ตอนที่ 1186
ความตั้งใจสังหารของราชันที่เก้า
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น ขณะที่ยกมือขึ้นมาและฟาดลงไปบนหน้าผากตนเองด้วยเช่นกัน เขาไม่ได้อยู่ในอาณาจักรเต๋า จึงไม่กล้าที่จะขยับตัวเคลื่อนไหว แต่ก็มีแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ จึงทำให้ทะเลแห่งเปลวไฟ ปะทุขึ้นมาบนศีรษะ และจากนั้นก็ลอยออกไปพร้อมกับฟางโส่วเต้าและฟางเหยียนซวี เพื่อช่วยเหลือบิดาให้จัดการกับทัณฑ์ทวยเทพ
เมื่อคนทั้งสามกระโดดเข้าไปช่วยเหลือฟางซิ่วเฟิง พวกเขาทั้งหมดต่างก็กระอักโลหิตออกมา แต่ก็ช่วยให้ความอ่อนแอของฟางซิ่วเฟิงลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด
ใบหน้าเมิ่งฮ่าวซีดขาว จิตใจ, ร่างกายและวิญญาณของเขากำลังหลอมละลายไปอย่างรวดเร็ว แต่ดวงตาก็ยังคงสาดประกายขึ้นด้วยความมุ่งมั่น ยินดีที่จะจ่ายค่าตอบแทนใดๆ ก็ตามเพื่อช่วยเหลือบิดา
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่เมิ่งฮ่าว, ฟางโส่วเต้า และฟางเหยียนซวี กระจายพลังกันออกไป ฟางซิ่วเฟิงหอบหายใจออกมา ร่างกายกำลังเหน็ดเหนื่อยและอ่อนแอลงไปอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ตอนนี้ท่านก็อยู่ห่างจากกระแสน้ำวนเพียงแค่สามจ้างเท่านั้น!
สิ่งที่ท่านต้องทำก็คือ ก้าวข้ามระยะทางสามจ้างนี้ไปให้ได้ และท่านก็จะสามารถผ่านเข้าไปในกระแสน้ำวนและก้าวเดินไปบนเส้นทางนั้นได้!
อย่างไรก็ตาม สามจ้างสุดท้ายคือส่วนที่น่ากลัวมากที่สุดของทัณฑ์ที่เก้านี้ แม้ว่าพลังของมันจะไม่เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าก็ตาม แต่ระยะห่างสุดท้ายนี้คือสิ่งที่ยากเย็นแสนเข็ญ ซึ่งผู้ฝึกตนธรรมดาทั่วไปมากมายที่พยายามก้าวไปในเต๋าได้พิสูจน์มาแล้ว แต่เมื่อเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า ก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงว่าในตอนนี้มันจะมีความน่ากลัวมากแค่ไหน
ฟางซิ่วเฟิงกระอักโลหิตออกมากองโต ทุกย่างก้าวที่ท่านเดินไป ร่างกายก็ยิ่งแห้งเหี่ยวลงไปมากขึ้น จิตใจ, ร่างกายและวิญญาณเริ่มเสื่อมถอยลง หลังจากที่เดินตรงไปยังสามจ้างสุดท้ายหกก้าว ฟางซิ่วเฟิงก็บรรลุถึงขีดจำกัดของตนเอง เช่นเดียวกับฟางโส่วเต้า, ฟางเหยียนซวีและเมิ่งฮ่าว ถ้าพวกเขาเดินต่อไปอีก อาการบาดเจ็บที่ได้รับก็จะไม่ใช่แค่ชั่วคราวอีกต่อไป แต่จะบาดเจ็บอย่างถาวร
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะบาดเจ็บอย่างถาวร แต่เมิ่งฮ่าวก็ไม่สนใจ
“ปรมาจารย์โส่วเต้า, ปรมาจารย์เหยียนซวี ข้ายอมบาดเจ็บอย่างถาวร” เมิ่งฮ่าวกล่าว สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ กำลังจะระเบิดพลังของจิตใจ, วิญญาณและร่างกายออกไปอีก เพื่อช่วยเหลือบิดาเป็นครั้งสุดท้าย แต่ทันใดนั้นฟางโส่วเต้าก็แผดร้องคำรามออกมา กลายเป็นเสียงที่ดังก้องออกไปทั่วทั้งดาวหนานเทียน
“สมาชิกตระกูลฟางทั้งหมด จะยอมเสียสละโลหิตของพวกมัน เพื่อช่วยให้ผู้นำตระกูลก้าวเข้าไปในเต๋า!”
