ตอนที่ 1185
ทัณฑ์ทุกชั้นฟ้า
แทบจะในทันทีที่เมิ่งฮ่าวพูดจบ กระบี่ของฟางซิ่วเฟิงก็สัมผัสโดนเก้าตัวอักษรเต๋า เกิดเป็นเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องขึ้น ตามมาด้วยแสงระยิบระยับอย่างไร้ขอบเขต เก้าตัวอักษรเต๋าของทัณฑ์ที่หกแตกกระจายไปในทันที กลายเป็นเถ้าธุลีที่ลอยไปตามสายลม
ในเวลาเดียวกันนั้น แสงสีฟ้าที่กำลังส่องประกายออกมาจากร่างฟางซิ่วเฟิง ก็ยิ่งมีความเจิดจ้ามากขึ้น ราวกับว่ามันถูกกระตุ้นด้วยตัวเร่งปฏิกิริยาบางอย่าง…ขณะที่แสงนั้นเจิดจ้ามากขึ้น เมล็ดเต๋าที่อยู่ภายในร่างท่านก็เริ่มหลอมละลายไป
ขณะที่เป็นเช่นนั้นกลิ่นอายเซียนทุกชั้นฟ้าก็ปรากฏขึ้นมาเล็กน้อย เป็นสิ่งที่เมิ่งฮ่าวรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก มันไม่ได้เป็นกลิ่นอายของเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า แต่เป็นขั้นแรกของเซียนทุกชั้นฟ้าธรรมดาทั่วไป
ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าทำไมถึงมีความรู้สึกที่เลวร้ายเช่นนั้น เป็นความรู้สึกที่กระจายออกมาจาก…เมล็ดเต๋า!
ถ้าเซียนทุกชั้นฟ้าที่อยู่ภายในร่างฟางซิ่วเฟิงตื่นขึ้นมาตอนนี้ และทัณฑ์ต่างๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไป ก็คงไม่มีปัญหาใดๆ แต่…ถ้าธรรมชาติอันน่ากลัวของทัณฑ์ต่างๆ เปลี่ยนไป อันเนื่องมาจากการพุ่งขึ้นมาของเซียนทุกชั้นฟ้า ทัณฑ์เต๋าของฟางซิ่วเฟิงก็จะยิ่งมีความยุ่งยากลำบากมากขึ้น!
ขณะที่แสงสีฟ้าสาดประกายออกมาจากร่างฟางซิ่วเฟิง และเมล็ดเต๋าเริ่มหลอมละลายไป กระแสน้ำวนที่ด้านบนจู่ๆ ก็หยุดชะงักนิ่ง ราวกับว่ามันรับรู้ได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง จากนั้นเสียงกระหึ่มอันเข้มข้นก็ดังก้องออกมา ขณะที่กระแสน้ำวนมีขนาดเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าในทันที!
ภาพนี้ทำให้ผู้ฝึกตนที่กำลังเฝ้ามองอยู่ทั้งหมดบนดาวหนานเทียนต้องจ้องมองไปด้วยความตกตะลึง แน่นอนว่าน้อยคนนักที่จะเข้าใจได้อย่างแท้จริงถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ มีเพียงผู้อาวุโสของบางตระกูลเท่านั้นที่พอจะรับรู้ได้บ้าง
คนส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นการก้าวเข้าไปในทัณฑ์เต๋าใดๆ แต่ผู้อาวุโสที่เคยเห็นมาก่อน ต่างก็รู้สึกประหลาดใจ ขณะที่ตระหนักว่ามีสิ่งที่แตกต่างออกไปกำลังเกิดขึ้น
เมิ่งลี่สามารถจะบอกได้ว่ามีสิ่งที่ผิดปกติเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน และสีหน้าก็สลดลงในทันที
ย้อนกลับไปในโลกสีโลหิต ดวงตาฟางโส่วเต้าเบิกกว้างขึ้น มองขึ้นไปยังกระแสน้ำวน ซึ่งตอนนี้มีขนาดใหญ่มากกว่าเดิมถึงสิบเท่า จากนั้นก็มองกลับไปยังฟางซิ่วเฟิง และสีหน้าขมขื่นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า ในที่สุดท่านก็ถอนหายใจยาวออกมา
