บทที่ 726 คำนวณผิดไปแล้ว
“เจ้ากล้ารับหรือไม่!” คำพูดของชายหนุ่มชุดชมพูฉายแววเหยียดหยัน
ป๋ายเสี่ยวฉุนกะพริบตาปริบๆ แอบพูดกับตัวเองว่ายังไม่ทันรอให้ตนวางกับดักล่ออีกฝ่ายเสร็จดี ไอ้หนุ่มชุดชมพูผู้นี้กลับเดินเข้ามาในกับดักของตนเสียก่อนแล้ว แถมเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายก็คิดจะวางแผนผลักตนลงหลุมด้วย
“ไอ้หมอนี่อำมหิตยิ่งนัก ดูท่ามูลค่าของหยกประดับชิ้นนี้คงมากมหาศาล แถมคำว่าพอใจหรือไม่พอใจของเขาก็หมายความว่าต่อให้ข้าทำสำเร็จแล้วหนึ่งครั้ง เขาก็คงยังจะให้ข้าหลอมต่อไปเรื่อยๆ ” ป๋ายเสี่ยวฉุนคิดมาถึงตรงนี้ นัยน์ตาก็เปล่งประกายวาบอย่างที่มิอาจสังเกตเห็น สีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงไปทันใด ร่างก็สั่นสะท้านน้อยๆ ลมหายใจหอบถี่ เค้นเส้นเลือดฝอยจำนวนไม่น้อยออกมาทางดวงตาทั้งคู่
“ทำไมข้าจะไม่กล้า!” ป๋ายเสี่ยวฉุนคำรามดังก้อง ลมหายใจหอบรัวคล้ายพยายามปกปิดอาการร้อนตัวของตัวเอง
“แต่เวลาที่ข้าหลอมพลังจิตให้คนอื่น หากสำเร็จหนึ่งครั้งก็จะต้องเก็บเงินหนึ่งครั้ง จะไม่เก็บรวบยอดทีเดียว หากเจ้าไม่มียาวิญญาณที่มากพอ” ป๋ายเสี่ยวฉุนรีบพูดต่อทันที ให้ความรู้สึกดั่งว่าทั้งๆ ที่ไม่กล้ารับ แต่แสร้งวางท่าหากเจ้าจ่ายค่าตอบแทนไม่ได้ ข้าก็ไม่ยอมหลอมให้
“ได้สิ หากเจ้าทำสำเร็จหนึ่งครั้ง ข้าก็จะจ่ายค่าตอบแทนให้เจ้าหนึ่งครั้ง!” ชายหนุ่มชุดชมพูขมวดคิ้ว รู้สึกทะแม่งๆ เล็กน้อย เพราะตอนนี้เขากำลังบีบบังคับป๋ายเสี่ยวฉุน แต่ขณะเดียวกันก็บีบตัวเองให้จนมุมด้วย หลังจากที่ครุ่นคิดถึงแผนการของตัวเอง นัยน์ตาจึงเปล่งแสงวาบหนึ่งทีแล้วหัวเราะหยัน
“เจ้าป๋ายฮ่าวผู้นี้น่าจะเดาความคิดข้าออก แต่เขากลับเดาไม่ได้ถึงการตัดสินใจที่ข้าบอกกับทุกคน และยิ่งเดาไม่ได้ว่าข้าเตรียมการพร้อมแล้วหากเขาหลอมพลังจิตครบสิบสี่ครั้ง
อีกทั้งตั้งแต่ครั้งที่สิบถึงครั้งที่สิบสี่ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะทำพลาดก็เป็นได้!”
