ตอนที่ 1054
เสี่ยวฮ่าวจื่อจงเป็นเด็กดี
เมิ่งฮ่าวกำลังจะจากไป แต่เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ก็ต้องหยุดชะงักนิ่งด้วยจิตใจที่เต้นรัว
ค่อยๆ หันกลับไปมองยังเก้าไห่เจี้ยเยา ที่พยายามทำทุกวิถีทางซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อมาหาเรื่องเขา แต่เมิ่งฮ่าวก็คิดว่าการสังหารมากเกินไปของตนเอง ทำให้เกิดเป็นความขัดแย้งอย่างที่ไม่อาจจะประนีประนอมกันได้ ต้องขอบคุณสำหรับการกระทำของผู้ฝึกตนอสูรเหล่านี้ ที่ทำให้ความรู้สึกเสียใจของเขาแทบจะหายไปจนหมดสิ้น
บางครั้งก็ไม่สำคัญว่าใครจะถูกหรือผิด สิ่งสำคัญก็คือว่า…ใครจะมีพลังสนับสนุนคำพูดของพวกมันได้มากกว่ากัน!
มีแต่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้น ที่สามารถจะตอกย้ำสิ่งที่พูดออกมาได้!
ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวได้ยินไห่เจี้ยเยาเอ่ยถึงคำว่า ‘เดิมพัน’ เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะและจากนั้นก็ยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่เขินอาย และเป็นเชิงขอโทษอยู่เล็กน้อย
“จะดีหรือ?” เขากล่าวตอบด้วยความลังเลอยู่เล็กน้อย
“พูดจาไร้สาระให้มันน้อยลง เจ้ากล้าหรือไม่กล้า!?” ผู้ฝึกตนอสูรกล่าวขึ้น ไห่เจี้ยเยาอื่นๆ เริ่มหัวเราะออกมาในทันที สำหรับหลงเทียนไห่ มันมองมาด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งไม่แยแส
พวกมันไม่รู้จักเมิ่งฮ่าว ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าภายใต้รอยยิ้มที่เขินอายนั้น คืออารมณ์ที่รุนแรงจนแม้แต่คำว่าเพลิงพิโรธหรือความเกรี้ยวกราดก็ยังไม่อาจจะอธิบายออกมาได้
“ไม่พนัน!” เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ตัดสินใจที่จะเดินทางต่อไป หันหลังและจากไปอีกครั้ง
“กลายเป็นว่านายน้อยแห่งตระกูลฟาง ไม่กล้าที่จะเดิมพันจริงๆ”
คนที่เจ็ดแห่งเก้าผู้ฝึกตนอสูรกล่าวขึ้น “มันทำได้แค่เรื่องเดียวเท่านั้นคือข่มเหงฝานตงเอ๋อร์!” คำพูดของมันชั่วร้ายและเย็นชา ผลักให้เมิ่งฮ่าวเข้าไปสู่สถานการณ์อันเลวร้าย ในสายตาศิษย์คนอื่นๆ ของอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าในทันที
“นายน้อยอะไรกัน?! ช่างอ่อนแอนัก ดูเหมือนว่าตระกูลฟาง…ไม่มีอะไรเลย!”
“ถ้าไม่พูดถึงเรื่องที่มันกลายเป็นศิษย์ของสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่แล้วละก็ คนผู้นี้ช่างขี้ขลาดนัก!” ผู้ฝึกตนอสูรยังคงใช้คำพูดเสียดสีถากถางอย่างต่อเนื่อง การยั่วยุของพวกมันได้บรรลุถึงจุดที่กลายเป็นการโจมตีไปด้วยวาจาแล้ว
อีกครั้งที่เมิ่งฮ่าวหยุดชะงักนิ่ง และค่อยๆ หมุนตัวกลับมาอย่างช้าๆ ใบหน้ากลายเป็นสีแดงก่ำ ราวกับว่าเขาแทบไม่อาจจะสะกดกลั้นโทสะไว้ได้ หอบหายใจออกมาขณะที่จ้องมองไปยังผู้ฝึกตนอสูรทั้งเก้า
“มองอะไร? นอกจากหลอกลวงผู้คนแล้วก็ไม่อาจจะทำอะไรได้! ช่างไร้ประโยชน์จริงๆ! แม้แต่ตอนวางเดิมพัน ที่มันสามารถทำได้ก็คือรังแกผู้หญิง! ไสหัวไป!”