ฟางเหยียนซวีส่ายหน้า และมีท่าทางไม่อาจจะทำอะไรได้
“ทั้งสองอย่างนี้ต่างก็มีประโยชน์ แต่เมื่อรวมเข้าด้วยกัน ก็กลายเป็น…หายนะ”
สีหน้าเมิ่งฮ่าวน่าเกลียดขึ้นอย่างถึงที่สุด สำหรับฟางซิ่วเฟิง ทันใดนั้นท่านก็เข้าใจในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ร่างจำแลงของท่านลอยตัวอยู่กลางอากาศอย่างเงียบๆ มองขึ้นไปยังกระแสน้ำวน ในที่สุดก็หัวเราะหึๆ ออกมา
“เช่นนี้ก็ดี ข้าจะได้พบเจอกับทัณฑ์เต๋าอย่างแท้จริง เมื่อข้าตัดสินใจที่จะเอาชนะทัณฑ์นี้ ก็มีทางเดียวเท่านั้นคือมุ่งหน้าต่อไป…” ท่านเริ่มหัวเราะเป็นเสียงดังขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ขณะที่เสียงหัวเราะของท่านดังก้องออกมา เสียงกระหึ่มอย่างรุนแรงก็ได้ยินออกมาจากภายในกระแสน้ำวน
กระแสน้ำวนขนาดใหญ่หมุนวนไปมา ขณะที่…ทัณฑ์ที่เจ็ดพุ่งลงมา
ทัณฑ์ที่เจ็ดนี้คือ…เหรียญทองแดง!
เหรียญทองแดงเริ่มลอยออกมาจากกระแสน้ำวน เดิมทีมันน่าจะมีแค่เก้าเหรียญเท่านั้น แต่ตอนนี้เมื่อกระแสน้ำวนมีขนาดเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า จึงไม่ได้มีเหรียญทองแดงเพียงแค่เก้าเหรียญ แต่เป็น…เก้าสิบเหรียญ!!
แต่ละเหรียญดูเหมือนกันทั้งหมด บนด้านหนึ่งมองเห็นเป็นภาพของปากั้ว (ยันต์แปดทิศ) และอีกด้านมีตัวอักษรที่ดูคล้ายกับเป็นสัญลักษณ์เวท ยิ่งไปกว่านั้นเหรียญแต่ละอันต่างก็กระจายพลังที่สามารถทำให้ฟ้าสะท้านดินสะเทือนออกมา
เสียงกระหึ่มอันเข้มข้นดังเต็มอยู่ในอากาศขณะที่เหรียญเหล่านั้นตกลงมา!
“ทัณฑ์ปีศาจภูเขาบัญชาสายฟ้า การสำแดงของวิเศษอันล้ำค่าแห่งขุนเขาทะเล ปีศาจภูเขาบัญชาสายฟ้านี้มีพลังที่สามารถจะฉีกสวรรค์หั่นปฐพีได้!!” ฟางโส่วเต้าพึมพำ สูงขึ้นไปในกลางอากาศ ร่างจำแลงฟางซิ่วเฟิงแหงนหน้าขึ้นและหัวเราะออกมา ปราณกระบี่พุ่งขึ้น ขณะที่ท่านพุ่งตรงไปยังเหรียญทองแดงทั้งเก้าสิบเหรียญ
“พลังของทัณฑ์นี้เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า แล้วจะอย่างไร!?” ร่างจำแลงฟางซิ่วเฟิงกลายร่างเป็นภาพกระบี่ ส่งเสียงกระหึ่มแหวกฝ่าอากาศตรงไปยังเหรียญเหล่านั้น
ในทันทีที่พวกมันกำลังจะกระแทกเข้าหากัน จู่ๆ เสียงเก่าแก่โบราณก็ดังออกมาจากภายในเหรียญทองแดงทั้งเก้าสิบเหรียญเหล่านั้น
“ปีศาจภูเขา…” ทันใดนั้นสองตัวอักษรที่อยู่ด้านขวาสุดตรงด้านหลังของเหรียญทองแดง จู่ๆ ก็เริ่มสาดประกายเป็นแสงเจิดจ้าขึ้น
อย่างช้าๆ เริ่มได้ยินเสียงแผดร้องคำรามดังขึ้นมาเก้าสิบเสียง ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือน ขณะที่ภาพเก้าสิบภาพเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาจากภายในเหรียญทองแดงทั้งเก้าสิบเหรียญ ซึ่งไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็น…ปีศาจภูเขา!!
