Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1071

ตอนที่ 1071

เกราะป้องกันที่มีชีวิต!

เมิ่งฮ่าวพุ่งผ่านอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับทำการสังหารหมู่ไปตลอดเส้นทาง เขาไม่ได้โจมตีไปยังผู้ฝึกตนมนุษย์แม้แต่น้อย เพียงสังหารกลุ่มผู้ฝึกตนอสูรไปเท่านั้น ถึงเขาจะจดจำพวกมันแต่ละคนไม่ได้ แต่ก็รู้ว่าพวกมันคือใคร

นอกจากนั้นในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เขาอยู่ในอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า ทุกครั้งที่เขามองเห็นผู้ฝึกตนอสูร พวกมันก็จะมองกลับมายังเขาด้วยรังสีสังหารที่เต้นไปมาอยู่ในแววตา สำหรับเขาแล้ว ดูเหมือนว่าผู้ฝึกตนอสูรต้องการจะสังหารเขาไปในทันที ถ้าพวกมันมีโอกาส

นั่นคือความจริง ถ้าไม่ใช่ว่าหลิงอวิ๋นจื่อและกลุ่มคนที่เหลือของฝ่ายท่าน ได้สร้างเป็นแรงกดดันไปที่กลุ่มผู้ฝึกตนอสูรแล้วละก็ สมาชิกของพวกมันใดๆ ก็ตาม ต้องพยายามสังหารเมิ่งฮ่าวไปในทันทีที่พวกมันมองเห็นเขา!

มันเป็นลักษณะของศัตรูที่ในความเป็นจริงแล้ว…ไม่อาจจะถือได้ว่าเป็นความผิด และการที่เมิ่งฮ่าวทำการสังหารหมู่พวกมันเพื่อตอบโต้…ก็ไม่อาจจะตัดสินได้ว่าถูกหรือผิดเช่นเดียวกัน

จุดสำคัญของเรื่องนี้อยู่ที่ต่างคนต่างก็มีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป เมิ่งฮ่าวรู้ดีถึงเรื่องนี้ ทำให้ในตอนแรกเขาจึงเลือกที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งนี้ ถึงแม้ว่าพวกมันจะแยกเขี้ยวกางเล็บต่อหน้าเขาอยู่ชั่วขณะก็ตามที นั่นคือเหตุการณ์ทั้งหมด ก่อนที่พวกมันจะละเมิดข้อห้ามในโลกแห่งการฝึกตนไปอย่างชั่วร้าย

ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในถ้ำแห่งเซียนของตนเอง และทุกครั้งที่เขาโผล่ออกไป ก็จะไม่สนใจต่อสายตาอาฆาตของผู้ฝึกตนอสูรที่เฝ้ามองมา เขาไม่ได้ทำอะไรที่จะไปตอแยพวกมัน และจริงๆ แล้วก็รู้สึกเสียใจอยู่เล็กน้อย

ที่เป็นเหตุให้เกิดสถานการณ์ทั้งหมดนี้ขึ้นมา เขารู้สึกหงุดหงิดอยู่เล็กน้อยที่สถานการณ์ทั้งหมดนี้เกินกว่าที่เขาจะควบคุมได้

นอกจากนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อย้อนกลับไปในทะเลเทียนเหอ โดยพื้นฐานแล้วก็มีสาเหตุมาจากดอกปี่อ้านทั้งสิ้น

แต่เหตุการณ์เหล่านี้กลับมีผลทำให้ฉู่อวี้เยียนต้องมาอยู่ตรงหน้าประตูแห่งความตาย และยังทำให้เฉินฝานและเจ้าอ้วนต้องตกอยู่ในอันตรายเช่นเดียวกันอีกด้วย นั่นเป็นสิ่งที่เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะละเลยได้! เมื่อเขาไม่อาจจะละเลยมัน จึงตัดสินใจที่จะโจมตีไปด้วยพลังอันน่ากลัว!