“พวกเจ้าต้องการพนันอย่างไร?” เมิ่งฮ่าวแผดเสียงออกมาผ่านร่องฟัน จ้องมองไปยังผู้ฝึกตนอสูร และถอยไปทางด้านหลังสองสามก้าว ราวกับว่าเขากำลังบังคับให้ตนเองฝืนใจทำ ในสิ่งที่ไม่ต้องการจะทำอย่างไร้ทางเลือก
เก้าอสูรแห่งไห่เจี้ยเยา มองมายังเมิ่งฮ่าวพร้อมกับรอยยิ้มอันเย็นชา บุคคลที่กล่าวตอบเป็นอสูรหญิงสาวอันดับสาม
“เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเราต้องการจะพนันว่า เจ้าสามารถจะเข้าไปอยู่ในสิบอันดับแรกของหนึ่งในประตูแท่นศิลาตัวอักษรสีทองเหล่านั้นได้หรือไม่!? โดยที่ไม่มีการคดโกงเหมือนกับที่ได้ทำมาในแท่นศิลาที่เก้า”
“เงินเดิมพันเป็นหยกเซียนหนึ่งแสนชิ้น และหินลมปราณห้าล้านก้อน!”
“ถ้าเจ้าไม่อาจจะเข้าไปอยู่ในสิบอันดับแรกได้ ก็ไม่ต้องจ่ายหินลมปราณใดๆ แค่ไสหัวออกไปจากทะเลที่เก้าก็พอ! แต่ถ้าเจ้ากล้าก้าวเท้ากลับเข้ามาเพียงแค่ครึ่งก้าว พวกเราก็จะสังหารเจ้าไปทั้งร่างกายและวิญญาณ!”
ใบหน้าเมิ่งฮ่าวบิดเบี้ยวขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เขาก็เริ่มหัวเราะเป็นเสียงดังออกมา
“ช่างเป็นเงินเดิมพันที่กระจ้อยร่อยนัก! พวกเจ้าต้องการมาพนันกับข้าด้วยเงินเดิมพันเช่นนี้จริงๆ? ฝานตงเอ๋อร์และข้าเป็นสหายกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งพวกเจ้าไม่เคยรู้มาก่อน การพนันของพวกเราก่อนหน้านี้ก็แค่ความสนุกเท่านั้น! ถ้าพวกเจ้าต้องการวางเดิมพันจริงๆ ก็ต้องใช้หยกเซียนสิบล้านชิ้นขึ้นไป!!”
“พวกเจ้ากล้าที่จะวางเดิมพันเช่นนี้หรือไม่!?” เมิ่งฮ่าวพูดออกมาด้วยเสียงที่ดังมากเป็นพิเศษ หลังจากที่หยุดชะงักไปแค่ไม่กี่อึดใจ โดยที่ไม่ได้ยินเสียงตอบโต้ เขาก็เริ่มหัวเราะอย่างเย็นชาออกมา
“ถ้าพวกเจ้าไม่กล้า ก็ลืมมันไปเถอะ” เขากล่าวขึ้น หันหลังกลับอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าต้องการจะฉวยโอกาสแห่งความเงียบนี้เพื่อจากไป
“ตกลง! แต่ถ้าเจ้าแพ้ ก็ต้องทิ้งแขนขาทั้งสี่ข้างไว้เป็นของที่ระลึกสำหรับพวกข้า” หลงเทียนไห่กล่าวขึ้นมาด้วยเสียงราบเรียบ เป็นครั้งแรกที่มันพูด ทำให้ผู้ฝึกตนอสูรอีกแปดคนมีท่าทางตื่นเต้นขึ้นมาในทันที
“เจ้า…” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยท่าทางตกใจเป็นอย่างยิ่ง ใบหน้าเคร่งเครียดขึ้นอย่างถึงที่สุด ขณะที่จ้องมองกลับไปยังหลงเทียนไห่ ในที่สุดเขาก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ กัดฟันแน่นและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ระมัดระวังตัวขึ้น
“สิ่งที่ข้าบอกก็คือว่า หยกเซียนสิบล้านชิ้นต่อประตูแท่นศิลาตัวอักษรหนึ่งแท่น ด้วยการมีทั้งหมดแปดแท่นศิลา ก็หมายความว่าถ้าข้าสามารถเข้าไปอยู่ในสิบคนแรกได้ทั้งหมด พวกเจ้าก็จะเป็นหนี้หยกเซียนข้าแปดสิบล้านชิ้น!”