อันที่จริงปีศาจภูเขาคือเทพภูเขาที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ด้วยเช่นนั้นจึงไม่อาจจะถูกเรียกว่าเทพ กลับถูกเรียกว่าปีศาจแทน!
พวกมันมีรูปร่างหน้าตาที่ดุร้าย และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เมื่อปรากฏขึ้น ก็พุ่งตรงไปยังฟางซิ่วเฟิงในทันทีด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ
เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศขณะที่เกิดการต่อสู้กันอย่างดุร้าย แค่ปะทะกันครั้งแรกก็ทำให้ร่างจำแลงฟางซิ่วเฟิงต้องกระอักโลหิตออกมา และร่างกายก็ถูกทำลายไปครึ่งตัว แต่กระบี่ของท่านก็ยังคงพุ่งฝ่าปีศาจภูเขาทั้งเก้าสิบตนไป ทำให้พวกมันกลายเป็นเถ้าธุลีไปจนหมดสิ้น
อย่างไรก็ตามทัณฑ์ที่เจ็ดก็ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ ขณะที่ปีศาจภูเขาทั้งเก้าสิบตนกลายเป็นเถ้าธุลีไป เสียงเก่าแก่โบราณก็ดังก้องออกมาอีกครั้ง
“ปีศาจภูเขาฟ้าคำราม, สังหารปีศาจจัดการวิญญาณ, กวาดล้างอสูรตัดจิตมาร, รักษาความบริสุทธิ์แห่งเทพไว้ตลอดกาล…”
ตูม! ขณะที่เสียงนี้ดังก้องออกมา สายฟ้าเก้าสิบสายก็พุ่งออกมาจากเหรียญทองแดงเก้าสิบเหรียญ สายฟ้าเหล่านี้ดูแตกต่างไปจากทัณฑ์สายฟ้าของทัณฑ์ครั้งแรกโดยสิ้นเชิง พวกมันเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการฆ่าฟัน ราวกับว่าพวกมันเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในสวรรค์และปฐพี เป็นตัวแทนของเต๋าแห่งสวรรค์ เพื่อสังหารทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกถือว่าเป็นมาร!
ร่างจำแลงฟางซิ่วเฟิงแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา ทำให้ปราณกระบี่ระเบิดออกไปมากขึ้น กระแทกเข้าไปยังสายฟ้าทั้งเก้าสิบสาย ร่างจำแลงถูกผลักออกไปด้านหลังทีละก้าว ขณะที่กรีดเฉือนสายฟ้าไปทีละสาย โลหิตพุ่งออกมาจากบาดแผลหลายแห่ง ในตอนนี้สายฟ้าหกสิบสามสายกำลังโจมตีลงมา ร่างจำแลงไม่อาจจะทนได้อีกต่อไปและระเบิดขึ้น
ในตอนนี้เองที่สายฟ้าซึ่งยังคงเหลืออยู่ยี่สิบเจ็ดสาย พุ่งฝ่าอากาศสีโลหิตตรงมายังร่างจริงของฟางซิ่วเฟิงด้วยความรวดเร็ว
ดวงตาเมิ่งฮ่าวกลายเป็นสีแดงก่ำ และพื้นฐานฝึกตนก็ระเบิดเป็นพลังออกไป เขาใช้ค่ายกลเต๋าไตรภาคีส่งพลังไปให้กับฟางซิ่วเฟิง ช่วยให้ท่านสร้างร่างจำแลงที่สามขึ้นมา ในทันทีที่ร่างจำแลงเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ก็พุ่งตรงไปยังสายฟ้ายี่สิบเจ็ดสาย และกรีดเฉือนพวกมันด้วยกระบี่
เกิดเป็นเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกมา ขณะที่สายฟ้ายี่สิบเจ็ดสายพังทลายลงไป จากนั้นร่างจำแลงก็เปลี่ยนทิศทาง มุ่งหน้าตรงไปยังเหรียญทองแดงเก้าสิบเหรียญ ปราณกระบี่พุ่งโจมตีออกไป เหรียญทองแดงเก้าสิบเหรียญเริ่มเลือนลางลงไป แต่ก็ยังไม่แตกกระจาย กลับหมุนวนไปมาในอากาศ รวมตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นเหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญ จากนั้นก็หายเข้าไปในกระแสน้ำวน
ไม่ใช่ว่าฟางซิ่วเฟิงบังคับให้เหรียญทองแดงต้องล่าถอยกลับไป แต่การที่ท่านสามารถจะอดทนต่อความเจ็บปวดได้ ก็หมายความว่าทัณฑ์ที่เจ็ดได้จบลงแล้ว ตอนนี้ทัณฑ์ที่แปดกำลังปรากฏขึ้นมา
ทัณฑ์ที่แปดคือดรรชนีขนาดใหญ่ที่ยืดยาวออกมาจากกระแสน้ำวน กระจายแรงกดดันออกไปเป็นวงกว้าง เห็นได้ชัดว่าประกอบไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ของขุนเขาทะเล ขณะที่โจมตีลงมายังฟางซิ่วเฟิง
นี่คือความแตกต่างเป็นอย่างมากจากทัณฑ์เต๋าธรรมดาทั่วไป เมื่อเทียบกันแล้ว ประสบการณ์เกี่ยวกับทัณฑ์เต๋าของฟางโส่วเต้าและฟางเหยียนซวีเมื่อในอดีต คล้ายกับเป็นการละเล่นของเด็กทารกไป!!
