Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1067

ตอนที่ 1067

ภัยพิบัติอันร้ายแรง!

จิตใจของผู้อาวุโสไห่เซิ่งเต้นรัว ถึงแม้มันจะพบว่าแผนการบนเกาะไห่ซานล้มเหลว ได้เห็นพลังชีวิตของผู้ฝึกตนอื่นๆ แตกกระจายไป และรู้ว่าเมิ่งฮ่าวมีความแข็งแกร่งกว่าที่พวกมันคิดไว้มากนัก แต่มันก็ไม่เคยจะตระหนักดีถึงรายละเอียดต่างๆ

ตอนนี้เมื่อมันได้เห็นมังกรธรรมที่มันฝึกฝนขึ้นมาด้วยตนเองถูกเมิ่งฮ่าวทำให้แตกกระจายไป ดวงตาก็ต้องสาดประกายขึ้นและยิ้มออกมาอย่างคาดไม่ถึง

“ช่างน่าสนใจนัก ข้าคิดว่าคงไม่ต้องใช้ของสิ่งนี้ แต่ก็ดูเหมือนว่าข้าต้องเตรียมตัวจ่ายค่าตอบแทนออกไปเป็นพิเศษแล้ว!” มันโบกสะบัดมือขวาออกไป ทำให้แผ่นหยกลอยออกมาจากฝ่ามือ และแตกกระจายไปในทันที เกิดเป็นกลุ่มหมอกสีดำลอยออกมาเพื่อก่อตัวเป็นศีรษะสีดำ ศีรษะนั้นเป็นของชายชรา แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ผู้อาวุโสไห่เซิ่ง

มันเป็นศีรษะที่ดูแปลกๆ ซึ่งกระจายกลิ่นอายอันน่าตกใจออกมา ในทันทีที่มันเริ่มพุ่งตรงไปยังผู้อาวุโสไห่เซิ่ง ปากก็อ้ากว้างขึ้นราวกับว่าต้องการจะกลืนกินผู้อาวุโสไห่เซิ่งลงไป แต่ในทันทีที่มันแตะสัมผัสโดนตัวของผู้อาวุโสไห่เซิ่ง ก็หลอมรวมเข้าไปในร่างนั้น

สีหน้าของผู้อาวุโสไห่เซิ่งกลายเป็นดุร้ายมากขึ้น เส้นเลือดเขียวโผล่ขึ้นมาบนหน้าผาก และใบหน้าก็เริ่มเปลี่ยนไป ทันใดนั้น ใบหน้าที่สองก็ปรากฏขึ้นซ้อนทับกับใบหน้าเดิมของมัน!

มันหัวเราะออกมาอย่างโหดเหี้ยม และดูแปลกมากขึ้นกว่าเดิมขณะที่ก้าวเดินตรงไป ในทันทีที่มันเริ่มเดินไป พื้นฐานฝึกตนอาณาจักรโบราณของมันก็พุ่งทะยานขึ้น อย่างน่าประหลาดใจยิ่ง…ตะเกียงวิญญาณที่ดับลงไปแล้วเก้าดวงได้ปรากฏขึ้นมา!

ดวงตาเมิ่งฮ่าวเบิกกว้างขึ้น เขาจำได้ว่าในครั้งล่าสุดที่ได้ต่อสู้กับผู้อาวุโสไห่เซิ่ง มันมีตะเกียงวิญญาณที่ดับลงไปแล้วห้าดวง แต่ตอนนี้หลังจากที่ได้ซ้อนทับกับใบหน้าสีดำนั้น ก็คล้ายกับว่ามันได้กลายเป็นคนอื่นไป ตอนนี้มันมีพื้นฐานฝึกตนอยู่ที่ขั้นเก้าของอาณาจักรโบราณ ราวกับว่ามันมีชีวิตรอดมาได้ เมื่อตะเกียงวิญญาณดับลงไปแล้วเก้าดวง ทำให้อยู่ในระดับสูงสุดของขั้นกลางอาณาจักรโบราณ!