เสียงหอบหายใจได้ออกยินมาอยู่ในกลุ่มฝูงชน ทั้งผู้ฝึกตนธรรมดาและผู้ฝึกตนอสูร นี่คือการวางเดิมพันที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากจะพบเห็นในขุนเขาทะเลที่เก้า
“หยกเซียนแปดสิบล้านชิ้น…สวรรค์! มันจะมีค่าเท่ากับหินลมปราณมากมายเท่าใดกันแน่?”
“เพียงพอที่จะช่วยชีวิตของผู้ฝึกตนที่อยู่ในสำนักขนาดกลางได้ทั้งหมด!”
“คนพวกนี้ช่างบ้าคลั่งนัก…”
แม้ในขณะที่กลุ่มฝูงชนเริ่มตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย เก้าไห่เจี้ยเยาก็ต้องสะท้านใจไปกับคำพูดของเมิ่งฮ่าว แม้แต่สีหน้าของหลงเทียนไห่ก็ยังต้องสลดลง
หยกเซียนสิบล้านชิ้นคือจำนวนที่พวกมันสามารถจะรวบรวมมาได้ แต่สำหรับแปดสิบล้านชิ้น…เป็นสิ่งที่เกินกว่าขีดความสามารถของพวกมัน แม้แต่กลุ่มผู้ฝึกตนอสูรทั้งหมด ก็ยังไม่มีเป็นจำนวนมากขนาดนั้น
ผู้ฝึกตนอสูรอีกแปดคนรู้สึกลังเล แผนการของพวกมันที่ให้เมิ่งฮ่าวมาเดิมพันด้วย ได้คิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน และบรรลุถึงจุดที่พวกมันไม่กล้าจะตัดสินใจใดๆ แต่ฝ่ายเดียวได้ พวกมันทั้งหมดมองไปยังหลงเทียนไห่ มองเห็นสีหน้าอันน่าเกลียดของมัน ขณะที่จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าว
ดูเหมือนว่าเมิ่งฮ่าวจะแอบถอนหายใจออกมา และกำลังจะกล่าวขึ้นมาเหมือนกับว่า เขากำลังจะให้ผู้ฝึกตนอสูรถอนตัวออกจากการเดิมพันนี้ แต่ดวงตาของหลงเทียนไห่ก็สาดประกายขึ้น
“ตกลง แต่พวกเราขอเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ถ้าเจ้าไม่อาจจะเข้าไปอยู่ในสิบคนแรกของประตูแท่นศิลาตัวอักษรสีทองได้ทั้งหมด เจ้าไม่เพียงแต่จะถูกตัดแขนขาทั้งสี่ข้างออกมาเท่านั้น เจ้ายังต้องส่งมอบ…ตำแหน่งในลำดับขั้นมาให้ข้าอีกด้วย!” หลังจากที่หลงเทียนไห่กล่าวจบ ก็เกิดเป็นความเงียบกริบขึ้นมา
ผู้คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าลำดับขั้นคืออะไร แต่จากวิธีการที่สามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่ได้ปฏิบัติต่อเมิ่งฮ่าว ทำให้พวกมันสามารถจะคาดเดากันได้ เรื่องของลำดับขั้นไม่ใช่สิ่งที่จะถูกเก็บไว้เป็นความลับได้ตลอดไป ซึ่งเมิ่งฮ่าวก็รู้ดี จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงได้นำเรื่องนี้ไปพูดขึ้นในกลุ่มฝูงชนก่อนหน้านี้
บางครั้งความลับที่ถูกรับรู้กันไปทั่ว อาจจะนำข้อได้เปรียบอย่างที่คาดไม่ถึงมาให้ก็เป็นได้
ลึกลงไปในดวงตาเมิ่งฮ่าว แวบแสงอันเย็นชาขึ้นมา แต่ก็ไม่มีใครจะสามารถรับรู้ได้ ขณะที่เขามองไปยังหลงเทียนไห่ คนทั้งสองจ้องมองซึ่งกันและกันอยู่ชั่วขณะ และภายในดวงตาของหลงเทียนไห่ เมิ่งฮ่าวมองไม่เห็นร่องรอยแห่งความสงบนิ่งไม่แยแสใดๆ เหมือนก่อนหน้านี้ แต่เห็นเป็นความเจ้าเล่ห์ที่เต็มไปด้วยกลอุบายบางอย่าง
“ก่อนหน้านี้มันเสแสร้งมาโดยตลอด!” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาสาดประกายขึ้น