เมื่อเขาตัดสินใจที่จะสังหาร…เขาก็จะทำให้มันดูน่าตกใจ เขาจะเปลี่ยนเรื่องนี้ให้กลายเป็นบทเรียนโลหิตที่ประทับลึกลงไปในจิตใจของกลุ่มผู้ฝึกตนอสูรทั้งหมด

ก่อนหน้านี้ เขาได้ใช้คำพูดเพื่อส่งข้อความที่ชัดเจนให้กับพวกมัน อย่ามาตอแยข้า!

ตอนนี้ เขาจะใช้การกระทำเพื่อบอกพวกมันว่า อย่ามาหาเรื่องข้า!

ตาย!

เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือ และหอกยาวที่มีปลายหอกเป็นกระดูกได้ปรากฏขึ้น ด้วยการกวัดแกว่งไปมา

ทำให้ผู้ฝึกตนอสูรจำนวนหยิบมือที่ใกล้เข้ามาต้องระเบิดขึ้น

พวกมันถูกสังหารไปทั้งร่างกายและวิญญาณ กลายเป็นกลุ่มหมอกของโลหิตไป หยดโลหิตเริ่มพุ่งกระจายออกไป ขณะที่เมิ่งฮ่าวทำการสังหารจนเป็นเส้นทางตรงไป คล้ายกับเป็นเทพแห่งความตาย!

ผู้ฝึกตนมนุษย์จำนวนมากรักษาระยะห่างของพวกมันไว้ มองไปด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่ทำอะไรที่จะไปแทรกแซง หรือพยายามจะหยุดเมิ่งฮ่าวไว้

ตอนนี้ไม่มีผู้ฝึกตนอาณาจักรโบราณที่มีตะเกียงวิญญาณดับลงไปแล้วห้าดวงหรือมากไปกว่านั้นเสนอหน้าอยู่ในอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าอีก เห็นได้ชัดว่าผู้ฝึกตนอสูรทั้งหมดที่มาเผชิญหน้ากับเมิ่งฮ่าวต่างก็อยู่ในอาณาจักรเซียน มีคู่ต่อสู้ที่อยู่ในอาณาจักรโบราณปรากฏขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งพวกมันทั้งหมดต่างก็มีตะเกียงวิญญาณที่ดับลงไปเพียงแค่สองหรือสามดวงเท่านั้น

สำหรับเมิ่งฮ่าวแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีอะไรนอกจากเป็น…

หญ้าแห้งที่จะถูกบดขยี้อยู่ใต้ฝ่าเท้าเท่านั้น!

เขาโบกสะบัดมือ ทำให้เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตปรากฏขึ้น เสียงกระหึ่มได้ยินมาขณะที่หนึ่งร้อยยี่สิบสามศีรษะอสูรโลหิตเริ่มก่อตัวขึ้นมา พวกมันกลายเป็นลมพายุสีโลหิตที่กระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง

เสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจและเสียงกรีดร้องด้วยความประหลาดใจดังก้องขึ้นไปในอากาศ

ขณะที่เขามุ่งหน้าต่อไป เก้าลำแสงสีทองจู่ๆ ก็เข้ามาใกล้ พวกมันเป็นผู้ฝึกตนอสูรที่อยู่ในอาณาจักรโบราณทั้งหมด ซึ่งมีตะเกียงวิญญาณที่ดับลงไปแล้วสองถึงสามดวง เข้ามาพร้อมกับรูปแบบค่ายกลเวทที่จัดเตรียมมา

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น เมื่อสังเกตเห็นว่าหนึ่งในเก้าผู้ฝึกตนอสูรที่โจมตีมานี้เป็นมังกรทะเล พร้อมกับเสียงแค่นอย่างเย็นชา เขาชี้นิ้วไป ทำให้ภูเขานับร้อยนับพันส่งเสียงกึกก้องพุ่งลงมา ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือน และสายลมขนาดใหญ่ก็พุ่งขึ้นไป ขณะที่เก้าผู้ฝึกตนอสูรถูกบดขยี้ไป ส่งผลให้โลหิตพุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง ใบหน้าพวกมันเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ขณะที่จู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็ใช้เวทปลิดดาวออกมา