“ทัณฑ์ทุกชั้นฟ้า!!” ฟางโส่วเต้าพึมพำ ด้วยน้ำเสียงที่ได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้วจากก่อนหน้านี้
เมื่อเมิ่งฮ่าวได้ยินคำพูดเหล่านี้ ม่านตาก็หดเล็กลง และจิตใจก็เต็มไปด้วยความวิตก มองขึ้นไปยังร่างจำแลงของบิดาและดรรชนีขนาดใหญ่นั้น ดรรชนีโจมตีลงมายังร่างจำแลง จนร่างจำแลงระเบิดออกกลายเป็นกลุ่มหมอกของเลือดเนื้อ
จากนั้นร่างจริงของฟางซิ่วเฟิงก็ลุกขึ้นมายืนในท่ามกลางค่ายกลเต๋าไตรภาคี โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ท่านบินขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว
“เตีย!!” เมิ่งฮ่าวร้องตะโกนออกมา รีบยืนขึ้น ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำ ไม่อาจจะอดทนได้อีกต่อไป เขาต้องไปช่วยบิดาต่อสู้กับทัณฑ์เต๋านี้
“ฮ่าวเอ๋อร์ เจ้าไม่อยู่ในอาณาจักรเต๋า นี่คือทัณฑ์ของบิดาเจ้า เจ้าไม่อาจจะสอดมือเข้าไป ถ้าทำเช่นนั้น เจ้าไม่ได้ช่วยมัน แต่กำลังทำร้ายมัน!” ฟางโส่วเต้ากล่าวขึ้น เคลื่อนที่ไปสกัดเขาไว้ จากนั้นก็สบตากับฟางเหยียนซวี และคนทั้งสองก็พยักหน้าให้แก่กัน
แสงอันเด็ดเดี่ยวสาดประกายขึ้นมาในดวงตา ขณะที่คนทั้งสองเงยหน้าขึ้น มองไปยังฟางซิ่วเฟิงที่กำลังเผชิญหน้ากับดรรชนีที่กำลังพุ่งลงมา จากนั้นคนทั้งคู่ก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ในเวลาเดียวกันนั้น…ก็ส่งเสียงคำรามอย่างน่าประหลาดใจออกมา
“เต๋า!!” เสียงนี้ทำให้เกิดเป็นสีสันแวบขึ้นไปในท้องฟ้า และสายลมขนาดใหญ่ก็กรีดร้องระงม พลังแก่นแท้ปะทุขึ้นมาพร้อมกับกฎธรรมชาติ ฟ้าดินบิดเบี้ยวไปมาขณะที่พวกท่าน…เรียกเต๋าเพื่อต่อต้านสวรรค์!
