Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1178

ตอนที่ 1178

จุดสูงสุด

ผู้พิทักษ์วัยกลางคนพลาดไปแล้ว มันไม่เคยเห็นเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้ามาก่อน ดังนั้นจึงไม่รู้ว่า…ถึงแม้จะบอกว่าเมิ่งฮ่าวคือเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าคนแรก และจากนั้นก็อาจจะมีคนที่สอง หรือคนที่สาม หรือมากไปกว่านั้น แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังคงเป็นเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าที่แข็งแกร่งมากที่สุด!

ยิ่งไปกว่านั้น เขาคือหนึ่งในเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าที่แข็งแกร่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย

นั่นเป็นเพราะว่า…กายเนื้อของเขา!

ความแข็งแกร่งของกายเนื้อนี้ ทำให้พลังการต่อสู้เซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าของเขาทรงพลังมากยิ่งขึ้น

“ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบดูดซับเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์นี้…ข้ายังคงสามารถจะแข็งแกร่งได้มากกว่านี้!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา รับรู้ได้ว่าจากพลังเซียนอันไร้ขอบเขตภายในร่างของตนเอง ถ้าเขาต้องการ ก็สามารถจะขยายร่างให้มีขนาดใหญ่สูงขึ้นนับพันจ้างได้

“กายเนื้อของข้า…ยังคงมีตะเกียงวิญญาณดับอยู่ ไม่รู้ว่า…ข้าจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน หลังจากที่จุดพวกมันติดแล้วทั้งหมด!”

แสงแปลกๆ ปรากฏขึ้นมาในดวงตาเมิ่งฮ่าว ขณะที่ตะเกียงวิญญาณเก้าดวงเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอยู่รอบๆ ตัว ตอนนี้แปดดวงกำลังลุกไหม้ขึ้นมาตราบชั่วนิรันดร์ แต่ดวงที่เก้ายังคงดับอยู่

เขามองไปยังตะเกียงวิญญาณดวงที่เก้าอย่างครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็โบกสะบัดมือขวาออกไป ทันใดนั้นแสงสีฟ้าหนึ่งพันจ้างก็จางหายไป เวลาเดียวกันนั้นแรงกดดันที่กดทับลงไปบนทะเลแห่งเปลวไฟก็หายไปด้วยเช่นกัน ทำให้เปลวไฟเหล่านั้นพลุ่งพล่านขึ้นมา

ทันใดนั้นทั่วทั้งอาณาเขตแห่งนั้นก็ถูกปกคลุมอยู่ภายใต้เปลวไฟ ซึ่งบดบังสิ่งอื่นๆ ไปทั้งหมด ผู้พิทักษ์ในรูปแบบของแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ ไม่อาจจะมองเห็นเมิ่งฮ่าวได้อีกต่อไป

เขายังคงอยู่ภายในทะเลแห่งเปลวไฟ หลับตาลง ปล่อยให้เปลวไฟผ่านเข้ามาในร่างกาย แต่ป้องกันไม่ให้ประกายเปลวไฟดูดซับเปลวไฟเหล่านั้น ปล่อยให้พวกมันถูกสร้างขึ้นมาอยู่ภายในร่าง

เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ไหลเข้ามาในร่างเขามากขึ้น ม้วนกวาดออกไปทั่วภายในร่าง ไหลผ่านเส้นลมปราณ ท่วมอวัยวะภายใน เต็มไปทั่วทั้งเลือดเนื้อ และไหลซึมเข้าไปในกระดูกอีกด้วย

เมิ่งฮ่าวเริ่มสั่นสะท้านขึ้นมาเล็กน้อย แต่สีหน้าก็ยังคงสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย ผนึกประกายเปลวไฟไว้ ปล่อยให้เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างขึ้นมาอยู่ในร่างมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งคล้ายกับเป็นสิ่งมีชีวิตเปลวไฟ เลือดเนื้อ, กระดูก, เส้นลมปราณ และส่วนต่างๆ ของร่างกายทั้งหมดประกอบไปด้วยเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์

และจำนวนของเปลวไฟก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ถ้าเปรียบเมิ่งฮ่าวเป็นขวด ในตอนนี้ขวดนั้นก็มีเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์อยู่มากกว่าสี่ในสิบส่วน

และขั้นตอนนี้ของเขาก็ยังไม่เสร็จสิ้น!