 

 

ฉับพลันนั้นผู้ฝึกตนอสูรมังกรทะเลก็ลอยฝ่าอากาศมา และถูกเมิ่งฮ่าวคว้าจับไว้ จากนั้นเขาก็บีบมือลงไปอย่างรุนแรง ทำให้ผู้ฝึกตนอสูรกลับคืนไปสู่ร่างจริงของมัน ซึ่งเป็นมังกรทะเลที่ยาวหนึ่งร้อยจ้างแผดร้องคำรามออกมา จากนั้นพวกที่มองดูอยู่ทั้งหมดก็เห็นเมิ่งฮ่าวกรีดฝ่ามือลงไปในหน้าอกของมังกรทะเลตัวนั้น

เสียงแผดร้องอย่างโหยหวนได้ยินออกมาจากมังกรทะเล สีหน้าเมิ่งฮ่าวสงบนิ่งขณะที่ดันมือให้ลึกลงไป และคว้าจับไปที่หัวใจของมังกรทะเล จากนั้นเขาก็บีบมือลงไปอย่างดุร้าย ทำให้หัวใจนั้นระเบิดออก โลหิตของหัวใจหลอมรวมเข้ากับวิญญาณและพลังชีวิตของมังกรทะเล กลายเป็นโลหิตสีขาวหนึ่งหยด!

จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ดึงมือกลับออกมา และเก็บหยดโลหิตนั้นใส่เข้าไปในถุงสมบัติ

“หนึ่งหยด!”

เมื่อกลุ่มผู้คนมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และกลิ่นอายอันน่ากลัวที่พุ่งออกมาจากร่างของเมิ่งฮ่าวอยู่นี้ ความโหดเหี้ยมและความเย็นชานั้นทำให้จิตใจพวกมันต้องหมุนคว้าง

ในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวยกมือขึ้นมา เผยให้เห็นเป็นกระถางสายฟ้าอยู่ในมือ ประจุไฟฟ้าเต้นไปมาขณะที่เขาหายตัวไป แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น เสาแห่งแสงก็กระแทกลงมายังตำแหน่งที่เขาเพิ่งจะยืนอยู่เมื่อครู่นี้

จากนั้นผู้ฝึกตนอสูรผู้หนึ่งก็ปรากฏขึ้นในตำแหน่งเดียวกันนั้น ก่อนที่มันจะทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ ก็ระเหยกลายเป็นไอไปโดยสิ้นเชิงด้วยลำแสงนั้น

เมิ่งฮ่าวปรากฎกายขึ้นอีกครั้งยังที่ห่างไกลออกไป ดวงตาแวบขึ้นขณะที่มองไปรอบๆ ยังผู้ฝึกตนอสูรนับร้อย ซึ่งได้รวมตัวเข้าด้วยกันเพื่อก่อตัวเป็นค่ายกลเวทขนาดใหญ่ อย่างน่าตกใจยิ่งพวกมันรวมตัวกันเพื่อสร้างเป็นอสูรทะเลที่มีความยาวนับพันจ้าง เป็นปูทะเลยักษ์!

ค่ายกลเวทปูทะเลยักษ์ดูแปลกตาอย่างถึงที่สุด นอกจากก้ามปูขนาดใหญ่ทั้งสองข้างแล้ว ยังมีมังกรทะเลอีกแปดตัวที่โผล่ออกมาจากกระดองภาพลวงตาของมัน พวกมันทั้งหมดส่งเสียงแผดร้องคำรามมายังเมิ่งฮ่าว ทำให้ลำแสงเวทพุ่งตรงมาที่เขา

เมิ่งฮ่าวกระพริบตาติดต่อกันเก้าครั้ง ทำให้เขามองเห็นโลกที่แตกต่างกันออกไป ตอนนี้เขามองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้ฝึกตนอสูรมากกว่าหนึ่งพันคนได้ก่อตัวขึ้นมาเป็นค่ายกลเวทปูทะเลตัวนี้ มีอยู่แปดคนที่กลายเป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งคนทั้งแปดเหล่านั้นเป็นผู้ฝึกตนมังกรทะเลทั้งหมด