ในที่สุดเขาก็ยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้น ข้าไม่ต้องการหยกเซียนแปดสิบล้านชิ้น แต่ต้องการสามร้อยล้านชิ้น! พร้อมกับอาวุธเต๋าอีกหนึ่งชิ้น และเมิ่งโหม่ว (ผู้แซ่เมิ่ง) ก็จะเดิมพันกับพวกเจ้ากลุ่มผู้ฝึกตนอสูร!” คำพูดของเมิ่งฮ่าวดังประสานไปพร้อมกับเสียงหอบหายใจของเหล่าผู้ชมทั้งหมด
หยกเซียนสามร้อยล้านชิ้นช่างเป็นจำนวนที่มากมายมหาศาลนัก เมื่อคิดไปแล้วก็ช่างน่ากลัวยิ่ง แม้แต่สี่ตระกูลใหญ่ก็ยังต้องระเบิดโทสะออกมาอย่างน่ากลัว ถ้าไปบังคับให้พวกมันต้องส่งมอบออกมาด้วยจำนวนมากมายเช่นนั้น สำหรับอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า พวกมันอาจจะมีเก็บสำรองไว้อย่างมากมาย
แต่กลุ่มผู้ฝึกตนอสูรสามารถใช้ทรัพยากรของสำนักได้แค่สามในสิบส่วนเท่านั้น ถ้าพวกมันพ่ายแพ้ คงจะทำให้รากฐานของพวกมันต้องระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
สำหรับอาวุธเต๋า นั่นเป็นของวิเศษที่สามารถใช้ได้กับผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในขุนเขาทะเลที่เก้า และในความเป็นจริงแล้วก็มีอยู่แค่สามชิ้นเท่านั้น หนึ่งในนั้นตกอยู่ในความครอบครองของกลุ่มผู้ฝึกตนอสูร
ถ้าพวกมันพ่ายแพ้เดิมพันและอาวุธไปในครั้งนี้ ก็คงไม่อาจจะเทียบได้กับคุณค่าของตำแหน่งในลำดับขั้น แต่ถ้าพวกมันชนะ…ก็คงจะคุ้มค่าอยู่ไม่น้อย!
กลุ่มฝูงชนตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย และเสียงพูดคุยก็มีแต่จะดังมากขึ้นไปเรื่อยๆ เดิมพันอันน่าเหลือเชื่อเช่นนี้ เพียงพอที่จะทำให้ผู้ฝึกตนในอาณาจักรต่างๆ ทั้งหมดต้องเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ไห่เจี้ยเยาทั้งเก้าต่างก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ
หลงเทียนไห่ยังคงเงียบไปชั่วขณะ ก่อนที่จะมีแสงแปลกๆ ปรากฏขึ้นในดวงตาของมัน เมื่อเห็นว่าเมิ่งฮ่าวได้เอ่ยถึงกลุ่มผู้ฝึกตนอสูร มันก็รู้ว่าเมิ่งฮ่าวรับรู้ได้ถึงร่องรอยบางอย่างในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้อย่างแท้จริง แต่มันก็ไม่สนใจ สิ่งที่มันต้องการก็คือ…
ตำแหน่งของเมิ่งฮ่าวในลำดับขั้น ก่อนที่เมิ่งฮ่าวจะมายังทะเลที่เก้า มันก็ได้วางแผนต่างๆ อยู่ในที่แห่งนี้ไว้แล้ว มันไม่เคยคาดคิดว่าสิ่งแรกที่เมิ่งฮ่าวกระทำหลังจากที่มาถึงก็คือ เปิดเผยต่อสาธารณชนว่าเขาอยู่ในลำดับขั้น ตอนนี้เมื่อมีผู้คนมากมายรับรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้แผนการส่วนใหญ่ของมันไม่อาจจะใช้ออกมาได้
อย่างไรก็ตาม เดิมพันที่เมิ่งฮ่าวเอ่ยถึงเมื่อครู่นี้มีจำนวนมหาศาล และค่อนข้างจะไม่สมดุลกัน เมื่อเปรียบเทียบกับตำแหน่งในลำดับขั้น เป็นการตกลงใจที่มันไม่อาจจะตัดสินใจได้ด้วยตนเอง ดังนั้นมันจึงยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ อยู่ชั่วขณะ
เห็นได้ชัดว่ากำลังปรึกษาอยู่กับใครบางคน ในที่สุด มันก็กัดฟันแน่น และมองไปยังเมิ่งฮ่าว ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยแสงแห่งความมุ่งมั่น
“อาวุธเต๋าไม่ได้ แต่หยกเซียนสามร้อยล้านชิ้น…พวกเราวางเป็นเดิมพันได้!”