ขณะที่เสียงของท่านดังก้องออกไป สมาชิกตระกูลฟางที่อยู่บนดาวหนานเทียนทั้งหมดสั่นสะท้านขึ้น โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ทุกคนตบไปที่หน้าอกของตนเอง ทำให้โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากของแต่ละคน จากนั้นโลหิตจำนวนมากก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ
โลหิตของเมิ่งลี่ไม่สามารถรวมเข้าไปได้ แต่ของฟางอวี๋สามารถ โดยไม่ลังเลใดๆ นางพ่นโลหิตออกมาจนสุดตัว หลังจากที่ทำเช่นนี้ ร่างกายก็โซเซไปมา และใบหน้าก็กลายเป็นกระดูกสีขาว แต่โลหิตของนางก็ลอยขึ้นไปในอากาศเพื่อไปรวมตัวกับโลหิตของคนอื่นๆ
ซุนไห่รีบพุ่งไปพยุงร่างนางไว้ ถึงแม้ว่าจิตใจมันจะรู้สึกเจ็บปวดต่อการเสียสละนี้ของนาง แต่ก็ไม่ขัดขวางแม้แต่น้อย
โลหิตจำนวนมากพุ่งตรงไปยังฟางซิ่วเฟิง ร่างกายท่านสั่นสะท้าน และดูเหมือนว่าแทบจะเตรียมตัวปฏิเสธโลหิตเหล่านี้ ท่านรู้สึกผิดที่ไม่อาจจะก้าวเข้าไปในเต๋าด้วยตนเองได้ กลับต้องมาพึ่งพาการเสียสละจากกลุ่มคนร่วมตระกูล
ถึงแม้ว่าความเสียสละเหล่านั้นจะเป็นการร่วมมือกันของคนทั้งหมด แต่ฟางซิ่วเฟิงก็ยังคงรู้สึกผิดอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม ท่านกัดฟันแน่นและมองไปรอบๆ ยังกลุ่มหมอกเต๋าที่กำลังพลุ่งพล่านปั่นป่วนอยู่รอบๆ ตัว ในที่สุดก็ดูดซับพวกมันเข้าไปบางส่วน ไม่ใช่เพื่อรักษาตนเอง แต่เพื่อช่วยเมิ่งฮ่าว, ฟางโส่วเต้าและคนในตระกูลทั้งหมด
“ซิ่วเฟิง หยุดเถอะ! เจ้าไม่จำเป็นต้องช่วยรักษาพวกเรา ฟางเหยียนซวีและเหล่าฟู สามารถทำเองได้ สำหรับคนอื่นๆ ในตระกูล พวกเรามีเม็ดยามากมายที่จะช่วยฟื้นฟูพวกมัน ฮ่าวเอ๋อร์ไม่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือใดๆ วิธีที่ดีที่สุดที่เจ้าสามารถช่วยพวกเราได้ก็คือ ก้าวเข้าไปในเต๋า!” ฟางโส่วเต้าแผดร้องออกมา
“เตีย รีบก้าวเข้าไปในเต๋า!” เมิ่งฮ่าวร้องตะโกน มีบางสิ่งไม่จำเป็นต้องพูดออกมา นั่นก็คือหนี้ที่ฟางซิ่วเฟิงติดค้างตระกูล ซึ่งเมิ่งฮ่าวต้องแบกรับไว้ด้วยเช่นกัน!
จิตใจฟางซิ่วเฟิงสั่นสะท้าน แต่ท่านก็เป็นคนที่แน่วแน่เด็ดเดี่ยว โดยไม่ลังเลใดๆ อีกต่อไป ท่านใช้พลังของโลหิตเหล่านั้นข้ามผ่านสามจ้างสุดท้ายไป…คล้ายกับเป็นมัจฉาที่พุ่งทะยานผ่านประตูมังกรเข้าไป! ท่านก้าวเท้าเข้าไปในกระแสน้ำวน และเหยียบย่างลงไปบนเส้นทางที่เป็นตัวแทนของอาณาจักรเต๋า!
