Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1184

ตอนที่ 1184

ทัณฑ์เต๋า

แทบจะในทันทีที่พื้นฐานฝึกตนของฟางซิ่วเฟิงระเบิดเป็นพลังออกไป ท้องฟ้าสีโลหิตที่ด้านบนก็แยกส่วนออกจากกัน ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นเปิดเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวออกมา

เวลาเดียวกันนั้น กระแสน้ำวนขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านบน การหมุนวนไปมาของมันทำให้โลกสีโลหิตทั้งหมดต้องบิดเบี้ยวไปมา ขณะที่พลังของอาณาจักรเต๋า…ตกลงมายังดาวหนานเทียน!

ดาวหนานเทียนสั่นสะเทือนไปทั้งดวง ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนมองขึ้นไปในท้องฟ้าด้วยสีหน้าประหลาดใจ สิ่งที่มองเห็นคือท้องฟ้ากำลังบิดเบี้ยวไปมา ขณะที่กระแสน้ำวนอันน่าตกใจปรากฏขึ้น โคจรหมุนวนจนทำให้เกิดเป็นจุดแสงนับไม่ถ้วนลอยขึ้นไปในอากาศ แม้แต่ทะเลเทียนเหอก็ยังต้องเริ่มพลุ่งพล่านปั่นป่วนขึ้นมา

คนทั้งหมดจากตระกูลฟางนั่งลงขัดสมาธิ สีหน้าเต็มไปด้วยความมุ่งหวังขณะที่มองขึ้นไป พวกมันต่างก็รู้สึกตื่นเต้น รู้ดีว่าผู้นำตระกูลฟางซิ่วเฟิง กำลังเอาชนะทัณฑ์เต๋าเพื่อก้าวเข้าไปในเต๋าอยู่ตอนนี้!

มารดาและพี่สาวเมิ่งฮ่าว อยู่ในคฤหาสน์โบราณตระกูลฟาง พร้อมกับซุนไห่และคนอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งหมดกำลังวิตกกังวล เมิ่งลี่ยังได้จับเสื้อตนเองไว้แน่นอีกด้วย สั่นสะท้านอยู่เล็กน้อย ขณะที่จิตใจเต็มไปด้วยความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง

พี่สาวเมิ่งฮ่าวกำลังมีท่าทีเช่นเดียวกัน

ในตอนนี้ สายตาของคนทั้งหมดบนดาวหนานเทียน ต่างก็จ้องนิ่งไปยังกระแสน้ำวนนั้น!

เสียงกระหึ่มดังก้องออกมามากขึ้น ขณะที่เริ่มมองเห็นเป็นเส้นทางอย่างช้าๆ…ถ้าใครสามารถเดินไปบนเส้นทางนั้นผ่านทัณฑ์ทั้งหมดไปได้ ก็จะมีโอกาสเข้าไปในอาณาจักรเต๋า!!

ในโลกสีโลหิต ดวงตาฟางซิ่วเฟิงสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ ท่านลดมือซ้ายลงมากดลงไปบนจุดตันเถียนของตนเอง ขณะที่มือขวาฟาดลงไปบนหน้าผากอย่างรุนแรง ในเวลาเดียวกันนั้น ก็ได้ยินเสียงกระหึ่มดังก้องออกมาจากร่างที่กำลังสั่นสะท้านของฟางโส่วเต้า และร่างกายก็เริ่มแห้งเหี่ยวลงไป

เวลาเดียวกันนั้น ฟางซิ่วเฟิงก็แหงนหน้าขึ้นและแผดร้องคำรามออกมา ทันใดนั้นเอง…ภาพลวงตาของตัวท่านก็ปรากฏขึ้น นี่คือร่างจำแลงชนิดหนึ่ง เป็นภาพที่ดูเหมือนกับฟางซิ่วเฟิงเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งได้ลอยขึ้นไปในอากาศตรงไปยังกระแสน้ำวนนั้น

ฟางโส่วเต้าเริ่มอธิบายขึ้น

“เมิ่งฮ่าว ค่ายกลเต๋าไตรภาคีนี้ ใช้พลังการฝึกตนจากคนทั้งสาม เพื่อช่วยให้บิดาเจ้าสร้างเป็นร่างจำแลงสามร่าง แต่ละร่างจะมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับร่างจริง ด้วยการใช้ร่างจำแลงทั้งสามนี้เอาชนะทัณฑ์เต๋า บิดาเจ้าจึงมีโอกาสที่จะทำได้สำเร็จง่ายมากขึ้น!”

เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไปในท้องฟ้า และเห็นกระแสน้ำวนขนาดใหญ่นั้นเต็มไปด้วยประกายสายฟ้า สายฟ้าจำนวนมากพร้อมจะฟาดลงมาแล้ว ร่างจำแลงของฟางซิ่วเฟิงพุ่งตรงไปเผชิญหน้ากับสายฟ้าอันทรงพลัง อันที่จริงสายฟ้านี้มีขนาดใหญ่กว่าและน่ากลัวกว่าสายฟ้าที่เทียนอวิ๋นซ่างเหรินเคยเผชิญมาอีกด้วย

มันมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำลายดาวได้ทั้งดวง กลายเป็นทะเลแห่งสายฟ้าฟาดลงมายังฟางซิ่วเฟิง

เกิดเป็นเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกไป คนทั้งหมดเฝ้ามองไป ขณะที่ร่างจำแลงของฟางซิ่วเฟิงแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา จากนั้นก็ขยับมือร่ายเวทเพื่อเรียกความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวทออกมา ต่อสู้กลับไปยังสายฟ้าเหล่านั้น

เวลาผ่านไป และคนทั้งหมดต่างก็ตกตะลึงต่อเหตุการณ์อันน่าประหลาดใจ ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ต่อหน้าสายตาของพวกมัน หลังจากที่ทัณฑ์แรกผ่านไป ร่างจำแลงของฟางซิ่วเฟิงก็ได้รับบาดเจ็บและเหน็ดเหนื่อย แต่ก็พุ่งตรงไปยังกระแสน้ำวนนั้นอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้เองที่เสียงกระหึ่มของทัณฑ์ที่สองก็ดังก้องออกมา…เมื่อทัณฑ์อาวุธพุ่งลงมา!

จากสิ่งที่เมิ่งฮ่าวรู้หลังจากที่มองเห็นเทียนอวิ๋นซ่างเหรินก้าวเข้าไปในเต๋า มีทั้งหมดเก้าทัณฑ์ แต่ละทัณฑ์จะยิ่งมีความเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง ถ้าสามารถเอาชนะพวกมันได้ทั้งหมด เมื่อก้าวเข้าไปในกระแสน้ำวน ก็จะทำได้สำเร็จไปแล้วครึ่งทาง การที่เอาชนะทัณฑ์เหล่านี้ได้ ก็แสดงว่ามีคุณสมบัติที่จะบรรลุเต๋า

เทียนอวิ๋นซ่างเหรินล้มเหลวในท่ามกลางทัณฑ์ที่สาม และตอนนี้ฟางซิ่วเฟิงกำลังเผชิญหน้ากับทัณฑ์ที่สอง อาวุธที่แตกต่างกันก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ม้วนกวาดลงมาด้วยพลังอันน่าประหลาดใจ เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่อาวุธเก้าชนิดพุ่งลงมายังร่างจำแลงของฟางซิ่วเฟิง

เมิ่งฮ่าวกำลังมองไปด้วยความวิตกกังวล ขณะที่ร่างจำแลงของฟางซิ่วเฟิงฟาดฝ่ามือออกไป ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา จากนั้นก็โบกสะบัดมือไปที่ข้างหน้า ทำให้สีสันแวบขึ้นไป และท้องฟ้าก็สั่นสะท้าน อาวุธทั้งเก้าหยุดชะงักนิ่งในทันทีอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็สั่นไปมาด้วยพลัง และพุ่งลงมาอีกครั้ง

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังขึ้นมาในทันใด และเสียงกู่ร้องของร่างจำแลงฟางซิ่วเฟิงก็ดังก้องเข้าไปในหูของผู้ฝึกตนทั้งหมดบนดาวหนานเทียน เมื่อภรรยาและบุตรีได้ยิน ต่างก็เริ่มมีความวิตกมากขึ้นกว่าเดิม

สมาชิกสายโลหิตหลักของตระกูลฟาง กำลังเฝ้ารอด้วยความกระวนกระวายใจเช่นเดียวกัน รอคอยให้ผู้นำตระกูลของพวกมันก้าวเข้าไปในเต๋า!