แสงแปลกๆ ส่องประกายอยู่ในดวงตา ขณะที่ดูดซับเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์เข้าไป ราวกับว่าเขากลายเป็นหลุมดำไป เปลวไฟทั้งหมดไม่ได้เข้าไปในประกายเปลวไฟ แต่ถูกสร้างขึ้นมาภายในร่าง รับรู้ได้ถึงการเผาไหม้ที่เพิ่มขึ้นมา เมิ่งฮ่าวกำลังใช้วิธีการนี้…กลั่นสกัดกายเนื้อของตนเอง!

ตูม!

ห้าส่วน, หกส่วน, เจ็ดส่วน!

ขั้นตอนการกลั่นสกัดร่างกายนี้ทำให้เมิ่งฮ่าวต้องสั่นสะท้าน เป็นความยากลำบากจนแทบไม่อาจจะอธิบายออกมาได้ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าเขามีกายเนื้อที่แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ รวมทั้งพลังแห่งเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าแล้วละก็ เขาคงไม่อาจจะอดทนต่อความร้อนอันเข้มข้นของเปลวไฟนี้ได้

อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะทำให้กายเนื้อมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อที่จะได้รับผลประโยชน์อย่างเต็มที่ของโชควาสนานี้ เขาจึงต้องดูดซับเข้าไปมากขึ้น เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกมา ขณะที่เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์อันไร้ขอบเขตพุ่งเข้ามาในร่าง ทำให้มีเปลวไฟเพิ่มขึ้นจากเจ็ดส่วนเป็นแปดในสิบส่วน!

ขั้นตอนนี้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องรวดเร็ว จนกระทั่งถึงเก้าในสิบส่วน!

ในตอนนี้เองที่เขาสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างรุนแรง กระอักโลหิตออกมากองโต ถึงแม้ว่าเขาจะมีเลือดเนื้อ แต่เมื่อดูดซับเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์เข้าไปได้ถึงเก้าในสิบส่วน ก็ทำให้สวรรค์ต้องสั่นสะท้าน ปฐพีต้องสั่นสะเทือน ตอนนี้เขาคล้ายกับเป็นวิญญาณเปลวไฟ ที่มีร่างกายเป็นเลือดเนื้อ

“ข้าสามารถทำได้ต่อไป พุ่งเข้ามาอีก!” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า ขณะที่มองไปยังตะเกียงวิญญาณทั้งเก้าดวงของตนเอง เปลวไฟขนาดเล็กเริ่มจุดติดขึ้นมาบนตะเกียงดวงสุดท้าย และกำลังมีขนาดใหญ่มากขึ้น ในที่สุดตะเกียงก็ลุกโชนขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยความมุ่งมั่น กัดฟันแน่นและดูดซับเปลวไฟเข้าไปอีก

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เจดีย์พังทลายลงไป และท้องฟ้าก็แทบจะแยกส่วนออกจากกัน จนเผยให้เห็นถึงดินแดนที่อยู่ด้านบนขึ้นไป

นอกจากนั้น สถานที่แห่งนี้ก็คือใต้พื้นดิน!

เมิ่งฮ่าวแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา เมื่อเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในร่างบรรลุถึง…สิบส่วนสุดท้าย!

ร่างกายแต่ละส่วนของเขาในตอนนี้กลายเป็นเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ไป ในเวลาเดียวกันนั้น ตะเกียงวิญญาณดวงที่เก้าของเขาก็ลุกโชนมีชีวิตขึ้นมา!!

เมื่อเกิดขึ้นเช่นนี้ เสียงกระหึ่มก็ดังเต็มอยู่ภายในร่าง จิตใจเริ่มเต้นรัวด้วยพลังที่มากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ แม้แต่ปราณและโลหิตก็ทำให้โลกที่ด้านนอกต้องมืดสลัวลงไป พลังอันน่ากลัวพุ่งขึ้นมาจากภายในร่าง เป็นพลังที่บรรลุถึงระดับที่ต่อต้านสวรรค์!