ขณะที่พื้นฐานฝึกตนของมันพุ่งขึ้นไป ก็ทำให้เกิดเป็นผลกระทบที่น่าตกใจยิ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างในบริเวณนั้นสั่นสะเทือน มันเดินไปเป็นก้าวที่สอง และมาอยู่ที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าวในทันที มือของมันพุ่งตรงไปยังลำคอของเมิ่งฮ่าวอย่างฉับพลัน

เป็นความรวดเร็วอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้ มันเคลื่อนที่มาอย่างรวดเร็วจนตำแหน่งก่อนหน้านี้ของมันก็ยังคงมีเงาภาพอันเลือนลางหลงเหลืออยู่ ยิ่งไปกว่านั้นการเคลื่อนไหวของมือมันก็ประกอบไปด้วยพลังแห่งกฎธรรมชาติ ราวกับว่าพลังบางส่วนของทะเลที่เก้าได้ปกคลุมไปบนมือของมัน จนกลายเป็นเวทแห่งเต๋าของตัวเอง

ดวงตาเมิ่งฮ่าวเบิกกว้างขึ้น หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าสีดำนั้น และพื้นฐานฝึกตนที่ทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ

เขาก็บอกได้ว่าผู้อาวุโสไห่เซิ่งมีความแข็งแกร่งมากกว่าตนเอง ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นจักรพรรดิแห่งอาณาจักรเซียน แต่ก็ยังคงรู้สึกได้ถึงวิกฤตอันร้ายแรง ถ้าศัตรูเช่นนี้ได้เปรียบในการต่อสู้ ก็คงเป็นเรื่องยากสำหรับเมิ่งฮ่าวที่จะพลิกสถานการณ์กลับมาได้!

มีหนทางเดียวเท่านั้นที่จะเอาชนะได้…ก็คือต้องยึดครองความได้เปรียบไว้ก่อน และรักษามันไว้อยู่ตลอดเวลา! นั่นคือโอกาสเดียวเท่านั้นที่จะสามารถเอาชนะมาได้!

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้นด้วยรังสีสังหาร และความต้องการต่อสู้! จากตอนที่เขาเริ่มฝึกฝนตนเองมาจวบจนกระทั่งถึงตอนนี้ นี่คือคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังมากที่สุดเท่าที่เขาเคยเผชิญหน้ามาก่อน!

การต่อสู้กับใครบางคนเช่นนี้ เป็นสิ่งที่มั่นใจได้ว่าคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขา และจำเป็นต้องมีสมาธิเป็นอย่างดี!

“ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าได้ต่อสู้จริงๆ แล้ว!” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น ไม่พุ่งถอยไปทางด้านหลัง แต่ในขณะที่มือของผู้อาวุโสไห่เซิ่งยื่นออกมา เมิ่งฮ่าวก็ฟาดฝ่ามือไปข้างหน้า พร้อมกับปลดปล่อยเวทลับของตนเองออกมา หลอมรวมเข้ากับชีพจรเซียนหนึ่งร้อยยี่สิบสามจุดจนกลายเป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา

กายเนื้อเซียนแท้!

ฝ่ามือของเมิ่งฮ่าวกำแน่นจนกลายเป็นหมัด และเขาก็ลอยไปอยู่ที่ด้านบนของผู้อาวุโสไห่เซิ่ง

ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวไม่อาจจะควบคุมการต่อสู้ในแง่ของพื้นฐานฝึกตนได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถจะครอบครองความได้เปรียบบ้าง ถ้าเขาไม่อาจจะได้เปรียบในตอนปะทะกันครั้งแรกนี้ ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะพลิกฟื้นกลับมาได้

“ร่างจริงของข้าคือมังกรทะเล! ศีรษะมังกรนี้ถูกฝึกฝนมาจนมีความแข็งแกร่งมากที่สุด! เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!?”

ผู้อาวุโสไห่เซิ่งหัวเราะเป็นเสียงเย็นชาขึ้นมา มันรู้ว่าเมิ่งฮ่าวกำลังจะทำอะไร แต่เมื่อคิดไปถึงระดับพื้นฐานฝึกตนของตัวเอง มันก็ไม่ใส่ใจใดๆ อีก ยกมือขวาขึ้นมา พลังของมันไม่ได้ลดน้อยลง แต่กลับเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้นไปกว่าเดิม!