 

ท้องฟ้าสาดประกายขึ้น ขณะที่ทัณฑ์อาวุธทั้งเก้าพุ่งเป็นพลังขึ้นไป ด้วยความต้องการจะกำจัดใครก็ตาม ที่พยายามจะเอาชนะพวกมัน แต่ในขณะที่เสียงกระหึ่มดังก้องออกมา ร่างจำแลงฟางซิ่วเฟิงก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

“ไสหัวไปให้กับผู้แซ่ฟาง!” ร่างจำแลงฟางซิ่วเฟิงสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ในทันที ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา และพลังอันไร้ขอบเขตของฟ้าดินก็พุ่งตรงมา และถูกดูดซับเข้าไป เกิดเป็นสีสันแวบขึ้นไปที่ด้านบน ร่างจำแลงฟางซิ่วเฟิงเริ่มสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า ทำให้ดูคล้ายกับเป็นดวงตะวัน

ทันใดนั้น กระบี่ภาพลวงตาก็ก่อตัวขึ้นมา เมื่อท่านยื่นมือขวาออกไป ก้าวเท้าขวาตรงไปข้างหน้า โค้งตัวลงคล้ายกับเป็นคันศร จากนั้นก็ตวัดกระบี่กรีดเฉือนลงไป ปลดปล่อยลำแสงอันเจิดจ้าออกไป

ปราณกระบี่พุ่งออกไปด้วยพลังที่ยากจะอธิบายออกมาได้ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มมืดสลัวเลือนลางลง มีเพียงร่างจำแลงฟางซิ่วเฟิงและกระบี่ที่ถืออยู่ในมือเท่านั้น ที่จะยังเจิดจ้าชัดเจนอย่างไร้ที่เปรียบ

“เต๋าของข้าคือเต๋าแห่งกระบี่ และกระบี่ก็คือราชันแห่งอาวุธทั้งปวง! ทัณฑ์อาวุธอันกระจ้อยร่อย…เจ้าบังอาจมาขัดขวางเส้นทางข้าจริงๆ!?” เสียงของร่างจำแลงเต็มไปด้วยแรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อ ขณะที่แสงกระบี่สาดประกายออก ตรงไปยังอาวุธทั้งเก้าชิ้นของทัณฑ์อาวุธ

เมื่อพวกมันกระแทกเข้าหากัน เสียงระเบิดขนาดใหญ่ก็ดังก้องออกไป แสงกระบี่ระเบิดเป็นพลังอันรุนแรง ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือน กลิ่นอายอันยิ่งใหญ่ยังได้พุ่งออกมาจากกระบี่อีกด้วย!

ตูม! อาวุธชิ้นแรกแตกกระจายไป!

จากนั้นก็ชิ้นที่สอง, สาม และสี่…

ในชั่วพริบตา เจ็ดอาวุธก็กลายเป็นเถ้าธุลี ยังเหลืออยู่อีกสอง กำลังดิ้นรนพุ่งฝ่าแสงกระบี่มาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พวกมันเข้ามาใกล้ร่างจำแลง ท่านก็ไม่หลบเลี่ยงออกไป แต่กลับแค่นเสียงเย็นชาออกมาแทน

เสียงนั้นทำให้อาวุธทั้งสองชิ้นสั่นสะท้าน และจากนั้นก็แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นเถ้าธุลีไป พวกมัน…มาถึงจุดที่ต้องพังทลายลงไปแล้ว แค่เพิ่มเสียงไปอีกเล็กน้อยเท่านั้น

ฟางซิ่วเฟิงเอาชนะทัณฑ์ที่สองไปได้ พลังของท่านพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าการก้าวเข้าไปในเต๋าคือเรื่องที่ง่ายดายสำหรับท่าน!

