้ารอคอยหาโอกาสสักครั้งอยู่ตลอดเวลา มันแทบจะจินตนาการได้ว่าการโจมตีไปยังเมิ่งฮ่าวของมัน ทำให้เขาต้องกลายเป็นกลุ่มหมอกของโลหิตไป แต่ก็จะทำลายไปแค่ร่างกายของเขาเท่านั้น

ไม่ได้กำจัดวิญญาณของเขาไป ซึ่งมันต้องใช้เวทพิเศษที่จะช่วยดึงเอาเครื่องหมายของลำดับขั้นออกมา อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่แตกต่างไปจากการระเบิดอย่างรุนแรงอยู่ดี

ความคิดที่สามารถจะกลายเป็นบุคคลที่อยู่ในลำดับขั้น ทำให้บุรุษวัยกลางคนต้องรู้สึกตื่นเต้นขึ้นอย่างถึงที่สุด

ในตอนนี้เองที่จู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็มองขึ้นไป และดวงตาก็แวบแสงอันเย็นชาขึ้น ในชั่วพริบตา เขาไม่ได้แห้งเหี่ยวอีกต่อไป และจริงๆ แล้วรอยยิ้มที่เยาะเย้ยก็บิดขึ้นมาจากริมฝีปากของเขา

เขาได้เฝ้ารอให้บุรุษผู้นี้แสดงตัวขึ้นมานานแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของมันมาก่อน แต่ก็ไม่อาจจะมองเห็นมันได้ ทำให้ยากที่จะใช้กระถางสายฟ้าเพื่อบังคับให้มันออกมา มันหลบซ่อนตัวอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเมิ่งฮ่าวจึงปล่อยให้ตนเองต้องอ่อนแอลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ จนแน่ใจได้ว่าบุรุษผู้นี้จะต้องแสดงตัวออกมาในที่สุด กลุ่มผู้ฝึกตนอสูรต้องการตำแหน่งในลำดับขั้นของเขา ถ้าเขาถูกสังหารไปทั้งร่างกายและวิญญาณจากแรงกดดันของทะเลที่เก้า มันก็คงไม่สมกับความตั้งใจของกลุ่มผู้ฝึกตนอสูร ถึงแม้ว่าพวกมันจะขาดความเข้าใจในรายละเอียดของลำดับขั้นก็ตามที แต่ก็มั่นใจได้ว่าพวกมันต้องไม่ยอมให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ดังนั้นบุรุษผู้นั้นจึงเฝ้ารอคอยจนกระทั่งเขาเริ่มอ่อนแอลงโดยสิ้นเชิง และแทบจะถูกแรงกดดันของทะเลที่เก้าบดขยี้ไป…จากนั้นมันจึงเริ่มลงมือ!

เมื่อมันมองเห็นแสงอันเย็นชาในดวงตาเมิ่งฮ่าว และรอยยิ้มที่เยาะเย้ยของเขา หนังศีรษะของผู้ฝึกตนอสูรวัยกลางคนก็ต้องด้านชาขึ้นมา และจิตใจก็เริ่มเต้นรัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

“เจ้าจะเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องตายไปในวันนี้!” เมิ่งฮ่าวกล่าวพร้อมกับยกมือขวาขึ้นมาและฟาดออกไปข้างหน้า ในทันทีที่มือนั้นทำการฟาดโจมตีไปยังผู้ฝึกตนอสูรสองครั้ง พลังพื้นฐานฝึกตนของเลือดเนื้อจู่ๆ ก็ไหลไปมาอยู่ภายในร่างของเมิ่งฮ่าว ทำให้ใบหน้าเขากลายเป็นสีแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย

เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิต!

ผู้ฝึกตนอสูรหอบหายใจด้วยเสียงแหบแห้งออกมา และใบหน้าของมันก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ขณะที่พุ่งถอยไปทางด้านหลัง ก่อนหน้านี้มันรู้สึกได้ว่าพลังชีวิตและพื้นฐานฝึกตนหนึ่งในสิบส่วนของมัน กำลังถูกดูดออกไป

หลังจากที่มันทำร่างกายให้เสถียรมั่นคง รังสีสังหารก็แวบขึ้นมาในดวงตา สุดยอดสะพานของเมิ่งฮ่าวกำลังจางหายไป ทำให้มันต้องหัวเราะเป็นเสียงเย็นชาขึ้นมา กล่าวว่า

“ถึงเจ้าจะมีเล่ห์กลซ่อนอยู่แล้วจะเป็นไร? เจ้าไม่มีทางต่อสู้กับข้าได้ ภายใต้แรงกดดันของทะเลที่เก้า!”

“แรงกดดันของทะเลที่เก้า?” เมิ่งฮ่าวถาม มองขึ้นไปในท้องฟ้า “แม้แต่สวรรค์และปฐพีก็ยังไม่อาจจะบดบังข้าได้! เลิกฝันได้แล้วว่าแรงกดดันของทะเลที่เก้าจะสะกดข่มข้าได้!”

ขณะที่เมิ่งฮ่าวกล่าว พลังก็พุ่งขึ้นไป ที่ด้านล่างของเขา สุดยอดสะพานเริ่มมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นอีกครั้ง เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และจากนั้น…ก็เดินตรงไปเป็นก้าวที่สิบ!

ก้าวที่สิบนั้นทำให้แรงกดดันของทะเลที่เก้าแตกกระจายไป ค่ายกลเวทถูกทำลายลงโดยสิ้นเชิง และเกาะแห่งนี้ก็สั่นไหวไปมา ขณะที่มันเริ่มแตกกระจายออกไปเป็นชิ้นๆ พังทลายลงไปในทั่วทุกทิศทาง!

เมิ่งฮ่าวคล้ายกับเป็น…มังกรที่พุ่งทะยานออกมาจากกับดัก!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!