ทันใดนั้นเองที่ทัณฑ์ทวยเทพได้จางหายไป และกระแสน้ำวนก็หยุดการหมุนวนไปมา สงบนิ่งโดยสิ้นเชิง ทัณฑ์ทั้งปวงหยุดลง และฟางซิ่วเฟิงก็ไปยืนอยู่บนเส้นทางนั้นเพียงลำพัง
เวลาเดียวกันนั้น ระลอกคลื่นก็ปรากฏขึ้น โดยมีฟางซิ่วเฟิงเป็นจุดศูนย์กลาง ระลอกคลื่นนั้น…กระจายออกไปทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่เก้า
ระลอกคลื่นเหล่านี้เป็นผลลัพธ์จากการก้าวเข้าไปในเต๋า และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อผู้ฝึกตนเอาชนะทัณฑ์ทั้งปวง และก้าวเข้าไปในกระแสน้ำวนได้
ผลลัพธ์ก็คือ คนทั้งหมดที่อยู่ในอาณาจักรเต๋า จะรับรู้ได้ว่ามีใครบางคนได้บรรลุถึงจุดนี้แล้ว!
เทียนอวิ๋นซ่างเหรินไม่อาจจะผ่านเข้าไปในกระแสน้ำวนได้สำเร็จ ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งเช่นนี้เกิดขึ้นในตอนนั้น แต่ตอนนี้ฟางซิ่วเฟิงทำได้สำเร็จ ทำให้เกิดเป็นระลอกคลื่นกระจายออกไปในทันที ผู้ฝึกตนอาณาจักรเต๋าคนอื่นๆ ทั้งหมดในขุนเขาทะเลที่เก้า สามารถจะรับรู้ได้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ และจะส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของพวกมันออกมายังดาวหนานเทียน
“ฟางซิ่วเฟิงกำลังก้าวเข้าไปในเต๋า!!”
“ผู้นำในอนาคตของตระกูลฟางจะเข้าไปอยู่ในอาณาจักรเต๋าแล้ว…”
“ไม่ถูกต้อง มันก้าวเข้าไปในเต๋าบนดาวหนานเทียนได้อย่างไร? ถ้าเหล่าฟูจำไม่ผิด เพื่อที่จะช่วยเหลือบุตรชาย มันยินยอมที่จะไม่ออกไปจากดาวหนานเทียนแม้แต่ครึ่งก้าว มันยังได้เปล่งคำสาบานต่อขุนเขาทะเลด้วยว่า ถ้าผิดคำสัญญา ก็ให้ร่างกายและวิญญาณของมันถูกทำลายไป!”
“คาดไม่ถึงว่า…บนดาวหนานเทียนจะก้าวเข้าไปในเต๋าได้ มันเป็นไปได้อย่างไร!?!?” ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าทั้งหลายต่างก็รับรู้ได้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ด้วยความตกตะลึง
“ยังไม่จบ มันทำได้สำเร็จเพียงแค่ครึ่งทางเท่านั้น โอกาสที่มันจะล้มเหลวก็ยังคงสูงอยู่เหมือนเดิม!”
“ถ้ามันทำได้สำเร็จ หลังจากที่ก้าวเข้าไปในเต๋า มันต้องเดินไปเก้าก้าวเพื่อรับหนึ่งแก่นแท้ ฟางซิ่วเฟิงเลือกที่จะก้าวเข้าไปในเต๋าด้วยกระบี่
ซึ่งเป็นเต๋าที่ยากมากที่สุดในเต๋าทั้งปวง เก้าก้าวเหล่านั้น…จะต้องยากด้วยเช่นกัน” ตอนนี้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของปรมาจารย์อาณาจักรเต๋าทั้งหมด ต่างก็เพ่งนิ่งมายังดาวหนานเทียน
เมิ่งฮ่าวไม่ได้นั่งขัดสมาธิอีกต่อไป ลุกขึ้นมายืนอยู่ภายในโลกสีโลหิต และสายตาก็จ้องนิ่งไปยังบิดาที่ด้านบน ซึ่งกำลังยืนอยู่บนเส้นทางนั้น
ทัณฑ์เต๋าของท่านมีความแข็งแกร่งและยากลำบากกว่าปกติถึงสิบเท่า โดยปกติแล้วท่านควรจะก้าวเข้าไปในเต๋าด้วยความง่ายดาย แต่ด้วยความยุ่งยากที่เพิ่มขึ้น ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำได้สำเร็จถ้าปราศจากความช่วยเหลือจากคนในตระกูลทั้งหมด มิเช่นนั้นท่านก็คงจะจบลงเช่นเดียวกับเทียนอวิ๋นซ่างเหริน กลายเป็นผู้ฝึกตนเสมือนเต๋าพร้อมกับอายุขัยที่ถูกจำกัดไว้
