ตอนที่ 1201
ซานไหจื่อ
เมื่อเต่าเสวียนอู่ทั้งเก้ากู่ร้องออกมา ทันใดนั้นเสียงที่เย็นชาไร้ความรู้สึก ก็ดังก้องอยู่ในจิตใจของราชันแห่งเก้าขุนเขาทะเลทั้งปวง “สะพานจากโลกอื่นตื่นขึ้นมาแล้ว ทำลายมัน! กำจัดพลังชีวิตของมันไป ต้องไม่ยอมให้มันตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบได้!!”
ในเวลาเดียวกันนั้น ดวงตะวันและจันทราก็แวบเป็นพลังแห่งการทำลายล้างออกมา!
ย้อนกลับไปยังตำแหน่งดั้งเดิมของสะพานเซียนเดินหน ก้อนศิลายังคงหลอมรวมเข้าไปในสุดยอดสะพานอย่างต่อเนื่อง ทำให้พลังของมันระเบิดพุ่งขึ้นไป
เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ตรงจุดบนสุดของมัน ยืนนิ่งไปโดยสิ้นเชิงถึงแม้ว่ามันจะสั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรงก็ตาม แววตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ ขณะที่จู่ๆ ก็ตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างขึ้นมา
“เวทผู้ยิ่งใหญ่มีอยู่สองขั้น ขั้นแรกคือภาพลวงตา และขั้นที่สองคือ…ขั้นที่เป็นของจริง!”
“มีแต่ทำให้เวทผู้ยิ่งใหญ่ก้าวหน้าขึ้นไปถึงขั้นของจริงเท่านั้น ถึงจะสามารถระเบิดเป็นพลังที่แท้จริงของมันออกมาได้!”
“ความจริงแล้วพลังนั้นก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เป็นตัวตนของผู้ยิ่งใหญ่ด้วย!”
“การมีเวทผู้ยิ่งใหญ่ก็หมายความว่าจะสามารถเข้าร่วมลำดับขั้นได้ ด้วยการทำให้เวทผู้ยิ่งใหญ่ก้าวหน้าขึ้นจนกลายเป็นของจริง ก็จะ…อยู่เหนือลำดับขั้น!!” ขณะที่เมิ่งฮ่าวได้รับความรู้แจ้งใหม่ๆ เครื่องหมายลำดับขั้นของเขาก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผาก ส่องแสงระยิบระยับออกมา และเริ่มเปลี่ยนแปลงไป!
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังอยู่เหนือกว่าลำดับขั้น กลายเป็นบุคคลเพียงหนึ่งเดียวในอาณาจักรขุนเขาทะเล!
เมื่อวิญญาณของสะพานเซียนเดินหนมองเห็นว่า ไม่อาจจะทำอะไรได้เพื่อหยุดสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ มันก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างบ้าคลั่งออกมา ดวงตาสาดประกายเจิดจ้าขึ้นร้องออกมาว่า “ข้าไม่ยอมรับเรื่องนี้!”
“ถ้าข้าสามารถดูดซับสะพานจากโลกอื่นได้ ข้าก็จะเป็นอิสระในที่สุด! ข้าสามารถจะหลบหนีออกไปจากทะเลแห่งความทุกข์นี้ ราวกับเป็นมัจฉาที่พุ่งทะยานผ่านประตูมังกร!” ใบหน้าที่เป็นตัวแทนของวิญญาณส่งเสียงกู่ร้อง ขณะที่หยุดการต่อต้านและพุ่งไปยังสุดยอดสะพานโดยตรง
นี่คือการตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว มันพยายามจะแทนที่ด้วยการครอบครองสุดยอดสะพาน ซึ่งไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้…มันยังได้ถือกำเนิดขึ้นมาจากความเกลียดชังของสะพานเซียนเดินหน และจริงๆ แล้วก็เป็น…วิญญาณมนุษย์กล!
วิญญาณของสิ่งที่ลอกเลียนแบบกำลังพยายามจะครอบครองสิ่งของจริง ถ้าทำได้มันก็จะไปแทนที่ของสิ่งนั้น!