“เจ้ากลับขุดหลุมฝังตนเอง!” มันกล่าวขึ้นพร้อมกับยิ้มอย่างเย็นชาออกมา จากนั้นก็ยื่นมือออกไปในท่าคว้าจับ

ในเวลาเดียวกันนั้น พลังของเมิ่งฮ่าวก็พุ่งขึ้นไปด้วยเช่นกัน ขณะที่หมัดของเขาเข้าไปใกล้ร่างของผู้อาวุโสไห่เซิ่ง ก็ทำให้เกิดเป็นลมพายุขนาดใหญ่ขึ้นมา ศูนย์กลางของลมพายุนั้นเป็นกระแสน้ำวนที่ทรงพลัง ซึ่งได้กระแทกลงไปบนมือของผู้อาวุโสไห่เซิ่ง ทำให้เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้นมา

ลมพายุพังทลายลงไปและกระแสน้ำวนก็แตกกระจายกลายเป็นเสี่ยงๆ เสียงแตกร้าวดังก้องออกมาจากภายในร่างเมิ่งฮ่าว คล้ายกับเป็นเสียงของกระดูกที่กำลังแตกหักไป โลหิตไหลซึมออกมาจากปาก

และเขาก็ถอยโซเซไปทางด้านหลัง เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส แต่อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ของเขาก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาในทันที

ผู้อาวุโสไห่เซิ่งหยุดชะงักนิ่ง และจริงๆ แล้วก็ถูกกระแทกให้ตกลงไปที่ด้านล่างสองสามจ้าง แต่มันก็แค่นเสียงเย็นชาออกมา และจากนั้นก็พุ่งกลับไปยังเมิ่งฮ่าวในทันที

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมแผนการบนเกาะไห่ซานถึงได้ล้มเหลว…ถ้าข้าไม่ได้เตรียมการมาเป็นอย่างดี ก็คงไม่อาจจะสังหารเจ้าไปได้ แต่นี่คือทะเลที่เก้าซึ่งเป็นบ้านเกิดของข้า ข้าสามารถจะขอยืมพลังของทะเลที่เก้ามาใช้ได้ ต่อให้เจ้าแข็งแกร่งมากไปกว่าตอนนี้ เจ้าก็ยังต้องตายไปอยู่ดี!”

ใบหน้ามันบิดเบี้ยวขึ้นด้วยความดุร้าย เข้ามาใกล้เมิ่งฮ่าวและขยับมือขวาร่ายเวท ทันใดนั้น ภาพลวงตาของทะเลก็ปรากฏขึ้นอยู่รอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว และพุ่งตรงมาโจมตีพร้อมกับเสียงที่ดังกระหึ่มกึกก้อง

ขณะที่มันใกล้เข้ามา เต่าทะเลขนาดใหญ่หนึ่งตัวก็ปรากฏขึ้นอยู่ในท่ามกลางทะเลภาพลวงตานั้น ส่งเสียงแผดร้องขณะที่กระแทกตรงมายังเมิ่งฮ่าว

เมื่อผู้อาวุโสไห่เซิ่งเข้ามาใกล้ เมิ่งฮ่าวก็สามารถรับรู้ได้ถึงความแตกต่างระหว่าง จักรพรรดิอาณาจักรเซียน และผู้ฝึกตนที่มีตะเกียงวิญญาณดับลงไปแล้วเก้าดวงได้ในที่สุด

ความแตกต่างนั้นมากมาย…แต่ก็ไม่ได้มากพอที่จะทำให้เขาต้องสิ้นหวัง!