ในทันทีที่มันพูดจบ เมิ่งฮ่าวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมา เขานำอาวุธเต๋ามากล่าวขึ้นเพื่อทดสอบดูถึงความแน่วแน่ของกลุ่มผู้ฝึกตนอสูร ถ้าพวกมันยินดีที่จะวางอาวุธเต๋าเป็นเดิมพัน นั่นก็หมายความว่า…เขาต้องปฏิเสธการพนันครั้งนี้ไปในทันที ไม่ว่าเขาจะต้องเสียหน้าไปมากมายเท่าใดก็ตามที เขาจะไม่มีทางตกลงเดิมพันด้วยอย่างแน่นอน
การที่กลุ่มผู้ฝึกตนอสูรปฏิเสธที่จะใช้อาวุธเต๋าเป็นเดิมพัน ก็แสดงให้เห็นว่ายังมีโอกาสที่พวกมันอาจจะพ่ายแพ้ในการเดิมพันครั้งนี้ ซึ่งเรื่องราวนี้คงต้องเกี่ยวข้องกับแผนการของผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าอย่างแน่นอน แต่เมิ่งฮ่าวก็รู้ว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นก็คงต้องลองเสี่ยงดู!
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ ขณะที่มองไปยังหลงเทียนไห่
“นี่เป็นเรื่องใหญ่ ข้าจะให้คำตอบเจ้าภายในหนึ่งเดือน!” เมื่อพูดจบ เขาก็หันหลังและพุ่งจนหายลับตาไป เวลาหนึ่งเดือนทำให้เขาสามารถรุกและรับได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็สามารถจะลบล้างข้อเปรียบเทียบก่อนหน้านี้ ซึ่งเกิดขึ้นมาระหว่างเขาและไห่เจี้ยเยาทั้งเก้าได้ ตอนนี้คนทั้งหมดต่างก็เพ่งมองไปที่เรื่องของสิ่งที่จะใช้เป็นของเดิมพันโดยสิ้นเชิง
หลงเทียนไห่ก็ตระหนักดีถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน มองเมิ่งฮ่าวที่กำลังจากไปด้วยสายตาที่เย็นชา ดวงตาสาดประกายด้วยแสงแห่งรังสีสังหารขึ้นมา
เมิ่งฮ่าวกลายเป็นลำแสงอันเจิดจ้า พุ่งกลับไปยังถ้ำแห่งเซียนของตนเอง หลังจากที่พุ่งผ่านน้ำและเกราะป้องกันเข้าไป สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือนกแก้ว ถูกห้อมล้อมด้วยภูติเกราะดำสองตนที่กำลังสั่นสะท้านอยู่
นกแก้วเริ่มร้องเพลงออกมา หลังจากนั้นผู้ฝึกตนอสูรก็ร้องคลอตาม
“เมื่อข้ายังเยาว์ ข้าเป็นเด็กเลว ข้าคือไห่เซียนตัวน้อย ลา ลา ลา ลา ไห่เซียนตัวน้อย โฮ โฮ โฮ โฮ ไห่เซียนตัวน้อย…”
เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ อยู่ชั่วขณะ จ้องมองไปยังพวกมัน หลังจากนั้นพวกมันก็เปลี่ยนเป็นร้องเพลงอื่นแทน
“มา มา มา เมื่อคืนอู่เหยียได้ฝันถึงเพลงหนึ่ง เมื่อร้องออกมาดังๆ แล้วจะไพเราะมาก เมื่อไหร่ที่พวกเราขับร้องกันได้ อู่เหยียก็จะไปเปิดการแสดงให้ทั่วไปทั้งขุนเขาทะเลที่เก้า! พวกเรามาร้องพร้อมกัน!” ที่ด้านข้างออกไป ผีโต้งเริ่มตีกลองขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น