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่วิญญาณของสะพานเซียนเดินหนหลอมรวมเข้าไปในสุดยอดสะพาน เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะทำอะไรเพื่อหยุดมันได้ ในชั่วพริบตามันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของสุดยอดสะพาน ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง ขณะที่สะพานเซียนเดินหนหายไปจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวโดยสิ้นเชิง ผู้ฝึกตนจำนวนมากในบริเวณนั้นถูกผลักดันให้ห่างออกไป และผู้ฝึกตนที่ตามมาดูกำลังจ้องมองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้างขึ้น
ตอนนี้มีสะพานอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น และนั่นก็คือ…สุดยอดสะพานของเมิ่งฮ่าว!
แต่สุดยอดสะพานกำลังสั่นสะท้านไปมา ขณะที่กลิ่นอายของมันพุ่งขึ้นไป วิญญาณของสะพานเซียนเดินหนกำลังพยายามจะครอบครองมัน เพื่อที่จะกลายเป็นวิญญาณของสุดยอดสะพาน!
“ข้ายอมให้เจ้ากลายเป็นวิญญาณของสุดยอดสะพานได้…” เมิ่งฮ่าวกล่าว
ได้ยินเสียงแผดร้องดังก้องออกมาจากสุดยอดสะพาน “ข้าไม่จำเป็นให้เจ้ายินยอม! ข้าทำด้วยตัวเองได้!”
พลังอันแข็งแกร่งบดขยี้ไปยังการเชื่อมต่อของเมิ่งฮ่าวและสุดยอดสะพาน พยายามจะแยกมันออกมาจากเมิ่งฮ่าว และเปลี่ยนให้สุดยอดสะพานหลุดพ้นมีอิสระขึ้นมา
มันพยายามทำเช่นเดียวกับที่เมิ่งฮ่าวเคยทำมาก่อนกับภาพวาดผู้ยิ่งใหญ่ของผู้ฝึกตนลำดับขั้นแห่งขุนเขาแรก พยายามจะทำลายพันธะไปจากเขาอย่างถาวร
สีหน้าเมิ่งฮ่าวเปลี่ยนไป ถึงแม้ว่าเขาต้องการจะเก็บสุดยอดสะพานไว้ แต่ก็ไม่อาจจะทำได้อันเนื่องมาจากวิญญาณของสะพานเซียนเดินหน ทันใดนั้นเขาก็พุ่งถอยไปทางด้านหลัง เคลื่อนที่ตรงไปยังตำแหน่งด้านบนของสุดยอดสะพานที่หานซานและภรรยานั่งอยู่ในก้อนน้ำแข็ง โบกสะบัดมือออกไปเพื่อก่อตัวเป็นเกราะป้องกันอยู่รอบๆ คนทั้งสองอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มองออกไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ
เมิ่งฮ่าวยังได้หยุดความพยายามในการป้องกันไม่ให้วิญญาณของสะพานเซียนเดินหน สอดมือเข้ามาขัดขวางการเชื่อมต่อของเขากับสุดยอดสะพานอีกด้วย เมื่อเขามองเข้าไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ก็เห็นเป็นลำแสงสายหนึ่ง
แสงนั้น…เกิดขึ้นมาจากเสียงกู่ร้องของเต่าเสวียนอู่ทั้งเก้า และเป็น…รังสีสังหารจากดวงตะวันและจันทรา!