“เจ้ากำลังยืมพลังจากทะเลที่เก้า?” เมิ่งฮ่าวถามเสียงเย็นชา ดวงดาวศิลาที่อยู่ในดวงตาข้างขวาแวบประกายขึ้น และขณะที่เต่าทะเลยักษ์พุ่งลงมา เขาก็กลายเป็นดวงดาวพุ่งตรงไปโจมตีในทันที

เมื่อเมิ่งฮ่าวกระแทกเข้าไปในทะเล รูปแบบดวงดาวของเขาก็พังทลายลงไป และเขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาใหม่ กระอักโลหิตออกมา แต่แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็กลายร่างเป็นวิหคยักษ์สีทองแหวกฝ่าทะเลและเต่ายักษ์นั้นไป ร่างกายชุ่มโชกเต็มไปด้วยโลหิตโดยสิ้นเชิง แต่พลังก็ยังคงแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้ กระจายความบ้าคลั่งออกมา ไปปรากฏกายขึ้นที่เบื้องหน้าของผู้อาวุโสไห่เซิ่ง ใช้กรงเล็บกรีดเฉือนลงไปบนร่างมัน เกิดเป็นเสียงกระหึ่มขึ้น ขณะที่คนทั้งสองถูกกระแทกถอยไปทางด้านหลังพร้อมกัน

“เจ้าประเมินตัวเองสูงส่งเกินไปแล้ว!” เมื่อมาถึงตอนนี้ ผู้อาวุโสไห่เซิ่งก็อยู่ห่างจากพื้นผิวของน้ำทะเลประมาณสิบจ้างเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่ามันไม่ได้สนใจเท่าใดนัก มันโบกสะบัดมือ ทำให้ตะเกียงวิญญาณลอยพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวในทันที

เมิ่งฮ่าวพุ่งถอยไปทางด้านหลังอย่างต่อเนื่อง กระอักโลหิตออกมา ร่างกายแห้งเหี่ยวลงไป ในเวลาเดียวกันนั้น อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ก็ฟื้นฟูร่างกายกลับมาอย่างบ้าคลั่ง โดยไม่หยุดชะงักลงแม้แต่น้อย เขาพุ่งเข้าไปปะทะด้วยอีกครั้ง ในครั้งนี้เขาได้เรียกขุนเขาที่เก้าออกมา พร้อมกับดวงตะวันและจันทรา ประกอบกันเป็นเวทแห่งเต๋าที่กระแทกเข้าไปยังตะเกียงวิญญาณ จนเกิดเป็นเสียงระเบิดกระจายออกเป็นระลอกคลื่นไปทั่วทุกทิศทาง ร่างกายเมิ่งฮ่าวแทบจะพังทลายลงไป

แต่ก็ต้องขอบคุณอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ ทำให้ไม่เป็นไรแม้แต่น้อย ขณะที่พุ่งลงไปด้านล่างอีกครั้ง ต่อมาสวรรค์ทั้งสามสิบสามชั้นของเขาก็ปรากฏขึ้น ทุ่มเทพลังที่มีทั้งหมดโจมตีไปยังผู้อาวุโสไห่เซิ่งอีกครั้ง

ผู้อาวุโสไห่เซิ่งแค่นเสียงเย็นชา และโบกสะบัดมือ ทันใดนั้นระลอกคลื่นก็กระจายออกไป กลายเป็นใบหน้าปีศาจที่ส่งเสียงกรีดร้องออกมาพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว ขณะที่มันใกล้เข้ามา เมิ่งฮ่าวก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และกำหมัดจนแน่น

เขาต่อยหมัดออกไป ไม่ใช่ด้วยหมัดธรรมดาทั่วไป แต่…ด้วยพลังของการฝึกตนกายเนื้อ!

หมัดทำลายล้างชีวิต!

ขณะที่หมัดนั้นพุ่งฝ่าอากาศไป พลังชีวิตทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณนั้นดูเหมือนจะจางหายไป แม้แต่ของเมิ่งฮ่าวเองก็ตามที ทุกสิ่งทุกอย่างถูกทำลายล้าง ราวกับว่าหมัดนี้ประกอบไปด้วยเจตจำนงแห่งความตาย เป็นหนึ่งหมัดที่ทำลายล้างสิ่งมีชีวิตทั้งปวงไป!