สามารถจะกล่าวได้ว่าจากจุดเริ่มต้นของอาณาจักรขุนเขาทะเลจนกระทั่งถึงยุคปัจจุบันนี้ สามารถจะค้นหาขนหงส์หรือเขากิเลนได้ง่ายดายกว่า การค้นหาใครบางคนที่มีกายเนื้อที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ถ้าเขาเดินไปข้างหน้าอีกแค่ก้าวเดียว ก็จะมีกายเนื้ออาณาจักรเต๋า!

สำหรับกายเนื้ออาณาจักรเต๋า…ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงว่าจะเป็นสิ่งที่หาได้ยากเย็นยิ่งในอาณาจักรขุนเขาทะเล แม้แต่ในอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่ บุคคลที่มีร่างกายเช่นนี้ก็มีแต่ผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น!

มีแต่ผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นถึงจะมีกายเนื้ออยู่ในอาณาจักรเต๋า!

นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อกายเนื้อบรรลุถึงเต๋า ถึงแม้ว่าสวรรค์และปฐพีจะผุพังสลายลงไป แต่กายเนื้อเช่นนั้นจะไม่ดับสลาย มีทางเดียวเท่านั้นที่จะทำลายไปได้คือการต่อสู้ แม้แต่การทำลายล้างของกาลเวลา หรือพลังแห่งฟ้าดินก็ไม่อาจจะทำลายมันไปได้

นั่นคือกายเนื้ออาณาจักรเต๋า!

และตอนนี้เมิ่งฮ่าวก็อยู่ห่างจากกายเนื้อเช่นนั้นแค่ก้าวเดียวเท่านั้น!!

เขาลืมตาขึ้นมาในทันที แหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา ทำให้พื้นดินที่ด้านบนสั่นสะเทือน ก้อนหินดินทรายตกลงมา

ถึงแม้ว่าท้องฟ้าที่ด้านบนจะยังไม่พังทลายลงมา แต่ผู้พิทักษ์วัยกลางคนที่อยู่ด้านนอกทะเลแห่งเปลวไฟ กลับยิ่งมีความตกใจมากขึ้นกว่าเดิม

เพื่อเป็นการตอบรับเสียงกู่ร้องของเมิ่งฮ่าว ทะเลแห่งเปลวไฟรอบๆ ตัวเขาเริ่มพลุ่งพล่านปั่นป่วน เจดีย์นับแสนในโลกแห่งนี้พังทลายกลายเป็นเสี่ยงๆ ไป

ตรงชั้นสอง สัตว์อสูรโบราณสั่นสะท้าน ขณะที่ชั้นแห่งนี้ทั้งหมดสั่นไปมา ชั้นแรกก็เช่นเดียวกัน แม้แต่ทะเลสาบเต๋าที่ด้านบนก็กำลังสั่นไหวไปมา ทะเลสาบเต๋าจำนวนมากปะทุขึ้น ของวิเศษและภาพสะท้อนเต๋าพุ่งขึ้นไปในอากาศ ทำให้ผู้ฝึกตนที่มารวมตัวกันในบริเวณนั้นตกตะลึงและดีใจไปตามๆ กัน

ภายในโลกแห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ เสียงกู่ร้องของเมิ่งฮ่าวดังก้องออกไป ขณะที่พื้นฐานฝึกตนเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าของเขา ระเบิดเป็นพลังออกไป แต่ก็ไม่มีแสงสีฟ้า และตอนนี้เขาก็ไม่ทำอะไรเพื่อป้องกันไม่ให้เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ไหลเข้าไปในประกายเปลวไฟ

ก่อนหน้านี้ประกายเปลวไฟที่สามารถจะดูดซับปลวไฟได้ถูกปิดกั้นไว้ ในตอนนี้เปลวไฟที่อยู่ด้านนอกร่างเมิ่งฮ่าว ต่างก็พุ่งตรงเป็นระลอกคลื่นมาที่เขาทั้งหมด