“พวกเราทั้งหลายเป็นไห่เซียน ครอบครัวทั้งหมดของพวกเราคือไห่เซียน! อู่เหยียผู้เที่ยงธรรม ซานเหยียผู้ยิ่งใหญ่ ลา ลา ลา ลา พวกเราจะทำให้ไห่เซียนเป็นคนดี! โฮ โฮ โฮ โฮ พวกเราต้องทำให้ไห่เซียนเชื่อฟัง…”
เมื่อเมิ่งฮ่าวได้ยินเช่นนี้ จิตใจก็หมุนคว้าง ทันใดนั้นก็ดูเหมือนว่าโลกแห่งนี้จะกลายเป็นสถานที่อันเลวร้าย เขารู้สึกผิดต่อผู้ฝึกตนอสูรรวมทั้งซูเยียนด้วย ในตอนนี้ดูเหมือนว่าซูเยียนจะสั่นสะท้านอย่างลึกล้ำ นางกำลังจ้องมองไปยังนกแก้วพร้อมกับปากที่อ้าค้าง ราวกับว่า…นกแก้วได้พลิกโลกของนางให้กลับตาลปัตรไปโดยสิ้นเชิง
เมิ่งฮ่าวกระแอมไอออกมา และโบกสะบัดมือตรงไปยังภูติเกราะดำ ซึ่งดูเหมือนว่ากำลังทำตัวเป็นนักร้องที่คอยสนับสนุนอยู่ที่ด้านข้างของนกแก้ว แทนที่จะต่อต้านเขา พวกมันกลับบินตรงมาด้วยความยินดี ราวกับว่าเขากำลังช่วยเหลือพวกมันให้ออกมาจากหายนะอันยิ่งใหญ่ได้ พวกมันกลายเป็นฝักถั่วสีดำ พุ่งมาอยู่บนฝ่ามือเขาในทันที ซึ่งจากนั้นเขาก็เก็บพวกมันกลับเข้าไปในถุงสมบัติ
นกแก้วดูจะไม่ค่อยพอใจนัก จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นว่า “มา มา มา อู่เหยียเพิ่งจะคิดเพลงใหม่ขึ้นมาได้ พวกเราทั้งหมดมาร้องไปพร้อมกัน”
“เสี่ยวฮ่าวจื่อจงเป็นเด็กดี…”
แสงอันดุร้ายปรากฏขึ้นมาในดวงตาเมิ่งฮ่าว ขณะที่จ้องมองไปยังนกแก้วอยู่ชั่วขณะ
จากนั้นเขาก็ไม่สนใจมัน หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในที่พัก โบกสะบัดมือทำให้เกราะป้องกันปรากฏขึ้น เพื่อป้องกันเสียงอึกทึกครึกโครมจากทางด้านนอกทั้งหมด
ไม่นานต่อมา เด็กชายหุ่นเชิดก็บินออกไปจากที่พัก เพื่อไปเก็บรวบรวมของรางวัลที่เขาได้จากประตูแท่นศิลาตัวอักษรสีทองที่เก้า และรางวัลอื่นๆ ที่เขาเข้าไปอยู่ในอันดับหนึ่งร้อยคนแรกของแท่นศิลาตัวอักษรอื่นๆ
เมิ่งฮ่าวนั่งลงขัดสมาธิ สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ จากนั้นก็จ้องมองไปยังกระจกทองแดงด้วยท่าทางที่คาดหวัง
“ครั้งนี้ ข้าค่อนข้างจะแน่ใจว่าต้องมีหยกเซียนอย่างเพียงพอ ที่จะสามารถคัดลอกโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้โดยสมบูรณ์!”
หมายเหตุ : เสี่ยวฮ่าวจื่อ (小耗子) แปลว่า มุสิกน้อย ตัวอักษร 耗 (เฮ่าหรือฮ่าว) นี้ แปลว่ามุสิกหรือหนู ไปพ้องเสียงกับ ตัวอักษร 浩
(เฮ่าหรือฮ่าว) ซึ่งเป็นชื่อของเมิ่งฮ่าว (孟浩) ที่แปลว่า ยิ่งใหญ่ และแซ่เมิ่ง (孟) ก็พ้องเสียงกับคำว่าเมิ่ง (梦) ที่แปลว่าความฝัน เข้าใจว่าเป็นการเล่นคำของเอ่อร์เกิน