นั่นคือสิ่งที่เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะยอมรับได้ เช่นเดียวกับมารดาและพี่สาวของเขา
เมื่อเห็นว่าบิดากำลังยืนอยู่บนเส้นทางนั้น ก็ไม่ทำให้เมิ่งฮ่าวต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมา แต่กลับยิ่งวิตกมากขึ้นกว่าเดิม เขาสามารถจะคาดคิดได้ว่า เก้าก้าวนั้นจะมีความยากเย็นสักเพียงใด เมื่อคิดไปถึงความยากลำบากที่มากกว่าปกตินี้
“เก้าก้าวเพื่อหนึ่งแก่นแท้ แก่นแท้ของเต๋าแห่งกระบี่ของบิดาเจ้ามุ่งเน้นไปที่การฆ่าฟัน ซึ่งเป็นแก่นแท้ชนิดสังหาร โดยพื้นฐานแล้วก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก…แต่ตอนนี้มันยิ่งมีความยุ่งยากมากขึ้นกว่าเดิมอันเนื่องมาจากทุกชั้นฟ้า…” ฟางโส่วเต้ากล่าวขึ้น ถอนหายใจออกมา มีท่าทางแก่ชราลงไปมากกว่าเดิม
“อย่างไรก็ตาม ถ้าทำได้สำเร็จ…บิดาเจ้าก็จะเป็นแค่ผู้ฝึกตนอาณาจักรเต๋าหนึ่งแก่นแท้เท่านั้น แต่พลังการต่อสู้ของมันจะเทียบเท่ากับราชันเต๋าสามแก่นแท้!”
ผู้ฝึกตนทั้งหมดบนดาวหนานเทียนกำลังมองขึ้นไปยังกระแสน้ำวน ขณะที่ฟางซิ่วเฟิงเดินไปเป็นก้าวแรก ขณะที่ทำเช่นนั้น เสียงกระหึ่มก็ดังก้องออกมา กระจายเต็มไปทั่วกระแสน้ำวน ทำให้ต้องสั่นสะท้านไปมา
กลุ่มคนที่สามารถจะเข้าใจได้ถึงความรู้สึกที่เดินไปบนเส้นทางนี้ คือผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าหรือผู้ฝึกตนเสมือนเต๋าเท่านั้น
เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะรับรู้ได้ สิ่งที่เขามองเห็นก็คือ บิดากำลังสั่นสะท้านหลังจากที่เดินไปเป็นก้าวแรก ระลอกคลื่นที่กระจายออกมาจากกระแสน้ำวน ยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวทั้งหมดในขุนเขาทะเลที่เก้าต้องสั่นสะเทือน
ในเวลาเดียวกันนั้น กลุ่มหมอกเต๋าก็มารวมตัวกันที่ด้านบนศีรษะของท่าน ก่อตัวเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่อาจจะบอกได้
จากนั้นฟางซิ่วเฟิงก็ดิ้นรนเดินไปเป็นก้าวที่สอง และร่างกายก็สั่นสะท้านขึ้นมาอย่างรุนแรง เมื่อถึงก้าวที่สาม โลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปาก ดูเหมือนกับเป็นตะเกียงที่กำลังจะขาดน้ำมัน แทบจะดับลงไปได้ทุกเมื่อ
หลังจากที่เดินไปเป็นก้าวที่สาม ระลอกคลื่นที่พุ่งออกมาจากกระแสน้ำวนยิ่งมีความเข้มข้นมากขึ้น ทำให้ขุนเขาทะเลที่เก้าต้องสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง จากระดับความรุนแรงนั้น ดูเหมือนว่าถ้าเดินไปครบทั้งเก้าก้าว ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวของอาณาจักรขุนเขาทะเลก็คงจะสั่นสะเทือนตามไปด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่เดินไปทั้งสามก้าวแล้ว กลุ่มหมอกเต๋าที่อยู่บนศีรษะของฟางซิ่วเฟิงก็เริ่มรวมตัวกันอย่างหนาแน่นมากขึ้น ค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปร่างที่ดูคล้ายกับกระบี่
แต่เมิ่งฮ่าวก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับกระบี่นี้ เขาจ้องนิ่งไปบนร่างของบิดา ใบหน้าเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ขาวซีด เช่นเดียวกับใบหน้าของมารดาและพี่สาว