ลูกธนูแสงแห่งการทำลายล้าง พุ่งผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว กระแทกเข้าไปในสุดยอดสะพานเพื่อจะทำลายมัน
สุดยอดสะพานเริ่มสั่นสะท้านไปมา และเพราะว่ามันถือกำเนิดขึ้นมาจากเวทแห่งเต๋าของเมิ่งฮ่าว ทำให้เขาต้องสั่นสะท้านและกระอักโลหิตออกมาด้วยเช่นกัน แต่วิญญาณของสะพานเซียนเดินหนก็ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสยิ่งกว่า
วิญญาณสะพานแผดร้องเป็นเสียงแหลมเล็กออกมา และสุดยอดสะพานก็สั่นสะท้านไปทั่ว พลังทำลายล้างขนาดใหญ่กระจายออกไป และวิญญาณสะพานก็รู้สึกได้ถึงความตายที่คุกคามเข้ามา
“เจ้าจะยอมจำนนหรือไม่!? แค่ความคิดเดียวของข้าก็จะทำให้เจ้ากลายเป็นวิญญาณของสุดยอดสะพานไป!” เมิ่งฮ่าวพูดขึ้นมาในทันที
“ถ้าไม่ยอมจำนน เจ้าก็จะถูกกำจัดไปโดยพลังของขุนเขาทะเล!” ตอนนี้เมิ่งฮ่าวกำลังใช้พลังของขุนเขาทะเลมาข่มขู่วิญญาณสะพานเซียนเดินหน
“ข้ายอมตายดีกว่ายอมจำนน!! ถ้าข้าตายไป สะพานก็จะถูกทำลาย และเจ้าก็จะถูกกำจัดไปด้วยเช่นกัน!” วิญญาณสะพานแผดร้องออกมา ทันใดนั้นธนูแสงดอกที่สองก็ปรากฏขึ้น มีความแข็งแกร่งและน่ากลัวกว่าดอกแรก กระแทกเข้าไปในสะพาน ทำให้แสงสีฟ้าแตกกระจายไป ปกคลุมไปทั่วทั้งแสงสีขาว ทำให้สุดยอดสะพานเริ่มสั่นไปมา และแยกส่วนออกไปอีกครั้ง
พลังที่พุ่งขึ้นมาหยุดชะงักไป และเมิ่งฮ่าวก็กระอักโลหิตออกมาอีก ขณะที่เขาต่อสู้กลับไปยังพลังนั้น วิญญาณสะพานก็แผดร้องขึ้นและอ่อนแอลงไปมากกว่าเดิม มัน…ไม่อาจจะต่อต้านธนูดอกที่สามได้!!
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ยอมจำนนและกลายเป็นวิญญาณสะพานของข้า ข้า, เมิ่งฮ่าวขอสาบานว่าจะใช้โลหิตของจี้เทียนมาชำระความเคียดแค้นของเจ้า ข้าจะช่วยเจ้าชำระล้างความเกลียดชังเอง!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นพร้อมกับแววตาที่สาดประกาย
“ถ้าเจ้าไม่ฉวยโอกาสนี้ ข้าก็จะมองดูพลังของขุนเขาทะเลกำจัดเจ้าไป”
ขณะที่เขาพูดจบ ธนูแสงดอกที่สามก็ปรากฏขึ้นในที่ห่างไกลออกไป ดูคล้ายกับเป็นดวงตะวัน และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวของขุนเขาทะเลที่เก้าก็สั่นสะท้าน อันเนื่องมาจากระลอกคลื่นที่กระจายออกมาจากธนูแสงนั้น ดูเหมือนว่าจะประกอบไปด้วยพลังที่สามารถจะทำให้สวรรค์ต้องสะท้านปฐพีต้องสะเทือน…สามารถทำลายทุกสรรพสิ่งได้ด้วยการโจมตีไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้น!
วิญญาณสะพานสั่นสะท้าน ในช่วงวิกฤตความเป็นตายนี้เอง ที่มันแผดร้องเป็นเสียงแหลมเล็กออกมา
“ต่อให้ข้ายอมจำนนต่อเจ้า ข้าก็ยังคงถูกพลังนั้นสังหารไปอยู่ดี เจ้าก็จะละทิ้งสะพานนี้ไปเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ไม่ว่าอย่างไรข้าก็คงต้องตาย!”
“ข้าจะไม่ละทิ้งสุดยอดสะพาน” เมิ่งฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยวราวกับสามารถจะตัดตะปูเฉือนเหล็กกล้าได้ “ถ้าเจ้ายอมจำนน ข้าจะไม่ให้เจ้าถูกกำจัดไปอย่างแน่นอน!”