ชายหนุ่มชุดชมพูอ่อนหรี่ตาทั้งคู่ลง ครั้งนี้มองดูเหมือนเขามุทะลุ แต่ในความเป็นจริงได้สืบความมาก่อนแล้ว รู้ว่าบนร่างของคนผู้นี้มีแต่อาวุธวิเศษที่ผ่านการหลอมพลังจิตสิบสี่ครั้งทั้งนั้น
“น่าเสียดายที่อาวุธประเภทที่เขาชดใช้ไม่ไหวซึ่งข้ามีอยู่ ส่วนใหญ่แล้วจะหลอมพลังจิตมาประมาณสิบครั้งทั้งนั้น แต่ต่อให้มีชิ้นที่หลอมสิบสี่ครั้งจริงๆ คนผู้นี้จะเลือกไม่หลอมก็นับว่าเข้าใจได้ ถ้าอย่างนั้นวิธีการของข้าก็อาจจะไม่ได้ผล” ขณะที่ยิ้มหยัน ชายชุดชมพูผู้นี้ก็ตัดสินใจยอมทำตามข้อเรียกร้องของป๋ายเสี่ยวฉุนอย่างเด็ดเดี่ยว
และพอเห็นว่าเมื่อตนตัดสินใจยอมรับข้อเสนอ สีหน้าของป๋ายเสี่ยวฉุนก็เปลี่ยนมาเป็นเหมือนขี้เถ้ามอด ในใจเขาก็คลายลงจากเดิมอีกเล็กน้อย
ป๋ายเสี่ยวฉุนหน้าตาบูดบึ้ง ทว่าในใจกลับยิ้มเบิกบานราวมีดอกไม้ผลิ แสร้งทำเป็นกัดฟันกรอด สะบัดปลายแขนเสื้อหนึ่งครั้ง รับเอาหยกประดับชิ้นนั้นมาแล้วเดินเข้าไปลานบ้านด้านหลังด้วยสีหน้ามืดทะมึน
ไม่นานนัก เมื่อเขาเดินออกมา ลายเส้นสีเงินบนหยกประดับหายไป แทนที่มาด้วยเส้นสีทองหนึ่งเส้น ทั้งลักษณะของมันยังเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ขนาดหดเล็กลง แถมยังแผ่คลื่นพลังวิญญาณที่น่าครั่นคร้ามออกมา คลื่นนี้แผ่ไปสี่ทิศ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในร้านต่างเบิกตากว้าง ในใจสั่นสะท้านอย่างบ้าคลั่ง
“ทำสำเร็จจริงๆ หรือนี่!”
“หลอมพลังจิตสิบเอ็ดครั้งเชียวนะ”
ชายหนุ่มชุดชมพูสีหน้าเป็นปกติ สายตากวาดมองหยกประดับที่อยู่ในมือป๋ายเสี่วฉุนแล้วถอนหายใจอยู่ในใจ
ป๋ายเสี่ยวฉุนเชิดหน้าขึ้นอย่างลำพองใจ สายตาจ้องไปที่ชายหนุ่มชุดชมพูพร้อมกล่าวด้วยเสียงอันดัง
“หุนเอ๋อร์ (หุนแปลว่าวิญญาณ) บอกวิธีการเก็บค่าใช้จ่ายในการหลอมพลังจิตของข้าให้กับคุณชายท่านนี้ทราบสิ แล้วลองคำนวณดูว่าเขาควรจะจ่ายยาวิญญาณให้ข้าเท่าไหร่”
“วัตถุชิ้นนี้มีในไม่มี หลอมพลังจิตครั้งแรกเริ่มที่ยาวิญญาณหนึ่งพันเม็ด เมื่อหนึ่งเลื่อนเป็นสองก็คือสองพัน สองเลื่อนเป็นสามคือสี่พัน อนุมานตามวิธีการเช่นนี้เป็นเรื่อยๆ สี่คือแปดพัน เจ็ดคือหกหมื่นสี่ เก้าคือสองแสนหก สิบคือห้าแสนหนึ่งหมื่นสองพัน ส่วนหลอมพลังจิตสิบเอ็ดครั้ง ต้องจ่ายยาวิญญาณจำนวน หนึ่งล้านสองหมื่นสี่พันเม็ด”
เสียงของวิญญาณป๋ายฮ่าวดังก้องกังวาน ทุกคนที่อยู่รอบด้านต่างก็สูดลมดังเฮือก ในบรรดาพวกเขามีบางคนที่คำนวณมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว แม้จะเตรียมใจมาก่อน ทว่าพอได้ยินจำนวนนี้ก็ยังคงใจสั่นอย่างบ้าคลั่งอยู่ดี