“ถ้าเพิ่มพวกมันทั้งหมดเข้ามา ข้าก็ขาดเพียงแค่หลงเทียนไห่คนเดียวเท่านั้น!” รังสีสังหารแวบขึ้นมาในดวงตาเมิ่งฮ่าว

ปูทะเลส่งเสียงแผดร้อง และสองลำแสงก็พุ่งออกมาจากก้ามปูทั้งสอง แทงลึกลงไปในพื้นดิน จากนั้นก็กระจายออกมาจากด้านล่างใต้เท้าของเขา

เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงอย่างเย็นชา ตอนนี้เขาเข้าไปใกล้กับถ้ำแห่งเซียนของหลงเทียนไห่มากแล้ว มองไปยังปูทะเลอยู่ชั่วขณะ ฉับพลันนั้นก็เริ่มสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกับผู้ฝึกตนอสูรผู้หนึ่ง ทำให้เขาเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่เมิ่งฮ่าวเข้าไปใกล้ พื้นฐานฝึกตนก็พุ่งสูงขึ้นไป เป้าหมายของเขาคือการไปให้ถึงปูทะเลยักษ์ และจากนั้นก็โจมตีไปราวกับเป็นสายฟ้า ทำลายมันไปในครั้งเดียว

เขาเร่งความเร็วขึ้น และพลังก็พุ่งขึ้นไป แต่ก่อนที่จะทันได้เข้าไปใกล้กับปูทะเล เสียงแผดร้องก็ได้ยินอยู่ที่เบื้องหน้า และลำแสงสีดำจู่ๆ ก็ปรากฏขึ้น คล้ายกับเป็นพายุที่หมุนวนตรงมายังเมิ่งฮ่าว จากนั้นก็กลายเป็นบุรุษที่มีร่างกายกำยำผู้หนึ่ง ดูคล้ายกับเป็นผู้ฝึกตน

ยกเว้นว่า…มันมีกระดองเต่าขนาดใหญ่อยู่ที่ด้านหลัง! กระดองเต่านั้นเหมือนกับเป็นแก้วผลึก และส่องแสงเจิดจ้าออกมา ทำให้บุรุษร่างกายกำยำผู้นั้นมีความแข็งแกร่งอย่างน่าประทับใจ

“ตาย!” มันแผดร้องออกมา อย่างน่าประหลาดใจยิ่ง มันไม่ได้กระจายพลังจากพื้นฐานฝึกตนใดๆ ออกมา แต่เมื่อมันต่อยหมัดออกมาก็ประกอบไปด้วยพลังที่ทำให้สวรรค์ต้องสะท้านปฐพีต้องสะเทือน

“หมัดทำลายล้างชีวิต!” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาเบิกกว้างขึ้น ขณะที่จดจำได้ถึงหมัดที่โจมตีมานี้

“ผู้ฝึกตนกายเนื้อ!”

กลายเป็นว่าบุรุษร่างกำยำผู้นี้…คือผู้ฝึกตนกายเนื้อ มันเป็นผู้ฝึกตนอสูร แต่ก็ไม่ได้ฝึกฝนในเส้นทางของเซียน กลับ…ไล่ตามค้นหาเซียนกายเนื้อแทน นามของมันได้อยู่บนประตูแท่นศิลาตัวอักษรสีทองที่เก้าด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าตำแหน่งของมันจะไม่สูงเท่ากับของเมิ่งฮ่าว แต่ยังคงอยู่ในสิบคนแรก

ในเวลาเดียวกับที่มันโจมตีมาด้วยพลังอันน่าประหลาดใจ ทันใดนั้นคลื่นขนาดใหญ่ก็ได้ปรากฏขึ้นในที่ห่างไกลออกไป พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวพร้อมกับเสียงแค่นอย่างเย็นชาที่กระจายออกมาจากภายในคลื่นนั้น