“ก้าวเข้าไปในเต๋ามีทั้งหมดเก้าก้าว แต่ละก้าวมีอันตรายที่ร้ายแรง…” ฟางโส่วเต้ากล่าวผ่านร่องฟัน จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้นไป และใช้นิ้วขยับร่ายเวท โบกสะบัดมือตรงไปยังโลกที่ด้านนอก สิ่งที่มีผลกระทบไม่ใช่ฟางซิ่วเฟิงที่อยู่ภายในกระแสน้ำวน
แต่เป็นค่ายกลเวทของตระกูลฟางที่อยู่บนดาวหนานเทียน พวกมันเริ่มส่องแสงระยิบระยับและสาดประกายขึ้นมา จากนั้นก็ปะทุขึ้นด้วยพลังที่ระเบิดออกไป อย่างน่าตกใจยิ่ง พวกมันได้ทำการเชื่อมต่อกับประตูเคลื่อนย้ายทางไกลที่อยู่บนดาวตงเซิ่งเพื่อก่อตัวเป็นอุโมงค์
สิ่งที่ใกล้เข้ามาผ่านทางอุโมงค์นั้นไม่ใช่ผู้ฝึกตนใดๆ…แต่เป็น…
“ระฆังเต๋า ได้โปรดช่วยปกป้องผู้นำตระกูลขณะที่ก้าวเข้าไปในเต๋าด้วย!!” ขณะที่เสียงของฟางโส่วเต้าดังก้องออกมา อากาศที่อยู่เหนือคฤหาสน์โบราณบนดาวตงเซิ่งก็ส่องแสงระยิบระยับ ขณะที่ระฆังเต๋าปรากฏขึ้น มันเริ่มส่งเสียงดังก้องออกมา ทำให้เสียงนั้นผ่านประตูเคลื่อนย้ายทางไกลตรงมายังดาวหนานเทียน!
เสียงนั้นผ่านความว่างเปล่าเข้าไปในกระแสน้ำวน และเมื่อฟางซิ่วเฟิงได้ยินเสียงระฆัง ร่างกายก็สั่นสะท้านและเดินไปเป็นก้าวที่สี่ จากนั้นก็ห้าและหก!
ราวกับว่าวิญญาณของท่านได้รับการเกื้อหนุน พลังพุ่งขึ้นไป และระลอกคลื่นที่อยู่ด้านนอกกระแสน้ำวนก็เริ่มพุ่งออกไปอย่างรุนแรง ขุนเขาทะเลทั้งหมดกำลังสั่นสะท้าน และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวกำลังสั่นสะเทือน ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าทั้งปวงต่างก็เริ่มตระหนักถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้
กลุ่มหมอกเต๋าบนศีรษะของฟางซิ่วเฟิงรวมตัวเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว เพื่อก่อตัวเป็นรูปร่างของกระบี่ ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีความคมกริบขึ้นมาแล้ว และที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นก็คือมันมีสีแดงโลหิต! นั่นคือนิมิตรของ…การใช้เต๋าแห่งกระบี่เพื่อจะได้ครอบครองแก่นแท้แห่งการสังหาร!
ฟางซิ่วเฟิงเดินไปเป็นก้าวที่เจ็ด และสั่นสะท้านไปมา ตอนนี้พลังของท่านกำลังลดน้อยลงไป การช่วยเหลือจากระฆังเต๋าทำได้แค่ผลักดันให้ท่านก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น ไม่อาจจะช่วยให้ท่านทำได้สำเร็จ ฟางซิ่วเฟิงกัดฟันแน่น และจากนั้นก็กู่ร้องออกมา ขณะที่พยายามทุ่มสุดตัวเพื่อที่จะเดินไปอีกก้าว!
ก้าวที่แปด!!
ตอนนี้เหลืออีกเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น ท่านก็จะบรรลุถึงเต๋าของตนเอง ขณะที่ท่านยกเท้าขึ้นไปในอากาศ และเตรียมตัวจะเดินไปเป็นก้าวที่เก้า จู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็ได้ยินเสียงดังก้องออกมาจากความว่างเปล่า และผ่านเข้ามาในจิตใจ
“จากกฎของอาณาจักรขุนเขาทะเล ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เก้า ขอเรียกร้องให้เซียนทุกชั้นฟ้าที่กำลังก้าวเข้าไปในเต๋าอยู่ตอนนี้…ถูกกำจัดไป เรื่องนี้ไม่ใช่สิทธิ์ของอาณาจักรขุนเขาทะเล และอาณาจักรขุนเขาทะเลก็ไม่อาจจะตัดสินเรื่องนี้ด้วยตนเองได้”