วิญญาณสะพานสั่นสะท้าน เมื่อคิดว่าตนเองกำลังจะถูกทำลายไป ทำให้มีทางเลือกอยู่น้อยมาก ทันใดนั้นมันก็โผล่ออกมา เมิ่งฮ่าวปลดปล่อยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไป ยืมความแข็งแกร่งจากสุดยอดสะพานเพื่อทิ้งเครื่องหมายของตนเองไว้บนวิญญาณสะพาน ตอนนี้เครื่องหมายนั้นถูกประทับแน่นเข้าไปในวิญญาณ ไม่อาจจะลบล้างออกไปได้!
“มาดูกันว่าเจ้าจะรักษาคำสัญญาได้อย่างไร!!” วิญญาณสะพานแผดร้องออกมา ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวประทับเครื่องมายลงไป มันก็ไม่จำเป็นต้องพยายามจะครอบครองสุดยอดสะพานอีก และไม่มีเหตุผลที่จะสอดมือเข้าไปขัดขวางการเชื่อมต่อระหว่างมันและเมิ่งฮ่าว สุดยอดสะพานยอมรับวิญญาณสะพาน ปล่อยให้มันกระจายเต็มไปทั่วสะพาน ทันใดนั้นพลังของสะพานก็ระเบิดขึ้นไปด้วยอำนาจอันน่าเหลือเชื่อ
ตอนนี้เนื่องจากว่าเครื่องหมายนั้น…มาจากส่วนหนึ่งของเมิ่งฮ่าว ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีทางที่สุดยอดสะพานจะหลุดออกไปจากการควบคุมของเมิ่งฮ่าวได้ ไม่ว่ามันจะเป็นภาพลวงตาหรือของจริง ก็ไม่มีทางจะเปลี่ยนแปลงไปได้!
สามารถจะกล่าวได้ว่าสุดยอดสะพาน ได้ดูดซับสะพานเซียนเดินหนเข้าไปเรียบร้อยแล้ว…ในวันข้างหน้าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม มันก็จะกลายเป็นของจริงอย่างสมบูรณ์แบบ!
“ก้าวต่อไปคือไปยังเศษซากเซียนและดูดซับส่วนที่เป็นสุดยอดสะพานของจริงทั้งหมด!” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาสาดประกายขึ้น เขาเข้าใจถึงวิถีแห่งผู้ยิ่งใหญ่มานานแล้ว!
ในตอนนี้ธนูแสงดอกที่สามแทบจะมาถึงแล้ว วิญญาณสะพานสั่นสะท้าน ขณะที่เมิ่งฮ่าวก้าวเดินออกมาจากสุดยอดสะพาน ไปยืนขวางอยู่ที่เบื้องหน้าลูกธนู จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้นผลักออกไปยังลูกธนูดอกนั้น!
การกระทำเช่นนี้ทำให้เกิดเป็นแรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วทั้งวิญญาณสะพาน มันจะคาดคิดได้อย่างไรว่าเมิ่งฮ่าวจะกระทำเช่นนี้ ไปยืนอยู่ที่เบื้องหน้าของพลังแห่งขุนเขาทะเล?
“มันบ้าไปแล้ว…” วิญญาณสะพานพึมพำขึ้น
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา ก็ทำให้วิญญาณสะพานต้องอ้าปากค้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อโดยสิ้นเชิง
นั่นเป็นเพราะว่าลูกธนูค่อยๆ มาหยุดอยู่ตรงหน้าเมิ่งฮ่าว!
“ข้าขอใช้สิทธิ์จากศักดิ์ฐานะของข้าเพื่อออกคำสั่งแก่เจ้า…ให้กลับไปยังสถานที่ที่เจ้ามา!” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงแผ่วเบา ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความมุ่งมั่น ถึงแม้ว่ามือของเขาจะไม่ได้ก่อตัวเป็นพลังเพื่อต่อต้านลูกธนูดอกนั้น
แต่เสียงเมิ่งฮ่าวคล้ายกับเป็นกำแพงที่ไม่อาจจะทำลายลงไปได้ ทำให้ลูกธนูไม่อาจจะพุ่งผ่านมือของเขาออกมาได้ ลูกธนูหยุดลงราวกับว่าไม่กล้าที่จะพุ่งทะลวงผ่านไป
เสียงอันเย็นชาดังก้องเข้าไปในจิตใจเมิ่งฮ่าวราวกับเป็นเสียงฟ้าร้อง “สะพานจากโลกอื่นอาจจะคงอยู่ แต่เพื่อป้องกันสิ่งร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้น จากการตื่นขึ้นมาของสะพานนี้ มันต้องถูกกำจัดไป!”