ป๋ายเสี่ยวฉุนมองชายหนุ่มชุดชมพูด้วยสีหน้าลำพองใจ ชายหนุ่มชุดชมพูเงียบไปครู่หนึ่งก็ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะชี้ไปยังสถูปวิญญาณที่เอาออกมาเมื่อครู่นี้แล้วเอ่ยเนิบนาบ
“ในสถูปวิญญาณมียาวิญญาณห้าล้านเม็ด เจ้าสามารถหลอมต่อไปได้ แค่หลอมพลังจิตสิบเอ็ดครั้ง ข้ายังไม่พอใจ” คำพูดของเขาสะเทือนจิตใจผู้คนได้อีกครั้ง คราวนี้คนที่อยู่ด้านนอกก็พากันล้อมเป็นวงกว้าง เมื่อเห็นการเดิมพันที่สูงจนน่ากลัว พวกเขาก็พากันหน้าเปลี่ยนสี ขณะเดียวกันก็ตื่นเต้นมากด้วยจึงรีบหยิบเอาแผ่นหยกส่งข้อความเสียงออกมาเรียกให้สหายของตนมารวมตัวกัน
ไม่นานเรื่องนี้ก็ครึกโครมไปทั่วเขตพื้นที่แปดสิบเก้า เงาร่างจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งทะยานมาตรงจุดนี้อย่างรวดเร็ว ต่อให้คนที่อยู่ตรงนี้มีมากเกินไปจนเข้าไปไม่ได้ พวกที่มาใหม่ก็ยังกวาดอำนาจจิตจับตามองอย่างใกล้ชิด
ม่านตาของป๋ายเสี่ยวฉุนหดตัว ก่อนหน้านี้เขาก็วิเคราะห์ได้ว่าอีกฝ่ายวางแผนลวงไว้ให้ตน ยามนี้จึงหัวเราะเสียงเย็นอย่างไม่ปกปิดอีกต่อไป เพียงรับหยกประดับชิ้นนั้นมาแล้วหมุนกายเข้าห้องไปทันที
ไม่นานนัก เมื่อเขาเดินออกมา หยกประดับชิ้นนั้นก็มีลายเส้นสีทองปรากฏเพิ่มขึ้นมา การปรากฏของลายเส้นสีทองนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ทั้งในและนอกร้านต่างก็ร้องอุทานด้วยความตกใจ
“สิบสองครั้ง สวรรค์!!”
“ไม่เคยเห็นการเดิมพันสูงเช่นนี้มานานหลายปีแล้ว รีบเรียกคนมาดูเร็วเข้า เรื่องนี้ต้องครึกโครมไปทั้งนครจักรพรรดิขุยแน่นอน!!”
ขณะที่ทุกคนร้องอุทานดังอื้ออึง ในที่สุดชายหนุ่มชุดชมพูก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันเล็กน้อย นัยน์ตาเขาฉายแววลังเล ก่อนจะจ้องป๋ายเสี่ยวฉุนเขม็งแล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ยังไม่พอใจ หลอมต่อไป!”
ป๋ายเสี่ยวฉุนรับรู้ได้ถึงความแน่วแน่ของชายหนุ่มชุดชมพูก็แค่นเสียงขึ้นจมูกอยู่ในใจ พูดกับตัวเองว่าเจ้ารอข้าก่อนเถอะ ดูสิว่าข้าจะทำให้เจ้าตกใจตายได้หรือไม่! คิดมาถึงตรงนี้ ป๋ายเสี่ยวฉุนก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง พอเขาเดินออกมา แผ่นหยกประดับในมือของเขาก็มีเส้นสีทองเส้นที่สาม!!
“หุนเอ๋อร์ บอกราคา!” คราวนี้ยังไม่ทันรอให้ทุกคนได้ฮือฮา
เสียงของป๋ายเสี่ยวฉุนที่แหลมน้อยๆ ก็ดังลั่นไปทั่วด้าน
วิญญาณป๋ายฮ่าวถึงกับตัวสั่นเทิ้ม เพราะเรื่องในครั้งนี้เหนือเกินการคาดการณ์ของเขามากยิ่งนัก แต่ยังไม่ทันรอให้เขาได้ลังเลก็ต้องรีบเอ่ยออกไปตามคำสั่งของป๋ายเสี่ยวฉุน
“การหลอมพลังจิตครั้งนี้ ยาวิญญาณสี่ล้านเก้าหมื่นหกพันเม็ด!”