ถ้าเทียนอวิ๋นซ่างเหรินยังไม่ถูกสังหารไป และสามารถจะมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ มันคงจะตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง มันพยายามเตรียมการมานานหลายปี แต่ก็สามารถจะผ่านได้เพียงแค่ทัณฑ์ที่สองเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าฟางซิ่วเฟิงมีความแข็งแกร่งกว่ามันมากนัก

แน่นอนว่า ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับค่ายกลเต๋าไตรภาคีเป็นอย่างมาก ช่วยเกื้อหนุนพลังการฝึกตนของฟางซิ่วเฟิงและทำให้ท่านสร้างร่างจำแลงขึ้นมาได้สามร่าง เนื่องจากเช่นนั้น…ทำให้เรื่องราวง่ายดายขึ้น และท่านก็สามารถจะระเบิดเป็นพลังออกมาได้มากขึ้นกว่าเดิม

ในตอนนี้ทัณฑ์ที่สามกำลังใกล้เข้ามา นี่คือทัณฑ์ที่ทำให้เทียนอวิ๋นซ่างเหรินต้องสั่นสะท้าน เมื่อเงาร่างในชุดเกราะสีดำทั้งสี่ปรากฏขึ้น

อย่างไรก็ตามในทันทีที่พวกมันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ก่อนที่พวกมันจะทันได้ขยับตัวเคลื่อนไหว เมิ่งฮ่าวก็โบกสะบัดมือขวาออกไป ส่งให้เจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ของตนเองพุ่งออกไปยังเงาร่างเหล่านั้น จู่ๆ พวกมันก็หยุดชะงักนิ่ง จากนั้นก็ประสานมือและโค้งตัวลงให้กับฟางซิ่วเฟิง หลังจากนั้นก็หมุนตัวและหายกลับเข้าไปในกระแสน้ำวน

พวกมันล่าถอยไป โดยที่ไม่ต้องต่อสู้ใดๆ!!

ภาพที่เห็นนี้ทำให้ร่างจำแลงฟางซิ่วเฟิงจ้องมองไปด้วยความตกตะลึง ไม่ใช่ท่านเพียงคนเดียวเท่านั้น ผู้ฝึกตนทั้งหมดบนดาวหนานเทียน ซึ่งกำลังมองดูอยู่ ต่างก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ แม้แต่มารดาและพี่สาวของเมิ่งฮ่าวที่จ้องมองมา ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“ตอนนี้ ไม่มีอะไรมาขัดขวางบิดาเจ้า จากการเอาชนะทัณฑ์นี้ได้อีก”

ฟางโส่วเต้ากล่าวขึ้น

“ใช่แล้ว ซิ่วเฟิงได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แม้แต่เหล่าฟูก็ไม่อาจจะเทียบได้ ในตอนที่ก้าวเข้าไปในเต๋า”

“เท่าที่เห็น การมาอยู่บนดาวหนานเทียนแห่งนี้ จริงๆ แล้วก็คือโอกาสดีสำหรับซิ่วเฟิง”

ขณะที่ฟางโส่วเต้าและฟางเหยียนซวีพูดคุยกัน ใบหน้าที่เคร่งเครียดของคนทั้งสองเริ่มผ่อนคลายลงมากขึ้น

จากมุมมองของพวกท่าน ตอนนี้การเอาชนะทัณฑ์เต๋าได้หรือไม่ ไม่ใช่ข้อสงสัยอีกต่อไป ฟางซิ่วเฟิงได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สามารถจะก้าวเข้าไปในเต๋าได้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีความช่วยเหลือก็ตามที เห็นได้ชัดว่าท่านสามารถจะทำได้สำเร็จในที่สุดโดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ

สิ่งที่พวกท่านวิตกในตอนนี้คือ…สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับค่ายกลเวทของดาวหนานเทียนหลังจากที่ท่านทำได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม เมิ่งฮ่าวไม่มีความเชื่อมั่นเช่นนั้น ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อเขามองไปยังร่างจำแลงของบิดาในกลางอากาศ ก็ให้รู้สึกวิตกเป็นอย่างมาก ราวกับว่ามีสิ่งที่เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าคืออะไรก็ตามที