“สะพานนี้คือเวทผู้ยิ่งใหญ่ของข้า จะไม่มีสิ่งร้ายแรงใดๆ เกิดขึ้น” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ
“ตามกฎแล้ว สะพานไม่อาจ…”
“ถ้าข้าบอกว่าจะไม่เกิดสิ่งร้ายแรงขึ้น ก็จะไม่มี! กลับไป!” ขณะที่เมิ่งฮ่าวกล่าว ก็ทำให้หยดโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ภายในร่างพุ่งขึ้นมาในทันที กลิ่นอายของมันกระจายออกไป ไม่มากนักแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เต่าเสวียนอู่ทั้งเก้า ซึ่งอยู่บนจุดสูงสุดของขุนเขาทั้งเก้าต้องตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง!
เสียงเย็นชาที่เป็นตัวแทนของเจตจำนงแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล ก็รู้สึกประหลาดใจด้วยเช่นกัน!
ลูกธนูสั่นสะท้าน และเสียงเย็นชาก็เงียบไป เมิ่งฮ่าวไม่พูดอะไรอีก แค่ยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ปล่อยมือลงมาที่ข้างกาย วิญญาณสะพานซึ่งอยู่ในสุดยอดสะพานด้านหลัง กำลังจ้องมองมาด้วยความตื่นตระหนก
หลังจากผ่านไปชั่วขณะ เสียงเย็นชาก็ดังก้องอยู่ในจิตใจเมิ่งฮ่าวอีกครั้ง
“ขอปฏิบัติตามคำสั่งของซานไหจื่อ! (บุตรแห่งขุนเขาทะเล)” ลูกธนูค่อยๆ จางหายไป กลายเป็นจุดแสงระยิบระยับ กระจัดกระจายออกไปในความว่างเปล่า
เมิ่งฮ่าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เพิ่งจะเกิดขึ้นมานี้คือการวางเดิมพัน เขาไม่มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมอาณาจักรขุนเขาทะเลได้มากน้อยแค่ไหนกันแน่
“ซานไหจื่อ…” เมิ่งฮ่าวคิดพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ออกมา เขารู้สึกชอบตำแหน่งนี้ ขณะที่หมุนตัวไป เครื่องหมายบนหน้าผากก็เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง อย่างน่าตกใจยิ่ง…ตอนนี้มันมีรูปร่างเป็นเก้าขุนเขาแวบประกายขึ้นมาในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะหายไป
วิญญาณสะพานที่อยู่ในสุดยอดสะพานไม่พูดอะไรออกมา แต่ตอนนี้มันรู้สึกนับถือและหวาดกลัวเมิ่งฮ่าวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันไม่ทำอะไรเพื่อต่อต้านเขาแม้แต่น้อย และเมื่อเมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือ สะพานก็จางหายไปอย่างช้าๆ
ตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ซึ่งก็คือก้อนน้ำแข็งที่กำลังลอยอยู่ ภายในก้อนน้ำแข็งคือหานซานและภรรยา พวกท่านดูเหมือนกับก่อนหน้านี้ นั่งอยู่ด้วยกันที่นั่น อิงแอบซึ่งกันและกัน ในที่สุดก้อนน้ำแข็งก็เริ่มหลอมละลาย หลังจากที่ช่วงเวลาธูปไหม้หมดไปหนึ่งดอก หานซานก็สั่นสะท้านขึ้นมา จากนั้นก็มองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยแววตาที่สับสน
ในทันทีที่หานซานมองมาที่เขา ใบหน้าเมิ่งฮ่าวก็เกิดเป็นรอยยิ้มขึ้น ประสานมือ โค้งตัวลงต่ำและกล่าวว่า “พี่ใหญ่หานซาน เมิ่งฮ่าวมาปฏิบัติตามคำสัญญาแล้ว!”