เสียงของวิญญาณป๋ายฮ่าวดังสะท้อนไปแปดทิศ บัดนี้ไม่เพียงแต่คนในเขตพื้นที่ที่แปดสิบเก้าเท่านั้นที่ตื่นตะลึงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แม้แต่คนในเขตอื่นๆ จำนวนไม่น้อยที่ตามมาอย่างรวดเร็วเพราะได้รับข้อความเสียงก็รู้สึกไม่ต่างกัน หากมองลงมาจากที่สูงจะเห็นได้ว่ารอบๆ พื้นที่ที่แปดสิบเก้าในเวลานี้มีนักพรตอย่างน้อยสิบกว่าเขตถนนมารวมตัวกัน
ร่างของชายชุดชมพูก็เริ่มสั่นขึ้นมาบ้างเหมือนกัน นัยน์ตาเขาเริ่มทอแสงแห่งความลนลาน สมองมีแต่เสียงดังอึงอล พยายามฝืนให้ตัวเองรักษามาดนิ่งสงบ เพราะอย่างไรซะทุกอย่างนี้ก็หาใช่ว่าเขาจะไม่เคยเตรียมใจมาก่อน แต่ในใจเขาก็ขมขื่นไม่น้อย จากความคาดหวังของเขา ทางที่ดีที่สุดคือระหว่างที่อีกฝ่ายหลอมมาถึงขั้นที่สิบสี่ หยกประดับชิ้นนี้จะแตกสลายไปเสียก่อน
“คนผู้นี้มีพรสวรรค์ด้านการหลอมพลังจิตน่าตะลึงเกินไปแล้ว!” หลังจากกัดฟันกรอด ชายชุดชมพูก็พลันเงยหน้าขึ้นมองป๋ายเสี่ยวฉุนแล้วพูดเน้นย้ำทีละคำ
“ข้ายังไม่พอใจ เจ้าหลอมต่อไป!”
คราวนี้ทุกคนทั้งในและนอกร้านที่จับตามองอยู่ก็เกิดความตะลึงพรึงเพริดขึ้นมาในหัวใจ ความตกตะลึงนี้ไต่ทะยานสูงถึงขีดสุด สะท้านฟ้าสะเทือนดิน พวกเขามองออกตั้งนานแล้วว่าการเดิมพันครั้งนี้ผิดปกติ พอเห็นชายชุดชมพูยังคงพูดว่าไม่พอใจครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเขาก็เข้าใจแล้วว่านี่ต้องมีความหมายลึกล้ำแฝงเร้นอยู่แน่นอน
“ยังไม่พอใจหรือ เจ้าเด็กชุดชมพู คอยดูเถอะว่าข้าจะทำให้เจ้าตกใจตายได้ยังไง!” ป๋ายเสี่ยวฉุนสะบัดร่างกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง หนึ่งก้านธูปต่อมา เมื่อเขาเดินออกมาจากในห้อง พอทุกคนมองเห็นหยกประดับในมือของเขา เสียงร้องอุทานแตกตื่นเขย่าคลอนนภากาศและปฐพีก็ระเบิดเทียมฟ้าอีกครั้ง
“สิบ สิบสี่ครั้ง!!”
“หลอมพลังจิตสิบสี่ครั้ง นี่จะเป็นไปได้อย่างไร คุณพระช่วย”
ท่ามกลางเสียงฮือฮานี้ คนจำนวนไม่น้อยต่างก็ส่งข้อความเสียงให้คนรู้จักอย่างบ้าคลั่ง บอกให้พวกเขารีบมาที่นี่ ขณะเดียวกันเสียงของวิญญาณป๋ายฮ่าวยังไม่ทันบอกราคา ป๋ายเสี่ยวฉุนกลับชิงตะโกนออกมาเสียก่อนด้วยความลำพองใจ
“ยาวิญญาณแปดล้านหนึ่งแสนเก้าหมื่นสองพันเม็ด!” ป๋ายเสี่ยวฉุนคึกคะนองอยู่ในใจ รู้สึกว่าต้องให้ตนเอ่ยบอกเองถึงจะมีพลังอำนาจมากกว่า
เสียงลำพองใจของป๋ายเสี่ยวฉุนปานประหนึ่งระฆังไว้อาลัยสำหรับชายชุดชมพู ในใจของเขาเหมือนมีอสนีระเบิด ทำให้สีหน้าของเขาซีดขาวไปในพริบตา รู้สึกคล้ายถูกแรงมหาศาลขุมหนึ่งกระแทกโจมตีจนร่างของเขาเซถอยไปข้างหลังหลายก้าว สูดลมหายใจเฮือกๆ อีกหลายที ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำทันใด ต่อให้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เขาก็ยังคงใจสั่น เพราะจำนวนยาวิญญาณนี้มากมหาศาลจนเกินไป ยิ่งพอลองบวกเข้าด้วยกันดูแล้วก็มากจนเกือบจะถึงสิบห้าล้านเม็ด