เป็นครั้งแรกที่สีหน้าของผู้อาวุโสไห่เซิ่งต้องเปลี่ยนไป แต่มันก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อย ผลักสองมือออกไปที่เบื้องหน้า ทำให้เกล็ดมังกรปรากฏขึ้นอย่างน่าตกใจ คล้ายกับเป็นเกราะป้องกัน และหมัดของเมิ่งฮ่าวก็กระแทกลงไป

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังกึกก้องขึ้น และพายุขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของทะเล ผู้อาวุโสไห่เซิ่งถูกกระแทกให้ตกลงไปยังพื้นน้ำด้านล่างอย่างที่ไม่อาจจะควบคุมตนเองได้

“หมัดทำลายล้างชีวิต นั่นคือหมัดทำลายล้างชีวิตจริงๆ…” มันหอบหายใจออกมา

“แต่เจ้าก็แทบไม่อาจจะใช้มันออกมาได้!” ดวงตามันแวบขึ้นด้วยความเย็นชา และกำลังจะบินกลับขึ้นไปในอากาศ แต่ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็ยิ้มออกมา

เป้าหมายตลอดเวลาที่ผ่านมาของเขาก็คือ ทำให้ผู้อาวุโสไห่เซิ่งตกลงไปในน้ำ!

การที่จะทำให้ผู้อาวุโสไห่เซิ่งตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นกลยุทธ์อันน่ากลัวที่เขาจะนำออกมาใช้ เขากระทำเช่นนี้ก็เนื่องมาจากว่าไม่อาจจะใช้กระถางสายฟ้าได้ ถ้าไม่ใช่เช่นนั้น เขาก็คงไม่ยอมให้ตนเองต้องได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส ในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้

ถ้าเขาลงไปในน้ำเพื่อล่อให้ผู้อาวุโสไห่เซิ่งลงมาเอง หรืออาจจะใช้วิธีการอื่น เขาอาจจะทำได้สำเร็จ แต่วิธีอื่นๆ เหล่านั้นทั้งหมดต่างก็มีข้อบกพร่องอยู่ จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงต้องเลือกใช้กลยุทธ์เช่นนี้

มันเป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จ แต่ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะผลักให้มันลงไปด้านล่าง

ถ้าไม่มีอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ เมิ่งฮ่าวคงจะแตกกระจายกลายเป็นชิ้นๆ ไปแล้ว แม้จะด้วยเช่นนั้น เขายังต้องฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างช้าๆ เมื่อกวาดเช็ดโลหิตออกจากมุมปาก เขาก็ยื่นมือขวาออกไป และชี้นิ้วตรงไปยังพื้นผิวของทะเล

“เปลวไฟ!” เขากล่าวขึ้นเป็นเสียงแผ่วเบา

เมื่อผู้อาวุโสไห่เซิ่งมองเห็นสีหน้าของเมิ่งฮ่าว ใบหน้ามันก็สลดลงไป ในเวลาเดียวกันนั้น จู่ๆ ก็มีเปลวไฟปรากฏขึ้นในน้ำที่อยู่ด้านล่างของกับดักกำแพงน้ำทะเลรอบๆ บริเวณนั้น เห็นได้ชัดว่าเปลวไฟนี้มีอยู่ที่นั่นมานานแล้ว!

มันคือเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ เป็นเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์เดียวกันกับที่เมิ่งฮ่าวใช้สังหารอสูรทะเลไปจากก่อนหน้านี้ แก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์!

แก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ปะทุขึ้นมา พุ่งผ่านกำแพงน้ำทะเลไปปกคลุมอยู่รอบๆ ตัวของผู้อาวุโสไห่เซิ่ง!

เปลวไฟพุ่งขึ้นมาในชั่วพริบตา เปลี่ยนให้น้ำกลายเป็นทะเลแห่งเปลวไฟ, เป็นโลกแห่งเปลวไฟ, เป็นสวรรค์และปฐพีที่ถูกสร้างขึ้นมาจากแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งผู้อาวุโสไห่เซิ่งถูกคุมขังอยู่ภายในนั้นโดยสิ้นเชิง

“เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์! เป็นไปไม่ได้! ข้าเคยเห็นเปลวไฟนี้ตอนอยู่ที่ด้านนอกของทะเลที่เก้ามาอย่างชัดเจน! ถึงแม้ว่ามันจะมีแก่นแท้ แต่ยังไม่อาจจะเข้ามาอยู่ในกับดักของข้าได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้!!”