เป็นเสียงของหญิงสาว และเต็มไปด้วยพลังที่สามารถจะบดขยี้ทองคำและป่นศิลาให้กลายเป็นผุยผงลงไปได้

ที่ยิ่งน่าตกใจมากไปกว่านั้นก็คือว่า เสียงแค่นนั้นเต็มไปด้วยพลังอันน่าเหลือเชื่อของสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลัง

ทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าวต้องเจ็บปวดราวกับถูกแทงอย่างรุนแรง ทั่วทั้งร่างเขาสั่นสะท้านและต้องหยุดชะงักนิ่งไป

ผู้ฝึกตนอสูรร่างกำยำฉวยโอกาสในตอนนั้น กระแทกหมัดลงมาบนร่างเมิ่งฮ่าว เขาแผดร้องออกมาด้วยโทสะขณะที่ต้องถอยไปทางด้านหลังเจ็ดถึงแปดก้าว

อย่างไรก็ตามสีหน้าของผู้ฝึกตนอสูรร่างกำยำต้องสลดลง และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากมัน ขณะที่ถอยโซเซไปทางด้านหลังไม่ต่ำกว่าสิบก้าว มันรู้สึกประหลาดใจไปโดยสิ้นเชิงเมื่อพบว่าหมัดของมันกลับทำให้ตนเองต้องได้รับบาดเจ็บไป!

พลังสะท้อนกลับที่ออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว ทำให้หนังศีรษะของบุรุษร่างกำยำต้องด้านชา

เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไปอย่างช้าๆ ดวงตาเย็นชาขณะที่จ้องไปยังคลื่นที่ใกล้เข้ามา ทันใดนั้นสายตาเขาก็ตรึงแน่นไปที่หญิงสาวซึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงด้านในของคลื่นนั้น นางสวมใส่ชุดสีน้ำเงิน และมีความงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ ถึงแม้ว่าจะเย็นชาเต็มไปด้วยกลิ่นอายอันน่ากลัวก็ตามที

เมิ่งฮ่าวไม่รู้จักหญิงสาวนางนี้

ทันใดนั้น เสียงเย็นชาอื่นก็ดังก้องออกมา ฝานตงเอ๋อร์ปรากฏกายขึ้น เส้นผมของเสี่ยวชิงพลิ้วไปมาอยู่รอบๆ ร่างนาง ขณะที่พุ่งตรงไปยังเบื้องหน้าของเส้นทางคลื่นนั้น

“ไหหนี่ว์ (ธิดาทะเล) เป้ยอวี้ คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า!”

หญิงสาวที่อยู่ภายในคลื่นนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเป็น…

เซิ่งหนี่ว์ (สตรีศักดิ์สิทธิ์) แห่งกลุ่มผู้ฝึกตนอสูร ซึ่งมีชื่อเสียงเทียบเท่ากับฝานตงเอ๋อร์…ไหหนี่ว์เป้ยอวี้!

เป้ยอวี้ขมวดคิ้วขณะที่ฝานตงเอ๋อร์มาปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้านาง สองหญิงสาวเผชิญหน้ากันในกลางอากาศอยู่ชั่วขณะ และจากนั้นก็เริ่มต่อสู้กันไปมา

เมิ่งฮ่าวละสายตาจากพวกนางมองไปทางอื่น และขณะที่ทำเช่นนั้น ผู้ฝึกตนกายเนื้อร่างกำยำที่อยู่เบื้องหน้าก็ร้องตะโกนขึ้นมา

บุรุษร่างกำยำกำหมัดจนแน่นและประกาศก้องว่า

“เจ้าก็เป็นผู้ฝึกตนกายเนื้อด้วยเช่นกัน! กล้าที่จะต่อสู้กับข้าด้วยการไม่ใช้วิชาเวทหรือไม่? มาต่อสู้กันด้วยกายเนื้อ!!”