ขณะที่พวกท่านรวมพลังกัน แก่นแท้, เต๋า และกฎธรรมชาติของพวกท่านก็ปรากฏขึ้นอยู่รอบๆ ร่างฟางซิ่วเฟิง ทำให้กลุ่มหมอกเต๋าของท่านเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าในทันที ขณะที่กลุ่มหมอกเหล่านั้นบรรลุถึงจุดสูงสุด ฟางซิ่วเฟิงก็พุ่งตรงไปยังดรรชนีและกระแทกเข้าไป โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากท่านในทันใด เช่นเดียวกับฟางโส่วเต้าและฟางเหยียนซวี
แต่ค่าตอบแทนอันยิ่งใหญ่ที่พวกท่านต้องจ่ายออกมา ก็ทำให้ดรรชนีนั้นสั่นสะท้านและพังทลายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป ฟางซิ่วเฟิงพุ่งผ่านเศษชิ้นส่วนเหล่านั้น เข้าไปใกล้กับกระแสน้ำวนมากขึ้น จนดูเหมือนว่าสามารถจะก้าวเข้าไปได้แล้ว
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เองที่ทัณฑ์ที่เก้าได้ปรากฏขึ้น ทัณฑ์นี้ไม่อาจจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มันคือ…ทัณฑ์ทวยเทพ!
การทำลายล้างของเทพคือทัณฑ์ที่มองไม่เห็น ใครก็ตามที่พยายามจะก้าวเข้าไปในเต๋า จะต้องผ่านการทำลายล้างทั้งสามของสวรรค์, ปฐพี และมนุษย์!
การทำลายล้างของสวรรค์คือวิญญาณ การทำลายล้างของปฐพีคือร่างกาย การทำลายล้างของมนุษย์คือจิตใจ!
ฟางซิ่วเฟิงสั่นสะท้าน วิญญาณของท่านดูเหมือนว่ากำลังจะถูกกัดกร่อนไป ท่านพยายามดิ้นรนต่อสู้ โลหิตสีดำไหลซึมออกมาจากมุมปาก จากนั้นร่างกายก็เริ่มเหี่ยวแห้งลงจนถึงจุดที่แทบจะกลายเป็นโครงกระดูกไป เวลาเดียวกันนั้นวิญญาณของท่านก็ดูเหมือนว่าจะตกอยู่ภายใต้การถูกโจมตี และกำลังหลอมละลายไปอย่างรวดเร็ว
ท่านกู่ร้องออกมา และกลุ่มหมอกเต๋าที่อยู่รอบๆ ตัวก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน ขณะที่ท่านสูดเอาบางส่วนของพวกมันเข้าไปเพื่อช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ แต่ก็ไม่อาจจะช่วยได้มากเท่าใดนัก ทัณฑ์ยังคงมีอยู่ ถ้าท่านสูดเอากลุ่มหมอกเต๋าเข้าไปอย่างต่อเนื่องจนหมดสิ้น ต่อให้ท่านสามารถจะก้าวเข้าไปในกระแสน้ำวนได้ ท่านก็ยังไม่อาจจะก้าวเข้าไปในเต๋าได้อย่างแท้จริง
เป้าหมายที่แท้จริงของกลุ่มหมอกเต๋าคือ จะถูกใช้หลังจากที่ก้าวเข้าไปในกระแสน้ำวน ถ้ามีอยู่น้อยมากในตอนนั้นก็จะมีผลด้านลบติดตามมา
เมิ่งฮ่าวกำลังสั่นสะท้าน และจิตใจก็เต้นรัวด้วยความวิตก แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ ถึงแม้ว่าเขาต้องการจะพุ่งเข้าไปต่อสู้ด้วย แต่ก็ไม่กล้าที่จะทำเช่นนั้น ด้วยเกรงว่าจะเป็นการทำร้ายบิดาไปในที่สุด
แต่ในตอนนี้เองที่ฟางโส่วเต้าและฟางเหยียนซวีต่างก็กัดฟันแน่น จากนั้นก็รวมพลังกันกล่าวว่า “ใช้จิตวิญญาณของข้า กลายเป็นคำอวยพร!”
จากนั้นคนทั้งสองก็ฟาดฝ่ามือลงไปบนหน้าผากของตนเอง ทำให้เสียงกระหึ่มดังก้องออกไป โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก และร่างกายก็แห้งเหี่ยวลงไปมากขึ้น แต่วิญญาณของพวกท่านจู่ๆ ก็พุ่งขึ้นมาจากบนศีรษะ
อย่างน่าตกใจยิ่ง พวกท่านกำลังใช้วิญญาณ, จิตใจ และร่างกายของตนเอง เพื่อช่วยเหลือฟางซิ่วเฟิง! รวมพลังเข้าด้วยกัน เพื่อเอาชนะทัณฑ์ที่เก้า ซึ่งเป็นทัณฑ์สุดท้ายนี้!