ใบหน้าของผู้อาวุโสไห่เซิ่งเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อขึ้นในทันที เพื่อที่จะเตรียมสังหารเขา กลุ่มผู้ฝึกตนอสูรได้ทำการตรวจสอบดูเมิ่งฮ่าวมาจนครบทุกด้าน แล้วพวกมันจะพลาดเรื่องความแข็งแกร่งของแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์นี้ไปได้อย่างไรกัน?!

ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้อาวุโสไห่เซิ่งก็รับรู้ได้ว่าทะเลแห่งเปลวไฟนี้สามารถทำร้ายมันได้อย่างแน่นอน

แต่โชคดีที่อาการบาดเจ็บของมันยังไม่ได้สาหัสมากนัก และถ้ามันหลบหนีไปได้อย่างรวดเร็ว ผลกระทบที่เกิดขึ้นคงจะมีน้อยมาก

“เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์อันกระจ้อยร่อยนี้ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าทำได้อย่างไร แต่อุบายนี้ของเจ้า…ไร้ประโยชน์ใดๆ! เจ้าไม่อาจจะใช้เปลวไฟนี้มาสังหารข้าได้! ช่างอ่อนหัดนัก!”

ผู้อาวุโสไห่เซิ่งแค่นเสียงอย่างเย็นชา และกำลังจะพุ่งออกไปจากทะเลแห่งเปลวไฟตรงไปยังเมิ่งฮ่าว เมื่อไหร่ที่มันทำเช่นนั้นได้ กลยุทธ์กับดักนี้ที่จะสังหารมันไปของเมิ่งฮ่าวก็จะล้มเหลวในทันที

เขาอาจจะมีทางเลือกอื่นอีก ซึ่งก็คือลงไปอยู่ในน้ำ แต่ก็หมายความว่าเขาต้องทำลายกำแพงผนึกของน้ำทะเลให้ได้ และเขาก็จะได้รับบาดเจ็บจากแรงสะท้อนของการโจมตี ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจจะยอมรับได้ ยกเว้นว่าอาจจะใช้มันเป็นทางเลือกสุดท้าย

“แล้วถ้าเจ้าออกมาไม่ได้?” เมิ่งฮ่าวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา หลังจากที่ดูดซับโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่เข้าไป วิชาเวทและความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของเขายิ่งมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์คือแก่นแท้ และเนื่องจากพลังแก่นแท้ที่อยู่ในโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ ทำให้เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ยิ่งมีความแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมมันถึงสามารถจะพุ่งผ่านกำแพงของน้ำทะเลเข้ามาได้!

น่าเสียดายที่มันสามารถจะพุ่งผ่านเข้ามาได้เท่านั้น ไม่อาจจะทำลายพวกมันลงไปได้โดยสมบูรณ์ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานานมากไปกว่านี้

แทบจะในทันทีที่คำพูดของเมิ่งฮ่าวดังก้องออกมา ผู้อาวุโสไห่เซิ่งพยายามจะหลบหนีออกมาจากทะเลแห่งเปลวไฟ แต่เมิ่งฮ่าวก็ชี้นิ้วออกไปในทันที

“ผนึกอสูร เวทรุ่นแปด!”

ในทันทีที่เวทผนึกถูกปลดปล่อยออกไป ผู้อาวุโสไห่เซิ่งก็หยุดชะงักนิ่ง ใบหน้าสลดลงขณะที่ความพยายามในการหลบหนีออกไปของมันล้มเหลวโดยสิ้นเชิง มันถูกห้อมล้อมไว้ด้วยเปลวไฟ ทำให้มีโทสะขึ้นมาอยู่ภายในใจ

เมิ่งฮ่าวต้องจ่ายค่าตอบแทนออกไปเล็กน้อยในการปลดปล่อยเวทรุ่นแปดนี้ออกมา ทำให้มีโลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปาก แต่เขาก็ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตนเอง และชึ้นิ้วไปอีกครั้งเพื่อปลดปล่อยวิชาเวทและความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่หลากลายไปบนร่างของผู้อาวุโสไห่เซิ่ง