เขายืดแขนกว้างออกไป ปล่อยให้มันไหลเข้าไปในประกายเปลวไฟอย่างเต็มที่ ด้วยความตั้งใจที่จะกลืนกินเปลวไฟทั้งหมดในโลกแห่งนี้เข้าไป

“ประกายเปลวไฟ…เจ้าเป็นของข้า!” เมิ่งฮ่าวกล่าว โบกสะบัดชายแขนเสื้อ และพุ่งขึ้นไปในอากาศ ทะเลแห่งเปลวไฟพุ่งตามขึ้นมา ถ้ามองมาจากที่ห่างไกลก็จะเห็นเปลวไฟก่อตัวเป็นภาพที่ดูคล้ายกับเป็นภูเขา ใครก็ตามที่มองเห็นภาพนี้จะต้องตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง

ถ้ามองเข้าไปให้ละเอียด ก็จะพบว่าเมิ่งฮ่าวคล้ายกับเป็นวิหคที่ไร้ผู้ต่อต้าน โดยมีทะเลแห่งเปลวไฟเป็นสองปีก

ขณะที่เขาพุ่งทะยานสูงขึ้นไปในท้องฟ้าอันกว้างใหญ่เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ในโลกแห่งนี้ทั้งหมดเริ่มมารวมตัวกัน หดเล็กลงไป และไหลเข้าไปในร่างเมิ่งฮ่าว ประกายเปลวไฟภายในร่างเขากำลังสาดประกายเจิดจ้า และในที่สุดกลิ่นอายแก่นแท้ก็เริ่มกระจายออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว

แก่นแท้นั้นไม่ได้มีขนาดเล็กอีกต่อไป แต่เป็นแก่นแท้อันยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต เป็นแก่นแท้เปลวไฟ นับจากนี้เป็นต้นไปนี่คือแก่นแท้แรกของเมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวคือผู้ฝึกตนเพียงคนเดียวที่สามารถจะควบคุมแก่นแท้ได้ ในขณะที่อยู่ในอาณาจักรเซียน!

เขาแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รอบๆ ร่างเขาหดตัวลงไปอย่างช้าๆ ตอนนี้มันมีขนาดแค่เจ็ดในสิบส่วนจากขนาดดั้งเดิม จากนั้นก็ห้าส่วน และสี่ส่วน!

ช่างเป็นภาพที่น่าตื่นตกใจเป็นอย่างยิ่ง ผู้พิทักษ์จ้องมองมายังเมิ่งฮ่าวที่กำลังดูดซับเปลวไฟเข้าไป และความเชื่อมั่นก่อนหน้านี้ของมันกำลังสั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิงในตอนนี้

“คำสาปแช่งของเต้าฟางต้าเหริน…ไม่มีใครจะครอบครองประกายเปลวไฟได้…แล้วเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร…?” มันพึมพำ ในตอนนี้ทะเลแห่งเปลวไฟมีขนาดแค่สามในสิบส่วนจากขนาดดั้งเดิม!

ยิ่งเมิ่งฮ่าวดูดซับเข้าไปได้มากเท่าใด ประกายเปลวไฟที่อยู่ภายในร่างเขาก็ยิ่งเจิดจ้ามากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้ทะเลแห่งเปลวไฟไม่อาจจะทำอันตรายเขาได้แม้แต่น้อย หลังจากที่ดูดซับมันได้โดยสมบูรณ์ เปลวไฟก็ไม่อาจจะทำร้ายเมิ่งฮ่าวได้อีกต่อไป

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องไปทั่วในโลกแห่งนี้ อากาศสั่นสะเทือนขณะที่ทะเลแห่งเปลวไฟหดตัวลงไปอีกครั้ง!

สองส่วน!!