เพื่อตอบรับคำท้าทายของผู้ฝึกตนกายเนื้อร่างกำยำ เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา และเริ่มก้าวเดินตรงไป พลังปราณและโลหิตของเขาพุ่งทะยานขึ้นไป ในเวลาเดียวกันนั้น บุรุษร่างกำยำก็แผดร้องและเริ่มวิ่งตรงมา ปราณและโลหิตของมันพุ่งขึ้น ขณะที่คนทั้งสองเข้ามาใกล้ซึ่งกันและกัน แสงแห่งความเจ้าเล่ห์จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นในดวงตาเมิ่งฮ่าว เมื่อคนทั้งสองกำลังจะกระแทกเข้าหากัน หมัดของเขาจู่ๆ ก็ขยับร่ายเวทขึ้น และสุดยอดสะพานก็ปรากฏขึ้น ปะทะเข้ากับหมัดทำลายล้างชีวิตของบุรุษร่างกำยำผู้นั้น

ในเวลาเดียวกันนั้น มือซ้ายของบุรุษร่างกำยำก็เปล่งแสงเจิดจ้าขึ้นมา ซึ่งได้กลายเป็นใบหน้าปีศาจไป

แต่เนื่องจากเมิ่งฮ่าวเปลี่ยนไปเรียกให้สุดยอดสะพานปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับแรงกดดันอันเข้มข้น ทำให้ใบหน้าปีศาจต้องกรีดร้องออกมาด้วยเสียงแหลมเล็กและหายไปในทันที

ใบหน้าปีศาจนั้นคือการโจมตีที่สามารถจะใช้เพื่อจำกัดปราณและโลหิตของผู้ฝึกตนกายเนื้อ และเป็นไพ่ไม้ตายของมัน แต่มันไม่เคยคาดคิดว่าเมิ่งฮ่าวจะใช้วิชาเวทออกมาจริงๆ โดยที่ไม่ได้ใช้กายเนื้อแต่อย่างใด!

หมัดทำลายล้างชีวิตของชายชราที่อยู่ในประตูแท่นศิลาตัวอักษรสีทองที่เก้า สามารถจะทำให้สุดยอดสะพานสั่นสะเทือนไปได้อย่างง่ายดาย แต่ผู้ฝึกตนกายเนื้อผู้นี้ยังไม่มีคุณสมบัติเช่นนั้น เสียงกระหึ่มกึกก้องได้ยินมา และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากมัน หมัดของมันระเบิดขึ้น

และต้องส่งเสียงแผดร้องออกมาขณะที่ถอยไปทางด้านหลัง ในเวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็ไม่ชักช้าไปแม้แต่น้อย แต่กลับพุ่งไล่ติดตามมันไป

“ช่างน่ารังเกียจนัก! เจ้าเป็นผู้ฝึกตนกายเนื้อ แต่ไม่กล้าที่จะต่อสู้กับข้าด้วยพื้นฐานกายเนื้อ!?!?” บุรุษร่างกำยำแผดร้องออกมาด้วยโทสะ

“เจ้าคิดว่าข้าจะไม่ใช้วิชาเวท แค่เพราะว่าเจ้าพูดออกมาเช่นนั้น? เจ้าก็ไม่ทำตามเช่นกัน!”

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้นด้วยความเย็นชา ขณะที่ยกมือขวาขึ้นมาและขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กลายเป็นหมัดไป หมัดนั้นกระแทกตรงไปยังหน้าอกของมันราวกับเป็นสายฟ้า ก่อนที่หมัดนั้นจะกระแทกลงไป ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง ครั้งนี้ได้กลายเป็นฝ่ามือ ฟาดลงไปบนหน้าอกของมัน และคว้าจับมันไว้ โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากมัน

ขณะที่เมิ่งฮ่าวยกร่างมันขึ้นไปอยู่ที่เบื้องหน้าอย่างน่าตกใจยิ่ง เขากำลังใช้บุรุษร่างกำยำ เป็นเหมือนกับเกราะป้องกัน ขณะที่พุ่งตรงไปยังปูทะเลยักษ์!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!