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมข้าถึงรู้สึกแปลกๆ…?” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาหรี่เล็กลง ความวิตกในจิตใจมีแต่จะเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในตอนนี้ทัณฑ์ที่สี่กำลังมาถึง ทัณฑ์ที่สี่นี้คือทัณฑ์ห้าธาตุ ทอง, ไม้, น้ำ, ไฟ, ดิน พลังที่แตกต่างกันของธาตุทั้งห้าปรากฏขึ้นอยู่ภายในกระแสน้ำวน จากนั้นก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา กลายเป็นมังกรขนาดใหญ่ห้าตัว แผดร้องคำรามพุ่งตรงมายังร่างจำแลงฟางซิ่วเฟิง

การต่อสู้นี้มีความยากลำบากกว่าก่อนหน้านี้ ร่างจำแลงฟางซิ่วเฟิงทุ่มออกมาจนสุดตัว ม้วนกวาดออกไปยังมังกรตัวแรกโดยตรง จากนั้นก็ระเบิดตนเองไปพร้อมกับมังกรอีกสามตัว มีเพียงมังกรวารีเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่ ในตอนนี้ฟางเหยียนซวีกู่ร้องออกมา และทันใดนั้นร่างของท่านก็แห้งเหี่ยวลงไป ในเวลาเดียวกันนั้น ภาพลวงตาก็ก้าวเดินออกมาจากร่างของฟางซิ่วเฟิง ซึ่งยังคงนั่งอยู่ตรงจุดกึ่งกลางของค่ายกลเต๋าไตรภาคี

นี่คือร่างจำแลงร่างที่สองของท่าน ซึ่งได้บินขึ้นไปกลายเป็นลำแสงกระบี่สังหารมังกรตัวที่ห้าและเป็นตัวสุดท้ายไป โดยไม่หยุดชะงักลงแม้แต่น้อย ขณะที่ทัณฑ์ที่หกกำลังพุ่งลงมา

ทัณฑ์ที่หกนี้มีตัวอักษรหนึ่งตัวพุ่งออกมา เป็นตัวอักษร 道 (เต๋า) ลอยอยู่ที่นั่นเปล่งแสงแปลกๆ ออกมา ใครก็ตามที่มองไปก็จะสังเกตเห็นว่าตัวอักษรนั้นดูเหมือนจะไม่เสถียรมั่นคง กำลังกระพริบไปมาอย่างต่อเนื่องด้วยรูปแบบที่แตกต่างกันเก้าแบบ อย่างไรก็ตามแต่ละรูปแบบเหล่านั้นคือตัวอักษรที่เป็นตัวแทนของ…เต๋า!

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกมา ขณะที่แรงกดดันอันเข้มข้นกระจายออกมาจากตัวอักษรเต๋าทั้งเก้า ร่างจำแลงฟางซิ่วเฟิงแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา พลังการฝึกตนปะทุขึ้นไป ภาพกระบี่จำนวนมากปรากฏขึ้นอยู่รอบๆ ตัว จากนั้นก็กลายเป็นหมอกแห่งเต๋า!

หมอกแห่งเต๋านั้นกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง จนมีขนาดถึงหนึ่งหมื่นจ้าง เกินกว่าของเทียนอวิ๋นซ่างเหรินมากนัก หมุนวนไปรอบๆ ร่างจำแลงฟางซิ่วเฟิง ขณะที่กระบี่ภาพลวงตาปรากฏขึ้นในมือ และท่านก็พุ่งตรงไปยังตัวอักษรเต๋าทั้งเก้า

“ทัณฑ์…จงหายไป!” ขณะที่เสียงของร่างจำแลงฟางซิ่วเฟิงดังก้องออกมา สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน กระบี่แสงพุ่งขึ้นไป เต็มไปด้วยแสงสีฟ้ากรีดเฉือนตรงไปยังเก้าตัวอักษรเต๋า ฟางซิ่วเฟิงมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่ากระบี่นี้…จะปราบพิชิตทัณฑ์ที่หกนี้ได้!

นั่นเป็นเพราะว่าท่านคือ…ฟางซิ่วเฟิง!

อย่างไรก็ตามในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวตระหนักว่าร่างจำแลงของบิดากำลังเปล่งแสงสีฟ้าออกมา ทันใดนั้นจิตใจเมิ่งฮ่าวก็เริ่มหมุนคว้าง

“เตีย! รีบสะกดข่มเมล็ดเต๋าของท่าน!!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!