ยังคงมีทะเลแห่งเปลวไฟเหลืออยู่เพียงแค่สองในสิบส่วนเท่านั้น เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ตราบชั่วนิรันดร์ภายในโลกแห่งนี้ กำลังถูกเมิ่งฮ่าวดูดซับเข้าไปโดยสิ้นเชิง ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเพียงประกายเปลวไฟแค่จุดเดียวเท่านั้น แต่ใครก็ตามที่อยู่ในอาณาจักรเต๋าก็ยังต้องละโมบอยากได้ขึ้นมา

หนึ่งส่วน!!

แสงอันเจิดจ้าสาดประกายออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว ทะเลแห่งเปลวไฟยังคงหดตัวลงไปอย่างต่อเนื่อง กลิ่นอายแก่นแท้บนร่างเขามีความเข้มข้นมากขึ้น และทุกสรรพสิ่งรอบๆ ตัวก็สั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง!

ในช่วงเวลาแค่ไม่กี่อึดใจ ทะเลแห่งเปลวไฟก็หดเล็กลงจนกลายเป็นแค่เส้นใยแห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจากนั้นก็หลอมรวมเข้าไปในร่างเมิ่งฮ่าว ในตอนนี้เองที่โลกแห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ไม่มีเปลวไฟอีกต่อไป!

ในวันนี้ทะเลแห่งเปลวไฟที่คงอยู่มาเป็นเวลานานและลุกไหม้อยู่ตราบชั่วนิรันดร์…หายไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มีเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์และพื้นดินที่ด้านล่างก็เปิดเผยออกมาอย่างสมบูรณ์ ในเวลาเดียวกันนั้นเจดีย์ทั้งหมดต่างก็พังทลายกลายเป็นซากปรักหักพังไป

หนึ่งแสน, สองแสน, สามแสน…ในชั่วพริบตา เสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ก็ได้ยินดังก้องออกมาจนกระทั่งเต็มไปทั่วทั้งบริเวณนั้น…ไม่มีเจดีย์ตั้งตระหง่านอยู่อีกแม้แต่แห่งเดียว!

เมิ่งฮ่าวหลับตาลงด้วยความรู้สึกที่สั่นสะท้าน ประกายเปลวไฟภายในร่างทำการดูดซับเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ในโลกแห่งนี้เข้ามาทั้งหมด

ในตอนนี้เจตจำนงแห่งหั่วเหยียนจื่อได้ยอมรับเมิ่งฮ่าวแล้ว ไม่ต่อต้านเขาอีกต่อไป แต่หลอมรวมเข้าไปในร่างเขา

เมื่อเกิดขึ้นเช่นนี้ กลิ่นอายแก่นแท้ที่อยู่ภายในร่างเมิ่งฮ่าวก็เสถียรมั่นคงไปตลอดกาล!

เขาลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ นี่คือสถานะที่แข็งแกร่งมากที่สุดของเขา เซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า วงจรอันยิ่งใหญ่ของกายเนื้ออาณาจักรโบราณ แก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์แบบ!

“เป็นไปไม่ได้!!” ผู้พิทักษ์แผดร้องออกมา ในทันทีที่มันพูดขึ้น สายฟ้าสีฟ้าซึ่งอยู่รอบๆ ตัวมันก็กลายเป็นอสรพิษสีฟ้านับไม่ถ้วน พุ่งแทงเข้าไปในแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ของมันจนต้องตกตะลึงไป แรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์จางหายไปในอากาศ เมิ่งฮ่าวยึดมั่นในคำพูดของตนเอง ปล่อยให้ผู้พิทักษ์มองเห็นเขารับมอบมรดกแห่งประกายเปลวไฟด้วยสองตาของมันเอง!

เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่กลางอากาศ มองไปรอบๆ จนกระทั่งสายตาตกกระทบไปยังดินแดนที่เบื้องล่าง ที่ห่างไกลออกไป มีดินแดนแห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ และประกายเปลวไฟแห่งอื่นอยู่อีก!

อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เมิ่งฮ่าวมองออกไปยังที่ห่างไกล ก็มีบางสิ่งเต็มอยู่ในจิตใจด้วยความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรง เขาหมุนตัวมองลงไปยังเมืองสีดำสนิทที่ด้านล่าง ดวงตาสาดประกายขึ้นราวกับเป็นใบมีดอันคมกริบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!