ด้วยการเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บอย่างสาหัสของตนเอง เขากระแทกให้ผู้อาวุโสไห่เซิ่งลึกลงไปในทะเลแห่งเปลวไฟมากยิ่งขึ้น

ผู้อาวุโสไห่เซิ่งสั่นสะท้าน และกำลังจะฟื้นคืนมาจากเวทรุ่นแปด แต่เมิ่งฮ่าวก็ชี้นิ้วไปและปลดปล่อยเวทนี้ออกมาอีกครั้ง

เกิดขึ้นเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ผู้อาวุโสไห่เซิ่งต้องแผดร้องอยู่ภายในใจ ไม่อาจจะหลบหนีจากไปได้ และติดอยู่ในทะเลแห่งเปลวไฟ

ผิวหนังของมันเริ่มแยกออกจากกัน และร่างกายก็เริ่มแห้งเหี่ยวลงไป ค่อยๆ เริ่มรับรู้ได้ถึงวิกฤตอันร้ายแรงอย่างช้าๆ ทำให้ต้องตกตะลึงขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ ในช่วงต่อมาที่ร่างกายมันฟื้นฟูกลับมา

ก่อนที่เมิ่งฮ่าวจะปลดปล่อยเวทผนึกออกมาอีกครั้ง มันกัดไปที่ปลายลิ้นและพ่นโลหิตออกมา ทำให้โลหิตนั้นกลายเป็นมังกรโลหิตพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว ในเวลาเดียวกันนั้นผู้อาวุโสไห่เซิ่งก็พยายามจะหลบหนีออกไปอีก

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น และสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ อีกครั้งที่เขาต่อยหมัดทำลายล้างชีวิตออกไป จนร่างกายมันสั่นสะท้านและโลหิตก็พุ่งกระจายออกมาจากปาก หมัดนั้นกระแทกความหวังที่จะหลบหนีจากไป ของผู้อาวุโสไห่เซิ่งให้แตกกระจายไปในทันที มังกรโลหิตแตกกระจายไป และพลังของหมัดนั้นก็กระแทกเข้าไปในร่างของผู้อาวุโสไห่เซิ่ง ในขณะที่เมิ่งฮ่าวใช้เวทผนึกรุ่นแปดออกมาอีกครั้ง

ตูม!

ใบหน้าเมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยความดุร้าย อีกครั้งที่เขาโจมตีไปด้วยการโบกสะบัดมือ ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสไห่เซิ่งจะฟื้นฟูกลับคืนมา แต่เมิ่งฮ่าวก็ขยับมือร่ายเวท เรียกสุดยอดสะพานออกมา ส่งเสียงดังกระหึ่มกระแทกลงไปยังร่างผู้อาวุโสไห่เซิ่งอย่างดุร้าย

“เจ้าสารเลวเมิ่งฮ่าว!” ผู้อาวุโสไห่เซิ่งแผดร้องออกมา มันพยายามจะหลบหนีไปอีกครั้งแต่ก็ล้มเหลว อาการบาดเจ็บของมันทำให้ทะเลแห่งเปลวไฟมีความเข้มข้นมากขึ้น ของวิเศษป้องกันใดๆ ที่มันใช้ออกมาต่างก็ไร้ประโยชน์ไปทั้งสิ้น ไม่ว่ามันจะทำอะไรต่างก็ล้มเหลว ในเวลาเดียวกันนั้น ผิวหนังของมันก็ยิ่งแตกออกไปมากขึ้น และกำลังแห้งเหี่ยวลงไปอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่ทำให้มันต้องหวาดกลัวมากขึ้นไปอีกก็คือว่า หลังจากที่ติดอยู่ภายในทะเลแห่งเปลวไฟนี้เป็นเวลานาน เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ได้ซึมผ่านเข้าไปในร่างกาย และกำลังเผาไหม้อวัยวะภายในของมันอยู่!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!