ยามนี้เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่ตนไม่ควรเสนอตัวเป็นคนออกหน้า ใจอยากจะถอย แต่ขึ้นหลังเสือมาแล้วลงยาก ในใจจึงเริ่มคิดไม่ตก การเดิมพันครั้งนี้มีคนจับตามองเยอะเกินไป คนข้างนอกที่ตามมาดูเรื่องสนุกก็มีมากพอหมื่นคน แถมยังมีนักพรตจากเขตอื่นๆ ที่พากันเร่งรุดมาที่นี่อย่างรวดเร็ว
“ลูกค้าท่านนี้ พอใจหรือยัง? ยาวิญญาณในสถูปวิญญาณนี้ไม่พอแล้วนะ เจ้าต้องให้ข้าทั้งหมดแปดล้านหนึ่งแสนเก้าหมื่นสองพันเม็ด เจ้าจ่ายมาให้ครบก่อน หากยังไม่พอใจ ข้าผู้แซ่ป๋ายยังหลอมให้เจ้าต่อได้!” ป๋ายเสี่ยวฉุนเชิดคาง เอ่ยอย่างได้ใจสุดขีด
ทว่าป๋ายฮ่าวกลับยืนเซ่อ มองอาจารย์ของตัวเองด้วยความอึ้งงัน ในใจลังเล ครุ่นคิดว่าดูเหมือนอาจารย์ของตนจะคำนวณผิดไป เขาน่าจะคิดแค่ราคาการหลอมพลังจิตครั้งสุดท้ายเท่านั้น ยังไม่ได้คิดรวมจำนวนของครั้งก่อนๆ เลย
ใจเขาอยากจะเอ่ยเตือน แต่คนที่มามุงดูมีมากเกินไป ตนต้องทำท่าเหม่อลอยดั่งที่วิญญาณทาสควรจะเป็น มิอาจเอ่ยเตือนได้ ดังนั้นจึงได้แต่ถอนหายใจอยู่ในใจ มีความรู้สึกอยากจะยกมือปิดหน้า
รอบด้านมีเสียงลมหายใจหอบหนักฟังไม่ได้ศัพท์ ทุกคนถูกทำให้สะท้านสะเทือน ขณะเดียวกันก็มีคนไม่น้อยที่เริ่มรู้สึกแปลกใจ สังเกตได้ว่าป๋ายเสี่ยวฉุนเหมือนจะคำนวณราคาผิด แต่ชายชุดชมพูเป็นศิษย์แห่งความภาคภูมิใจผู้สูงศักดิ์ พวกเขาไม่อยากล่วงเกิน เมื่อเห็นว่าป๋ายเสี่ยวฉุนคำนวณผิด
แต่ละคนจึงแอบเหลือบมองป๋ายเสี่ยวฉุน ชายชุดชมพูก็มองป๋ายเสี่ยวฉุนด้วยอาการอึ้งงันเหมือนกัน เขาไม่เชื่อหรอกว่าอีกฝ่ายจะคิดผิด ผ่านไปพักใหญ่ก็พลันเงยหน้าขึ้น ตบถุงเก็บของหนึ่งที โยนสถูปวิญญาณออกมาอีกหนึ่งหลัง
“ข้างในนี้มียาวิญญาณสี่ล้านเม็ด ข้า ยังไม่พอใจ เจ้าจงหลอมให้ข้าต่อไป!!”
ชายชุดชมพูดลองตะโกนเสียงดังหมายหยั่งเชิง ครั้งนี้เขารวบรวมกำลังของศิษย์แห่งความภาคภูมิใจมากมาย ทั้งยังรวมของตัวเองเข้าไปด้วย สุดท้ายถึงสะสมยาวิญญาณมาได้ขนาดนี้ และนี่ก็เป็นขีดสุดแล้ว อีกทั้งยาวิญญาณพวกนี้ก็นับว่าเทียบเคียงได้กับรากฐานของตระกูลใหญ่ๆ ตระกูลหนึ่งเลยทีเดียว!
“หลอมพลังจิตสิบสี่ถึงสิบห้าครั้ง ราคาไม่เหมือนกัน ไม่ได้คิดทบเป็นหนึ่งเท่าตัว แต่ทบเป็นสิบเท่า!” ป๋ายเสี่ยวฉุนเอ่ยน้ำเสียงจองหอง
“ซึ่งก็หมายความว่าหากครั้งนี้ข้าทำสำเร็จ จำนวนยาวิญญาณที่เจ้าต้องจ่ายให้ข้าก็คือแปดสิบเอ็ดล้านเก้าแสนสองหมื่นเม็ด!” ป๋ายเสี่ยวฉุนเองก็เริ่มอกสั่นขวัญผวา อดไม่ไหวจำต้องเอ่ยเตือน
“เจ้า .. แน่ใจว่าจะจ่ายไหว?”